อย่าเชื่อผม ผมตีความเอาจากข่าว หลายๆข่าว ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา
เราลองมาไล่ดูข่าวช่วงหลัง เราจะเห็นว่า ตุรกีกำลัง เปลี่ยนนโยบายต่างประเทศ เรื่องสงครามซีเรีย
จากหน้ามือเป็นหลังเท้า หลังเปิดศึก กับรัสเซีย ไปเมื่อปีก่อน
ตุรกีก็มีแต่แย่ลงๆ ทั้งก่อการร้าย ผู้อพยพ ประเทศอื่นที่ปากดีสั่งนู้นสั่งนี่ แม่มก็ทิ้งตรูสู้ศึกคนเดียว
ตุรกีเริ่มมองเห็นแล้วว่า ตกลงที่ทำๆไปเนี่ยมันได้อะไรขึ้นมา มีแต่ทำให้ประเทศจะเรือหาย
ผู้นำตุรกี เลยขอคืนดีกับรัซเซีย ตามนี้
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000064280
โดยยอมชดใช้ค่าเสียต่างๆ ถึงขนาดบอกว่าให้รัซเซียมาใช้ฐานทัพได้
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000066615
แม้ภายหลังจะออกมาแก้ข่าวว่าสื่อตีความผิด แต่ข้อความที่บอกมันก็แนวๆพร้อมต้อนรับรัซเซียนั่นแหละ
แค่ไม่อยากให้มันดูโจ๋งครึม ไปหน่อยแค่นั้นเอง ตามนี้
"เราเปิดฐานทัพอากาศอินเซอร์ลิค ให้กับคนที่เข้าร่วมสู้รบกับไอเอส ดังนั้นทำไมเราจะร่วมมือกับรัสเซียในแบบเดียวกันไม่ได้ละ"
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000066673
หลังคืนดีกับรัสเซีย ตุรกี ยังแอบส่งคน ไปเจรจากับผู้นำซีเรีย หลังก่อนหน้านี้ตุรกีเคยยื่นคำขาดว่าอัดซาด ต้องไปเท่านั้น
โดยมีแหล่งข่าวหลายแห่งระบุตรงกันว่า ตุรกีต้องการยุติสงคราม โดยแบ่งดินแดน แยกกลุมต่อต้านให้มาปกครองตนเอง
และให้ซีเรียยืนยันว่า จะไม่ยอมให้ชาวเคิร์ด ตั้งประเทศ ซึ่งข้อเสนอนี้ดูจะเป็นไปได้อย่างมาก
เพราะวินๆทุกฝ่าย ถ้าทำได้จริงจะได้มุ่งไปรบกับ ไอเอสอย่างเดียว
ส่วนชาวเคิร์ดเอง ที่แว่วๆมาก่อนหน้านี้ ชาวเคิร์ด ไม่ขออะไรมาก การตั้งประเทศของตัวเอง
ยังดูเป็นไปได้ยาก ขอแค่ได้เป็นเขตปกครองตนเอง ถายใต้รัฐบาลซีเรีย ชาวเคิร์ด ก็ยอมรับได้แล้ว
ข่าวพวกนี้เป็นข่าวในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาเท่านั้น ดูแล้วหลายอย่างช่างดูสดใส
แต่ท่านผู้ชม ไอ้ที่ว่ามานี่ มีคนกำลังเครียด แผนปิดล้อมรัสเซีย ของอเมริกากำลังจะล่ม
ลูกน้องตรูอย่างตุรกี จะแปรพักต์ แถมศัตรูของตรูอย่างรัสเซีย จะจบเกมส์แบบเป็นพระเอก
ไอ้เรือหาย ตรูคงจะยอมล่ะ
ว่าแล้วก็เกิดเหตุการณ์แบบเดจาวู แบบที่เคยเกิดที่อียิปต์
รัฐประหารรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ที่ไม่ใช่โปรอเมริกา(หรือกำลังจะเลิกเป็น) และดันใครก็ได้ที่อยู่ข้างอเมริกามานั่งแทน
รัฐประหารในอียิต์ ไปหาอ่านเอาเอง
แต่เราจะเห็นว่าอเมริกา สนับสนุนเต็มที่ แถมทหารจับนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม ตัดสินประหารชีวิตเพียบ
