[คิดต่างขวางกระแส] ถ้าโหยหา “ความจริง” จาก “สื่อบันเทิง” แล้วมันจะยังเหลืออะไรให้ “สนุก-จิ้น-ฟิน” อยู่อีกหรือ?

ถ้าโหยหา “ความจริง” จาก “สื่อบันเทิง” แล้วมันจะยังเหลืออะไรให้ “สนุก-จิ้น-ฟิน” อยู่อีกหรือ?
.
.
By : TonyMao_NK51
E-Mail : tonymao_nk51@hotmail.com , tonymao.nk@gmail.com
Facebook Page : TonyMao_NK51
.
ระยะหลังๆ เรามักจะพบ “ดราม่า” หรือข้อถกเถียงของคน 2 กลุ่ม เกี่ยวกับสื่อบันเทิงไทย ( โดยเฉพาะละคร ) บ่อยมาก เช่น ที่พบได้หลายหนมักจะเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ ที่ในละครจะทำกันไม่ค่อยถูกเท่าไร ลากยาวไปยัน Prop หรืออุปกรณ์ประกอบฉากแผนผังองค์กรที่ไปเอารูปใครต่อใครมาวาง แล้วคนดูดันจับผิดได้ว่านี่มันรูปบุคคลในประวัติศาสตร์ ล่าสุดเป็นละครที่พระเอกเป็นคนมีปม ก็เลยอารมณ์รุนแรงกับนางเอกในลักษณะหมิ่นเหม่ต่อทั้งกฎหมายและศีลธรรม
.
ทุกครั้งที่มีประเด็นทำนองนี้ คนกลุ่มหนึ่งซึ่งผมขอเรียกว่า “บันเทิงนิยม” ก็จะค่อนขอดพวกที่จับผิดว่าเฮ้ย! นี่มันละครนะไม่ใช่เรื่องจริง จะเอาอะไรนักหนา? อยากได้ความจริงเป๊ะๆ ไปดูสารคดีแทนไหม? หรือพอฉากแรงๆ บางฉากก็จะบอกว่าเฮ้ย! มันมีที่มาที่ไปของมันนะฉากพวกนี้ ไม่ได้ใส่ขึ้นมาลอยๆ แล้วเดี๋ยวมันจะมีคลี่คลายของมันไปเอง ขณะที่คนอีกกลุ่มหนึ่งที่ผมขอเรียกว่า “สาระนิยม” ก็จะบอกว่าละครคนดูเยอะ ถ้าไม่ทำให้ถูกต้องตามความจริงเดี๋ยวคนดูเอาไปเลียนแบบล่ะว่าไง? ยิ่งสังคมไทยมีจัดเรตไปก็เท่านั้นด้วย Prime Time หลังข่าว ลูกเด็กเล็กแดงนั่งดูกันเกลื่อน
.
เอาตรงๆ นะ ผมค่อนข้างมีใจเอียงไปทางฝ่ายบันเทิงนิยมนะครับ แล้วก็หงุดหงิดอยู่พอสมควรกับความพยายามในการจับผิดรายละเอียดที่ไม่สมจริงของบรรดาชาวสาระนิยม ก็เลยลองรวบรวม “เรื่องไม่สมจริงในละคร” มาให้อ่านกัน แล้วจะชวนให้คิดว่า..ถ้าเราทำให้มันเข้ากับความเป็นจริงทั้งหมด ละครหรือหนังมันจะยังสนุกอยู่หรือเปล่า?
.
1.การด่าทอผู้อื่นด้วยถ้อยคำรุนแรง ( ซึ่งเป็น “อัตลักษณ์” เป็นจุดขายของละครไทย ) จะกลายเป็น “เรื่องต้องห้าม” ทันที เพราะผิดกฎหมายฐานดูหมิ่น
.
มาตรา 393 ผู้ใดดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณาต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาทหรือ ทั้งจำทั้งปรับ
.
ที่มา : http://www.kodmhai.com/m2/m2-2/m2-367-398.html
.
2.บทประพันธ์หลายเรื่องที่เห็นชัดเจนว่าพระเอกเป็นสมาชิกแก๊งมาเฟีย-เป็นนักเลงอันธพาล พระเอกจะไม่ได้ทำเท่ใดๆ ( และไม่ควรเป็นพระเอกด้วย ) เพราะจะต้องโดนจับติดคุกไปก่อน ฐานซ่องสุมกำลังเป็นองค์กรอาชญากรรม
.
มาตรา 209 ผู้ใดเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการ และมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นกระทำความ ผิดฐานเป็นอั้งยี่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นสี่พันบาท
ถ้าผู้กระทำความผิดเป็นหัวหน้า ผู้จัดการหรือผู้มีตำแหน่งหน้าที่ ในคณะบุคคลนั้น ผู้นั้นต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่ เกินสองหมื่นบาท
.
