<<<เล่าสู่กันฟัง ประสบการณ์เที่ยว Mt.Bromo ช่วงสงกรานต์ 2016 >>>

My Bromo 2016 Diary…

                                          

สำหรับ ภูเขาไฟ Bromo รีวิวมีค่อนข้างมากมายอยู่แล้ว ผมเพียงแต่รวบรวมเรื่องราวที่ผมเองได้พบเจอ มาเล่าสู่กันฟังครับ

                                                                       Bromo, East Java, Indonesia

       หลังจากที่ไม่ประสบผลสำเร็จจากปี 2015 ไม่เคยได้เห็นทางช้างเผือกที่ลือกันว่าชัดมาก ไม่เคยได้เห็นทะเลหมอกที่ปกคลุมโบรโม่ บาต๊อก ทำให้ผมมีความต้องการอย่างมากที่จะกลับมาอีก ถึงขนาดกลับมาได้ไม่นานก็จองตั๋วล่วงหน้าเป็นปีเลยทีเดียว

เรื่องราวครั้งที่ 2 ที่ได้มีโอกาสไปสัมผัส สถานที่ซึ่งขนานนามว่า “ลมหายใจพระเจ้า”

    ผมออกเดินทางวันที่ 9 เมษายน 2559 เวลา เกือบๆ สามทุ่ม มีผู้ร่วมชะตากรรมอีก 4 ท่าน ซึ่งล้วนแล้วแต่อายุมากกว่าผมทั้งสิ้น 1 ในนั้นเป็นคุณป้า ซึ่งรอบที่แล้วแกได้จองตั๋วมาด้วย แต่อดไปแบบ surprise มาก คือ passport ของแกเหลือไม่ถึง 6 เดือน (ขาดหลักวัน) โดยสายการบินให้เหตุผลว่า ถึงปล่อยให้ไป ก็โดนทาง ตม.ส่งกลับอยู่ดี ซึ่งทางสายการบินไม่มีการหาทางช่วยใดๆ ...

       ก็เข้าใจนะครับ ข้อมูลที่ว่า passport อายุเหลือไม่ถึง 6 เดือน ทุกคนควรทราบ แต่พวกผม ไม่ทราบจริงๆ ก็ร้องไห้กลับบ้านไปโดยปริยาย โทษใครไม่ได้ แต่อยากทราบกันไหมครับว่า ตม.จาร์กาตา ว่าอย่างไร .... ตม.ของจาร์กาตาเค้า welcome มากครับ เค้าไม่ได้ใจร้ายเหมือนคนไทย เราเสียดายกันมากที่ป้าแกไม่ได้มาด้วย ถ้ามา ก็ได้เข้าประเทศแน่นอน ไม่มีทางโดนส่งกลับ .... แต่ใครล่ะจะกล้าเสี่ยง วัดใจมาเลย ณ เวลานั้นๆ เราก็ต้องเชื่อ จนท สายการบินไว้ก่อน เพราะครั้งนั้นเป็นครั้งแรกด้วย ... ครั้งนี้ ป้าแกเลยไม่พลาด แกรีบไปทำพาสปอร์ตล่วงหน้าครึ่งปีเลยทีเดียว ...

    เราใช้ระยะเวลาในการเดินทางจาก สนามบินดอนเมือง ไปยัง จาร์กาตา ประมาณ 3 ชั่วโมง 15 นาที ก็จะถึงราวๆ 12:30 และต้องรอ transit ไปยัง สุราบายา อีกครั้งในเวลา 06:15 ในเช้าของวันที่ 10 โดยระหว่างที่รอต่อเครื่องนั้น ก็อาศัยโซฟาของร้านกาแฟชื่อดัง เบาะนิ่มๆ เป็นที่พักไปพลางๆ แต่แอร์ใน terminal นี้มันหนาวมากๆ สรุปคือได้แค่พักสายตาเท่านั้น นอนไม่ไหวครับ หนาวจับใจ ...



