เส้นทางท่องเที่ยวเกาหลี-ญี่ปุ่น 1 สัปดาห์สไตล์แบคแพคด้วยงบไม่ถึงสองหมื่นบาท (รวมทุกค่าใช้จ่าย)

สวัสดีค่ะทุกท่าน  ดิฉันจะขอเล่าสู่กันฟังประสบการณ์ท่องเที่ยวกับน้องสาวเป็นครั้งแรกในประเทศเกาหลีใต้ กรุงโซล 4 วัน 3 คืน และประเทศญี่ปุ่น โอซาก้า 3 วัน 2 คืน รวมถึงแนะนำเส้นทางการเดินทางท่องเที่ยว วิธีการเดินทาง ของกินและสถานที่ที่ไม่ควรพลาด สำหรับผู้ที่สนใจท่องเที่ยวแบบงบจำกัดและอยากเดินทางด้วยตัวเอง กระทู้นี้ดิฉันจะประมาณค่าใช้จ่ายส่วนของการท่องเที่ยว (ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ+ค่าที่พัก+ค่าอาหาร,ขนม+ค่าเข้าชมสถานที่+ค่าเดินทางในเมือง) โดยประมาณเพื่อประกอบการตัดสินใจในการมาท่องเที่ยว ด้วยงบประมาณไม่เกินสองหมื่นบาทสามารถเที่ยวได้ทั่วโซลและทั่วโอซาก้าทั้งสัปดาห์ ขอเริ่มจาก ….

     ****ขอแนะนำสิ่งสำคัญที่ต้องมีไว้
   1.กระเป๋าเดินทางแบบ Back Pack (ของดิฉันประมาณ 30 ลิตร น้ำหนักรวม 8 กิโลกรัม อย่าลืมปรับให้เหมาะกับสรีระนะคะ)
   2.รองเท้าเดินทางอย่างดี (support การเดินทางระยะไกลๆ และน้ำหนักที่เราต้องแบกบนบ่า)
   3.เงินสำรองในบัตรATM (มีไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน)
   4.มือถือสมาร์ทโฟนมีจีพีเอส+แผนที่ออฟไลน์ (ไม่จำเป็นต้องต้องซื้ออินเทอร์เน็ตเพราะที่พักและตามจุดสำคัญมี wifi ฟรี หากคุณจะซื้อ wifi พกพาจะอยู่ที่หลักพันซึ่งค่อนข้างแพงค่ะ)
   5.Application แผนที่ subway ในเกาหลีใต้และเมืองโอซากา (มันจะช่วยคำนวณค่ารถไฟใต้ดินและสถานีที่จะต้องเปลี่ยน)

     ****ข้อแนะนำก่อนเดินทาง
   1.เรื่องภาษาอังกฤษ คุณไม่จำเป็นต้องถึงขั้นเก่งหรือพูดคล่อง คุณอาจจะพออ่านออก(เช่นชื่อสถานที่ ชื่อสถานี) คุณสามารถเที่ยวได้ทั่วเมืองแล้วค่ะ หากจะสั่งอาหารหรือซื้อขนม คุณสามารถชี้ตามรูปเมนูที่ต้องการค่ะ เขาก็เข้าใจแล้ว
   2.การโดยสารที่ง่ายและสะดวกที่สุดคือ subway ท่องเที่ยวในเมืองใหญ่อย่างโซลและโอซาก้า สำหรับการโดยสารนี้มันไม่ได้น่ากังวลนะคะ สังเกตตามป้ายบอกด้านบน(ชื่อสถานีและลูกศรทางไป) และแผนที่ subway คุณจะไม่หลงและขึ้นลง subway ได้อย่างมั่นใจ และใน subway จะมีป้ายไฟวิ่งบอกว่าจะถึงจะสถานีใด
   3.สนามบินนานาชาติ แม้จะกว้างใหญ่ แต่ป้ายบอกทางอยู่ทั่วจะไม่ทำให้คุณหลงตั้งแต่คุณก้าวลงจากเครื่อง
   4.ไหวพริบ เครื่องใช้บางอย่างจะแตกต่างจากบ้านเรา บางครั้งคุณต้องหยุดดูและสังเกตว่าคนประเทศเขาใช้งานมันอย่างไรหรือขอความช่วยเหลือจากเขา อย่างตู้สั่งอาหาร ตู้ซื้อตั๋วโดยสาร การแสกนบัตรเข้าสถานี subway  รวมถึงการข้ามถนนทางม้าลาย
5. ทริปนี้ดิฉันเน้นเดินค่ะ รัศมีไม่เกินสองกิโลเมตรจากที่พักของดิฉันจะเป็นแหล่งท่องเที่ยว เส้นทางเดินจะรายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ได้สังเกตความแตกต่างของบ้านเมือง

