ผมกับแฟนอยู่ด้วยกันมาปีกว่า หมั้นกันไว้แต่ยังไม่ได้แต่ง  ตอนนั้นเรายังไม่มีอะไรเลย มีแต่เสื้อผ้าของใช้ ช่วยกันทำงานเก็บเงินค่าสินสอดช่วยกัน ผมทำงานรายได้ต่อเดือน23k ของเธอ10k ทำได้2เดือนบอกว่าได้น้อย ออกไปขายอาหารน่าจะได้เยอะกว่านี้ เลยบอกว่าเรายังไม่มีทุน เลยกู้ทางญาติเขา ร้อยละ10เลยให้ยืมมา30,000 ดอกเบี้ยเดือนละ3,000เเม่เขาอีก30,000 ทำร้านเสร็จรวมๆหมดไป60,000+ แม่เขาก็มาช่วย ผมเลิกงานก็ช่วยขาย ถ้าผมเข้ากลางคืนเลิกงานเช้าผมก็มาช่วยถึงบ่ายผมก็ไปนอน 5โมงเย็นผมตื่นพาไปซื้อของ 2ทุ่มผมก็ไปเข้างาน เงินขายของเขาให้แม่เขาวันละ200 ที่เหลือก็ใช้จ่ายด้วยกัน ให้ผมไปทำงานวันละ100-200 แล้วแต่บางวัน ส่วนเงินเดือนผมจ่ายค่าเช่าบ้าน2,000 ค่างวดมอไซค์ 3,300 ดอกเบี้ยเงินกู้(ญาติเขา) 3,000 ค่าอื่นๆ ขายอยู่6เดือน ที่ตั้งร้านถูกรื้อทำบ้านจัดสรรค์ แม่เขาเลยกลับบ้าน ขอไป10,000 เธอก็ไม่ได้ทำงาน2-3เดือน ผมก็ได้ว่าไม่ได้บังคับ ทีนี้ทางแม่เขามาหา มาเร่งให้ไปแต่งงานกัน ผมเลยบอกว่าเงินยังไม่พร้อม ขอเวลาอีกสัก6เดือน ทางแม่เขาไม่ยอมจะให้ไปในเดือนนั้นให้ได้ ผมก็ยืนยันว่ายังไม่มี ขอเวลาก่อน ตอนให้ไปสู่ขอ(หมั้น)ก็บังคับให้ไป เพิ่งอยู่ด้วยกัน1เดือน สุดท้ายแม่เขาเลยไม่พอใจกลับบ้านไป เดือนต่อมาเขาได้งานทำ เป็นงานออฟฟิศ ทำได้1เดือนผมจับได้ว่าแอบนอกใจผม พอเงินเดือนเธอออกก็ย้ายหนีผมเพื่อไปคบกับคนใหม่ได้สะดวก คนใหม่เขามีพร้อมกว่า ผมก็ไม่ว่าเธอ ยอมปล่อยให้เธอไปดี ตั้งเเต่เธอไปไม่เคยไยดีไม่มีแม้ไลน์มาถามว่าเป็นยังไง หลงเขามาก แต่ปัญหาอยู่ที่ว่า ภาระทั้งหมดตอนนี้ผมเป็นคนจ่ายคนเดียว สิ้นเดือนเงินแทบไม่เหลือ ผมเหลือใช้เดือนละ2,000 ใช้ทั้งเดือน ไม่พอแน่นอนครับ ส่วนเธอใช้เที่ยวกับคนใหม่สบายอุรา ผมเลยไลน์คุยกับเธอช่วยใช้หนี้ที่กู้ญาติเธอมา30,000+ดอก3,000 เธอไม่พอใจ สรุปเธอใช้ช่วย10,000 จบกัน ผมอยากรู้ว่าผมผิดไหมที่ขอให้เธอช่วย .!? ผมไม่ไหวจริงๆกินทอดไข่ทุกวัน จิตใจก็ย่ำแย่ ตอนนี้ผ่านไป1เดือนจิตใจดีขึ้นเยอะครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