สวัสดีครับ วันนี้นำเทคนิคดีๆ ในการทำงานมาฝากกันครับ เผื่อเป็นประโยชน์ กับท่านอื่นที่กำลังก่อสร้างบ้าน ปรับปรุงบ้าน ในส่วนงานของห้องน้ำครับ
จากห้องน้ำห้องนี้
วัดขนาดจากห้องจริงไปออกแบบ
เริ่มต้นเราจะรื้อกระเบื้องเดิมออกเพื่อฉาบปูน มีคำถามว่าระหว่างรื้อของเดิมออก กับปูทับด้วยปูนปูนกาวแบบปูทับกระเบื้องเดิมใด้ แบบใหนดีกว่า อันนี้ต้องดูก่อนว่า กระเบื้องเดิมนั้นยังติดแน่นหนาแค่ใหน บางทีกระเบื้องใหม่ติดของเดิม แต่ของเดิมหลุดล่อนออกมาก็มีครับ งานนี้รื้อครับผม
รื้อแล้วก็จะมางานฉาบปูนกันครับ งานฉาบผนังห้องน้ำถือว่าสำคัญมาก ปรกติช่างกระเบื้องจริงๆจะต้องฉาบปูนเอง งานฉาบปูกระเบื้องไม่เหมือนกับฉาบผนังบ้านนะครับ ในบ้านเรียบเนียน แต่ในห้องน้ำต้องเรียบตรง เมื่อฉาบเสร็จแล้ว ใช้สามเหลี่ยมมาทาบดู ต้องตรง ไม่เว้า ไม่โค้ง ไม่นูน
ตรวจสอบตามมุม ผนังต้องใด้ดิ่งตรง
ฉาบเสร็จก็จะเริ่มงานต่อประปา งานประปาถือว่าทำง่าย แต่ถ้ามีปัญหามานี่แก้ยากมาก ควรระวังเป็นพิเศษ ท่อและข้อต่อควรเป็นยี่ห้อเดียวกัน ข้อต่อที่เป็นเกลียวในควรเป็นแบบทองเหลือง ควรเผื่อระยะที่โผล่จากผนังให้เหมาะสมกับก๊อกที่ใช้ ส่วนใหญ่เมื่อปูกระเบื้องแล้วจะเสมอกับหน้ากระเบื้องครับ แต่ก๊อกบางตัวต้องลดระยะให้ต่ำกว่าหน้ากระเบื้องเล็กน้อย เมื่อใส่ตัวก๊อกถึงจะสนิทครับ ต่อเสร็จทดสอบการรั่วซึมให้เรียบร้อย ก่อนฉาบปิดรอยผ่าด้วยปูนครับ
เรียบร้อยแล้วถึงขั้นตอนการปูกระเบื้องครับ จะเริ่มที่ปูผนังก่อน แถวแรกของการปู ความสูงจะอยู่ที่ 90 เซนติเมตร เพราะเป็นระดับสายตา จะจัดแถวง่ายกว่าปูเริ่มมาจากข้างล่าง
การปูด้วยปูนกาว ไม่จำเป็นต้องเอากระเบื้องไปแช่น้ำครับ ควรปาดปูนกาวด้วยเกรียงหวีให้ทั่วแผ่นก็พอ การจัดวางกระเบื้องไม่ควรให้เหลือเศษเล็ก แถวสุดท้ายควรเป็นเศษใหญ่สุดเท่าที่จะทำใด้ ช่างกระเบื้องจะต้องคำนวนตั้งแต่ตอนฉาบแล้ว ว่ากระเบื้องขนาดเท่าใหร่ ยกตัวอย่างเช่น กระเบื้อง 30 ซม. ถ้าต้องปู 6 แถว ก็จะยาว 1.80 ซม. ก็ควรฉาบปูนให้ใด้ขนาดที่ 1.81 ซม. รวมร่องแล้วไม่เกินนี้ครับ
กระเบื้องแบบตัดขอบไม่ควรปูสนิทกันนะครับ ควรเว่นร่อง 1-2 มิลลิเมตร โดยใช้ตัวจัดร่องกระเบื้อง (spacer) จะทำให้ร่องกระเบื้องเท่ากัน สวยงามขึ้นครับ
ควรปูกระเบื้องเริ่มต้นที่แผงด้านในก่อน แล้วค่อยปูแผงด้านข้างไปชน จะบังตาจาการเข้ามุมใด้สวยงามกว่า
ตามรูป จะมีการตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสค กระเบื้องโมเสคจะมีขนาดที่บางกว่ากระเบื้องผนัง ให้เว้นช่องใว้ฉาบปูนครับ ติดโมเสคทีหลัง
ก่อนติดโมเสค ต้องฉาบปูนก่อนนะครับ เพราะปูนกาวไม่สามารถปูหนาๆใด้