   ****ตั๋วเครื่องบินไปกลับ  
        สำหรับราคาตั๋วเครื่องบิน(สายการบิน Low cost) ถูกแพงขึ้นอยู่กับการหาตั๋วราคาประหยัดของคุณ สำหรับดิฉันจองประมาณสองถึงสามอาทิตย์ก่อนวันเดินทาง ราคา(เลขปัดขึ้น)โดยประมาณต่อคนเป็นดังนี้ค่ะ
          ตั๋วเครื่องบิน ดอนเมือง-สนามบินอินชอน สายการบิน AirasiaX ราคาไม่เกิน 5,000 บาท (มีค่าโหลดกระเป๋า 25 kg หารครึ่งกับน้องสาว ตกคนละไม่เกิน 800 บาท)
                           สนามบินอินชอน-สนามบินคันไซ(โอซาก้า,ญี่ปุ่น)  สายการบิน T'way ราคาไม่เกิน 3,000 บาท (โหลดกระเป๋าฟรีคนละไม่เกิน 15 kg)
                           สนามบินคันไซ-สนามบินดอนเมือง สายการบิน scoot ราคาไม่เกิน 3,500 บาท (โหลดกระเป๋าฟรีคนละไม่เกิน 10 kg)
ยอดรวมค่าใช้จ่ายสำหรับค่าเครื่องบินคนละไม่เกิน 12,300 บาท (ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการหาตั๋วราคาประหยัดนะคะ)อมยิ้ม01

****ที่พัก
     ในกรุงโซล ดิฉันจอง(ทาง agoda ผ่านบัตรเดบิต) Guest house ในตัวเมือง ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวและติดสถานี subway  มีรีวิวหลักร้อยขึ้นและคะแนนอยู่ที่ประมาณ 7 เต็ม 10 ใน agoda
สองคืนแรกดิฉันพักที่ JJ guesthouse ค่าที่พักสองคืน 1,900 กว่าๆ หรือประมาณ 2,000 บาท  เขามีอาหารเช้าเป็นขนมปังกับแยม และกาแฟ
สองคืนต่อมาดิฉันพักที่ Beewon guesthouse ค่าที่พักสองคืน 2,190 หรือประมาณ 2,200 บาท เขามีอาหารเช้าเป็นขนมปังกับแยม กาแฟ และนมเปรี้ยว

