มาพูดถึงหนังกันนิดหน่อยดีกว่า...ขอเตือน สำหรับท่านที่ไม่ชอบหนังแนวแอคชั่น แฟนตาซี และมีความแอนตี้ในเรื่องไสยศาสตร์ อภิญญาวิชา อย่าเสียเวลาไปดูโดยเด็ดขาด เพราะหนังเรื่องนี้ใส่มาค่อนข้างเยอะ และดูเกินจริง เข้าใจว่าต้องการเอาใจตลาดหนังสำหรับคนทั่วไปส่วนใหญ่ ที่ชอบความเวอร์วัง อัศจรรย์ใจ

ส่วนตัวคิดว่า จะดีกว่านี้ ถ้าทำให้เป็นหนังดราม่า แอคชั่น อาจใส่ความลี้ลับของศาสตร์เหล่านี้ให้สอดคล้องบ้าง เพราะตามประวัติของท่านขุนพันธรักษ์ราชเดช มีเรื่องเหล่านี้เข้ามาเกี่ยวข้อง หนังน่าจะเน้นไปที่ความขับเคี่ยว เฉือดเฉือนกันของ 2 ตัวละครคือขุนพันธ์และ อัลฮาวียะลู ให้มากกว่านี้ กลายเป็นว่าได้ให้น้ำหนักไปที่การโกงบ้านกินเมืองของข้าราชการมากกว่า ดังนั้นจึงทำให้ความน่าติดตามลดลงเป็นอย่างมาก

ประกอบกับดนตรีประกอบแนวคาวบอยตะวันตก โผล่มาทุกครั้งที่ขุนพันธ์สโลวโมชั่นต่อสู้กับเหล่าโจร เอาตรงๆนะ มันทำให้อารมณ์สะดุด ภาพของหนังเรื่อง Mackenna's Gold เพลง Old Turkey Buzzard เข้ามารบกวนจิตใจตลอดเว 555555

ก่อนจะเข้าไปดู ผู้เขียนได้ศึกษาประวัติของท่านขุนมาค่อนข้างเยอะพอสมควร และคาดหวังว่าหนังจะทำได้เข้มข้นไม่แพ้ประวัติจริงของท่านที่ปราบเสือร้ายมาอย่างโชกโชน อีกมุมนึงก็เข้าใจได้ว่า อาจกลัวว่าจะกลายเป็นเรื่องขัดแย้งทางศาสนา อัลฮาวียะลู ที่แสดงโดยน้อย วงพรูนั้น ตามประวัติจริงก็คือ อะแวสะดอ ตาและ ที่เป็นขุนโจรแบ่งแยกดินแดน สามจังหวัดภาคใต้อันขึ้นชื่อว่า ปราบเขาได้ยากมาก และจะฆ่าเฉพาะคนไทยพุทธเท่านั้น (ขนาดชื่อยังต้องเลี่ยงไปใช้ชื่ออื่นเลย ) ผู้เขียนมองไม่เห็นความยิ่งใหญ่ของขุนโจรแห่งเขาบูโด ในหนังเลยจริงๆ

ส่วนการแสดงของอนันดาและน้อยวงพรูนั้น สอบผ่านแน่นอนอยู่แล้ว นี่ถ้าไม่ได้การแสดงขั้นเทพมาช่วยพยุงหนังเอาไว้ คงไม่เหลืออะไรให้น่าจดจำเลยมั้ง สำหรับหนังเรื่องนี้

สรุป...ผิดหวัง ที่หนังเบาโหวงมาก ไม่เข้มข้น ไม่เฉือดเฉือน ไม่เอาคนดูถึงตาย แต่ถ้าไปดูเอาพลังการแสดงของพี่จ่อยและน้อย วงพรู ก็คุ้มค่าอยู่นะคะ เสียดายที่ประวัติของท่านขุนน่าสนใจเป็นอันมาก แต่หนังก็ยังไม่สามารถดึงมันออกมาทำให้ประทับใจ ตราตรึงได้เท่าที่ควร พูดง่ายๆคือ ทำไม่ถึง นั่นเอง
ให้คะแนนแค่ 5 เต็ม 10 เท่านั้น....กลับไปอ่านประวัติท่านขุนตัวจริงในหนังสือ สนุกน่าติดตามกว่าค่ะ....สุดท้ายขอย้ำว่า หนังเรื่องนี้คือหนัง " แอคชั่น แฟนตาซี " จริงๆนะเออ