เนื่องจากกระเบื้องโมเสคเป็นแก้ว ห้ามติดด้วยปูนสีดำเด็ดขาด ต้องติดด้วยปูนกาวสีขาวเท่านั้นครับ
ตบให้แน่น เรียบ จัดร่องให้ตรง
กระเบื้องโมเสคเป็นแก้ว ดังนั้นไม่ควรตัดด้วยเครื่องเจียร ควรตัดด้วยที่ตัดกระจก หรือแท่นตัดกระเบื้องเท่านั้น
การก่อเบิ้ลผนังเพื่อความสวยงามและใช้วางของ ถ้าเป็นด้านที่ต้องติดอ่างแขวน ต้องก่อด้วยอิฐมอญ หรือถ้าเป็นอิฐบล๊อค ต้องก่อด้านหงายแล้วกรอกปูนลงไปให้เต็ม เพราะเวลาเจาะพุกน๊อตยึดจะเเข็งแรงกว่า
เมื่อปูผนังเสร็จแล้ว ก็จะเริ่มปูพื้นกันครับ พื้นห้องน้ำ ควรทากันซึมก่อน ปรับระดับเทปูนผสมน้ำยากันซึมอีกครั้ง แล้วปูกระเบื้องด้วยปูนกาวจะเน่นหนากว่า
พื้นห้องน้ำนี่ต้องเช๊คระดับการใหลให้ดี ไม่ให้ขังเป็นแอ่งน้ำ
ข้อควรระวังอีกอย่างคือ ฝาท่อน้ำทิ้งครับ ปรกติท่อน้ำทิ้งที่พื้นจะมีขนาด 2 นิ้ว ส่วนฝาท่อเมื่อใส่แล้วจะเสมอกับกระเบื้องพื้น ถ้าตัดท่อ ต่ำเกินไป เมื่อใส่ฝาท่อแล้ว ไม่สนิทกับท่อ มีช่องว่างเป็นปูน จุดนี้จะทำให้น้ำซึมใด้ ถ้าเป็นชั้นสองนี่ฝ้าชั้นล่างพังกันเลยทีเดียว
ปูเรียบร้อยก็ยาแนวกันครับ ควรยาแนวหลังจากปูกระเบื้องไปแล้วซัก 24 ชั่วโมง การยาแนวหลังจากปูกระเบื้องแล้วทันที จะทำให้ยาแนวคล้ำลง
การยาแนวดูเหมือนงานง่าย แต่จริงๆยากพอสมควร เมื่อยาแนวลงร่องไปแล้ว ควรเว้นระยะในการเช็ดให้พอดี ถ้าเช็ดเร็วไป ยาแนวในร่องยังไม่เเห้งดี เวลาเช็ดก็จะติดฟองน้ำมาด้วย ยาแนวไม่เต็มร่อง แต่ถ้าเช็ดช้าไป ยาแนวแห้งเกินไป เมื่อเช็ดแล้วผิวยาแนวแข็งเกินไป เลยไม่เนียน ไม่สวยครับ
การยาแนวพื้นนี่ก็สำคัญมาก ถ้าเป็นรูแม้แต่นิด น้ำซึมใด้ ต้องยาแนวให้เต็มครับ
สุดท้ายงานติดสุขภัณฑ์ งานติดสุขภัณฑ์จะง่ายขึ้น ถ้าต่อท่อใว้ดีตั้งแต่ต้น ปากท่อเกลียวใน ไม่โผล่มากไป ไม่บิดไปซ้ายขวา ก็จะทำให้ใส่ก๊อกสนิท สวยงาม งานติดตั้งชักโครก ระวังแค่ให้ช่างติดอุปกรณ์ต่างๆให้ครบ อุปกรณ์เหล่านี้สำคัญมากครับ บางคนใส่ไม่ครบ น้ำรั่ว กันกลิ่นไม่ใด้ต้องแก้อีก
ตรวจสอบน้ำดีจากก๊อกต่างๆ น้ำทิ้งจากอ่างล้างหน้า ใช้ไฟฉายส่องดู จะเห็นชัดเจนขึ้น และ ก่อนเปิดน้ำควรถอดหัวก๊อกออกก่อนครับ ตรงนี้จะมีที่กรองรูเล็กๆ ไม่งั้นมันจะตันใด้
การยาแนวตามขอบสุขภันฑ์ เช่นขอบอ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ ฐานชักโครก ควรใช้ซิลิโคนขาวยา เพราะยืดหยุ่นดีกว่า กันน้ำดีกว่ายาแนวที่เป็นปูน
ตรวจสอบอุปกรณ์อื่นๆ เช่นราวแขวนผ้า ชั้นวาง ว่าแน่นหนาดีมั้ย จบงาน เสร็จแล้วควรทิ้งใว้ 3-7 ก่อนการใช้งานครับ
จบแล้วครับ หวังว่าคงเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ
เปลี่ยนห้องน้ำเก่าห้องเดิม เพิ่มเติมคือ ความสดใสสวยงาม.........
