พึ่งจะได้เขียน(พิมพ์)จริงๆจังๆครั้งเเรก ถ้าหากมีอะไรผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
กระทู้นี้เป็นเหมือนการสะท้อนความคิดของตัวผมเอง ในช่วงเวลาหนึ่ง ที่ได้มีโอกาศไปถ่ายภาพที่เยาวราชครับ
เริ่มต้นกันที่ตอนเช้า ผมเเละผองเพื่อนนัดกันเวลา 10 โมงเช้าที่ห้างสรรพสินค้าเเห่งหนึ่ง คนหนึ่งมาสายไปประมาณ 45-60 นาที อีกคนนึงไม่ตื่น ทำให้เราไปกัน 3 คนหลังจากที่คุยกันก่อนหน้านี้ 1 วัน
เราคุยกันว่าจะนั่งรถไฟจากสถานนีรถไฟดอนเมืองไปลงสถานนีหัวลำโพง เพราะอยากได้รูปบนรถไฟเเละราคาที่ถูกด้วย หลังจากนั้นเราก็ค่อยหาทางไปเยาวราชอีกทีนึง เราออกเดินทางจากที่ๆเราอยู่ตอนนั้นไปสถานีรถไฟ เเละได้ถึงสถานนีรถไฟประมาณเที่ยงเศษ ผมไปถามรอบรถไฟเเละได้รับคำตอบมาว่า รถไฟมีรอบ 13:30 ซึ่งต้องรออีกประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เเละเวลากว่าที่รถไฟจะเดินทางไปถึงเยาวราชอีก ทำให้ต้องยอมขึ้นรถเมล์ไปตามระเบียบ
เเละตามภาษาคนที่มีกล้องหิ้วไว้กับตัวเเน่นอนครับ ผมถ่ายไปเรื่อย ในใจก็คิดว่าทำอะไรอยู่เนี่ย รูปไม่ได้สื่อความหมายหรืออะไรเลย เเต่ผมก็ฉุดคิดขึ้นมาได้ว่า นี่อาจจะเป็นความสนุกอีกเเบบก็ได้นะครับ ที่ให้คนที่ได้เห็นภาพของผม เเล้วได้คิดเอง ใครจะรู้ว่าบุคคลในภาพทั้งสองคนนี้เป็นอะไรกันถ้าคุณไม่รู้จักพวกเขา เเน่นอน หลายต่อหลายคนมองเเปปเดียวก็คิดว่าเขาทั้งคู่เป็นคู่รักกัน เเต่ลองคิดต่างออกไปดูไหมครับ เขาอาจจะเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากก็ได้นะครับ เเล้วที่สนุกอีกอย่างคือ การที่ผมได้คิดว่า สองคนนี้จะไปไหนกันต่อ ชีวิตของพวกเขาจะเป็นอย่างไรทั้งเมื่อก่อน ตอนนี้ เเละ อนาคต ถ้ามีเวลา อย่าลืมลองไปคิดเล่นๆกันดูนะครับ
ระหว่างทาง บนรถเมล์คันเดิมนั้น ผมเเละเพื่อนของผมได้เหลือบไปเห็นนักศึกษาคนหนึ่ง คาดว่าเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นเเนวหน้าของประเทศเเห่งหนึ่ง สิ่งที่ผมเห็นในมือของเขาคือ สมุดโน้ต อาจจะเป็นสมุดเลทเชอร์ เเละเเนวข้อสอบ(เล่มที่ 1)
เเละตามที่ผมได้เขียน(พิมพ์)สิ่งที่ผมคิดไว้ข้างบน ผมคิดถึงชีวิตของนักศึกษาคนนี้ ก็เลยตั้งคำถามหลายต่อหลายอย่างกับตัวเอง อาทิเช่น เขาเรียนคณะอะไร เขาจะสอบวิชาอะไร วันนี้เขากำลังไปไหน ซึ่งมันทำให้ผมหงุดหงิดกับตัวเองค่อนข้างมากเลยทีเดียว
ช1: วันก่อนครับ
ช2: ทำไมครับ?
ช1: เอารถไปปะยาง เเล้วผมก็โดนเค้ากระทืบ T^T
ช2: ทำไมหละครับ??
ช1: ช่างเค้าถามว่าปะล้อไหน
ช2: โห แล้วไงต่อครับ?
