'ศานิตย์'แถลงจับคนร้ายวิ่งราวทรัพย์นทท.ฮ่องกง รับสารภาพเคยทำมา10ครั้ง อ้างรายได้ไม่พอใช้
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 10 ก.ค. 59 พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น. รรท.ผบก.น.1 , พ.ต.อ.อาชยนต์ ไกรทอง พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบก.ทท. , พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.พญาไท และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการจับกุมนายอนุชา รอดอุดม อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง เหตุเกิดบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ช่วงก่อนถึงแยกมิตรสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยจับกุมได้ที่ซอยนิมิตรใหม่ 22 ย่านนิมิตรใหม่
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า หลังจากนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง เผยแพร่คลิปวิดีโอ.ผ่านทางเฟซบุ๊ก ขณะถูกคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ขณะนั่งรถตุ๊กๆ บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ช่วงก่อนถึงแยกมิตรสัมพันธ์ โดยคนร้ายเป็นชาย 2 คน ได้ทรัพย์สินเป็นเงินไทย 13,000 บาท เงินสกุลฮ่องกง 1,000 ดอลล่าฮ่องกง หนังสือเดินทาง บัตรสำคัญต่างๆ รวมมูลค่าทรัพย์สินร่วม 20,000 บาท ก่อนแบ่งทรัพย์สิน และแยกย้ายกันหลบหนี
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อไปว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ทท.ได้สั่งการให้ตำรวจท่องเที่ยวสนธิกำลังกับตำรวจ สน.พญาไท และสน.มักกะสัน ร่วมกันวางกำลังสืบสวนติดตามตัวคนร้าย ก่อนขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา ที่1355/2559 เข้าจับกุมนายอนุชา ซึ่งเป็นคนซ้อนท้าย และก่อเหตุกระชากกระเป๋าของนักท่องเที่ยว ได้ที่ซอยนิมิตรใหม่ 22 ใกล้กับบ้านพักของผู้ต้องหา
จากการสอบสวน นายอนุชา ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมมือกับนายเอ็ม ซึ่งเป็นเพื่อนกัน ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยใช้รถจักรยานยนต์ของนางเก๋ ถ้วยทอง ซึ่งเป็นแม่ยายมาก่อเหตุ ซึ่งแต่ละวันจะตระเวนขับรถจักรยานยนต์ออกหาเหยื่อไปตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งจะเลือกก่อเหตุเฉพาะกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเลือกก่อเหตุย่านพญาไท พลับพลาไชย และมักกะสัน สำหรับครั้งนี้ ตนได้ส่วนแบ่ง 2,500 บาท ทั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ตนเองมีอาชีพขายพวงมาลัยบริเวณแยกสาธุประดิษฐ์ แต่ปรากฏว่ารายได้ไม่พอใช้ จึงหันมาก่อเหตุดังกล่าว โดยก่อเหตุมาแล้ว 10 ครั้ง ล่าสุดถูกดำเนินคดีข้อหาวิ่งราวทรัพย์ ท้องที่ สน.พลับพลาไชย 2 เมื่อปี 2556 ซึ่งถูกศาลเยาวชนและครอบครัว พิพากษาจำคุก 2 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างคุมประพฤติ นอกจากนี้พี่ชายของตน ก็อยู่ระหว่างถูกจำคุกในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ อีกด้วยเช่นกัน
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวด้วยว่า ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าคนขับรถตุ๊กๆ มีส่วนรู้เห็นหรือส่งสัญญาณให้กับคนร้ายตำรวจด้วยหรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบคลิปวิดีโอแล้ว จึงได้ตัดประเด็นนี้ไป เนื่องจากขณะเกิดเหตุคนขับรถตุ๊กๆ ได้พยายามขับรถพุ่งชนรถจักรยานยนต์ของคนร้าย เป็นเหตุให้นายอนุชา ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณขาขวา สำหรับนายอนุชา แจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ และจะเร่งติดตามนายเอ็ม ที่ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดี ส่วนการป้องกันเหตุอาชญากรรมกับนักท่องเที่ยว ถือเป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก และทุกหน่วยงานโดยเฉพาะตำรวจ ทั้งนครบาลและตำรวจท่องเที่ยว ต้องร่วมมือในการป้องกันเหตุ โดยจะจัดอบรมให้ความรู้คนขับรถตุ๊กๆ ในการป้องกันเหตุกับนักท่องเที่ยว ขอความร่วมมือติดตาข่ายที่ด้านขวาของตัวรถฝั่งผู้โดยสาร เพื่อความปลอดภัยและป้องกันเหตุร้าย นอกจากนี้จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันพฤติกรรมการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ ด้วย
http://www.komchadluek.net/news/crime/233177
สังคมออนไลน์ฮ่องกง เงิบ! แฉ ตุ๊กตุ๊กไทย รู้เห็นกับมอร์ไซค์วิ่งราวทรัพย์ ทั้งๆที่คนขับตุ๊กๆ ไล่ขับชนคนร้าย!
