พาลูกเที่ยวต่างประเทศ // กู้อี้จู้ตะลุยโลกกว้าง by Mayya's Family : EP 2 ตะลุยฮ่องกง

กระทู้สนทนา
--- 1st Trip ของน้องเมญ่า --- 10 Months



กระทู้นี้จะพูดถึงการตัดสินใจเลือก ระหว่าง Baby Carriers & Baby Cart 🍼เป้อุ้ม หรือ รถเข็น ดีนะ !!!

     คุณพ่อคุณแม่มักเจอคำถามนี้ ว่าจะเอาเป้อุ้ม หรือ เอารถเข็นไปดีน่ะ ... วันนี้เลยจะแชร์จากทริปแรกที่พาน้องเมย์ไปเที่ยวค่ะ

*** HONGKONG สวรรค์ของนักกินนัก Shop ***

     Trip นี้เกิดเนื่องจากพ่อกะแม่น้องไปขอพรไว้ที่ Replus Bay 1 ในสถานที่ยอดฮิต ที่บรรดาว่าที่ขุ่นพ่อขุ่นแม่ ไปขอลูกไว้ พอได้ลูกสมใจอยากแล้ว ก็ต้องพาลูกไปไหว้พระค่ะ เนื่องจากเป็น Trip แรก เราผู้ซึ่งไม่มีความรู้เลยก็ลองผิดลองถูก เอาไปทั้ง 2 อย่างเลยค่ะ เพราะคิดแค่ว่า ...
--- Baby Cart ในสนามบินก็ได้ใช้นะ ตอนเดิน Shop รอขึ้นเครื่อง เราสามารถลากรถเข็นไปได้จนถึงหน้า gate เค้าไม่นับน้ำหนักนะคะ ถือว่าเป็น special item สำหรับเด็ก ก่อน boarding จะมี Air-ground เอาถุงพลาสติกมาให้ห่อ แล้วพอถึง เค้าจะเอาออกมาให้ที่ทางออกค่ะ

ที่ตัดสินใจเอาไปเพราะ ...

1. สนามบินสุวรรณภูมิมีพื้นที่กว้าง มีร้านให้ Shop เยอะๆ ไม่ต้องแบกลูก น้ำหนัก 8 kg ตลอดเวลา
2. สนามบินฮ่องกง ต้องเดินไป gate ไกลๆ มีหลาย Terminal
3. การท่องเที่ยวในฮ่องกง ส่วนมากเดินทางด้วย MTR จะไปไหนส่วนมากต้องไปเปลี่ยนสถานีที่ Central และเดินเยอะมาก
4. เอาไว้ให้ลูกนอน จะได้หลับสบาย

    จาก 4 ข้อข้างต้น แม่เลยคิดว่าจำเป็นทีเดียว และตัดสินใจเอาไป ...แต่ !!! โลกไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดค่ะ ปัญหาที่เจอคือ

1. สัมภาระที่มากกว่าปกติ ถ้าไปกัน 2 คน ถือว่ารถเข็นคือความยุ่งยากเลยค่ะ เพราะ คนนึงต้องเข็นกระเป๋า คนนึงต้องเข็นรถเข็นลูก ถ้าลูกยอมนอน ยอมนั่งอยู่ในรถเข็นตลอด นั่นคือสิ่งดีงาม แต่ตอนน้องเมย์ไปเค้าอายุได้ 10 เดือน วัยกำลังหัดเดิน นางจะไม่ค่อยยอมนั่งตลอด บ่อยๆครั้งจะไถลลง หรือไม่ก็อ้อนให้แม่อุ้ม เมื่อนั้น ... รถเข็นจะกลายเป็นภาระสำหรับคุณพ่อทันทีค่ะ 😂