ช1: ผมบอกเค้าว่า ล้อเล่น
ถ้าพวกเขาพูดเเบบนี้จริงๆ คงเป็นอะไรที่บังเทิงน่าดูเลยใช่ไหมครับ นี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผมคิดหลังจากลงจากรถเมล์เเล้วผมได้เห็นคนงานก่อสร้าง ในสถานที่ที่กำลังก่อสร้างเเห่งหนึ่ง ถือเป็นอีกสีสันในวันที่ใจและท้องฟ้าหม่นหมองได้ดีในระดับนึงเลยเเหละครับ
ในที่สุด เราก็มาถึงที่ๆเหมือนจะใช่เยาวราช (เพราะเราทั้ง 3 คนไม่เคยมากันก่อน เเละพึ่งไปรู้ทีหลังว่าเเถวนี้เรียกว่าตลาดเก่า)
ก็เลยเริ่มถ่ายรูปกันตั้งเเต่ตอนนั้นเลยครับ เริ่มจากคุณลุงคนนี้ หนวดของคุณลุงดูเทห์มากเลยจริงๆครับ
คือตอนเเรกจำได้ว่าลุงขายอะไรเเละจะพิมพ์บอกเเหละครับ เเต่ตอนนี้จำไม่ได้เเล้ว.. คุณลุงคนนี้เขาขายของครับ.. ครับใช่ครับเเต่ขายอะไรไม่รู้ตามที่ผมบอกไปข้างต้น ไว้คราวหน้าจะไปถ่ายคุณลุงเขาใหม่ ยังไงรอผมด้วยนะครับ
หลายคนเคยเห็นของที่ขายตามรถเข็น เเต่นี่ไม่ใช่รถเข็นในเเบบที่ผมคุ้นเคย ผมไม่เเน่ใจว่าสิ่งที่คุณป้านำมาขายคืออะไร อาจจะเป็นผมไม้หรือไม่ก็เครื่องเทศต่างๆ อันนี้ผมไม่มั่งใจจริงๆ ผมได้ยินคุณป้าพูดว่า “ถ่ายเเล้วอย่าลืมซื้อนะจ๊ะ” เอาจริงๆผมอยากช่วยป้าซื้อนะครับ เเต่ผมไม่รู้จะซื้ออะไรจริงๆครับ ฮ่าๆ
ผม: ป้าครับ ผมขอถ่ายรูปป้าเเล้วเอาไปลงเฟสบุ๊คส่วนตัวได้ไหมครับ
ป้า: อย่าลืมโฆษณาให้ป้านะ ฮ่าๆ
ผม: ....ฮ่าๆ ได้ครับเลยครับผม
ป้าครับผมอยากช่วยป้าโฆษณานะครับ เเต่ผมจำไม่ได้ว่าป้าอยู่ตรงไหนครับ..
ยังไงใครเจอป้าก็อย่าลืมอุดหนุนป้านะครับ ภาพนี้เป็นอีกภาพหนึ่งที่ผมชอบครับ มันเเสดงถึงวิถีชีวิต (เเสดงเเหละ) และบ่งบอกความเป็นไทยดีนะครับ ถ้าถามว่า บ่งบอกความเป็นไทยอย่างไร คุณจงมองไปที่รถตุ๊กๆ... เอาจริงๆผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมชาวต่างชาติถ้าไม่พูดถึงอาหารไทย ส่วนใหญ่ก็จะพูดถึงรถตุ๊กๆเนี่ยเเหละที่บ่งบอกว่าเป็นประเทศไทย อันนี้ผมไม่รู้จริงๆว่าทำไม
“การถ่ายภาพ ทำไมต้องคิดอะไรมากมายด้วย” นี่เป็นความคิดของผม ถ้าไม่นับเรื่องการปรับเเสง ณ จุดที่ถ่ายนะครับ เอาจริงๆมันไม่มีอะไรหรอก ใช่ครับผมสนุกกับการถ่ายภาพ เเต่ผมรู้สึกสนุกกว่าเมื่อได้มาดูภาพที่ตัวเองถ่าย เคยไหมครับ นึกถึงความสนุกที่ตัวเองเคยทำมาก่อน แม้มันจะเกินขึ้นนานมาเเล้ว จนตัวเราเองรู้สึกสนุกขึ้นมา เมื่อก่อนก่อนผมจบ ม.6 มีเพื่อนคนหนึ่งเผาไม้กวาดในห้องเรียน และผมได้ถ่ายภาพเวลานั้นเก็บไว้ด้วย คงบอกไม่ได้ว่าคนๆนั้นชื่อเล่นชื่อคุณ ตั้น ครับ.. บอกไม่ได้จริงๆ เอาจริงๆเเค่ผมพิมพ์ตอนนี้ยังรู้สึกสนุกเลย ยิ่งได้เห็นภาพตอนนั้นอีกยิ่งสนุกไปใหญ่ เราทำไปทำไม เราทำไปเพื่ออะไรก้ไม่รู้ เเต่มันเป็นอีกหนึ่งสีสันในชีวิตที่ไม่มีทางลืมลงได้เลย นี่เเหละครับเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของการถ่ายภาพที่คนหลายคนมองข้ามมันไป (นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ)
