[CR] nike lebron 13 christmas edition

รีวิวแบบเด็กบ้านๆ (แต่ไม่ใช่เด็กเลี้ยงวัว ^^ ) Lebron 13 Christmas edition
เจ้ารองเท้ารุ่นนี้ วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วโลกไปเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2558 ด้วยสนนราคา 9,500.-
ต้องรอนานถึง 7 เดือนหลังจากนั้น เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีงาน SALE ที่ศูนย์ศิริกิตติ์นำมาลดถึง 40% (เหลือ 5,700)
เป็นราคาที่ไม่เกินจะเอื้อมถึง ผมจึงมีโอกาสได้คว้ามาครอบครอง

บอกตามตรงว่าเห็นครั้งแรกก็ถูกอกถูกใจกว่าตัวธรรมดาที่ออกมาก่อนหน้านี้ สำหรับ Lebron 13 ในรูปรองเท้าดูจะให้ความรู้สึกบอบบางกว่า Lebron 12 ที่ออกมาก่อนหน้า แต่คุณภาพและวัสดุที่ติดมากับมันนั้นเจ๋งไม่เบากว่ารุ่นก่อนๆ เลยทีเดียว


Design : ก่อนอื่นเลยขอให้คะแนน 9.5 / 10

การออกแบบโดยใช้เทคนิคใหม่ๆและ Materials ที่มีคุณภาพสูงอัดแน่นลงมา
ไม่ว่าจะเป็นผ้าตาข่ายชนิดหนาที่ถักทออย่างแข็งแรงเข้าด้วยกัน ด้วยเทคโนโลยี Hyperfuse
แล้วยังมี Hyperposite (แผนโฟมหนาและแข็งมากๆ) สีเทา รูปร่างคล้ายดอกไม้ ที่ติดบนบริเวณข้อเท้า ทั้ง 2 ฝั่ง
ช่วยประคับประคองให้รองเท้าอยู่ทรงและปลอดภัยต่อข้อเท้าเมื่อสวมใส่
นอกจากนี้ ยังมี posite ที่ติดบริเวณหลังเท้าด้านบน ทำหน้าที่เป็นตัวขั้นระหว่างรูร้อยเชือกอีกด้วย
หากลองสังเกตดูจะพบกว่าการร้อยเชือกมันดูแปลกๆไป ถามว่ามันดีอย่างไร?
ที่ผ่านมาเราอาจจะคุ้นเคยกับรองเท้าที่มีลิ้นและเชือกร้อยแบบปกติ แต่ Lebron 13 รุ่นนี้ได้ออกแบบตามสริระของเท้าอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น เพราะเท้าคนเราไม่ได้มีลักษณะตรง แต่มันโค้งงอ (ลองนึกท่ากระดกนิ้วเท้าทั้ง 5 ขึ้น-ลง)
นั่นหมายถึงการเขย่ง หรือ กระโดดทำได้อย่างถนัดมากยิ่งขึ้น โดยที่ความกระชับไม่เปลี่ยนแปลงเพราะยังมีระบบ Flywire ที่ติดมาด้วย
ทั้งหมดนี้กลับมีน้ำหนักเบา และ "เบาที่สุดเท่าที่ Lebron ตัว Top เคยมีมา"

ที่จะขาดไปไม่ได้สำหรับรุ่น Edition หรือ Elite ก็คงจะเป็น “หัวสิงโต” สัญลักษณ์ความเป็น King  
ตัวนี้มาภายใต้คอนเซปต์ Fire & Ice เป็นสีฟ้า
และอีกหนึ่งเรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่เปลี่ยนไปคือมันมาพร้อมกับเชือกที่มีลักษณะ แบน หมดปัญหาของการคลายเชือก
เชือกแบน มีประสิทธิภาพมากกว่าแบบกลมของในรุ่น 12 มันจะไม่คลายออกแม้จะวิ่งสปีด ขนาดไหนก็ตาม
เพียง 0.5 คะแนนที่ผมยังไม่ให้เต็ม 10 ก็คงจะเป็นเพราะปลายเชือกที่ออกแบบมาโดยปราศจาก Logo Lebron James เหมือนรุ่นก่อนนั่นเอง