แต่ก็เงียบเป่าสาก ก็อย่างว่าถ้าอยู่ข้างอเมริกา สหรัฐก็ไม่สนอยู่แล้วว่าจะทำอะไร
http://news.voicetv.co.th/global/74484.html
ส่วนนึงที่ทำให้หลายประเทศเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เป็นเพราะฝ่ายที่โดนรัฐประหาร เป็นพวกศาสนาสุดโต่งด้วย
แต่ก็ไม่อาจปฎิเศษได้ว่า ฝ่ายนั้นมาจากการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม
แต่การประกาศตัวต่อต้านสหรัฐอย่างชัดเจน ก็โดนอย่างที่เห็น
แล้วมาดูหลังรัฐประหารตุรกี มีข่าวแว่วมาว่าทางการตุรกี ได้รับคำเตือนจากหน่วยข่าวกรองรัสเซียก่อน
และผู้นำก่อรัฐประหารอยู่ในสหรัฐ ตอนนี้ทั้งสื่อและนักการเมืองตุรกีหลายคน ต่างสงสัยในตัวสหรัฐอย่างมาก
แม้สหรัฐจะออกมาแถ อุ๊บๆ
แถลงว่าไม่รู้ไม่เห็น จะซีไอองซีไอเออะไร เราดักฟังผู้นำประเทศเป็นเท่านั้น
ไม่รู้เลยจริงๆว่าจะมีทหารสองสามพันคน ขับรถถังออกมายึดอำนาจ
อียิปต์โมเดลมันมีด้วยเหรอ อย่าพูดอะไรมากเดียวจัดไปอยู่เทียร์สามซะเลย อิอิ
ถ้าผู้นำรัฐประหารอยู่ประเทศเราจริงเดียวเราจะเนรเทศให้ แต่ส่งตัวให้นะฝันไปเหอะ
ขอจบด้วย สารจาก จอห์น แครี่ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000071120
:สหรัฐฯจะให้ความช่วยเหลือในการสอบสวน แต่ยังเตือนว่า หากอังการาเชื่อในข่าวลือที่เชื่อว่า สหรัฐฯมีความเกี่ยวพันในเรื่องนี้ อาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทั้งสองชาติได้:
ไม่ได้ขู่นะแค่เตือนดังๆ
เขียนจบไปเจอที่ mamager พอดี นักข่าว เอเชียไทมส์ เขียนได้ตรงกับที่ผมเห็นจริงๆ
ลองอ่านดู เฟตุลเลาะห์ กูเลน เป็นใคร และมีสัมพันธ์กับอเมริกายังไง
ถ้าตุรกีจะแปรพักต์ไปเข้ากับรัซเซีย คิดเหรอว่าสหรัฐจะอยู่เฉย
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000071033
ช๊อตเด็ด บางส่วน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ออกจะน่าประหลาดเอาการ ความพยายามก่อรัฐประหารคราวนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่นโยบายการต่างประเทศของตุรกีทำท่าว่าจะเริ่มปรับเปลี่ยนไปสู่แนวโน้มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไปในทิศทางที่จะรอมชอมกับรัสเซีย รวมทั้งความเป็นไปได้ที่ตุรกีจะยุตินโยบายแบบนักแทรกแซงที่กระทำอยู่ในซีเรีย
ถ้าการรัฐประหารคราวนี้เกิดประสบความสำเร็จขึ้นมา มันย่อมที่จะทำลายความเป็นไปได้ที่จะเกิดการพบปะหารือกันระหว่างเออร์โดกันกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรสเซียในช่วงไม่กี่สัปดาห์ต่อจากนี้ ซึ่งจะเป็นการเจรจาที่อาจกลายเป็นนาทีตัดสินความเป็นไปของสงครามความขัดแย้งในซีเรียทีเดียว
ผู้เขียน บทความ นี้