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 10 ก.ค. 59 พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น. รรท.ผบก.น.1 , พ.ต.อ.อาชยนต์ ไกรทอง พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบก.ทท. , พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.พญาไท และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการจับกุมนายอนุชา รอดอุดม อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง เหตุเกิดบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ช่วงก่อนถึงแยกมิตรสัมพันธ์ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยจับกุมได้ที่ซอยนิมิตรใหม่ 22 ย่านนิมิตรใหม่
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า หลังจากนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง เผยแพร่คลิปวิดีโอ.ผ่านทางเฟซบุ๊ก ขณะถูกคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ขณะนั่งรถตุ๊กๆ บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ช่วงก่อนถึงแยกมิตรสัมพันธ์ โดยคนร้ายเป็นชาย 2 คน ได้ทรัพย์สินเป็นเงินไทย 13,000 บาท เงินสกุลฮ่องกง 1,000 ดอลล่าฮ่องกง หนังสือเดินทาง บัตรสำคัญต่างๆ รวมมูลค่าทรัพย์สินร่วม 20,000 บาท ก่อนแบ่งทรัพย์สิน และแยกย้ายกันหลบหนี
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อไปว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ทท.ได้สั่งการให้ตำรวจท่องเที่ยวสนธิกำลังกับตำรวจ สน.พญาไท และสน.มักกะสัน ร่วมกันวางกำลังสืบสวนติดตามตัวคนร้าย ก่อนขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา ที่1355/2559 เข้าจับกุมนายอนุชา ซึ่งเป็นคนซ้อนท้าย และก่อเหตุกระชากกระเป๋าของนักท่องเที่ยว ได้ที่ซอยนิมิตรใหม่ 22 ใกล้กับบ้านพักของผู้ต้องหา
จากการสอบสวน นายอนุชา ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมมือกับนายเอ็ม ซึ่งเป็นเพื่อนกัน ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยใช้รถจักรยานยนต์ของนางเก๋ ถ้วยทอง ซึ่งเป็นแม่ยายมาก่อเหตุ ซึ่งแต่ละวันจะตระเวนขับรถจักรยานยนต์ออกหาเหยื่อไปตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งจะเลือกก่อเหตุเฉพาะกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเลือกก่อเหตุย่านพญาไท พลับพลาไชย และมักกะสัน สำหรับครั้งนี้ ตนได้ส่วนแบ่ง 2,500 บาท ทั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ตนเองมีอาชีพขายพวงมาลัยบริเวณแยกสาธุประดิษฐ์ แต่ปรากฏว่ารายได้ไม่พอใช้ จึงหันมาก่อเหตุดังกล่าว โดยก่อเหตุมาแล้ว 10 ครั้ง ล่าสุดถูกดำเนินคดีข้อหาวิ่งราวทรัพย์ ท้องที่ สน.พลับพลาไชย 2 เมื่อปี 2556 ซึ่งถูกศาลเยาวชนและครอบครัว พิพากษาจำคุก 2 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างคุมประพฤติ นอกจากนี้พี่ชายของตน ก็อยู่ระหว่างถูกจำคุกในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ อีกด้วยเช่นกัน
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวด้วยว่า ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าคนขับรถตุ๊กๆ มีส่วนรู้เห็นหรือส่งสัญญาณให้กับคนร้ายตำรวจด้วยหรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบคลิปวิดีโอแล้ว จึงได้ตัดประเด็นนี้ไป เนื่องจากขณะเกิดเหตุคนขับรถตุ๊กๆ ได้พยายามขับรถพุ่งชนรถจักรยานยนต์ของคนร้าย เป็นเหตุให้นายอนุชา ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยบริเวณขาขวา สำหรับนายอนุชา แจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ และจะเร่งติดตามนายเอ็ม ที่ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดี ส่วนการป้องกันเหตุอาชญากรรมกับนักท่องเที่ยว ถือเป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก และทุกหน่วยงานโดยเฉพาะตำรวจ ทั้งนครบาลและตำรวจท่องเที่ยว ต้องร่วมมือในการป้องกันเหตุ โดยจะจัดอบรมให้ความรู้คนขับรถตุ๊กๆ ในการป้องกันเหตุกับนักท่องเที่ยว ขอความร่วมมือติดตาข่ายที่ด้านขวาของตัวรถฝั่งผู้โดยสาร เพื่อความปลอดภัยและป้องกันเหตุร้าย นอกจากนี้จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันพฤติกรรมการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ ด้วย
http://www.komchadluek.net/news/crime/233177