จากห้องน้ำห้องนี้
วัดขนาดจากห้องจริงไปออกแบบ
เริ่มต้นเราจะรื้อกระเบื้องเดิมออกเพื่อฉาบปูน มีคำถามว่าระหว่างรื้อของเดิมออก กับปูทับด้วยปูนปูนกาวแบบปูทับกระเบื้องเดิมใด้ แบบใหนดีกว่า อันนี้ต้องดูก่อนว่า กระเบื้องเดิมนั้นยังติดแน่นหนาแค่ใหน บางทีกระเบื้องใหม่ติดของเดิม แต่ของเดิมหลุดล่อนออกมาก็มีครับ งานนี้รื้อครับผม
รื้อแล้วก็จะมางานฉาบปูนกันครับ งานฉาบผนังห้องน้ำถือว่าสำคัญมาก ปรกติช่างกระเบื้องจริงๆจะต้องฉาบปูนเอง งานฉาบปูกระเบื้องไม่เหมือนกับฉาบผนังบ้านนะครับ ในบ้านเรียบเนียน แต่ในห้องน้ำต้องเรียบตรง เมื่อฉาบเสร็จแล้ว ใช้สามเหลี่ยมมาทาบดู ต้องตรง ไม่เว้า ไม่โค้ง ไม่นูน
ตรวจสอบตามมุม ผนังต้องใด้ดิ่งตรง
ฉาบเสร็จก็จะเริ่มงานต่อประปา งานประปาถือว่าทำง่าย แต่ถ้ามีปัญหามานี่แก้ยากมาก ควรระวังเป็นพิเศษ ท่อและข้อต่อควรเป็นยี่ห้อเดียวกัน ข้อต่อที่เป็นเกลียวในควรเป็นแบบทองเหลือง ควรเผื่อระยะที่โผล่จากผนังให้เหมาะสมกับก๊อกที่ใช้ ส่วนใหญ่เมื่อปูกระเบื้องแล้วจะเสมอกับหน้ากระเบื้องครับ แต่ก๊อกบางตัวต้องลดระยะให้ต่ำกว่าหน้ากระเบื้องเล็กน้อย เมื่อใส่ตัวก๊อกถึงจะสนิทครับ ต่อเสร็จทดสอบการรั่วซึมให้เรียบร้อย ก่อนฉาบปิดรอยผ่าด้วยปูนครับ
เรียบร้อยแล้วถึงขั้นตอนการปูกระเบื้องครับ จะเริ่มที่ปูผนังก่อน แถวแรกของการปู ความสูงจะอยู่ที่ 90 เซนติเมตร เพราะเป็นระดับสายตา จะจัดแถวง่ายกว่าปูเริ่มมาจากข้างล่าง
การปูด้วยปูนกาว ไม่จำเป็นต้องเอากระเบื้องไปแช่น้ำครับ ควรปาดปูนกาวด้วยเกรียงหวีให้ทั่วแผ่นก็พอ การจัดวางกระเบื้องไม่ควรให้เหลือเศษเล็ก แถวสุดท้ายควรเป็นเศษใหญ่สุดเท่าที่จะทำใด้ ช่างกระเบื้องจะต้องคำนวนตั้งแต่ตอนฉาบแล้ว ว่ากระเบื้องขนาดเท่าใหร่ ยกตัวอย่างเช่น กระเบื้อง 30 ซม. ถ้าต้องปู 6 แถว ก็จะยาว 1.80 ซม. ก็ควรฉาบปูนให้ใด้ขนาดที่ 1.81 ซม. รวมร่องแล้วไม่เกินนี้ครับ
กระเบื้องแบบตัดขอบไม่ควรปูสนิทกันนะครับ ควรเว่นร่อง 1-2 มิลลิเมตร โดยใช้ตัวจัดร่องกระเบื้อง (spacer) จะทำให้ร่องกระเบื้องเท่ากัน สวยงามขึ้นครับ
ควรปูกระเบื้องเริ่มต้นที่แผงด้านในก่อน แล้วค่อยปูแผงด้านข้างไปชน จะบังตาจาการเข้ามุมใด้สวยงามกว่า
ตามรูป จะมีการตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสค กระเบื้องโมเสคจะมีขนาดที่บางกว่ากระเบื้องผนัง ให้เว้นช่องใว้ฉาบปูนครับ ติดโมเสคทีหลัง
ก่อนติดโมเสค ต้องฉาบปูนก่อนนะครับ เพราะปูนกาวไม่สามารถปูหนาๆใด้