เดินมาเรื่องๆจนมาเจอร้าน “เมี่ยงคำรสเด็ดพิษณุโลก เจ้าเก่า” ด้วยความอยากลิ้มลองมานานเเล้ว เเละสงสัยคำว่า “เจ้าเก่า” ที่หลายๆคนเคยเห็น เเละอาจจะเคยตั้งคำถามกับตัวหนังสือนั้นว่า เจ้าเก่านี่เก่าเเค่ไหน ฉะนั้นผมจึงไปรอช้า เเละเดินไปสั่งป้า เอาเมี่ยงคำ 1 ชุดครับ พร้อมกับขอถ่ายรูปคุณป้าตามมารยาท ป้าก็บอก “ได้ๆ ถ่ายเลยๆ” เเละตอนนี้ เรามารู้จักเมี่ยงคำกันดีกว่า อ้างอิงจาก
http://www.samunpri.com/ประโยชน์ของ-เมี่ยงคำ กล่าวไว้ว่า
“เมี่ยงคำเป็นอาหารที่คนภาคกลางนิยมรับประทานเป็นอาหารว่าง ในช่วงฤดูฝน เนื่องจากเป็นช่วงที่ต้นชะพลูออกใบและยอดอ่อนมากที่สุดและรสชาติดีแต่จริงๆ แล้วเมี่ยงคำสามารถรับประทานเป็นอาหารว่างได้ตลอดทั้งปี แล้วแต่ว่าจะมุ่งรับประทานเพื่อความอร่อยหรือจะรับประทานเพื่อสุขภาพ”
กลับมาเรื่อง “เจ้าเก่า” ผมได้ถามป้าว่า “ป้าครับ ป้าทำมากี่ปีเเล้วครับ” ผมก็ได้รับคำตอบว่า “10 ปีเเล้วมั้ง” ผมก็อ่อเลย ฮ่าๆ
ผมว่านี่เเหละที่สามารถเรียกว่า “เจ้าเก่า” ได้จริงๆ เราลองมาคิดว่า เราเป็นคุณป้าคนนี้กันครับ
เเล้วตั้งเเต่ 10 ปีที่เเล้วจนถึงตอนนี้ คุณก็กำลังนั่งทำเมี่ยงคำอยู่ที่เดิม ทำไปเรื่อยๆ เเต่ไม่มีความทุกข์ร้อนใดๆเลย คุณป้าเเค่ขายได้วันล่ะ 10-15 ชุดก็อยู่ได้สบายๆไม่ต้องอดตายเเล้ว
ในความคิดของผม มันก้ไม่วุ่นวายดีนะครับ ถ้าเราไม่มีภาระอะไร ก้ไม่เห็นต้องมีเงินเยอะเลย ทำในสิ่งที่ชอบเเละไม่อดตายก็พอเเล้วครับ ผมเคยเห็นข้อความหนึ่งจากในเน็ตว่า
“คนบางคนทำงานที่ไม่ชอบ เพื่อที่จะซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น” อ่านเเล้วเหมือนโดนมีดเเทง ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมจะยังไม่ได้ทำงานจริงๆจังก็เถอะ
ตำเเหน่งเจ้าเก่าจริงๆต้องยกให้คุณป้าคนนี้เลยครับ
ผม: ป้าขายมากี่ปีเเล้วครับ?
ป้า: 20 ปีเเล้ว เมื่อก่อนขายดีกว่านี้ตั้งเยอะ
บทสนทนาระหว่างผมกับคุณป้าคนนี้ผมรู้สึเหมือนป้าแอบบอกว่า “ซื้อของป้าหน่อยจิ”
บางที คุณป้าอาจจะเปลี่ยนชื่อเป็น
แอปเปิ้ล เยาวราช เจ้าเก่า กูดีเท่ห์ไปอีกเเบบนะครับ
มีใครเคยได้ยินเรื่อง “ข้าวมันไก่เยาวราช” บ้างไหมครับ ผมเเละเพื่อนร่วมทางจึงคิดว่าจะไปลองให้ได้ เเละในที่สุดเราก็ถึงร้านข้าวมันไก่ที่เยาวราช.. คือจริงๆไม่รู้หรอกครับว่าข้าวมันไก่เยาวราชที่หลายคนพูดถึงคือร้านไหน เเต่ที่ๆพวกเราไปนั้น ก็สามารถพูดได้เต็มปากเช่นกันว่าเป็นข้าวมันไก่เยาวราช เพราะว่า ร้านนี้อยู่ที่เยาวราชครับ.. ..แป้ก
เมื่อได้ลองลิ้มรสข้าวมันไก่(ที่)เยาวราช เอาจริงๆมันอร่อยมากเลยนะครับ ถึงราคาพิเศษกับธรรมดาต่างกัน เเต่.....
