สวัสดีครับ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาวพันทิปทุกท่าน เมื่อเห็นกระทู้อัมพวาก็อย่าเพิ่งเบือนหน้าหนีกันนะครับ เพราะกระทู้อัมพวากระทู้นี้จะพาเพื่อนๆ ไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ แล้วจะใหม่อย่างไร เชิญติดตามชมได้เลยครับ
FB: Wanna be Thai Traveller
เดือนกรกฎาคมเป็นช่วงเวลาของหน้าฝน บางทีฝนก็ทำให้เราตื่นสาย ทริปนี้เองก็เช่นกัน มันเป็นทริปของคนตื่นสายครับ 555
ลองจินตนาการดูสิครับ ในวันที่คุณตื่นขึ้นมาหลังจากที่นาฬิกาปลุกคุณไปแล้วเมื่อ 1 ชั่วโมงก่อน จะไปทำงานฝ่ารถติด แถมฝนตก
ใน กทม. เมืองรถติดอันดับ 1 ของโลก กว่าจะไปถึงก็เที่ยงวันพอดี แล้วผมควรทำยังไงดีหล่ะ? ไปสายก็โดนด่า ไม่ไปก็คงโดนด่า
เอาว่ะ โทรไปลางานเลยล่ะกัน อิอิ ยังไงก็โดนด่าอยู่แล้ว ฝนตกแบบนี้ใช้โควต้าลาป่วยกันเลยล่ะกัน
ทีนี้จะลาป่วยเฉยๆ ก็ใช่เรื่อง นั่งๆ นอนๆ คิดๆ ดูอยู่ไม่นาน งั้นไปเที่ยวดีกว่า เที่ยวใกล้ๆ กทม. เอาที่ตื่นเช้ามาแล้วเข้าไปทำงานได้เลย
อาหารอร่อย ที่พักไม่แพง รถไม่ติด ด้วยเหตุผลที่ยกมาทั้งหมดทั้งมวล ผมจึงเลือกไป "อัมพวา ในวันธรรมดา หน้าฝน" ครับ
แล้วไป "อัมพวา วันธรรมดา หน้าฝน" มันจะมีอะไรให้ดูรึ งั้นผมสรุปให้ฟังเลยล่ะกัน "เหตุผลที่อัมพวามีมากกว่าตลาดน้ำ"
..............................................................................................................................................................................
ข้อแรก
ที่พักถูกโคตร และเป็นส่วนตัวมว้ากกกก
เหตุผลแรกก็คือ "ที่พักหลักร้อย" แน่นอนว่าหน้านี้ Low-Season แถมไปวันธรรมดาอีก โอ้โห บรรดารีสอร์ททั้งหลายนั่งตบยุงกันทั้งนั้น
เพราะฉะนั้นที่พักทุกที่ก็จะกระหน่ำกันลดราคา เพื่อแย่งชิงลูกค้า ออกโปรโมชั่นกันแบบทุ่มหมดหน้าตัก ทำให้ที่พักแพงๆ ที่ปรกติมันมักจะเต็มตลอดทั้งปีทั้งชาติ ในช่วง Hi-Season แบบที่ผมไปเนี้ย ราคานี้ก็นะ ตอนที่ผมไปพักวันธรรมดาช่วงปลายๆ ปีต้องมีแบงค์พันสองใบอ่ะครับ แต่!!!!! วันนี้ ตอนนี้ Walk-In เข้าไปสายๆ จ่ายสบายๆ แค่หลักร้อยจร้าาาา ยังไม่พอครับ ครืออ....ทั้งรีสอร์ทมีแต่ผมจร้าาาาาา
สรุป จ่ายหลักร้อย แถมครองทั้งรีสอร์ท(ถึงจะนอนได้ห้องเดียวก็เหอะ) แต่ไม่มีใครแย่งมุมเซลฟี่ หรือถ่ายรูปนะ บอกเลย ฟิน
เสียดายนิดเดียว วันธรรมดา เช้าๆ เวลาตื่นนอนมาแล้วพระท่านไม่พายเรือมาบิณฑบาตร อันนี้ข้อเสียครับ แต่เทียบกับข้อดีก็ คุ้ม!!
..............................................................................................................................................................................
