[CR] แบคแพคเที่ยวสิงคโปร์ครั้งแรก (พ่อแม่ลูก ไปกันเอง หลงกันเอง ดีนะยังหาทางกลับบ้านเจอ 555)#Day1

สวัสดีค่ะ
นี่เป็นรีวิวแรกในชีวิตเลยนะคะเนี่ย หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 5-6-7 มีนาคม 2559 ค่ะ
(ดองเอาไว้ซะนานเลยแต่อยากเอามาเล่าให้เพื่อนๆฟังกันค่ะ)
เราเดินทาง 3 คนค่ะ พ่อ แม่ และ ลูกชาย (ขาดลูกสาวไปคนนึงเนื่องจากปิดเทอมไม่ทัน)

แรกเริ่มเลยเจ้าของกระทู้ ตั้งใจจะไปคนเดียวค่ะ เพราะถามสามีแล้วสามีบอกว่าลางานไม่ได้
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2559  เราเลยจัดการจองตั๋วบินเดี่ยวทั้งไปและกลับของ SCOOT ค่ะเลือกที่นั่งด้วยทั้งไปและกลับแต่ไม่ได้ซื้อประกันเดินทางจ่ายไป 4,367.28 บาท(รวมเลือกที่นั่งไปกลับค่าตัดบัตร 500บาท)
เวลาการเดินทางตามนี้เลยค่ะ ขาไปบินดึกค่ะ
5 มี.ค.2559
DMK         -       SIN
00:50AM          04:15AM
ขากลับ กลับเย็น
DMK         -       SIN
17:35PM          19:05PM

และจองที่พักของ 5footway.inn Project Boat Quay 2คืน เป็นเงิน 1,482.37บาท ซึ่งเป็นห้องรวมหญิง 4 เตียง ห้องน้ำรวมค่ะ จองกับ Agoda

แต่พอใกล้ถึงวันเดินทาง สามีเห็นเรานั่งทำการบ้าน หาแผนที่บ้าง วิธีการเดินทางในสิงคโปร์บ้าง เลยเข้ามาถามอีกว่า ตกลงจะไปจริงๆ เหรอ ไปคนเดียวเนี่ยนะ เราก็บอก อ้าว! ก็คุณไม่ไป ก็ไปคนเดียวสิก็ตั้งใจไว้แล้วอ่ะว่าจะไป เมื่อเห็นคนภรรยายืนยันเช่นนั้น คุณสามีก็เลยบอกว่างั้นผมไปด้วย เดี๋ยวไปลางานเลย
(นั่นไง! งานเข้าอีกแล้วเรา)
ทำไงได้ล่ะค่ะ ก็ต้องรีบไปยกเลิกการจองห้องพักก่อน โทรไปสอบถามเจ้าหน้าที่ Agoda ให้ติดต่อที่พักให้ค่ะ
ขอยกเลิกห้องพักที่จองไว้เพราะเปลี่ยนเป็นผู้ร่วมเดินทาง 3 คน
โชคดีมากที่ทาง 5footway.inn Project Boat Quay คืนเงินให้เต็มจำนวน สำหรับการยกเลิก
และให้ทำการ Booking เข้าไปใหม่เป็นห้องสำหรับ 3 คน ห้องน้ำรวม 2 คืน เป็นเงิน 5,663.57 บาท
ภาพยืมมาจาก Booking.com นะคะ


แล้วก็เข้าไปจองตั๋วเครื่องบินเพิ่มค่ะ อีกสองที่ คือของคุณสามี กับคุณลูกชาย
เป็นตั๋วไปกลับ 2 ที่นั่ง ซื้อที่นั่งด้วยพร้อมประกันการเดินทางด้วย เป็นเงิน 11,190.56 บาทค่ะ
(เฮ้อ!เรียบร้อยไปค่ะ สำหรับเรื่องการจองตั๋วเครื่องบิน และ ที่พักของเรา)

หลังจากนั้นเราก็เข้าไปเก็บข้อมูลค่ะ ก็ได้รีวิวจากเพื่อนๆ ชาวพันทิปนี่ล่ะค่ะ ช่วยได้มากเลย
แล้วก็ยังมี เว็บ http://www.singaporefanclub.com ด้วยค่ะสำหรับเข้าไปรวบรวมข้อมูล