พักเรื่องนี้ไว้ก่อนล่ะกันครับ ฮ่าๆ สิ่งที่ผมประทับใจอย่างหนึ่งคือ หลังจากที่เรารับประทานเสร็จ เราคุยกันว่าจะไปที่วังหลัง เเต่เราไม่รู้วิธีไป บางทีเราอาจจะคุยเสียงดังไปก็เป็นได้
คุณลุงคนหนึ่งในร้านก็พูดขึ้นมาว่า “ไปวังหลังขึ้นสาย 1 เลยน้อง” เราก็สงสัยเล็กน้อยเเล้วก็ไถ่ถามถึงวิธีไป คนในร้านอาจจะคิดว่าพวกเรางงเพราะว่าผมเเละเพื่อนๆทำหน้างงๆ (ไปกัน 3 คนหน้าเเลดูโง่นิดๆทุกคนโดยเฉพาะผม) คราวนี้เเหละครับ คุณลุงคุณป้าในร้านช่วยกันใหญ่เลย ผมรู้สึกประทับใจมากเลยครับ สุดท้ายเราก็ไปถึงวังหลังอย่างสวัสดิภาพ ต้องขอบคุณคุณลุงคุณป้าในวันนั้นจริงๆ ผมจำที่ตั้งของร้านนี้ได้ครับ อยู่ในซอยที่ชื่อว่าซอยเท็กซัส <<< อาจจะเขียนประมาณนี้นะครับเพราะมันไม่มีป้าชื่อซอย ถ้าไปเยาวราชไปถามคนเเถวนั้นได้ครับว่าซอยเท็กซัสอยู่ตรงไหน
ระหว่างรอรถผมก็นึกอะไรไปเรื่อย จนกระทั่งผมเป็นคุณลุงคนหนึ่งเดินมา ผมมีความรู้สึกว่าคุณลุงหน้าคล้ายใครซักคน อาจจะเป็นในภาพยนต์หรืออาจจะเป็นในทีวีก็ได้ ผมจึงรีบยกกล้องออกมาถ่ายคุณลุงทันที กลับมาคิดอีกทีว่าถ่ายทำไม.. เเต่รูปก็ออกมาโอเค ยังไงก็ขออภัยคุณลลุงไปณ ที่นี้ด้วยนะครับ
จริงๆผมจะไปขอลุงเรื่องการโพสรูปลงเฟสบุคส่วนตัว เเต่รถเมล์มาพอดีก็เลยไม่ได้เดินไปขออนุญาติคุณลุงเลย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ขึ้นรถเมล์เพราะเราข้ามถนนไปไม่ทัน สรุปก็เลยนั่งรอรถเมล์ต่อครับ เเล้วถ่ายนู่นนี่นั่นไปเรื่อยๆ เเล้วจังหวะพอดีที่รถตุ๊กๆวิ่งมาเป็นขบวนหยั่งกะ The gang ก็เลยรีบกดชัตเตอร์รัวๆ ผมเรียกรถตุ๊กๆกลุ่มนี้ว่า The gang ดูไปดูมาก็เท่ห์ไปอีกเเบบนะครับ
หลังจากนั้นซักพัก รถเมล์สาย 1 ก็มาเเละเราก็เดินทางต่อไปยังวังหลัง เพื่อไปกิน ซูชิต่อ
หลังจากนั้นเราก็จะไปท่ามหาราชกัน รูปนี้เป็นรูปปิดท้ายที่เยาวราชล่ะกันนะครับ สองคนนี้เเลดูน่าอิจฉาเสียจริงๆ
ก็จบลงเท่านี้สำหรับบันทึก “เยาวราช” ของผม นี่เป็นการบันทึกครั้งเเรก ที่เป็นการบันทึกเเบบจริงจัง ก็เลยขอฝากเอาไว้ในอ้อมอกอ้อมใจใครหลายๆคน หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็สามารถติชมได้นะครับ เเละติดตามเรื่องราวอื่นๆได้ที่นี่นะครับ ไว้จะมาเล่าสู่กันฟังใหม่ ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ
ขอให้ทุกๆวัน เป็นวันที่ดี
Auon
Edit*เเก้คำผิดครับ
บันทึก "เยาวราช"