ข้อสอง
อาสนวิหารแม่พระบังเกิด
เชื่อมั้ยว่ามุมเท่ห์ๆ ตรงนี้ ผมเอาไปหลอกแม่ได้เลยว่า "ตอนนี้ผมอยู่ที่กรุงปราก นะครับแม่ อิอิ" ปรากน้ำแม่กลองอ่ะแม่ 555
แน่นอนว่าแม่รับมุขไม่ทันครับ แต่พอแกคิดได้ก็โดนดุย้อนหลังอยู่ดี (ขอโทษครับแม่) ต้องบอกว่า อาสนวิหารแม่พระบังเกิดอาจจะอยู่ออกมาไกลจาก ตลาดน้ำอัมพวาสักหน่อย ผมเองโดยปรกติก็ไปแต่ตลาดน้ำครับ ซึ่งเราก็ต้องไปกันตอนเย็นๆ อยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ เพราะฉะนั้นเรามักจะละเลยที่สวยๆ แบบนี้ และนี้คือเหตุผลหนึ่งที่อัมพวาไม่ได้มีแค่ตลาดน้ำ เพราะมีโบสถ์สวยๆ ให้เราได้ดู ได้ชม ได้ถ่ายรูป ด้วยนะเออ
มาตอนเกือบๆ จะเที่ยงแล้ว พระอาทิตย์ทรงกลดสดใส สีแสงแวววาวกันเลยทีเดียวเชียว
แต่ข้อเสียก็คือ วันนี้โบสถ์ไม่เปิดนะครับ จะมากันวันไหนต้องดูวันเวลาเปิด และปิดให้ดี เพราะได้ข่าวว่าข้างในสวยมาก
..............................................................................................................................................................................
ข้อสาม
จุดชมวิวสะพานสมเด็จพระอมรินทร์
ขับรถย้อนกลับมาจากอาสนวิหารแม่พระบังเกิดเล้กน้อย เลี้ยวขวาไปทางค่ายบางกุ้ง เราจะข้ามสะพานกันครับ สะพานที่ว่านั้นก็คือสะพานสมเด็จพระอมรินทร์ มองซ้ายมองขวาก็จะเห็นวิวแม่น้ำแม่กลอง มันช่างกว้างใหญ่และสวยงามเหลือเกิน อย่ารอช้าสิ จอดรถตีนสะพาน แล้วหยิบกล้องมาเซลฟี่กันดีกว่า
รถค่อนข้างน้อยครับในวันธรรมดา วันหยุดอาจจะไม่ได้ถ่ายเพราะรถเยอะ หรือถ้าไปจอดตีนสะพาน บุพการีที่บ้านท่านอาจจะโดนพาดพิงได้ ข้อหาทำให้รถติด ถ้ามีโอกาสลงดู ก็แนะนำนะครับ ถ้ามีโอกาส ก็ลองแวะดูสักนิด แล้วจะติดใจ
..............................................................................................................................................................................
ข้อสี่
ค่ายบางกุ้ง
ค่ายบางกุ้ง ในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช นอกจากจะมีอนุเสาวรีย์ของท่านแล้ว ยังมีหุ่นปูนปั้นแสดงท่าทาง แม่ไม้มวยไทยให้ชม แต่นั้นไม่ใช่เป้าหมายหลักของเราวันนี้ เพราะเป้าหมายหลักของเราก็คือ Unseen โบสน์พระในต้นไม้ และยิ่งช่วงนี้มีหลายรายการมาถ่ายทำ คนเยอะมว้ากกก แม้แต่วันธรรมดาเองก็หาช่วงที่ไม่มีคนแทบจะไม่ได้เลย ที่ตรงนี้ แนะนำครับ มาถึงอัมพวา ไม่มาค่ายบางกุ้ง ถือว่า ผิดดดดดดด
การมาก็ไม่ได้ยากอะไรถ้าเริ่มต้นที่จุดไกลสุดคืออาสนวิหารแม่พระบังเกิด ขับย้อนมาแล้วไปตามป้าย ยังไงก็ถึงครับ ไม่หลง ป้ายที่นี้ค่อนข้างชัดเจนเลย
ข้อเสียอย่างเดียวคือ ทัวน์ลงครับ ไม่ใช่ชาวจีนนะ เป็นทัวน์คณะลูกเสือเนตรนารีนี้แหละ หุหุหุ ถ้าเจอก็แจ็คพอตครับ
..............................................................................................................................................................................