  
     สำหรับในโอซาก้าสองคืน มีญาติผู้ใหญ่แนะนำให้ลองไปพักในสนามบินคันไซ ตึก aero plaza ตรงข้าม Burger King จะเป็นโถงขนาดใหญ่สำหรับให้ผู้โดยสารรอขึ้นเครื่อง(พักฟรี) มีห้องอาบน้ำ มีห้องน้ำไฮเทคที่ฉีดอัตโนมัติ ยามเฝ้าทั้งวันทั้งคืนและเปิดไฟสว่างตลอดเวลา มีไวไฟฟรี ที่ชาร์จแบต เวลา 23.00 น. จะมีการลงทะเบียนรับผ้าห่มผืนหนา
   ดิฉันตัดสินใจลองไปพักดูก่อน หากนอนหลับสบายจะอยู่สองคืน แต่หากไม่โอเคก็จะเข้าไปพักในเมือง สำหรับคืนแรกที่นอน พอตกดึกจะมีคนมากมายมาจับจองพื้นที่ บ้างก็ได้เก้าอี้นอนยาว บ้างก็ได้แถวเก้าอี้พนักพิง ส่วนตัวดิฉันได้จับจองได้เบาะขนาดใหญ่ประมาณ 1.5 คูณ 1.5 เมตร นอนกับน้องสาวสองคน ห่มผ้าห่มผืนหนานุ่มที่ไปรับมา และใช้ผ้าปิดตาตอนนอน ปรากฏว่าตื่นเช้ามาอีกทีตอนตีห้าครึ่ง (หลับสนิท+สบาย) คืนต่อมาจึงนอนต่อที่นี่ สำหรับค่าใช้จ่ายมีแค่ค่าอาบน้ำ(วันละครั้งเพราะราคาแพง) ครั้งละ 15 นาที(เฉพาะตอนเปิดฝักบัวที่นับเวลาถอยหลัง) ดิฉันอาบ 3 ครั้งแบ่งครึ่งเวลาอาบกับน้องสาว คิดเป็นเงินค่าอาบน้ำคนละ 750 เยน และมีค่าใช้จ่ายฝากของในตู้วันละ 400 ร้อยเยนหรือ 200 เยนต่อคน (ในตู้สามารถเก็บกระเป๋าแบคแพค 30 ลิตรสองใบและโน้ตบุค)    ภาพที่นี่ดิฉันไม่ได้ถ่ายมมาค่ะ รายละเอียดและรูปสามารถเข้าไปดูได้ในกระทู้อื่นได้ค่ะ
     ยอดรวมค่าใช้จ่ายสำหรับค่าที่พักต่อคน
      JJ Guesthouse   2,000   +    Beewon Guesthouse 2,200 = 4,200 หรือ 2,100 บาทต่อคน
        ค่าอาบน้ำ  750 เยน หรือ 260 บาทต่อคน
     ค่าฝากของในตู้  200 เยนหรือ 70 บาทต่อคน
     รวม 2,430 หรือ 2,500 บาทต่อคน

****ประมวนเส้นทางเดินเท้าจากสถานีซับเวย์ที่ใกล้ที่สุดกับที่พัก
     ก่อนมาให้ค้นหาเส้นทางโดยใช้ Google map ว่าสถานีใดใกล้กับที่พักที่สุด สังเกตใน map ว่าควรออกจากสถานีที่ประตูทางออกใด หรือต้องเดินไปทางใดจึงจะถึงที่พัก และแคปภาพนั้นไว้เมื่อถึงวันที่จะเดินทางไปยังที่พัก (ป้องกันไว้เผื่อตามจุดที่เราจะไปอาจจะไม่มีอินเทอร์เน็ตให้เข้าถึง)



Let's get started the journey


วันที่1
       เวลา 7.00 ลงจากเครื่องถึงสนามบินนานาชาติอินชอนประเทศเกาหลีใต้ สังเกตตามป้าย Arrival และเดินตามผู้โดยสารคนอื่นๆ => ขึ้น shuttle train ไป main terminal => ผ่านจุดตรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองเตรียมเอกสารแสดง => สังเกตมอนิเตอร์บอกสายการบินว่าสัมภาระจะต้องไปรับที่ Belt ไหน => รับสัมภาระที่มาตามสายพาน => ไปประตูทางออก
      
      เตรียมพร้อม
              1. ทานอาหารเช้าให้เต็มอิ่มพร้อมเดินทาง มื้อแรกของดิฉันเป็นกล้วย 1 ผลและขนมปัง
              2. ตรงไปที่ information หยิบแผนที่ท่องเที่ยวกรุงโซลฉบับภาษาอังกฤษสองฉบับ ฉบับหนึ่งจะเป็นเล่ม บอกสถานที่ท่องเที่ยวตามย่านต่างๆ และอีกฉบับจะเป็นแผนที่กางขนาดใหญ่ หน้าปกสองฉบับนี้จะเหมือนกันนะคะ ทำความ้ข้าใจกับแผนที่ subway ว่ามีกี่สาย แต่ละสายสีอะไร