กระทู้นี้เป็นเหมือนการสะท้อนความคิดของตัวผมเอง ในช่วงเวลาหนึ่ง ที่ได้มีโอกาศไปถ่ายภาพที่เยาวราชครับ
เริ่มต้นกันที่ตอนเช้า ผมเเละผองเพื่อนนัดกันเวลา 10 โมงเช้าที่ห้างสรรพสินค้าเเห่งหนึ่ง คนหนึ่งมาสายไปประมาณ 45-60 นาที อีกคนนึงไม่ตื่น ทำให้เราไปกัน 3 คนหลังจากที่คุยกันก่อนหน้านี้ 1 วัน
เราคุยกันว่าจะนั่งรถไฟจากสถานนีรถไฟดอนเมืองไปลงสถานนีหัวลำโพง เพราะอยากได้รูปบนรถไฟเเละราคาที่ถูกด้วย หลังจากนั้นเราก็ค่อยหาทางไปเยาวราชอีกทีนึง เราออกเดินทางจากที่ๆเราอยู่ตอนนั้นไปสถานีรถไฟ เเละได้ถึงสถานนีรถไฟประมาณเที่ยงเศษ ผมไปถามรอบรถไฟเเละได้รับคำตอบมาว่า รถไฟมีรอบ 13:30 ซึ่งต้องรออีกประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เเละเวลากว่าที่รถไฟจะเดินทางไปถึงเยาวราชอีก ทำให้ต้องยอมขึ้นรถเมล์ไปตามระเบียบ
เเละตามภาษาคนที่มีกล้องหิ้วไว้กับตัวเเน่นอนครับ ผมถ่ายไปเรื่อย ในใจก็คิดว่าทำอะไรอยู่เนี่ย รูปไม่ได้สื่อความหมายหรืออะไรเลย เเต่ผมก็ฉุดคิดขึ้นมาได้ว่า นี่อาจจะเป็นความสนุกอีกเเบบก็ได้นะครับ ที่ให้คนที่ได้เห็นภาพของผม เเล้วได้คิดเอง ใครจะรู้ว่าบุคคลในภาพทั้งสองคนนี้เป็นอะไรกันถ้าคุณไม่รู้จักพวกเขา เเน่นอน หลายต่อหลายคนมองเเปปเดียวก็คิดว่าเขาทั้งคู่เป็นคู่รักกัน เเต่ลองคิดต่างออกไปดูไหมครับ เขาอาจจะเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากก็ได้นะครับ เเล้วที่สนุกอีกอย่างคือ การที่ผมได้คิดว่า สองคนนี้จะไปไหนกันต่อ ชีวิตของพวกเขาจะเป็นอย่างไรทั้งเมื่อก่อน ตอนนี้ เเละ อนาคต ถ้ามีเวลา อย่าลืมลองไปคิดเล่นๆกันดูนะครับ
ระหว่างทาง บนรถเมล์คันเดิมนั้น ผมเเละเพื่อนของผมได้เหลือบไปเห็นนักศึกษาคนหนึ่ง คาดว่าเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นเเนวหน้าของประเทศเเห่งหนึ่ง สิ่งที่ผมเห็นในมือของเขาคือ สมุดโน้ต อาจจะเป็นสมุดเลทเชอร์ เเละเเนวข้อสอบ(เล่มที่ 1)
เเละตามที่ผมได้เขียน(พิมพ์)สิ่งที่ผมคิดไว้ข้างบน ผมคิดถึงชีวิตของนักศึกษาคนนี้ ก็เลยตั้งคำถามหลายต่อหลายอย่างกับตัวเอง อาทิเช่น เขาเรียนคณะอะไร เขาจะสอบวิชาอะไร วันนี้เขากำลังไปไหน ซึ่งมันทำให้ผมหงุดหงิดกับตัวเองค่อนข้างมากเลยทีเดียว
ช1: วันก่อนครับ
ช2: ทำไมครับ?
ช1: เอารถไปปะยาง เเล้วผมก็โดนเค้ากระทืบ T^T
ช2: ทำไมหละครับ??
ช1: ช่างเค้าถามว่าปะล้อไหน
ช2: โห แล้วไงต่อครับ?
