หนุ่มวิศวกร สร้างอาชีพเสริมด้วยการเพาะเห็ด รายได้หลักแสน

หลายคนก็คงมีอาชีพเสริมของตัวเอง ซึ่งของแต่ละคนก็ต่างกันไป จะขายของ  เล่นหุ้น(ช่วงนี้ติดดอยหนาวมาก)
หรือ สอนหนังสือ มีมากมาย แต่หลายๆคนคงลืมอาชีพหนึ่งไปคืออาชีพเกษตรกร
อย่าคิดว่าอาชีพนี้ต้องทำงานหนักทั้งหมด บางครั้งถ้าเราวางแผนดีๆ อาชีพนี้ก็กลายเป็นอาชีพเสริมได้
เช่น แม่ผมทำตะไคร้ 5 ไร่ ใช้เวลา6 เดือน ได้ ประมาณ 2 แสน (แต่ต้องถูกช่วงเวลานะครับ)
ได้เท่ากับเงินเดือนผมทั้งปีเลยนะเนี่ย แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะเล่า เพราะอาชีพเสริมที่ผมทำคือเพาะเห็ด
กว่าจะมีแบบนี้ได้นี่ก็ใช้เวลาล้มลุกคุกคลานมาร่วม 2 ปีกว่าละ ลองผิดลองถูก และได้คำชี้แนะจากผู้มีประสบการณ์
จนทำให้ผมมีวันนี้ได้ จึงอยากมเล่าให้คนอื่นได้ฟังบ้าง เพื่อแชร์ประสบการณ์
และอาจให้คำแนะนำกับคนอื่นได้ เพื่อให้มีโอกาสแบบเดียวกัน

ปัจจุบันเรายังเปิดสอนให้เด็กนักเรียนระแวกนั้นฟรี และบางครั้งก็ไปอบรมให้กับหมู่บ้าน และตำบล
หรือใครอยากเข้ามาดูที่ฟาร์มเราเราก็ให้ดูได้ตลอด

อันนี้คือเพจผม ที่เอาไว้ตอบคำถามหรือข้อสักถาม และให้ผู้สนใจได้ชม
https://www.facebook.com/%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B9%87%E0%B8%94-By-%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%9F%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A1-259808757541732/?ref=bookmarks

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เนื้อเรื่องอาจจะยาว และมีรายละเอียดอื่นๆมาก เพื่อให้เห็นพื้นเพ เห็นสิ่งที่ผมทำผิดพลาด การคิด การแก้ไข และการดำเนินการของผม

    ขอเกริ่นนิดนึง ผมมีพี่น้อง 4 คน ผมเป็นคนที่2 พี่สาวอายุห่างจากผม3 ปี จบวิศวคอม ทำงานรัฐวิสาหกิจ
ส่วนผมจบวิศวเครื่องกล ทำงานรัฐวิสหกิจ ส่วนน้องชาย อายุห่างกัน1 ปี จบ วิศวไฟฟ้า อิเล็ก ทำงานเอกชน
ส่วนน้องสาวคนเล็ก ปัจจุบันเรียน พยาบาล  พ่อแม่ผมมีอาชีพทำไร่ทำสวน

    บ้านผมเป็นครอบครัวคนจีน  ปู่ผมขึ้นเรือสำเภามาจากจีน และมีลูกที่อยู่ที่ไทย 12 คน อาชีพก็เริ่มจากจับกัง
จนมีเงินก็ซื้อที่ทาง ทำไร่ทำสวนจนมาถึงปัจจุบัน
    