             3. ซื้อบัตร T money ที่ร้านสะดวกซื้อราคา4,000 วอน ซึ่งใกล้คุณจะมีร้านสะดวกซื้อที่ชื่อ CU บัตรนี้จะใช้โดยสาร subway (Taxi และ bus) เติมเงินในบัตร 20,000 วอนซึ่งเพียงพอสำหรับจบทริปค่ะ (หากเงินในบัตรไม่พอหรือเงินเหลือสามารถเติมหรือขอคืนเงินได้ที่ร้านสะดวกซื้อ และสามารถเช็คยอดได้อีกด้วย)  นั่งซับเวย์กินเงินในบัตรครั้งละ 1,250 วอน(ระยะทางไม่เกิน 10 km) ไม่เสียเงินเพิ่มเมื่อเปลี่ยนสถานี
            4. สามารถใช้ไวไฟได้ฟรีในสนามบินนานาชาติอินชอน ดิฉันเปิดไวไฟเพื่อระบุตำแหน่งจีพีเอสเพื่อใช้กับแผนที่ออฟไลน์ในสมาร์ทโฟน ทั้งนี้เพื่อความสบายใจว่าเราใกล้ถึงที่หมายหรือยัง

    เมื่อเตรียมพร้อมและเตรียมใจสำหรับการเดินทางที่รออยู่ข้างหน้าแล้ว ดิฉันมองตามป้ายหาสัญลักษณ์รถไฟ และเดินตามทางที่ป้ายบอก ไปสู่รถไฟ A’rex (airport railroad) ซึ่งจะพาไปยังกรุงโซลที่ Seoul station ราคาประมาน 5,000 วอน  เปลี่ยนสายเป็นsubway line 4 เพราะที่พักคือ JJ Guesthouse   ใกล้กับสถานีซับเวย์ Hoehyeon (line 4) เมื่อลงจากป้ายนี้แล้ว เปิดดูเส้นทางเดินเท้าจากภาพที่ได้แคปมา และเดินไปไม่เกิน 1 กิโลเมตรก็ถึงที่พักค่ะ (หากหาไม่เจอจริงๆ ให้ถามคนแถวนั้นได้ค่ะ เขารู้จัก ดิฉันก็เคยถามเช่นกัน ^^)  เมื่อเข้าถึงที่พักดิฉันก็หาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเกาหลีทาน พักผ่อนเอาแรง

ประมาณ 17.00 น ทานอาหารเย็นที่ร้านเกาหลี จานละ 6,000 วอน ของดิฉันเป็นข้าวหน้าไข่กุ้งและของน้องสาวเป็นข้าวผัดราดชีสบนหน้า มีผักดอง กิมจิเป็นกับแกล้ม สามารถขอเพิ่มได้ค่ะ


ประมาณ 18.00 น ของวันนี้ ดิฉันได้ไป Namsan park  (เดินไปทางด้านหลังของที่พัก)  มีป้ายบอกทางตลอดทาง สวนนี้จะอยู่บนเขา ขึ้นเขาไปตามทาง
ภาพกำแพงเกาหลีโบราณทอดยาวขึ้นตามเขาไปค่ะ เมื่อขึ้นไปถึงจะเห็นทัศนียภาพกรุงโซลในยามพระอาทิตย์ใกล้ตก และเห็นยอด N seoul tower เดินต่อไปอีกไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตรก็จะถึงค่ะ


ประมาณ 19.00 น นั่งซับเวย์จาก Hoehyeon ลงป้าย Chungmuro ถึง Namsagol Hanok village ก่อนเข้าก็ซื้อขนมซื้อน้ำเซเว่นใกล้ๆ และเดินเข้าชมสถานที่ ฟรีค่าเข้าปิดสามทุ่ม เป็นหมู่บ้านเกาหลีโบราณ ดิฉันอยู่จนหมู่บ้านเกือบปิดจึงนั่งซับเวย์กลับที่พัก


สำหรับวันที่ 1 จ่ายเงินไปแล้วคนละ 37,000 วอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่