เนื่องจากกระเบื้องโมเสคเป็นแก้ว ห้ามติดด้วยปูนสีดำเด็ดขาด ต้องติดด้วยปูนกาวสีขาวเท่านั้นครับ
ตบให้แน่น เรียบ จัดร่องให้ตรง
กระเบื้องโมเสคเป็นแก้ว ดังนั้นไม่ควรตัดด้วยเครื่องเจียร ควรตัดด้วยที่ตัดกระจก หรือแท่นตัดกระเบื้องเท่านั้น
การก่อเบิ้ลผนังเพื่อความสวยงามและใช้วางของ ถ้าเป็นด้านที่ต้องติดอ่างแขวน ต้องก่อด้วยอิฐมอญ หรือถ้าเป็นอิฐบล๊อค ต้องก่อด้านหงายแล้วกรอกปูนลงไปให้เต็ม เพราะเวลาเจาะพุกน๊อตยึดจะเเข็งแรงกว่า
เมื่อปูผนังเสร็จแล้ว ก็จะเริ่มปูพื้นกันครับ พื้นห้องน้ำ ควรทากันซึมก่อน ปรับระดับเทปูนผสมน้ำยากันซึมอีกครั้ง แล้วปูกระเบื้องด้วยปูนกาวจะเน่นหนากว่า
พื้นห้องน้ำนี่ต้องเช๊คระดับการใหลให้ดี ไม่ให้ขังเป็นแอ่งน้ำ
ข้อควรระวังอีกอย่างคือ ฝาท่อน้ำทิ้งครับ ปรกติท่อน้ำทิ้งที่พื้นจะมีขนาด 2 นิ้ว ส่วนฝาท่อเมื่อใส่แล้วจะเสมอกับกระเบื้องพื้น ถ้าตัดท่อ ต่ำเกินไป เมื่อใส่ฝาท่อแล้ว ไม่สนิทกับท่อ มีช่องว่างเป็นปูน จุดนี้จะทำให้น้ำซึมใด้ ถ้าเป็นชั้นสองนี่ฝ้าชั้นล่างพังกันเลยทีเดียว
ปูเรียบร้อยก็ยาแนวกันครับ ควรยาแนวหลังจากปูกระเบื้องไปแล้วซัก 24 ชั่วโมง การยาแนวหลังจากปูกระเบื้องแล้วทันที จะทำให้ยาแนวคล้ำลง
การยาแนวดูเหมือนงานง่าย แต่จริงๆยากพอสมควร เมื่อยาแนวลงร่องไปแล้ว ควรเว้นระยะในการเช็ดให้พอดี ถ้าเช็ดเร็วไป ยาแนวในร่องยังไม่เเห้งดี เวลาเช็ดก็จะติดฟองน้ำมาด้วย ยาแนวไม่เต็มร่อง แต่ถ้าเช็ดช้าไป ยาแนวแห้งเกินไป เมื่อเช็ดแล้วผิวยาแนวแข็งเกินไป เลยไม่เนียน ไม่สวยครับ
การยาแนวพื้นนี่ก็สำคัญมาก ถ้าเป็นรูแม้แต่นิด น้ำซึมใด้ ต้องยาแนวให้เต็มครับ
สุดท้ายงานติดสุขภัณฑ์ งานติดสุขภัณฑ์จะง่ายขึ้น ถ้าต่อท่อใว้ดีตั้งแต่ต้น ปากท่อเกลียวใน ไม่โผล่มากไป ไม่บิดไปซ้ายขวา ก็จะทำให้ใส่ก๊อกสนิท สวยงาม งานติดตั้งชักโครก ระวังแค่ให้ช่างติดอุปกรณ์ต่างๆให้ครบ อุปกรณ์เหล่านี้สำคัญมากครับ บางคนใส่ไม่ครบ น้ำรั่ว กันกลิ่นไม่ใด้ต้องแก้อีก
ตรวจสอบน้ำดีจากก๊อกต่างๆ น้ำทิ้งจากอ่างล้างหน้า ใช้ไฟฉายส่องดู จะเห็นชัดเจนขึ้น และ ก่อนเปิดน้ำควรถอดหัวก๊อกออกก่อนครับ ตรงนี้จะมีที่กรองรูเล็กๆ ไม่งั้นมันจะตันใด้
การยาแนวตามขอบสุขภันฑ์ เช่นขอบอ่างล้างหน้า อ่างอาบน้ำ ฐานชักโครก ควรใช้ซิลิโคนขาวยา เพราะยืดหยุ่นดีกว่า กันน้ำดีกว่ายาแนวที่เป็นปูน
ตรวจสอบอุปกรณ์อื่นๆ เช่นราวแขวนผ้า ชั้นวาง ว่าแน่นหนาดีมั้ย จบงาน เสร็จแล้วควรทิ้งใว้ 3-7 ก่อนการใช้งานครับ
จบแล้วครับ หวังว่าคงเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