สัมภาระ
1.    เสื้อผ้าคนละ 3-4 ชุดค่ะ เผื่อเจอฝน
2.    ชุดกันฝนซื้อตาม 7-Eleven ไปค่ะ บางๆ
3.    สบู่ ยาสีฟัน ยาสระผม แป้งเด็ก ครีมบำรุงผิว เครื่องสำอาง
4.    ผ้าเช็ดตัวเอาไปแค่ผืนเดียว เพราะตอนแรกคิดว่าที่ห้องพักจะมีให้ แต่ไปจริงๆ แล้วต้องเสียตังค์เช่าค่ะ
เลยทนใช้ผืนเดียว 3 คนตลอดทริป
5.    ยาต่างๆ ค่ะเช่น พาราสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก/ยาแก้แพ้/พลาสเตอร์ติดแผล/ยาแก้ท้องเสีย/ยาแก้โรคกระเพาะ
6.    ปลั๊กไฟสำหรับใช้ในสิงคโปร์
7.    นมและขนม+ขนมปัง สำหรับลูกชาย
8.    แลกเงินค่ะ เราแลกไป19,992 แลกที่ Sriracha Money Exchange ศรีราชาค่ะ อยู่ใกล้ๆ กับ โรบินสันศรีราชาเรทวันนั้น  25.5 ค่ะ
9.    กล้องถ่ายรูป SONY A5100 พร้อมที่ชาร์จแบต
10.    มือถือ พร้อมที่ชาร์จแบต
11.    รองเท้าแตะคนละคู่
12.    สมุดโน้ต ปากกา
13.    Passport และ Print เอกสารต่างๆเตรียมไปค่ะ ใบจองตั๋วเครื่องบิน ใบจองที่พัก หนังสือรับรองการทำงานภาษาอังกฤษ บัตรประชาชน เอาไปให้หมดเลยค่ะ Copy ใส่กระเป๋าให้ครบทุกคน
***แบกเป้ไปคนละใบค่ะไม่ได้ซื้อน้ำหนักกระเป๋า สามารถเอาขึ้นเครื่องได้ 7 กิโล***



ไปสู่การเดินทางกันดีกว่าค่ะ Let’s Go To Singapore

วันก่อนเดินทาง
4 March 2016 (Friday)
หลังเลิกงาน 17.00 เราก็กลับบ้านไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วก็ออกจากบ้านประมาณ 19.00 น.ค่ะ
(กระเป๋าจัดการไว้ล่วงหน้าแล้ว) เมื่อขับรถออกจากศรีราชา จ.ชลบุรี ได้ประมาณ 1 ชั่วโมง พี่ข้างบ้านก็โทรมาบอกว่า “ตัวเองลืมปิดแอร์รึปล่าว พี่ว่าพี่ได้ยินเสียแอร์เปิดอยู่นะ” เอาอีกแล้ว งานเข้าอีกแล้ว หันไปหาสามี สามีบอกว่าเรากลับไปปิดแอร์ก่อนดีไม๊ หรือไม่คุณกับลูกก็ไปก่อนเดี๋ยวผมไปปิดแอร์แล้วจะตามไป(มันจะทันเครื่องไม๊นี่ รถก็ติดเอามากๆ เลยวันศุกร์ด้วย) เราก็บอกว่าไม่ต้องค่ะ พยายามโทรติดต่อบริษัทขนส่งต่างๆ เผื่อว่าจะส่งกลับไปให้เพื่อนไปจัดการให้ แต่ก็ไม่มีขนส่งไหนเปิดทำการเลยตอนนั้น เลยโทรติดต่อเพื่อนที่ขลบุรีนั่นล่ะค่ะ ขอร้องให้เค้าขับรถมาเอากุญแจบ้านไปจัดการให้หน่อย โชคยังดีที่มีเพื่อนคนนึงรับปากว่าจะจัดการให้ค่ะ เราถึงดอนเมืองประมาณ สี่ทุ่มครึ่งได้ค่ะ เอารถไปจอดไว้ที่ T2 คืนละ 250 บาท รับบัตรไว้แล้วค่อยกลับมาจ่ายเงินวันกลับค่ะแล้วเราก็ตรงไปที่ Counter Check in เลย ดีที่บินดึกไม่ค่อยมีคนค่ะ Check in เรียบร้อยแล้วก็ไปนั่งรอเพื่อนค่ะ เพื่อนมาถึงดอนเมือง ห้าทุ่มกว่า เมื่อเพื่อนกลับไปแล้วเราก็เดินหาซื้อของกินรองท้องกันเพราะยังไม่ได้กินอะไรเลย ดีนะที่เด็กมีนมกับขนมปังมาด้วยเลยไม่บ่น ได้ร้านขายของในสนามบินประทังชีวิตค่ะ ถึงราคาค่อนข้างสูงแต่ก็เอานะ หลังจากนั้นเราก็เดินเข้าไปสู่ด่าน ตม.ค่ะ ถ่ายรูปยิ้มหวานให้ เจ้าหน้าที่ ครบทั้ง 3 คนแล้วก็เดินไปที่ Gate ค่ะ