ช1: ผมบอกเค้าว่า ล้อเล่น
ถ้าพวกเขาพูดเเบบนี้จริงๆ คงเป็นอะไรที่บังเทิงน่าดูเลยใช่ไหมครับ นี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผมคิดหลังจากลงจากรถเมล์เเล้วผมได้เห็นคนงานก่อสร้าง ในสถานที่ที่กำลังก่อสร้างเเห่งหนึ่ง ถือเป็นอีกสีสันในวันที่ใจและท้องฟ้าหม่นหมองได้ดีในระดับนึงเลยเเหละครับ
ในที่สุด เราก็มาถึงที่ๆเหมือนจะใช่เยาวราช (เพราะเราทั้ง 3 คนไม่เคยมากันก่อน เเละพึ่งไปรู้ทีหลังว่าเเถวนี้เรียกว่าตลาดเก่า)
ก็เลยเริ่มถ่ายรูปกันตั้งเเต่ตอนนั้นเลยครับ เริ่มจากคุณลุงคนนี้ หนวดของคุณลุงดูเทห์มากเลยจริงๆครับ
คือตอนเเรกจำได้ว่าลุงขายอะไรเเละจะพิมพ์บอกเเหละครับ เเต่ตอนนี้จำไม่ได้เเล้ว.. คุณลุงคนนี้เขาขายของครับ.. ครับใช่ครับเเต่ขายอะไรไม่รู้ตามที่ผมบอกไปข้างต้น ไว้คราวหน้าจะไปถ่ายคุณลุงเขาใหม่ ยังไงรอผมด้วยนะครับ
หลายคนเคยเห็นของที่ขายตามรถเข็น เเต่นี่ไม่ใช่รถเข็นในเเบบที่ผมคุ้นเคย ผมไม่เเน่ใจว่าสิ่งที่คุณป้านำมาขายคืออะไร อาจจะเป็นผมไม้หรือไม่ก็เครื่องเทศต่างๆ อันนี้ผมไม่มั่งใจจริงๆ ผมได้ยินคุณป้าพูดว่า “ถ่ายเเล้วอย่าลืมซื้อนะจ๊ะ” เอาจริงๆผมอยากช่วยป้าซื้อนะครับ เเต่ผมไม่รู้จะซื้ออะไรจริงๆครับ ฮ่าๆ
ผม: ป้าครับ ผมขอถ่ายรูปป้าเเล้วเอาไปลงเฟสบุ๊คส่วนตัวได้ไหมครับ
ป้า: อย่าลืมโฆษณาให้ป้านะ ฮ่าๆ
ผม: ....ฮ่าๆ ได้ครับเลยครับผม
ป้าครับผมอยากช่วยป้าโฆษณานะครับ เเต่ผมจำไม่ได้ว่าป้าอยู่ตรงไหนครับ..
ยังไงใครเจอป้าก็อย่าลืมอุดหนุนป้านะครับ ภาพนี้เป็นอีกภาพหนึ่งที่ผมชอบครับ มันเเสดงถึงวิถีชีวิต (เเสดงเเหละ) และบ่งบอกความเป็นไทยดีนะครับ ถ้าถามว่า บ่งบอกความเป็นไทยอย่างไร คุณจงมองไปที่รถตุ๊กๆ... เอาจริงๆผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมชาวต่างชาติถ้าไม่พูดถึงอาหารไทย ส่วนใหญ่ก็จะพูดถึงรถตุ๊กๆเนี่ยเเหละที่บ่งบอกว่าเป็นประเทศไทย อันนี้ผมไม่รู้จริงๆว่าทำไม
“การถ่ายภาพ ทำไมต้องคิดอะไรมากมายด้วย” นี่เป็นความคิดของผม ถ้าไม่นับเรื่องการปรับเเสง ณ จุดที่ถ่ายนะครับ เอาจริงๆมันไม่มีอะไรหรอก ใช่ครับผมสนุกกับการถ่ายภาพ เเต่ผมรู้สึกสนุกกว่าเมื่อได้มาดูภาพที่ตัวเองถ่าย เคยไหมครับ นึกถึงความสนุกที่ตัวเองเคยทำมาก่อน แม้มันจะเกินขึ้นนานมาเเล้ว จนตัวเราเองรู้สึกสนุกขึ้นมา เมื่อก่อนก่อนผมจบ ม.6 มีเพื่อนคนหนึ่งเผาไม้กวาดในห้องเรียน และผมได้ถ่ายภาพเวลานั้นเก็บไว้ด้วย คงบอกไม่ได้ว่าคนๆนั้นชื่อเล่นชื่อคุณ ตั้น ครับ.. บอกไม่ได้จริงๆ เอาจริงๆเเค่ผมพิมพ์ตอนนี้ยังรู้สึกสนุกเลย ยิ่งได้เห็นภาพตอนนั้นอีกยิ่งสนุกไปใหญ่ เราทำไปทำไม เราทำไปเพื่ออะไรก้ไม่รู้ เเต่มันเป็นอีกหนึ่งสีสันในชีวิตที่ไม่มีทางลืมลงได้เลย นี่เเหละครับเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของการถ่ายภาพที่คนหลายคนมองข้ามมันไป (นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ)