Traction : สำหรับผมคิดว่าไม่เลวแต่ Lebron รุ่น 11 ทำได้ดีกว่านี้ 8 / 10

ว่าด้วยเรื่องระบบช่วงล่างและการยึดเกาะพื้นผิว
ก่อนอื่นมาดูพื้นกันก่อนโดยระบบ Zoom Air แยกชิ้นถูกนำมาใส่ไว้ใน Lebron 13 เช่นเดียวกับตัว 12
และดูเหมือนว่าจะถูกปรับให้ดีกว่าด้วย Shank plate ขนาดใหญ่ (ลายตารางสามเหลี่ยมที่มีจุดๆๆสีฟ้า)
เสริมความมั่นคงให้กับการรองรับแรงกระแทก แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าระบบ Zoom Air แยกชิ้นมีความยืดหยุ่น
และทำให้การเคลื่อนไหว, ออกตัวแรงๆ, เบรก, กระโดด เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า Air ก้อนใหญ่ชิ้นเดียวก็จริง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหมาะสำหรับผู้ที่เล่นในตำแหน่ง Center และ Power forward ตามลักษณะเจ้าของ Signature อย่าง Lebran James
แต่ข้อเสียเพียงเล็กน้อยคือมันถูกออกแบบมาให้ยื่นออกจากพื้นรองเท้า
ถึงแม้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก็ทำให้ Over All ของพื้นรองเท้าไม่ได้สัมผัสกับพื้นสนามทั้งแผ่น แต่ Multi Zoom Air ที่ยื่นออกมาจะถึงพื้นก่อน
จริงๆแล้วความหนึบไม่ได้ลดน้อยลงไป แต่ลักษณะพื้นแบบนี้ เมื่อใส่ไปนานๆแล้วเกิดความสึกหรอขึ้น
เจ้า 5-6 ปุ่มที่นูนขึ้นมาคงไม่สามารถช่วยให้รองเท้าหนึบ ได้เทียบเท่ากับพื้นทั้งแผ่น
ประสิทธิภาพตรงส่วนนี้ยังพอๆกับรุ่น 12 และยังไม่มีรุ่นใดทำได้ดีไปกว่ารุ่น 11
และแน่นอนว่า....ไม่เหมาะสำหรับเล่นบนพื้นปูน



Breathability : 8 / 10 ยอมรับว่าวัสดุที่ใช้มีความแข็งแรงและให้ความปลอดภัย แต่ต้องแลกมาด้วยระบบระบายอากาศที่ด้อยลง
แต่ว่ากลับทำได้ดีกว่า รุ่น 11 และ 12 เพราะมีพื้นที่ของ ผ้าตาข่ายมากกว่า

Nike ทำออกมาได้ดีแล้ว เพราะถ้าคุณใส่รองเท้าแบบ Hyperfues ที่ไม่มีลิ้น ไร้รอยต่อ
ลดรอยตะเข็บให้เหลือน้อยที่สุดมันส่งผลให้รองเท้ามีน้ำหนักเบา การระบายอากาศทำได้ดีในระดับหนึ่ง
แต่เรื่องของ Breathability ก็ยังคงเป็นจุดอ่อนสำหรับรองเท้า Lebron 13
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาพอากาศของชาวเอเชีย

Value : ความคุ้มค่า 9 / 10 สำหรับตัวที่เป็น Edition และ 10 / 10 สำหรับตัวธรรมดา

สำหรับผมโดยรวมแล้วยังเป็นรองเท้าสาย Performance ตัว Top อันดับ 1 ที่ผมไว้ใจและเลือกซื้อถึงแม้ว่ามันจะแพงพอสมควร
แต่ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ที่ประกอบเข้าด้วยกันทำให้มันคุ้มค่ามากๆ
และทีเด็ดของมันที่แตกต่างออกไปคือความ “เบา” แต่เต็มไปด้วยวัสดุ Materials ชั้นยอด
ลบคำสบประมาท ของผู้ที่คิดไปเองว่ารองเท้า Lebron นั้น หนักเกินไป

สำหรับตัวธรรมดาๆ ราคา Retail อยู่ที่ 7,500.- ถือว่าเป็นราคาที่ถูกกว่า Lebron ตัว Top รุ่นก่อนๆ
ซึ่งคุณจะได้เป็นเจ้าของรองเท้า Lebron ที่มีประสิทธิภาพไม่น้อยไปกว่าเดิมแม้แต่น้อย ในราคาที่ถูกลง
และสำหรับตัว Edition หรือ Elite ราคา 9,500.- ยังถือว่าค่อนข้างแพงเกินความจำเป็น
แต่เพื่อแลกมาด้วยความสวยงามจึงต้องยอม ^^


อ่านมาถึงตรงนี้ มีใครคิดเห็นตรงกันบ้าง?

เข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และ ชวนเล่นบาสฯ ด้วยกันได้นะครับ
https://www.facebook.com/beer.zaa.9469
ชื่อสินค้า:   รองเท้า nike lebron 13 christmas edition
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  บาสเกตบอล รองเท้า รองเท้ากีฬา Nike กีฬา
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่