วันแรกของทริป
5 March 2016 (Saturday)
เมื่อมาถึง Gate แล้วกะว่าจะงีบซักหน่อย เห็นสาวๆ ญี่ปุ่น งีบรอเครื่องออกกัน ประกอบกับตอนนี้มันเลยเวลานอนมาแล้วด้วย แต่ว่า ลูกชายสิค่ะ แรงไม่ตกเลย วิ่งตลอดเวลา เราก็ห่วงลูกละสายตาจากเค้าไม่ได้ เลยไม่ได้งีบกันเลย จนกระทั่งถึงเวลาขึ้นเครื่องค่ะ ขาไปนี่เครื่องออกตรงเวลาค่ะ
เราไปลำนี้ค่ะ


ซื้อที่นั่งด้วยเพราะกลัวไม่ได้นั่งติดกันค่ะกลัวเด็กงอแง ที่นั่งก็ไม่ถือว่าแคบนะคะสำหรับคนขาสั้นอย่างเรา

ส่วนคุณสามีก็ขยับได้สบายค่ะ


ลูกไม่ต้องพูดถึง สบายมากกก  พูดไม่หยุด แรงไม่ตกจริงๆ เลยเวลานอนมานานแล้วแบตก็ยังไม่หมดค่ะ


ได้เวลาเครื่องขึ้นแล้ววววว   เด็กตื่นเต้นมากค่ะ พูดไม่หยุดเลย  พอถึงจุดที่เครื่องบินนิ่งแล้ว(เค้าเรียกแบบนี้รึปล่าวนะ)กลิ่นอาหารก็โชยมาเตะจมูกค่ะ ท้องไส้ปั่นป่วนเลยคราวนี้ หิวสิค่ะ อยู่เฉยไม่ไหวแล้วค่ะ ต้องเรียกใช้บริการน้องแอร์คนสวยซะหน่อย (เราไม่ได้สั่งอาหารไว้ล่วงหน้าค่ะ ตั้งใจว่าจะไม่กินเพราะเห็นราคาแล้วสูงเกินไป)แต่ ณ เวลานี้ ไม่ไหวแล้วค่ะ เลยสั่ง มาม่าคัพ มาคนละคัพ กับคุณสามี แล้วก็น้ำเปล่า 1 ขวดเล็ก จัดไปค่ะ มาม่าคัพละ 5$ น้ำดื่ม 4$ รวมอาหารมื้อนี้ 14$ ค่ะ คิดเป็นเงินไทย 357 บาทค่ะ(มื้อแรกของทริปค่ะเบาเบา กระเป๋าเบาเลย 555)


อิ่มแล้วสักพักแอร์คนสวยก็เริ่มเดินแจกใบผ่านเข้าเมืองค่ะ เราได้รายละเอียดมาแล้วค่ะจากการค้นคว้า 555 ก็กรอกๆ ไปค่ะ กรอกผิดกรอกถูกกัน ซักพักก็งีบกันค่ะงีบได้แป๊บเดียว เจ้าหน้าที่ก็ประกาศแจ้งว่าเครื่องใกล้ลงแล้วให้คาดเข็มขัด ช่วงที่เครื่องกำลังลง เจ้าลูกชายหูอื้อค่ะ ร้องไห้บอกปวดหู ปวดหู เราก็ใจไม่ดี ได้แต่บอกลูกว่ากอดแม่ไว้นะ กลืนน้ำลายบ่อยๆ เดี๋ยวก็หายลูก สงสัยเป็นเพราะเค้าง่วงด้วย แต่ดีที่เค้าไม่ร้องไห้เสียงดังรบกวนคนอื่นค่ะ พอเครื่องลงแล้วก็กลับมาคึกคักพูดเยอะเหมือนเดิมค่ะ


พอลงจากเครื่องก็จะมีรถรอรับเพื่อไป T2 ค่ะเพื่อไปด่านตรวจคนเข้าเมืองสิงคโปร์


ถึงแล้วค่ะ T2

ตอนแรกที่มาถึง T2 เหมือนจะไม่มีคนเท่าไหร่ค่ะ แต่ไม่ถึง 10 นาที ทัวร์จีนลงค่ะ คนเพียบเลย พูดเสียงดังมากกกก

เราก็ไม่รีบค่ะ นั่งพัก เขียนใบ ตม.ใหม่ เพราะอันที่เขียนบนเครื่องมันผิด

เดินหาแผนที่และคู่มือนักท่องเที่ยว เดินสำรวจมุมโน้นมุมนี้กันซักพัก ก็เดินไปเข้าแถวเพื่อพบ ตม.ค่ะ

เข้าแถวแล้วก็อยากจะ Check in ใน facebook ซะหน่อย เพื่อนๆจะได้รู้ว่าถึงสิงคโปร์แล้ว แต่ว่า…..พึ่งรู้ตัวว่าพลาดมากค่ะ ดันลืมเปิดโรมมิ่งมา ครั้นจะใช้ Wifi ที่สนามบินชางกีฟรี ก็ใช้ไม่ได้เนื่องจากต้องรอรับรหัสที่เค้าจะส่งเป็น sms มาให้ แต่เราไม่ได้เปิดโรมมิ่ง สัญญาณบ่มีเลย จิตตกอีกแล้วค่ะ (แต่ก็ปลอบใจตัวเองไว้ ว่าเดี๋ยวผ่าน ตม.แล้วค่อยไปแวะซื้อซิมก็ได้เนอะ!)