เอกอัครราชทูต เอ็ม เค ภัทรกุมาร เคยรับราชการเป็นนักการทูตอาชีพในกระทรวงการต่างประเทศอินเดียเป็นเวลากว่า 29 ปี ในตำแหน่งต่างๆ เป็นต้นว่า เอกอัครราชทูตอินเดียประจำอุซเบกิสถาน (ปี 1995-1998) และเอกอัครราชทูตอินเดียประจำตุรกี (ปี 1998-2001) ปัจจุบันเขาเขียนอยู่ในบล็อก “อินเดียน พันช์ไลน์” (Indian Punchline) รวมทั้งเขียนให้เอเชียไทมส์เป็นประจำตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมา
กลิ่นชักไม่ดี เมื่อรัฐประหารในตุรกี ผู้นำชาติเสรีอาจมีเอี่ยวเบื้องหลัง
เราลองมาไล่ดูข่าวช่วงหลัง เราจะเห็นว่า ตุรกีกำลัง เปลี่ยนนโยบายต่างประเทศ เรื่องสงครามซีเรีย
จากหน้ามือเป็นหลังเท้า หลังเปิดศึก กับรัสเซีย ไปเมื่อปีก่อน
ตุรกีก็มีแต่แย่ลงๆ ทั้งก่อการร้าย ผู้อพยพ ประเทศอื่นที่ปากดีสั่งนู้นสั่งนี่ แม่มก็ทิ้งตรูสู้ศึกคนเดียว
ตุรกีเริ่มมองเห็นแล้วว่า ตกลงที่ทำๆไปเนี่ยมันได้อะไรขึ้นมา มีแต่ทำให้ประเทศจะเรือหาย
ผู้นำตุรกี เลยขอคืนดีกับรัซเซีย ตามนี้
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000064280
โดยยอมชดใช้ค่าเสียต่างๆ ถึงขนาดบอกว่าให้รัซเซียมาใช้ฐานทัพได้
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000066615
แม้ภายหลังจะออกมาแก้ข่าวว่าสื่อตีความผิด แต่ข้อความที่บอกมันก็แนวๆพร้อมต้อนรับรัซเซียนั่นแหละ
แค่ไม่อยากให้มันดูโจ๋งครึม ไปหน่อยแค่นั้นเอง ตามนี้
"เราเปิดฐานทัพอากาศอินเซอร์ลิค ให้กับคนที่เข้าร่วมสู้รบกับไอเอส ดังนั้นทำไมเราจะร่วมมือกับรัสเซียในแบบเดียวกันไม่ได้ละ"
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000066673
หลังคืนดีกับรัสเซีย ตุรกี ยังแอบส่งคน ไปเจรจากับผู้นำซีเรีย หลังก่อนหน้านี้ตุรกีเคยยื่นคำขาดว่าอัดซาด ต้องไปเท่านั้น
โดยมีแหล่งข่าวหลายแห่งระบุตรงกันว่า ตุรกีต้องการยุติสงคราม โดยแบ่งดินแดน แยกกลุมต่อต้านให้มาปกครองตนเอง
และให้ซีเรียยืนยันว่า จะไม่ยอมให้ชาวเคิร์ด ตั้งประเทศ ซึ่งข้อเสนอนี้ดูจะเป็นไปได้อย่างมาก
เพราะวินๆทุกฝ่าย ถ้าทำได้จริงจะได้มุ่งไปรบกับ ไอเอสอย่างเดียว
ส่วนชาวเคิร์ดเอง ที่แว่วๆมาก่อนหน้านี้ ชาวเคิร์ด ไม่ขออะไรมาก การตั้งประเทศของตัวเอง
ยังดูเป็นไปได้ยาก ขอแค่ได้เป็นเขตปกครองตนเอง ถายใต้รัฐบาลซีเรีย ชาวเคิร์ด ก็ยอมรับได้แล้ว
ข่าวพวกนี้เป็นข่าวในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาเท่านั้น ดูแล้วหลายอย่างช่างดูสดใส
แต่ท่านผู้ชม ไอ้ที่ว่ามานี่ มีคนกำลังเครียด แผนปิดล้อมรัสเซีย ของอเมริกากำลังจะล่ม
ลูกน้องตรูอย่างตุรกี จะแปรพักต์ แถมศัตรูของตรูอย่างรัสเซีย จะจบเกมส์แบบเป็นพระเอก
ไอ้เรือหาย ตรูคงจะยอมล่ะ