2. เอาเข้าจริงๆ แม่ไม่ค่อยกล้าเอาน้องใส่รถเข็นเท่าไหร่ เพราะก่อนไปมีทั้งข่าวเด็กที่ถูกขโมยใน Disney Hong-Kong มีทั้งข่าวที่อยู่ดีๆก็แย่งเด็กไปทำร้ายต่อหน้าต่อตาพ่อแม่ ดังนั้นถ้าจะเอาลูกนอนหลับ มี 2 อย่างที่ต้องทำ คือ หันหน้ารถเข็นเข้าหาคนเข็น และรัดเข็มขัดลูกทุกครั้ง อันนี้สำคัญค่ะ เพื่อความปลอดภัยของน้อง เวลาขึ้น-ลง MTR จะต้องยก 2 คน เพราะพื้นจะมี Gap ระหว่างประตูทางขึ้นค่ะ กันน้องพลัดตกค่ะ





     Trip นี้เราไปกัน 5 คนค่ะ 4 วัน 3 คืน สัมภาระเยอะกว่าปกติหน่อย กระเป๋าใบใหญ่ก็ Load แต่จะเดินตัวปลิวขึ้นเครื่องเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้นะคะ ต้องแยกกระเป๋าเล็กเป็นเป้สะพายหลัง ในนั้นใส่สัมภาระของเจ้าตัวน้อย ได้แก่ นมผง, น้ำร้อนชงนม, ผ้าอ้อม, ขวดน้ำเปล่า, ของเล่นเอาไว้หลอกล่อ, Wiper * อันนี้จำเป็นมาก ใช้ทำความสะอาดได้สารพัดค่ะ


--- @ สนามบิน รถเข็นเด็กดูมีประโยชน์มาก



การเดินทางจากสนามบินไป central @ จุดนี่ รถเข็นก็ยังได้ใช้ค่ะ


การเดินทางส่วนมากที่นี่ จะนิยมใช้ MTR จะเห็นว่าลูกเราอยู่ระดับเอวของฝูงชน มีความเป็นไปได้ที่ละอองน้ำลายจากคนคุยกันหรือจามกระเด็นใส่ลูกเรา โดยเฉพาะ Rush Hour คนจะเบียดเสียดมาก ณ จุดนี้ เราก็เอาที่กันแดด กันลมข้างบนมาคลุมลงมา ก็จะช่วยได้ระดับนึงค่ะ



   สนามบินฮ่องกง จุดเด่นเค้าคือ Terminal ที่ยาวมากๆ เดินเยอะมากๆ แต่เค้าก็มีให้เลือกนะคะ ว่าจะไป Gate แบบเดิน หรือจะใช้บริการ MTR ข้อดีของการเดินคือระหว่างทาง เราสามารถ Shopping ของฝากได้ ร้านจะมีตลอดข้างทางค่ะ แต่สำหรับคนที่ไม่ต้องการ Shopping อะไรแล้ว ก็แนะนำ MTR เลยค่ะ ส่งตรงถึง Gate เลย



     ระหว่างที่ท่องเที่ยวในฮ่องกง หลายๆจุดก็สามารถเข็นรถเข็นเข้าได้นะคะ ทั้ง Disney Land, Replus Bay อีกอย่างรถเข็นสามารถกันลมได้ดีทีเดียว เนื่องจากฮ่องกงมีภูมิประเทศที่เป็นเกาะ ลมจะแรงมาก ช่วงที่ไปมีฝนตกปรอยๆ ก็สามารถช่วยได้ค่ะ

จะเห็นว่า รถเข็นก็มีข้อดีเยอะนะคะ แต่คุณพ่อคุณแม่ต้องใช้พลังแบกหน่อยค่ะ เรียกได้ว่า แบกทั้งคน แบกทั้งรถกันเลยทีเดียว ลองพิจารณาดูค่ะ

https://www.facebook.com/mayyafamily/

--- ต่อไปจะ review เป้อุ้มค่ะ เพราะ Trip นี้แม่เอาไปทั้ง 2 อย่างเลย---
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่