เมื่อเดินไปถึงคิวประจันหน้ากับ ตม.สิงคโปร์ เราก็ให้คุณพ่อกับคุณลูกไปก่อนค่ะ เค้าก็ถามแต่ลูกชายนะคะ 2-3 ประโยคง่ายๆ เจ้าลูกชายชอบคุยอยู่แล้วก็ยิ้มๆกันแล้วก็ให้ผ่านค่ะ ถึงคิวคุณแม่บ้าง ตม.ไม่ถามอะไรเลยค่ะ มองหน้าแล้วก็ปั้มๆ Passport เสร็จแร่ะ เร็วดีค่ะ ไอ้เรารึ ตื่นเต้นแทบแย่

ผ่านจาก ตม.เราก็เดินไปหาร้านขายซิมค่ะ

แต่ตอนนี้มันยังมืดอยู่เลยสิค่ะ ตีห้ากว่าๆ ร้านยังไม่เปิดเลย ไปถามพนักงานแถวนั้น เค้าบอกว่า ซิมต้องใช้
Passport ซื้อนะแล้วก็ต้องซื้อตอน 8.30 น.ไปแล้วเพราะต้องทำการเปิดซิม นั่นไง ตอนนี้คือมืดค่ะมืด หน้ามืดค่ะ ติดต่อโลกภายนอกไม่ได้เลย แผนที่ก็เปิดไม่ได้ ทำไงล่ะ ง่วงก็ง่วง หันไปบอกสามีว่า เราหาที่นอนพักกันก่อนไม๊นอนในสนามบินนี่ล่ะ แต่เดินไปเดินมาก็ไม่มีที่เหมาะๆ เลยค่ะ

เลยเดินไปเข้าห้องน้ำกันตั้งหลักกันก่อนแล้วก็กรอกน้ำดื่มใส่ขวดไว้(สามีพกขวดน้ำเปล่ามาด้วยค่ะ)
  
และแล้วตอนนี้เด็กแบตเริ่มหมดแล้วค่ะ(ทนได้ไงทั้งคืนเนี่ยยย)

เข้าห้องน้ำเสร็จเราก็เดินไปสถานีรถไฟค่ะ เดินตามป้าย Train To City เลยค่ะ

แล้วก็ลงบันไดเลื่อนตามป้าย MRT เลย

ถึงสถานี MRT แล้วค่ะ

ขบวนการสำรวจพื้นที่ก็เกิดขึ้นอีกครั้งค่ะ เนื่องจาก online ไม่ได้ เปิด Map ไม่ได้ เราก็ต้องพิ่ง แผนที่กระดาษกันแล้วค่ะ ดีที่ Print แผนที่การเดินทางไปที่พักมาด้วย เราก็เลยตั้งใจว่าจะไปที่พักก่อนเพื่อฝากกระเป๋าค่ะ

เราก็ไปยืนด่อมๆมองๆ ที่ Counter ขายบัตร EZ-Link ค่ะ ยืนมองคนอื่นเค้าซื้อไปก่อนสามสี่คน แล้วเราก็เริ่มลอกข้อสอบเค้าค่ะ อิอิอิ เดินไปซื้อ บัตร EZ-Link 3 ใบ ค่ะ ยังไม่เติมเงินลงบัตรนะคะใช้เท่าที่มีในบัตรก่อนค่ะ
พอซื้อบัตรเรียบร้อยแล้วก็เข้าไปนั่งพัก ปรับสมอง ตั้งสติ หาข้อมูลเท่าที่มี เพื่อจะเดินทางไปยังที่พักค่ะ จนรถไฟขบวนแรกของวันมาค่ะ เราก็ได้จุดหมายกันพอดี ขึ้นรถไฟมุ่งหน้าไป สถานี Qlarke Quay ค่ะ โดยนั่ง MRT สายสีเขียวไปลงสถานี Outram Park แล้วต่อสายสีม่วง ไปลงสถานี Clarke Quay ซึ่ง ณ ตอนนี้ ลูกชายแบตหมดไปแล้ว

ส่วนคุณพ่อและคุณแม่ก็เริ่มมอดแล้วเช่นกันค่ะ
ชื่อสินค้า:   เที่ยวสิงคโปร์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่