เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า "น้องเมย์"รัชนก อินทนนท์ นักกีฬาแบดมินตันหญิงชาวไทย ถูกตรวจสอบโด๊ปการใช้สารกระตุ้นในรายการการแข่งขันชิงแชมป์เอเซียที่ประเทศจีนเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยทางจีนได้ส่งตัวอย่างปัสสาวะและเลือดไปที่ศูนย์การตรวจสอบสารกระตุ้นที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว เข้าสู่กระขบวนการการตรวจสารโลก(วาด้า)แล้ว ซึ่งอาจส่งผลให้ น้องเมย์ไม่อาจไปร่วมการแขังขันในโอลิมปิกเกมส์ได้
รายงานระบุด้วยว่า
ตัวอย่างสารกระตุ้นที่ส่งไปตรวจนั้นอาจเป็นตัวยาที่"น้องเมย์"ใช้ในรักษาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า ซึ่งตอนนี้ได้มีการพูดคุยหารือว่าดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างไร
ผู้สื่อข่าวได้ถามเรื่องราวดังกล่าวจาก คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยปฏิเสธจะให้ข้อมูลในเวลานี้ และเมื่อสอบถามไปทางคุณคณิศรา เงินศรีสุข ผู้จัดการส่วนตัวน้องเมย์ ก็ระบุไม่ขอให้ความเห็นเรื่องดังกล่าวเช่นกัน อย่างไรก็ตาม มีรายงานด้วยว่าหากผลการตรวจออกมาว่าน้องเมย์ผิดจริง อาจโดนแบน 2-4 ปี
นายนายวีรชัย วิภาตวิทย์ รองเลขาธิการนายกสมาคมแบดมินตัน กล่าวว่า การที่เมย์ถอนตัวการถือธงงานเปิดตัวพิธีเปิดโอลิมปิกเกมส์นั้น ไม่เกี่ยวเป็นเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม เรื่องข่าวลือนี้ตนไม่ทราบมูลข้อที่ชัดเจน ขอตรวจสอบอีกครั้งก่อน หากพบว่าน้องเมย์ผิดจริงแล้วจะส่งผลกระทบกับการแข่งขันโอลิมปิกหรือไม่นั้นยังบอกไม่ได้ เพราะตนยังไม่มีข้อมูล แต่เชื่อว่าขบวนการการตรวจสอบนี้จะใช้เวลานาน
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้คณะกรรมการโอลิมปิกไทยยังไม่มีการตัดชื่อน้องเมย์ออกจากการแข่งขันโอลิมปิก และล่าสุดคณะกรรมการโอลิปิกแห่งประเทศไทยกำลังติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างเร็วที่สุด
ที่มา ; ข่าวสด วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 15:22 น.
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1468398190
ล่าสุด
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1468401464
จากกระแสข่าว “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันขวัญใจชาวไทย มืออันดับ 4 ของโลก อยู่ระหว่างถูกตรวจสารกระตุ้นในการแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์เอเชียที่ประเทศจีน เมื่อเดือน เม.ย. ส่งผลให้ “น้องเมย์” มีสิทธิ์ชวดลงช่วยทัพนักกีฬาไทยทำศึกในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ที่นครริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ระหว่างวันที่ 5-21 ส.ค. หากพบว่าผลตรวจจากแล็บที่ญี่ปุ่นออกมาว่าพบสารกระตุ้นจริง (อ่านข่าว : ด่วน!! "น้องเมย์-รัชนก"ถูกตรวจพบสารกระตุ้น อาจชวดไปแข่งโอลิมปิก
ล่าสุด พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์"ข่าวสดออนไลน์"ว่า สารที่ตรวจเจอในศึกชิงแชมป์เอเชียของน้องเมย์ มีโอกาสว่าจะเป็นสารตัวใดตัวหนึ่ง ซึ่งสารสเตียรอยด์ มีเจือปนอยู่ในยา และ อาหารหลายร้อยรายการ ตอนนี้ทางประเทศจีนได้ส่งผลการตรวจสารกระตุ้นไปที่แล็บตรวจสารต้องห้ามนักกีฬาในประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับการรับรองจากองค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นโลก หรือวาด้า เพื่อยืนยันผลการตรวจอีกครั้ง ตรงนี้ยังภาวนาให้ไม่เจอ หรือมีปัญหาในแง่ลบ
"เรายังไม่ทราบว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะสารชนิดนี้อยู่ในตัวยามากมายหลายร้อยรายการ และได้ยินว่าการกีฬาแห่งประเทศไทยกำลังเร่งเดินเรื่องแก้ไขปัญหาดังกล่าวอยู่ แต่ยังยืนยันว่าคณะกรรมการโอลิมปิกไทยยังไม่ถอดชื่อน้องเมย์ออกจากผู้มีสิทธิ์ร่วมในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ และยังมีชื่ออยู่ในคณะเดินทาง เนื่องจากยังไม่มีอะไรยืนยันว่าน้องเมย์ผิดจริงหรือไม่ แต่หากสุดท้ายผลที่ออกมาชี้ชัดว่ามีการใช้สารกระตุ้นจริง คงไม่ส่งไปร่วมแข่งขัน เพราะถือเป็นความเสียหายต่อประเทศชาติ และเรื่องนี้สมาคมแบดมินแห่งประเทศไทยฯ ต้องรับผิดชอบ"พล.ต.จารึกกล่าว
ด้านนพ.มีชัย อินวู๊ด ผู้อำนวยการกองกีฬาเวชศาสตร์ฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งประเทศไทย เผยว่า กกท.มีการส่งทีมงานไปตรวจสอบและความคุมสารต้องห้ามนักกีฬาเป็นประจำอยู่แล้วทุกเดือนอยู่แล้ว ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา นักกีฬาที่ได้ไปโอลิมปิก 52 คน ไม่มีการตรวจพบใดๆ ผลการตรวจจากการแข่งขันแต่ละครั้ง กกท.ไม่มีสิทธิ์รับรู้ สหพันธ์จะส่งผลตรวจให้นักกีฬา และสมาคมกีฬาที่ดูแลนักกีฬาคนนั้นรับทราบ หากพบสารกระตุ้นตัวใดก็ตาม และเมื่อมีผล หรือบทลงโทษ ถึงจะแจ้งมาที่กกท.อีกครั้ง
ต่อข้อถามถึงบทลงโทษกรณีตรวจพบในนักกีฬา นพ.มีชัยกล่าวว่า ต้องมาดูว่าผลการลงโทษจะเป็นอย่างไร ซึ่งเคยมีตัวอย่างจาก ลี ชอง เหว่ย นักแบดมินตันชาวมาเลเซียมือ 1 ของโลกที่ใช้เพียงแค่สารอาหารเสริม โดนลงโทษ 8 เดือน แต่ถ้าเป็นสารต้องห้ามที่สหพันฯเข้มงวดอาจมีโทษ 2-4 ปี
“เรื่องที่มีการลือกัน ยังไม่มีผลอะไรออกมา นักกีฬามีสิทธิ์ปกป้องสิทธิ์ของตัวเองได้อยู่แล้ว” นพ.มีชัย กล่าว
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเพิ่มเติมไปที่ผู้ใกล้ชิดอย่าง “มุก”คณิศรา เงินศรีสุข ผู้จัดการส่วนตัวน้องเมย์ แต่เจ้าตัวยังขอไม่พูดอะไรในตอนนี้
ข่าวด่วน!! "น้องเมย์-รัชนก"
รายงานระบุด้วยว่า ตัวอย่างสารกระตุ้นที่ส่งไปตรวจนั้นอาจเป็นตัวยาที่"น้องเมย์"ใช้ในรักษาอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า ซึ่งตอนนี้ได้มีการพูดคุยหารือว่าดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างไร
ผู้สื่อข่าวได้ถามเรื่องราวดังกล่าวจาก คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยปฏิเสธจะให้ข้อมูลในเวลานี้ และเมื่อสอบถามไปทางคุณคณิศรา เงินศรีสุข ผู้จัดการส่วนตัวน้องเมย์ ก็ระบุไม่ขอให้ความเห็นเรื่องดังกล่าวเช่นกัน อย่างไรก็ตาม มีรายงานด้วยว่าหากผลการตรวจออกมาว่าน้องเมย์ผิดจริง อาจโดนแบน 2-4 ปี
นายนายวีรชัย วิภาตวิทย์ รองเลขาธิการนายกสมาคมแบดมินตัน กล่าวว่า การที่เมย์ถอนตัวการถือธงงานเปิดตัวพิธีเปิดโอลิมปิกเกมส์นั้น ไม่เกี่ยวเป็นเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม เรื่องข่าวลือนี้ตนไม่ทราบมูลข้อที่ชัดเจน ขอตรวจสอบอีกครั้งก่อน หากพบว่าน้องเมย์ผิดจริงแล้วจะส่งผลกระทบกับการแข่งขันโอลิมปิกหรือไม่นั้นยังบอกไม่ได้ เพราะตนยังไม่มีข้อมูล แต่เชื่อว่าขบวนการการตรวจสอบนี้จะใช้เวลานาน
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้คณะกรรมการโอลิมปิกไทยยังไม่มีการตัดชื่อน้องเมย์ออกจากการแข่งขันโอลิมปิก และล่าสุดคณะกรรมการโอลิปิกแห่งประเทศไทยกำลังติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างเร็วที่สุด
ที่มา ; ข่าวสด วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 15:22 น.
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1468398190
ล่าสุด
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1468401464
จากกระแสข่าว “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ นักแบดมินตันขวัญใจชาวไทย มืออันดับ 4 ของโลก อยู่ระหว่างถูกตรวจสารกระตุ้นในการแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์เอเชียที่ประเทศจีน เมื่อเดือน เม.ย. ส่งผลให้ “น้องเมย์” มีสิทธิ์ชวดลงช่วยทัพนักกีฬาไทยทำศึกในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ที่นครริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล ระหว่างวันที่ 5-21 ส.ค. หากพบว่าผลตรวจจากแล็บที่ญี่ปุ่นออกมาว่าพบสารกระตุ้นจริง (อ่านข่าว : ด่วน!! "น้องเมย์-รัชนก"ถูกตรวจพบสารกระตุ้น อาจชวดไปแข่งโอลิมปิก
ล่าสุด พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์"ข่าวสดออนไลน์"ว่า สารที่ตรวจเจอในศึกชิงแชมป์เอเชียของน้องเมย์ มีโอกาสว่าจะเป็นสารตัวใดตัวหนึ่ง ซึ่งสารสเตียรอยด์ มีเจือปนอยู่ในยา และ อาหารหลายร้อยรายการ ตอนนี้ทางประเทศจีนได้ส่งผลการตรวจสารกระตุ้นไปที่แล็บตรวจสารต้องห้ามนักกีฬาในประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับการรับรองจากองค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นโลก หรือวาด้า เพื่อยืนยันผลการตรวจอีกครั้ง ตรงนี้ยังภาวนาให้ไม่เจอ หรือมีปัญหาในแง่ลบ
"เรายังไม่ทราบว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะสารชนิดนี้อยู่ในตัวยามากมายหลายร้อยรายการ และได้ยินว่าการกีฬาแห่งประเทศไทยกำลังเร่งเดินเรื่องแก้ไขปัญหาดังกล่าวอยู่ แต่ยังยืนยันว่าคณะกรรมการโอลิมปิกไทยยังไม่ถอดชื่อน้องเมย์ออกจากผู้มีสิทธิ์ร่วมในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้ และยังมีชื่ออยู่ในคณะเดินทาง เนื่องจากยังไม่มีอะไรยืนยันว่าน้องเมย์ผิดจริงหรือไม่ แต่หากสุดท้ายผลที่ออกมาชี้ชัดว่ามีการใช้สารกระตุ้นจริง คงไม่ส่งไปร่วมแข่งขัน เพราะถือเป็นความเสียหายต่อประเทศชาติ และเรื่องนี้สมาคมแบดมินแห่งประเทศไทยฯ ต้องรับผิดชอบ"พล.ต.จารึกกล่าว
ด้านนพ.มีชัย อินวู๊ด ผู้อำนวยการกองกีฬาเวชศาสตร์ฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งประเทศไทย เผยว่า กกท.มีการส่งทีมงานไปตรวจสอบและความคุมสารต้องห้ามนักกีฬาเป็นประจำอยู่แล้วทุกเดือนอยู่แล้ว ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา นักกีฬาที่ได้ไปโอลิมปิก 52 คน ไม่มีการตรวจพบใดๆ ผลการตรวจจากการแข่งขันแต่ละครั้ง กกท.ไม่มีสิทธิ์รับรู้ สหพันธ์จะส่งผลตรวจให้นักกีฬา และสมาคมกีฬาที่ดูแลนักกีฬาคนนั้นรับทราบ หากพบสารกระตุ้นตัวใดก็ตาม และเมื่อมีผล หรือบทลงโทษ ถึงจะแจ้งมาที่กกท.อีกครั้ง
ต่อข้อถามถึงบทลงโทษกรณีตรวจพบในนักกีฬา นพ.มีชัยกล่าวว่า ต้องมาดูว่าผลการลงโทษจะเป็นอย่างไร ซึ่งเคยมีตัวอย่างจาก ลี ชอง เหว่ย นักแบดมินตันชาวมาเลเซียมือ 1 ของโลกที่ใช้เพียงแค่สารอาหารเสริม โดนลงโทษ 8 เดือน แต่ถ้าเป็นสารต้องห้ามที่สหพันฯเข้มงวดอาจมีโทษ 2-4 ปี
“เรื่องที่มีการลือกัน ยังไม่มีผลอะไรออกมา นักกีฬามีสิทธิ์ปกป้องสิทธิ์ของตัวเองได้อยู่แล้ว” นพ.มีชัย กล่าว
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเพิ่มเติมไปที่ผู้ใกล้ชิดอย่าง “มุก”คณิศรา เงินศรีสุข ผู้จัดการส่วนตัวน้องเมย์ แต่เจ้าตัวยังขอไม่พูดอะไรในตอนนี้