ข้อห้า
สะพานแขวนวัดปากน้ำ
เลยออกมาจากค่ายบางกุ้งสักสองสามนาที ผมเห็นแก้งค์จักรยานกลุ่มหนึ่ง มาจอดถ่ายรูปอยู่ตรงสะพานแขวน โว๊ะๆๆ อัมพวามีสะพานแขวนด้วยหรือนี้ ไอ้เราก็ขาปั่นเสียด้วยสิ คราวหน้าจะติดจักรยานมาด้วย แต่คราวนี้แวะถ่ายรูปเล่นเสียหน่อยแล้วกัน
ที่ตรงนี้เป็นตลาดผลไม้ด้วยนะครับ จากป้ายที่ติดเอาไว้ แต่วันนี้ไม่เจอใครขายสักคน สงสัยจะขายกันวันเสาร์ อาทิตย์ อ่ะ งั้นจอดรถเซลฟี่(อีกแล้ว) จะดีกว่า
สะพานแขวนนี้มีสเน่ห์อย่างหนึ่ง นั้นคือไม่ว่าใครมาก็อยากถ่ายรูปด้วย ผมสังเกตเห็นมาหลายที่แล้ว ในฐานะที่ชอบถ่ายรูป มักจะมีคนไหว้วานให้ถ่ายคู่กับสะพานแขวนประจำ
[SR] อัมพวามีมากกว่าตลาดน้ำ
FB: Wanna be Thai Traveller
เดือนกรกฎาคมเป็นช่วงเวลาของหน้าฝน บางทีฝนก็ทำให้เราตื่นสาย ทริปนี้เองก็เช่นกัน มันเป็นทริปของคนตื่นสายครับ 555
ลองจินตนาการดูสิครับ ในวันที่คุณตื่นขึ้นมาหลังจากที่นาฬิกาปลุกคุณไปแล้วเมื่อ 1 ชั่วโมงก่อน จะไปทำงานฝ่ารถติด แถมฝนตก
ใน กทม. เมืองรถติดอันดับ 1 ของโลก กว่าจะไปถึงก็เที่ยงวันพอดี แล้วผมควรทำยังไงดีหล่ะ? ไปสายก็โดนด่า ไม่ไปก็คงโดนด่า
เอาว่ะ โทรไปลางานเลยล่ะกัน อิอิ ยังไงก็โดนด่าอยู่แล้ว ฝนตกแบบนี้ใช้โควต้าลาป่วยกันเลยล่ะกัน
ทีนี้จะลาป่วยเฉยๆ ก็ใช่เรื่อง นั่งๆ นอนๆ คิดๆ ดูอยู่ไม่นาน งั้นไปเที่ยวดีกว่า เที่ยวใกล้ๆ กทม. เอาที่ตื่นเช้ามาแล้วเข้าไปทำงานได้เลย
อาหารอร่อย ที่พักไม่แพง รถไม่ติด ด้วยเหตุผลที่ยกมาทั้งหมดทั้งมวล ผมจึงเลือกไป "อัมพวา ในวันธรรมดา หน้าฝน" ครับ
แล้วไป "อัมพวา วันธรรมดา หน้าฝน" มันจะมีอะไรให้ดูรึ งั้นผมสรุปให้ฟังเลยล่ะกัน "เหตุผลที่อัมพวามีมากกว่าตลาดน้ำ"
..............................................................................................................................................................................
เหตุผลแรกก็คือ "ที่พักหลักร้อย" แน่นอนว่าหน้านี้ Low-Season แถมไปวันธรรมดาอีก โอ้โห บรรดารีสอร์ททั้งหลายนั่งตบยุงกันทั้งนั้น
เพราะฉะนั้นที่พักทุกที่ก็จะกระหน่ำกันลดราคา เพื่อแย่งชิงลูกค้า ออกโปรโมชั่นกันแบบทุ่มหมดหน้าตัก ทำให้ที่พักแพงๆ ที่ปรกติมันมักจะเต็มตลอดทั้งปีทั้งชาติ ในช่วง Hi-Season แบบที่ผมไปเนี้ย ราคานี้ก็นะ ตอนที่ผมไปพักวันธรรมดาช่วงปลายๆ ปีต้องมีแบงค์พันสองใบอ่ะครับ แต่!!!!! วันนี้ ตอนนี้ Walk-In เข้าไปสายๆ จ่ายสบายๆ แค่หลักร้อยจร้าาาา ยังไม่พอครับ ครืออ....ทั้งรีสอร์ทมีแต่ผมจร้าาาาาา
สรุป จ่ายหลักร้อย แถมครองทั้งรีสอร์ท(ถึงจะนอนได้ห้องเดียวก็เหอะ) แต่ไม่มีใครแย่งมุมเซลฟี่ หรือถ่ายรูปนะ บอกเลย ฟิน
เสียดายนิดเดียว วันธรรมดา เช้าๆ เวลาตื่นนอนมาแล้วพระท่านไม่พายเรือมาบิณฑบาตร อันนี้ข้อเสียครับ แต่เทียบกับข้อดีก็ คุ้ม!!
..............................................................................................................................................................................