        สมัยก่อนฐานนะครอบครัวไม่ดีนัก ผมต้นเริ่มช่วยงานเล็กๆน้อยๆในสวนตั้งแต่ 5 ขวบ รับจ้างทำงานสารพัด
พอโตขึ้นก็ต้องถือจอบ เสียม เข้าไร่ จนเป็นเรื่องปกติ ใครๆก็ชมว่าพ่อแม่โชคดี มีลูกขยัน และดี
แต่ตอนนั้นผม พี่สาวและน้องๆ ไม่ได้คิดแบบนั้น เราก็อยากใช้ชีวิตแบบเด็กทั่วๆไป อยากเล่น อยากเที่ยว
อยากสนุกสนานเหมือนเด็กคนอื่นๆ แต่อย่างว่าต้นทุนชีวิตคนเราไม่เท่ากัน
ในเมื่อเรามีต้นทุนน้อยก็ต้องดิ้นรนมากกว่าคนอื่น แต่ยังดีที่พวกผมเป็นเด็กค่อนข้างเรียนดี

    ปัจจุบันฐานะครอบครัวก็ดีขึ้นมากแล้ว (พื้นเพส่วนตัวคร่าวๆก็ประมาณนี้นะคับ)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

        หลังจากเรียนจบมหาลัย ผมก็ได้ทำงานเอกชน บ.ญี่ปุ่น มาสักพักหนึ่ง
เงินเดือนก็ราวๆ 20,000+ OT ก็มีรายได้ประมาณ 30,000 บาท ตอนนั้นยังไม่มีค่าแรงขั้นต่ำ
ค่าใช้จ่ายไม่มากนักค่าอาหาร 3,000 ค่าที่พัก 3,000 สังสรร 2,000 เงินใช้จ่ายเหลือเฟือ)

         และพอผมสอบติดรัฐวิสาหกิจ ผมก็ลาออกแล้วมาทำงานที่นี่  ช่วงที่ทำงานที่นี่ใหม่ๆปี 56
เงินเดือนยังไม่มากเท่าไหร่นัก ประมาณ 11,580 +ค่าครองชีพก็ประมาณ 18,000  
หักกองทุนและเงินออมก็เหลือไม่ถึง 17,000 ตอนนั้น ที่ทำงานยังไม่ปรับฐานเงินเดือนใหม่
แถมมาอยู่กทม. ค่าห้อง 5,000 ค่าผ่อนรถ 5,500 เหลือใช้จ่าย6,500 ในกทม. เงินเท่านี้เริ่มใช้ชีวิตยากขึ้นละ  
แรกๆก็กินบุญเก่าเอาเงินออมมาใช้บ้าง กว่าจะปรับตัวได้ ก็หมดเงินเก็บไปหลายบาท
ไม่คิดว่าค่าน้ำ ค่าอาหาร ใน กทม. จะแพงขนาดนี้ อยู่ต่างจังหวัดเงินขนาดนี้ใช้ชีวิตสบายๆเลยละ
นี่กูต้องดิ้นรนขนาดนี้เลยหราว่ะ

    แต่จุดเริ่มต้นมาจาก ช่วงนั้นน้องชาย ทำงานเอกชนต้องทำงานหนัก แล้วอยู่ต่างจังหวัดบ่อยๆ
แถมไม่ได้ค่าออกนอกสถานที่ด้วย จึงเริ่มคิดที่จะลาออก เพราะคิดว่าทำงานหนักแทบตายสุดท้ายคนที่รวยก็คือเจ้าของบริษัท
เราจะเจ็บ จะป่วยเค้าก็ไม่ได้สนใจมากนัก เราแค่มีเงินใช้จ่ายไปวันๆ เงินเก็บก็ได้นิดหน่อย กลับบ้านก็ไม่ค่อยได้กลับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