ว่าแล้วก็เกิดเหตุการณ์แบบเดจาวู แบบที่เคยเกิดที่อียิปต์
รัฐประหารรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ที่ไม่ใช่โปรอเมริกา(หรือกำลังจะเลิกเป็น) และดันใครก็ได้ที่อยู่ข้างอเมริกามานั่งแทน
รัฐประหารในอียิต์ ไปหาอ่านเอาเอง
แต่เราจะเห็นว่าอเมริกา สนับสนุนเต็มที่ แถมทหารจับนักการเมืองฝ่ายตรงข้าม ตัดสินประหารชีวิตเพียบ
แต่ก็เงียบเป่าสาก ก็อย่างว่าถ้าอยู่ข้างอเมริกา สหรัฐก็ไม่สนอยู่แล้วว่าจะทำอะไร
http://news.voicetv.co.th/global/74484.html
ส่วนนึงที่ทำให้หลายประเทศเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เป็นเพราะฝ่ายที่โดนรัฐประหาร เป็นพวกศาสนาสุดโต่งด้วย
แต่ก็ไม่อาจปฎิเศษได้ว่า ฝ่ายนั้นมาจากการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม
แต่การประกาศตัวต่อต้านสหรัฐอย่างชัดเจน ก็โดนอย่างที่เห็น
แล้วมาดูหลังรัฐประหารตุรกี มีข่าวแว่วมาว่าทางการตุรกี ได้รับคำเตือนจากหน่วยข่าวกรองรัสเซียก่อน
และผู้นำก่อรัฐประหารอยู่ในสหรัฐ ตอนนี้ทั้งสื่อและนักการเมืองตุรกีหลายคน ต่างสงสัยในตัวสหรัฐอย่างมาก
แม้สหรัฐจะออกมาแถ อุ๊บๆ
ไม่รู้เลยจริงๆว่าจะมีทหารสองสามพันคน ขับรถถังออกมายึดอำนาจ
อียิปต์โมเดลมันมีด้วยเหรอ อย่าพูดอะไรมากเดียวจัดไปอยู่เทียร์สามซะเลย อิอิ
ถ้าผู้นำรัฐประหารอยู่ประเทศเราจริงเดียวเราจะเนรเทศให้ แต่ส่งตัวให้นะฝันไปเหอะ
ขอจบด้วย สารจาก จอห์น แครี่ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000071120
:สหรัฐฯจะให้ความช่วยเหลือในการสอบสวน แต่ยังเตือนว่า หากอังการาเชื่อในข่าวลือที่เชื่อว่า สหรัฐฯมีความเกี่ยวพันในเรื่องนี้ อาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทั้งสองชาติได้:
ไม่ได้ขู่นะแค่เตือนดังๆ
เขียนจบไปเจอที่ mamager พอดี นักข่าว เอเชียไทมส์ เขียนได้ตรงกับที่ผมเห็นจริงๆ
ลองอ่านดู เฟตุลเลาะห์ กูเลน เป็นใคร และมีสัมพันธ์กับอเมริกายังไง
ถ้าตุรกีจะแปรพักต์ไปเข้ากับรัซเซีย คิดเหรอว่าสหรัฐจะอยู่เฉย
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000071033
ช๊อตเด็ด บางส่วน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผู้เขียน บทความ นี้
เอกอัครราชทูต เอ็ม เค ภัทรกุมาร เคยรับราชการเป็นนักการทูตอาชีพในกระทรวงการต่างประเทศอินเดียเป็นเวลากว่า 29 ปี ในตำแหน่งต่างๆ เป็นต้นว่า เอกอัครราชทูตอินเดียประจำอุซเบกิสถาน (ปี 1995-1998) และเอกอัครราชทูตอินเดียประจำตุรกี (ปี 1998-2001) ปัจจุบันเขาเขียนอยู่ในบล็อก “อินเดียน พันช์ไลน์” (Indian Punchline) รวมทั้งเขียนให้เอเชียไทมส์เป็นประจำตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมา