ผมเชื่อเหลือเกินว่า พี่ๆ น้องๆ หลายๆ คน จะต้องเคยเสพงานศิลป์รูปแบบต่างๆ มามากมาย
ครั้งนี้ผมเลยอยากจะมาแชร์ ความรู้สึกทึ่ง ความอิ่มเอม ที่ได้เปลี่ยนมุมมอง
ในการมองงานศิลปะของผมไปตลอดกาล...

ผมเป็นคนหนึ่งครับที่ชอบงานศิลปะ มากๆ มักจะใช้เวลาว่าง ไปตามงานแสดงงานศิลป์ของที่ต่างๆ
คอยติดตามข่าวมาตลอด ว่ามีที่ไหนจัดแสดงบ้าง เพราะผมคิดว่าศิลปะสามารถจรรโลงจิตใจเราได้อย่างดีที่สุดครับ

จนกระทั่งผมมีโอกาส ได้เข้าร่วมงานสัมมนาพิเศษ “การสร้างสรรค์งานศิลปะในรูปแบบดิจิตอล”
ซึ่งผมว่าหัวเรื่องมันค่อนข้างจะเป็นเรื่องที่ร่วมสมัยและน่าสนใจมากเพราะงานศิลป์นั้น
เราก็จะนึกถึงงานวิจิตรหรืองานที่สร้างสรรค์ด้วยฝีมือคนจริงๆ

แต่จะเป็นยังไง ??? ถ้าคนหยิบเอาดิจิตอลมาทำงานศิลปะให้มีคุณค่ามากยิ่งขึ้น
ซึ่งงานที่ว่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของ Teamlab Island ที่ Central World ด้วย เท่าที่รู้
งาน Teamlab ก็เป็นงานสวนสนุกอินเตอร์แอคทีฟ ว่าแต่มันเกี่ยวข้องยังไงเดี๋ยวเขาคงอธิบาย

ซึ่งผู้ที่มาบรรยายคือ คุณ TAKEI TAKUYA Director Teamlab Asia
เบื้องหลังความสำเร็จของงานทีมแลปในภูมิภาคเอเชียเลยนะ รู้ถึงแก่นแน่นอน

ซึ่งผมจะหยิบยกเอาผลงานต่างๆ ที่ Teamlab ได้จัดแสดงในหลายๆ ประเทศ ที่ผมชอบและสนใจ
และ คำพูดบางช่วงบางตอน ของ ที่ TAKUYA บรรยาย  มาแบ่งปัน และแชร์ความรู้สึกให้กับเพื่อนๆ นะครับ  


Teamlab เป็น ผู้สร้างสรรค์ Digital Art and Exibition โดยมีต้นกำเนิด มาจากประเทศญี่ปุ่นครับ
เกิดจากการร่วมมือกัน ของมืออาชีพ จากหลายๆ สายงาน ไม่ว่าจะเป็น artists, programmer engineers,
CG animators, mathematicians, architects, web and print graphic designers and editors

“ Digital Interactive Art ”

เป็นการผสมผสาน ระหว่างความลงตัว ของ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ ความคิดสร้างสรรค์
Digital Interactive ผ่านการใช้เครื่อง ฉาย Projector  

แล้ว Digital Art นั้น แตกต่างจาก งาน Art ทั่วไปที่เราเคยเสพ อย่างไร ?

TAKUYA เขาบอกเล่าแนวคิด ให้เราฟัง แบบนี้ครับ

เขายกเอา งานศิลปะ ชิ้นหนึ่งที่ทุกคนรู้จักกันดี

“  ผมเชื่อว่า ทุกๆคน จะต้องรู้จักภาพๆนี้ และ หลายๆ คนในที่นี้ ต้องเคยเข้าไปชม ภาพนี้แล้วแน่ๆ ผมเองก็เป็นคนหนึ่ง
ที่เคยเข้าไปชม Mona Lisa เหมือนกันครับ ซึ่งในทุกๆรอบ ที่ เปิดให้เข้าชม จะมีผู้ชมมากมาย ที่เบียดเสียด เข้าไป
เพื่อที่จะชม ภาพ ภาพนี้  นั่นจึง ทำให้ เสมือนว่า ทุกๆ คนที่เข้าไปชมภาพนี้ มีปฎิสัมพันธ์ เพียงแค่กับตัวเอง
และตัวภาพ แบบ 1 ต่อ 1 “

แต่ Digital Interactive Art ไม่ได้เป็นแบบนั้น ..

Digital Interactive Art เป็นงานศิลป์ ที่ทุกๆ คน ต้องเป็นทั้งผู้เสพ และผู้สร้างร่วมกัน

อย่างเช่น

ดอกไม้ จะค่อยๆ เบ่งบานและร่วงโรยหายไป เมื่อเรานำมือไปแตะที่ดอกไม้ ดอกไม้ก็จะบาน

“ ครั้งหนึ่ง ผมเคยนำงานนี้ไปจัดแสดง ที่ New York ในตอนแรก คนในห้องที่จัดแสดงก็ไม่ได้มีเยอะเท่าไรนัก
จนกระทั่ง เริ่มมีคนแน่ห้อง ทุกๆ คนสนุก กับการที่ได้ถ่ายรูป กับการที่ได้แตะ ผนังแล้วมีดอกไม้เบ่งบานออกมา
พอทุกคน แย่งกันแตะผนังมากขึ้น เพื่อที่จะได้ถ่ายรูป โดยไม่สนใจคนอื่ืน ดอกไม้ในห้อง ก็สลายหายไปหมด
ทุกคนต่างมึนงง และสงสัย แต่เมื่อทุกคน ค่อยๆ  เอามือออกมา ค่อยๆ หันมองรอบๆ ตัว แล้วตระหนักว่า
เราไม่ได้เสพงานศิลปฺนี้อยู่เพียงคนเดียว “

ศิลปะแบบดั้งเดิมที่จิตรกรต้องมี “สี” และ “เฟรม” เราสามารถทำลายกรอบรูปทิ่งไปได้เพราะว่า
เราไม่ถูกจำกัดด้วยขอบกระดาษอีกต่อไป และสมมุติว่าจิตรกรได้โจทย์ให้วาดรูปอะไรสองอย่าง
เขาต้องแบ่งเฟรมออกเป็นสองส่วน
แต่ Digital Art ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น  “

Digital Interactive art  มีพลังที่สามารถทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคนดีขึ้นและมีความยืดหยุ่นสูง
เพราะว่ามันมีความแตกต่างจากศิลปะแบบดั้งเดิม
ผมก็เลยอยากจะยกตัวอย่าง งานชิ้นนี้ ของทาง Teamlab ให้เพื่อนๆ รู้จักครับ

Resonating Forest

งานชิ้นนี้ถูกจัดแสดงขึ้น   Mifuneyama saga , japan

งานชิ้นนี้เป็นการใช้พื้นที่ทะเลสาป ผนวกกับการออกแบบของการออกแบบ ของ Teamlab
เนรมิตรทะเลสาปแห่งนี้ ให้เป็นงานศิลป์  มีการเคลื่อนไหวที่ล้อไปตามวัตถุที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ
จากเดิมที่ งานศิลปะถูกจำกัด อยู่หน้ากระดาษหรือผืนผ้าใบวันนี้
แม้แต่ผืนทะเลสาป Digital art ก็สามารถเนรมิตรให้กลายเป็นพื้นที่ในการแสดงงานศิลปะได้

ถ้าทะเลสาป ยังรู้สึกว่าจำกัด งั้นลองมาดูนี่

ภาพจะถูกฉายออกไปบนตัวสถาปัตยกรรม ขอแค่คุณมีสมาร์ทโฟน คุณก็สามารถเป็นหนึ่งใน
ผู้ที่เปลี่ยนผนังตึกเดิมๆ ที่ว่างเปล่าให้เป็นพื้นที่แสดงงานศิลป์อันสวยงามได้


Digital art สามารถ ทำลายข้อจำกัดเดิมๆ ของการแสดงงานศิลป์ได้อย่างไม่ต้องสงสัย..

เพื่อนๆ เคยมั้ยครับ ในวัยเด็กในคาบชั่วโมงศิลปะ เรามีเพื่อนร่วมห้องตั้งมากมาย 30 - 40 คน ในทุกๆ ท้ายคาบ
หรือเมื่อคุณครูตรวจการบ้านเสร็จ ท่านก็จะเอา แต่ผลงาน ที่ท่านคิดว่ามันสวยงามตามดุลยพินิจของท่าน เราก็รู้สึกว่า
งานของเรา ก็สวยนะ แต่ทำไมถึงไม่ได้รับเลือก  ก็แอบไปน้อยใจเล็กๆ  พอผมได้มาเห็นงานนี้ ผมรู้สึกอิจฉาเด็กๆ สมัยนี้ครับ
ที่พวกเขาช่างมีอิสระเหลือเกิน ไม่ว่าพวกเขา จะสรรค์สร้าง งานในรูป แบบไหนออกมา จะสวยงามหรือไม่สวยงาม สุดแล้วแต่
ทุกคน ได้มีพื้นที่ ให้ผลงาน และความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง ได้ถูกปลดปล่อยออกไป ไม่มีการจัดอันดับ ไม่มีถ้วยรางวัล  
มีเพียงความสวยงาม ของความหลากหลาย ทางศิลปะ ที่ทุกๆคน ได้ใช้ร่วมกัน ..

ผมจึงรู้สึกเห็นด้วยกับผู้บรรยาย ที่ Digital Interactive นั้น สามารถทำให้ทุกๆคนสรรค์สร้าง และเป้นส่วนหนึ่ง ของงานศิลปะได้อย่างแท้จริง  ..

และสิ่งสุดท้าย ที่ผมรู้สึก อิ่มเอม และรู้สึกทึ่ง ยิ่งกว่างานศิลปะ คือมุมมอง และวิสัยทัศน์ ของเขา เมื่อมี ผู้ร่วมฟังบรรยาย
กับผมท่านหนึ่ง ได้ถามคำถาม TAKUYA ว่า

Q : “ ผมอยากจะทราบว่าคุณ Takuya มองยังไงกับความ Unique ของ Mona Lisa เพราะ Mona Lisa มันมี Original
ภาพเดียวใช่ไหมครับ? มันค่อนข้างมีความเป็น Unique และก็ต่อให้ copy แค่ไหนมันก็ยังมี original แต่ว่า Digital art
มันสามารถ copy ได้ไม่มีสิ้นสุด ผมอยากทราบว่าคุณ Takuya มองยังไงให้มันมีมูลค่าทางศิลปะหรือมีวิธีคิดยังไงให้รู้สึกว่า
การ copy มันก็ยังเป็นศิลปะอะครับ “

คำตอบของเขา ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่ผมฟังแล้วรู้สึกอิ่มเอม และ เป็นวิสัยทัศน์ ของคนรุ่นใหม่จริงๆ

โดย TAKUYA ตอบกับผู้ถามคำถามว่า

และนี่แหละครับ คือที่มา ของแรงบัลดาลใจ ที่ผมอยากจะมาเขียนกระทู้นี้ เพื่อแชร์ความรู้สึกดีๆ กับเพื่อนๆในวันนี้

จะว่าไปโอกาสที่จะซึมซับงานศิลปะเจ๋งๆ ในบ้านเราอาจจะมีให้ชมอยู่อย่างไม่ขาดสาย แต่งานศิลป์ที่เป็นงานที่สัมผัส
และเข้าถึงได้ด้วยตัวเองแบบนี้ เชื่อเถอะครับว่า คงไม่มีที่ไหนทำได้นอกจาก TeamLab อีกแล้ว ถ้าชอบ บอกเลยว่าอย่าช้า
เพราะเขาจัดถึงสิ้นเดือนนี้แล้ว