       เมื่อถึงเวลา 05:30 ด้วยความที่อยากไปเต็มที่ จึงรีบเดินไปที่เกท แต่ก็ถูกสกัดซะงั้นเพราะ จนท ของสายการบินยังไม่มา จึงต้องรอจนเกือบ 06:30 ถึงจะได้เข้าไปรอขึ้นเครื่อง จากจาร์กาตา ไปยัง สุราบายา ใช้เวลาเดินทางเพียง 01:20 นาทีเท่านั้น

    และแล้วก็มาถึง สนามบินสุราบายาซะที เกือบๆ 08:00 เช้าวันที่ 10 เมษายน 2559 อากาศสดชื่นมากๆ เราก็จัด แฮมเบเกอร์ไปกันคนละเซ็ต  ไม่นาน คนขับรถของโรงแรมที่เราจองไว้ก็มาถึง จากสนามบินไปยัง โรงแรม ใช้ระยะเวลาเดินทางอีกเกือบๆ 4 ชั่วโมง นี่ขนาดขึ้นทางด่วนแล้วนะครับ ระยะทางก็แค่ 2xx กิโลเมตร เท่านั้นเอง

       การใช้รถใช้ถนนของชาวชวา feel racing มากครับ ถ้ามาขับในบ้านเราคงโดนท้าต่อย หรือ อาจโดนยิงดับไปเลยครับ เพราะเค้าขับกันได้ใจมากๆ อยากแซง แทง ทิ่ม แหย่ จิ้ม ขวาง ปาด ทำได้หมด ใครขวางก็ ปิ้นๆ ใครแซงก็ ปิ้นๆ ใครจะทำอะไรก็ ปิ้นๆ ก็อีกล่ะครับ บีบแตรแบบนี้ ตลอดเวลาแบบนี้ มันรนหาที่ชัดๆ แต่ในบ้านเค้ามันคือการระมัดระวังต่อกัน การเตือนกัน ขอบคุณกัน ขับกันสุดๆแบบนี้ จำนวนอุบัติเหตุน้อยนะครับ คนขับบอก



    เมื่อมาถึงโรงแรม Lava View Lodge เราวาดภาพไว้ว่า ถึงเมื่อไร จะขอนอนสักงีบ เพราะตารางการถ่ายภาพของเราแน่นปั๊ก แต่เมื่อเข้า Check-in จนท ก็แจ้งว่า the room is not ready, please wait untill your room is ready! แม่เจ้าาา ก็แล้วเมื่อไรล่ะ ถึงจะได้เข้าห้อง .. i will let you know when the room is ready. oh … มันเจ็บจี๊ดๆ เราจึงฆ่าเวลาโดยการจัดอาหารกลางวันใส่ท้องกันที่ห้องอาหารของรร.ซะเลย เมื่ออิ่มหนำ ก็เดินมาดูพระเอกของเรา ซึ่งรร.นี้จะอยู่ค่อนข้างใกล้กับตัว Mt.Bromo มากครับ




    ลืมบอกไปว่า ช่วงที่เรามานั้น โบรโม่เกิดการประทุเป็นระลอกที่ 2 พอดี ซึ่ง เราได้ทำใจไว้แล้วว่า อาจได้เห็นแต่ขี้เถ้า บาต๊อกก็อาจเทาๆ และเมื่อเดินมาเพียงไม่กี่สิบก้าว เราก็ได้ยินเสียงลมหายใจของพระเจ้าทันที เกิดมาก็พึ่งจะเคยได้ยินเสียงประทุ ซึ่งมันได้ฟิวลิ่งมากๆกับ นามที่ว่า “ลมหายใจของพระเจ้า” ชัดมากครับ บรูมมมม ฮึ่มมมมม ครึมมมม ฮืมมมมม บลำำำำ อินเลยครับ

       เวลาผ่านไปนานพอควร จนท รร. ก็เดินยิ้มร่ามาแต่ไกล “Your room is ready” เราจึงต่างคนต่างแยกย้ายเข้าเก็บของและทำภารกิจส่วนตัว  ซึ่งเวลาก็ล่วงเลยไปเกือบ 15:30 แล้ว แต่พวกเราบางคนเกิดอาการอยากกาแฟ ซึ่งไม่มีร้านไหนที่กาแฟจะรสชาติดีไปกว่า Java Banana เราจึงให้คนขับรถพาเราไปดื่มด่ำบรรยากาศ และรสชาติของกาแฟชาวชวา พร้อมทั้งเก็บภาพสมาชิกร่วมชะตาทุกท่านเพื่อเป็นที่ระลึก


       
       และข้ามฝั่งไปทานอาหารเย็นแสนอร่อยที่ Java Banana Restaurant หลังจากนั้นก็เดินทางกลับโรงแรม เพื่อพักผ่อน เป็นอันจบวันแรกครับ จะเห็นได้ว่า ยังไม่ได้เริ่มการถ่ายภาพเลย 555

ยิ้ม ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่