เดินมาเรื่องๆจนมาเจอร้าน “เมี่ยงคำรสเด็ดพิษณุโลก เจ้าเก่า” ด้วยความอยากลิ้มลองมานานเเล้ว เเละสงสัยคำว่า “เจ้าเก่า” ที่หลายๆคนเคยเห็น เเละอาจจะเคยตั้งคำถามกับตัวหนังสือนั้นว่า เจ้าเก่านี่เก่าเเค่ไหน ฉะนั้นผมจึงไปรอช้า เเละเดินไปสั่งป้า เอาเมี่ยงคำ 1 ชุดครับ พร้อมกับขอถ่ายรูปคุณป้าตามมารยาท ป้าก็บอก “ได้ๆ ถ่ายเลยๆ” เเละตอนนี้ เรามารู้จักเมี่ยงคำกันดีกว่า อ้างอิงจาก http://www.samunpri.com/ประโยชน์ของ-เมี่ยงคำ กล่าวไว้ว่า
“เมี่ยงคำเป็นอาหารที่คนภาคกลางนิยมรับประทานเป็นอาหารว่าง ในช่วงฤดูฝน เนื่องจากเป็นช่วงที่ต้นชะพลูออกใบและยอดอ่อนมากที่สุดและรสชาติดีแต่จริงๆ แล้วเมี่ยงคำสามารถรับประทานเป็นอาหารว่างได้ตลอดทั้งปี แล้วแต่ว่าจะมุ่งรับประทานเพื่อความอร่อยหรือจะรับประทานเพื่อสุขภาพ”
กลับมาเรื่อง “เจ้าเก่า” ผมได้ถามป้าว่า “ป้าครับ ป้าทำมากี่ปีเเล้วครับ” ผมก็ได้รับคำตอบว่า “10 ปีเเล้วมั้ง” ผมก็อ่อเลย ฮ่าๆ
ผมว่านี่เเหละที่สามารถเรียกว่า “เจ้าเก่า” ได้จริงๆ เราลองมาคิดว่า เราเป็นคุณป้าคนนี้กันครับ
เเล้วตั้งเเต่ 10 ปีที่เเล้วจนถึงตอนนี้ คุณก็กำลังนั่งทำเมี่ยงคำอยู่ที่เดิม ทำไปเรื่อยๆ เเต่ไม่มีความทุกข์ร้อนใดๆเลย คุณป้าเเค่ขายได้วันล่ะ 10-15 ชุดก็อยู่ได้สบายๆไม่ต้องอดตายเเล้ว
ในความคิดของผม มันก้ไม่วุ่นวายดีนะครับ ถ้าเราไม่มีภาระอะไร ก้ไม่เห็นต้องมีเงินเยอะเลย ทำในสิ่งที่ชอบเเละไม่อดตายก็พอเเล้วครับ ผมเคยเห็นข้อความหนึ่งจากในเน็ตว่า
“คนบางคนทำงานที่ไม่ชอบ เพื่อที่จะซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น” อ่านเเล้วเหมือนโดนมีดเเทง ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมจะยังไม่ได้ทำงานจริงๆจังก็เถอะ
ตำเเหน่งเจ้าเก่าจริงๆต้องยกให้คุณป้าคนนี้เลยครับ
ผม: ป้าขายมากี่ปีเเล้วครับ?
ป้า: 20 ปีเเล้ว เมื่อก่อนขายดีกว่านี้ตั้งเยอะ
บทสนทนาระหว่างผมกับคุณป้าคนนี้ผมรู้สึเหมือนป้าแอบบอกว่า “ซื้อของป้าหน่อยจิ”
บางที คุณป้าอาจจะเปลี่ยนชื่อเป็น แอปเปิ้ล เยาวราช เจ้าเก่า กูดีเท่ห์ไปอีกเเบบนะครับ
มีใครเคยได้ยินเรื่อง “ข้าวมันไก่เยาวราช” บ้างไหมครับ ผมเเละเพื่อนร่วมทางจึงคิดว่าจะไปลองให้ได้ เเละในที่สุดเราก็ถึงร้านข้าวมันไก่ที่เยาวราช.. คือจริงๆไม่รู้หรอกครับว่าข้าวมันไก่เยาวราชที่หลายคนพูดถึงคือร้านไหน เเต่ที่ๆพวกเราไปนั้น ก็สามารถพูดได้เต็มปากเช่นกันว่าเป็นข้าวมันไก่เยาวราช เพราะว่า ร้านนี้อยู่ที่เยาวราชครับ.. ..แป้ก
เมื่อได้ลองลิ้มรสข้าวมันไก่(ที่)เยาวราช เอาจริงๆมันอร่อยมากเลยนะครับ ถึงราคาพิเศษกับธรรมดาต่างกัน เเต่.....