       น้องชายก็มาปรึกษา ว่าอยากทำกิจการของตัวเอง จะทำฟาร์มเห็ด เพราะเคยไปดูงานเรื่องเห็ดมา จาก ม.เกษตร
และมีความรู้ด้านนี้อยู่บ้าง เค้าก็คำนวณๆผลตอบแทนให้ผมกับพี่สาวดู เราสองคนก็เริ่มสนใจ
เพราะผมกับพี่สาวทำงานรัฐวิสาหกิจทั้งคู่ มีวันหยุดเสา-อาทิตย์ แถมอยากหารายได้เสริมเพื่อให้ตัวเอง มีรายได้เพิ่มขึ้น  
เพราะช่วงนั้นเงินเดือนพนักงานรัฐยังไม่เปลี่ยน ตามนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ จึงทำให้เรามีเงินแค่พอกิน แต่ไม่ค่อยมีเงินเก็บ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เรา 3 คน ตกลงกันร่วมทุนกันคนละประมาณ 50,000 บาท ก็ได้เงินรวม 150,000 เป็นทุนก้อนแรก  
จากนั้นก็ปฏิบัติการขอใช้ที่ดินแม่ 1 งาน ตอนแรกเหมือนจะไม่ได้ละ แต่สุดท้ายก็ขอได้
คราวนี้ก็ลงมือหาแบบโรงเห็ดก่อนเลยจากเวปไซต์ พอได้แบบแล้วเราก็ไปจ้าง ช่างมาช่วยสร้างโรงเห็ด
ได้ช่าง 2 คน + ผมกับน้องชาย เป็นลูกมือ สิ่งแรกที่ทำเลยหาซื้อจาก พึ่งจะรู้ว่าราคาพอๆกับกระเบื้องเลย
แล้วก็ตามหาเสาปูนตามขนาดไซด์ที่เราออกแบบไว้ และอีกอันคือไม้ลวด(ไม้ไผ่)
และจ้างช่างตัดไม้โค่นต้นมะพร้าวที่บ้านเพื่อทำไม้หน้าสาม หน้าสี่ เพื่อเป็นคาน เพราะไม้มะพร้าวนี่แข็งและดี
กะจะประหยัดงบสะหน่อย พอเราได้อุปกรณ์หลักครบแล้ว ก็ลงมือสร้างเลยคับ ได้โรงเห็ด 3 โรง ที่พักคนงาน 1 หลัง
และทำแทงน้ำสูง แบบใช้แรงโน้มถ่วง ฐานสูง1เมตร ตัวแทงก์อยู่บนฐานสูงขึ้นไปอีก 5 เมตร ทั้งหมด 3 แทงก์  
ใช้เวลาไป  1อาทิตย์ ค่าแรงช่าง และค่าวัสดุอุปกรณ์ รวมกัน เสียงบไปแสนกว่าละ
เหลือเงินไม่ถึง 50,000 ละทีนี้ (ทำมัยเราสร้างแพงจังว้า)






         พอสร้างโรงเรือน ผมก็ถามน้องชายว่า “แล้วจะทำงัยต่อ”
น้องชายก็บอกว่า ”จะเอาก้อนเห็ดมาเปิดดอก แล้วก็เอาไปขาย”
ผมถามต่อ”แล้วทำก้อนเห็ดเป็นหรา”
น้องตอบมาว่า”ไม่เป็น”
“ก็ไปซื้อก้อนเห็ดมาดิ แล้วเอามาปิดดอก”
“แล้วจะไปซื้อที่ไหน”
"ยังไม่รู้" คำตอบนี้สตั้นนนน ไปหายวิ อ้าวแล้วให้พวกกูร่วมลงทุน บอกว่ามีความรู้
แต่ทำไม่เป็น นี่เท่ากับหลอกกูอะดิ ชิบละสิ ทุนกูๆๆๆๆๆ หมดกัน
จะเจ้งตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มเลย (นี่คือผลของการไม่ได้วางแผนที่ดี และการที่เราไม่มีความรู้ และขาดคนแนะนำที่ดี)
ในวันนั้นเกือบจะยอมแพ้แล้ว แต่ก็อย่างว่า ท้อได้ ล้มได้ พอเราพักจนหายเหนื่อยแล้ว เราก็ลุกขึ้นมาใหม่ได้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

(เดียวมาเขียนต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่