ที่มา : http://www.kodmhai.com/m2/m2-2/m2-209-216.html
.
3.การที่นางเอก ( หรือนางรอง ) บอกว่าไม่คุยแล้วไม่ฟังแล้ว หรือแสดงท่าทีอะไรที่เป็นเชิงปฏิเสธ กำลังจะเดินหนี แล้วพระเอก ( หรือพระรอง ) ดึงแขนไว้ กระชากตัวไว้พยายามจะรั้งให้หันกลับมามองหน้ากัน ไม่ยอมให้หนีไปโดยดี ( ฉากชวน “จิ้น” และ “ฟิน” ของละครไทยทุกช่อง ) พร้อมกับอ้างเหตุผลโน่นนี่นั่น ขู่บ้างปลอบบ้าง ในละครอาจจะจบด้วยการรักกัน ในความเป็นจริง พระเอกหรือพระรองอาจจะมีความผิดฐานข่มขืนใจได้
.
มาตรา 309 ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือ จำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้ กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน หกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าความผิดตามวรรคแรกได้กระทำโดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำ ความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป หรือได้กระทำเพื่อให้ผู้ถูกข่มขืนใจทำ ถอน ทำให้เสียหาย หรือทำลายเอกสารสิทธิอย่างใดผู้กระทำต้องระวาง โทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้ากระทำโดยอ้างอำนาจอั้งยี่หรือซ่องโจร ไม่ว่าอั้งยี่หรือซ่องโจรนั้นจะ มีอยู่หรือไม่ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปีและปรับ ตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท
.
ที่มา : http://www.kodmhai.com/m2/m2-2/m2-309-321.html
.
หรือโดนข้อหาลวนลาม-คุกคามทางเพศก็ยังได้
.
มาตรา 278 ผู้ใดกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดย ขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่า ตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกิน สองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
.
ที่มา : http://www.kodmhai.com/m2/m2-2/m2-276-287.html
.
4.ในหนังในละคร ทีมพระเอกกับแก๊งผู้ร้ายต่อสู้ตะลุมบอนกัน ตำรวจมาปุ๊บ แก๊งตัวร้ายโดนจับแต่ทีมพระเอกไม่โดน แต่ในชีวิตจริง หากเป็นการสมัครใจต่อสู้กันที่เกินวิสัยการป้องกันตัวเฉพาะหน้า ทุกคนที่ต่อสู้อาจโดนข้อหาสมัครใจทะเลาะวิวาทได้
.
มาตรา 294 ผู้ใดเข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลตั้งแต่สามคน ขึ้นไป และบุคคลหนึ่งบุคคลใดไม่ว่าจะเป็นผู้เข้าร่วมในการนั้นหรือไม่ ถึงแก่ความตายโดยการกระทำในการชุลมุนต่อสู้นั้น ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าผู้ที่เข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้นั้นแสดงได้ว่า ได้กระทำไปเพื่อห้ามการ ชุลมุนต่อสู้นั้น หรือเพื่อป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ
.
ที่มา : http://www.kodmhai.com/m2/m2-2/m2-288-294.html
.
มาตรา 299 ผู้ใดเข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้ระหว่างบุคคลแต่สามคนขึ้นไป และบุคคลหนึ่งบุคคลใดไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เข้าร่วมในการนั้นหรือไม่ รับ อันตรายสาหัส โดยการกระทำในการชุลมุนต่อสู้นั้น ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าผู้ที่เข้าร่วมในการชุลมุนต่อสู้นั้นแสดงได้ว่า ได้กระทำไปเพื่อห้ามการ ชุลมุนต่อสู้นั้น หรือเพื่อป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ
.
ที่มา : http://www.kodmhai.com/m2/m2-2/m2-295-300.html
.
5.ในหนังในละคร พระเอกที่ไม่ใช่ตำรวจก็สามารถบุกรังเหล่าร้ายไปฆ่าผู้ร้ายได้ ช่วยเพื่อนบ้าง ช่วยนางเอกบ้าง ไม่มีความผิดอะไร แต่ในชีวิตจริง ถ้าไปทำแบบนี้ก็อาจจะมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่น หรือทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย หากไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าเป็นการป้องกันตัวเฉพาะหน้าที่สมควรแก่เหตุ
.
มาตรา 288 ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี
.
มาตรา 290 ผู้ใดมิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้น ถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี
.
ที่มา : http://www.kodmhai.com/m2/m2-2/m2-288-294.html
.
.
( มีต่อ )
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่