พักเรื่องนี้ไว้ก่อนล่ะกันครับ ฮ่าๆ สิ่งที่ผมประทับใจอย่างหนึ่งคือ หลังจากที่เรารับประทานเสร็จ เราคุยกันว่าจะไปที่วังหลัง เเต่เราไม่รู้วิธีไป บางทีเราอาจจะคุยเสียงดังไปก็เป็นได้
คุณลุงคนหนึ่งในร้านก็พูดขึ้นมาว่า “ไปวังหลังขึ้นสาย 1 เลยน้อง” เราก็สงสัยเล็กน้อยเเล้วก็ไถ่ถามถึงวิธีไป คนในร้านอาจจะคิดว่าพวกเรางงเพราะว่าผมเเละเพื่อนๆทำหน้างงๆ (ไปกัน 3 คนหน้าเเลดูโง่นิดๆทุกคนโดยเฉพาะผม) คราวนี้เเหละครับ คุณลุงคุณป้าในร้านช่วยกันใหญ่เลย ผมรู้สึกประทับใจมากเลยครับ สุดท้ายเราก็ไปถึงวังหลังอย่างสวัสดิภาพ ต้องขอบคุณคุณลุงคุณป้าในวันนั้นจริงๆ ผมจำที่ตั้งของร้านนี้ได้ครับ อยู่ในซอยที่ชื่อว่าซอยเท็กซัส <<< อาจจะเขียนประมาณนี้นะครับเพราะมันไม่มีป้าชื่อซอย ถ้าไปเยาวราชไปถามคนเเถวนั้นได้ครับว่าซอยเท็กซัสอยู่ตรงไหน
ระหว่างรอรถผมก็นึกอะไรไปเรื่อย จนกระทั่งผมเป็นคุณลุงคนหนึ่งเดินมา ผมมีความรู้สึกว่าคุณลุงหน้าคล้ายใครซักคน อาจจะเป็นในภาพยนต์หรืออาจจะเป็นในทีวีก็ได้ ผมจึงรีบยกกล้องออกมาถ่ายคุณลุงทันที กลับมาคิดอีกทีว่าถ่ายทำไม.. เเต่รูปก็ออกมาโอเค ยังไงก็ขออภัยคุณลลุงไปณ ที่นี้ด้วยนะครับ
จริงๆผมจะไปขอลุงเรื่องการโพสรูปลงเฟสบุคส่วนตัว เเต่รถเมล์มาพอดีก็เลยไม่ได้เดินไปขออนุญาติคุณลุงเลย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ขึ้นรถเมล์เพราะเราข้ามถนนไปไม่ทัน สรุปก็เลยนั่งรอรถเมล์ต่อครับ เเล้วถ่ายนู่นนี่นั่นไปเรื่อยๆ เเล้วจังหวะพอดีที่รถตุ๊กๆวิ่งมาเป็นขบวนหยั่งกะ The gang ก็เลยรีบกดชัตเตอร์รัวๆ ผมเรียกรถตุ๊กๆกลุ่มนี้ว่า The gang ดูไปดูมาก็เท่ห์ไปอีกเเบบนะครับ
หลังจากนั้นซักพัก รถเมล์สาย 1 ก็มาเเละเราก็เดินทางต่อไปยังวังหลัง เพื่อไปกิน ซูชิต่อ
หลังจากนั้นเราก็จะไปท่ามหาราชกัน รูปนี้เป็นรูปปิดท้ายที่เยาวราชล่ะกันนะครับ สองคนนี้เเลดูน่าอิจฉาเสียจริงๆ
ก็จบลงเท่านี้สำหรับบันทึก “เยาวราช” ของผม นี่เป็นการบันทึกครั้งเเรก ที่เป็นการบันทึกเเบบจริงจัง ก็เลยขอฝากเอาไว้ในอ้อมอกอ้อมใจใครหลายๆคน หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็สามารถติชมได้นะครับ เเละติดตามเรื่องราวอื่นๆได้ที่นี่นะครับ ไว้จะมาเล่าสู่กันฟังใหม่ ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ
ขอให้ทุกๆวัน เป็นวันที่ดี Auon
Edit*เเก้คำผิดครับ