เชื่อมั้ยว่ามุมเท่ห์ๆ ตรงนี้ ผมเอาไปหลอกแม่ได้เลยว่า "ตอนนี้ผมอยู่ที่กรุงปราก นะครับแม่ อิอิ" ปรากน้ำแม่กลองอ่ะแม่ 555
แน่นอนว่าแม่รับมุขไม่ทันครับ แต่พอแกคิดได้ก็โดนดุย้อนหลังอยู่ดี (ขอโทษครับแม่) ต้องบอกว่า อาสนวิหารแม่พระบังเกิดอาจจะอยู่ออกมาไกลจาก ตลาดน้ำอัมพวาสักหน่อย ผมเองโดยปรกติก็ไปแต่ตลาดน้ำครับ ซึ่งเราก็ต้องไปกันตอนเย็นๆ อยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ เพราะฉะนั้นเรามักจะละเลยที่สวยๆ แบบนี้ และนี้คือเหตุผลหนึ่งที่อัมพวาไม่ได้มีแค่ตลาดน้ำ เพราะมีโบสถ์สวยๆ ให้เราได้ดู ได้ชม ได้ถ่ายรูป ด้วยนะเออ
มาตอนเกือบๆ จะเที่ยงแล้ว พระอาทิตย์ทรงกลดสดใส สีแสงแวววาวกันเลยทีเดียวเชียว
แต่ข้อเสียก็คือ วันนี้โบสถ์ไม่เปิดนะครับ จะมากันวันไหนต้องดูวันเวลาเปิด และปิดให้ดี เพราะได้ข่าวว่าข้างในสวยมาก
..............................................................................................................................................................................
ขับรถย้อนกลับมาจากอาสนวิหารแม่พระบังเกิดเล้กน้อย เลี้ยวขวาไปทางค่ายบางกุ้ง เราจะข้ามสะพานกันครับ สะพานที่ว่านั้นก็คือสะพานสมเด็จพระอมรินทร์ มองซ้ายมองขวาก็จะเห็นวิวแม่น้ำแม่กลอง มันช่างกว้างใหญ่และสวยงามเหลือเกิน อย่ารอช้าสิ จอดรถตีนสะพาน แล้วหยิบกล้องมาเซลฟี่กันดีกว่า
รถค่อนข้างน้อยครับในวันธรรมดา วันหยุดอาจจะไม่ได้ถ่ายเพราะรถเยอะ หรือถ้าไปจอดตีนสะพาน บุพการีที่บ้านท่านอาจจะโดนพาดพิงได้ ข้อหาทำให้รถติด ถ้ามีโอกาสลงดู ก็แนะนำนะครับ ถ้ามีโอกาส ก็ลองแวะดูสักนิด แล้วจะติดใจ
..............................................................................................................................................................................
ค่ายบางกุ้ง ในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช นอกจากจะมีอนุเสาวรีย์ของท่านแล้ว ยังมีหุ่นปูนปั้นแสดงท่าทาง แม่ไม้มวยไทยให้ชม แต่นั้นไม่ใช่เป้าหมายหลักของเราวันนี้ เพราะเป้าหมายหลักของเราก็คือ Unseen โบสน์พระในต้นไม้ และยิ่งช่วงนี้มีหลายรายการมาถ่ายทำ คนเยอะมว้ากกก แม้แต่วันธรรมดาเองก็หาช่วงที่ไม่มีคนแทบจะไม่ได้เลย ที่ตรงนี้ แนะนำครับ มาถึงอัมพวา ไม่มาค่ายบางกุ้ง ถือว่า ผิดดดดดดด
การมาก็ไม่ได้ยากอะไรถ้าเริ่มต้นที่จุดไกลสุดคืออาสนวิหารแม่พระบังเกิด ขับย้อนมาแล้วไปตามป้าย ยังไงก็ถึงครับ ไม่หลง ป้ายที่นี้ค่อนข้างชัดเจนเลย
ข้อเสียอย่างเดียวคือ ทัวน์ลงครับ ไม่ใช่ชาวจีนนะ เป็นทัวน์คณะลูกเสือเนตรนารีนี้แหละ หุหุหุ ถ้าเจอก็แจ็คพอตครับ
..............................................................................................................................................................................
เลยออกมาจากค่ายบางกุ้งสักสองสามนาที ผมเห็นแก้งค์จักรยานกลุ่มหนึ่ง มาจอดถ่ายรูปอยู่ตรงสะพานแขวน โว๊ะๆๆ อัมพวามีสะพานแขวนด้วยหรือนี้ ไอ้เราก็ขาปั่นเสียด้วยสิ คราวหน้าจะติดจักรยานมาด้วย แต่คราวนี้แวะถ่ายรูปเล่นเสียหน่อยแล้วกัน
ที่ตรงนี้เป็นตลาดผลไม้ด้วยนะครับ จากป้ายที่ติดเอาไว้ แต่วันนี้ไม่เจอใครขายสักคน สงสัยจะขายกันวันเสาร์ อาทิตย์ อ่ะ งั้นจอดรถเซลฟี่(อีกแล้ว) จะดีกว่า
สะพานแขวนนี้มีสเน่ห์อย่างหนึ่ง นั้นคือไม่ว่าใครมาก็อยากถ่ายรูปด้วย ผมสังเกตเห็นมาหลายที่แล้ว ในฐานะที่ชอบถ่ายรูป มักจะมีคนไหว้วานให้ถ่ายคู่กับสะพานแขวนประจำ