[CR] Review: เครื่องสำอางมูจิ ดีหรือไม่?

สวัสดีคะ ก่อนอื่นต้องขอเล่าย้อนกลับไป เนื่องจากว่าช่วงต้นเดือน พฤษภาคมที่ผ่านมา
ชิไปญี่ปุ่นมา ก็เลยไปสอยเครื่องสำอางค์เหล่านี้จากญี่ปุ่นมาทั้งหมด
ซึ่งก่อนไปชิก็แอบไปเช็คราคากับที่มูจิประเทศไทยมา ว่าราคาจะแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด
พอไปถึงก็รีบมุ่งหน้าเข้าร้านมูจิ ซึ่งสำหรับใครที่อยากไปซื้อมูจิที่ญี่ปุ่น
อาจจะต้องจำชื่อโลโก้ของมูจิไว้ เพราะบางทีร้านจะอยู่ในซอกเล็กๆหรือชั้นบนของห้าง
แต่จะมีป้ายบอกจากด้านนอก โลโก้ตัวอักษรสีแดงเข้ม มี4ตัว
ซึ่งจริงๆแล้วชิเป็นสาวกมูจิมากกก เพราะชอบเกะ ลิ้นชัก เครื่องเขียนต่างๆ
ถึงแม้ว่ามันจะราคาไม่ถูกเลยก็ตาม แต่แลกกับคุณภาพที่ได้แล้ว ถือว่าคุ้มค่าคะ
และครั้งนี้ที่ไป ถ้าจะให้ชิแบกลิ้นชักกลับไทย เกรงว่าจะแตกจริงๆ ฮ่าๆ
ก็เลยเล็งว่าจะไปสอยเมคอัพโดยเฉพาะเลย ซึ่งร้านที่ชิได้ไปสอยมา ถือว่าเป็นสาขาใหญ่เลยทีเดียว
มีของให้เลือกเยอะมากมาย คล้ายๆกับไทยทุกอย่าง แทบจะเหมือนเลยทีเดียวละ
ในส่วนของราคานั้น ที่ญี่ปุ่นจะถูกกว่าเล็กน้อย ถ้าไม่ซีเรียสหรืออยากได้ฟิวในการช้อปอะไร ซื้อที่ไทยก็ได้คะ
ซึ่งจริงๆที่ไทย ถ้าใครเป็นสาวกมูจิจะรู้เลยว่าเค้าจะชอบจัดโปรตลอด บางทีลด 15% ทั้งร้าน หรือลดเฉพาะจุด
แต่ว่า เมื่อก่อนมูจิที่ไทย ถ้ายื่นบัตรนักเรียนจะมีส่วนลดให้ แต่ปัจจุบันนี้เค้ายกเลิกไปแล้ว


สำหรับใครที่อยากชมแบบวิดีโอเชิญชมที่ด้านล่างนี้เลยคะ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
อะเราว่ามาเริ่มกันเลยดีกว่าคะ ซึ่งใน Youtube ชิก็จะรีวิวไปแล้วก็ลองใช้ให้ชมไปพร้อมๆกัน
สำหรับกระทู้ใน Pantip ภาพอาจจะไม่ชัดเท่าในคลิปนะคะ ต้องขออภัยด้วย
เรามาเริ่มกันที่จุดแรกของการแต่งหน้าเลย ก็คือรองพื้นคะ

สำหรับรองพื้นตัวนี้เป็นแบบหลอด มาในปริมาณ 30ml ราคา 1100เยน ราวๆ384บาท
ซึ่งตัวนี้ชิซื้อสีเข้มที่สุดมา แต่เมื่อเทียบกับผิวเราแล้วก็ถือว่ายังขาวกว่า1ระดับ
ข้อดีคือ เนื้อสีรองพื้นไม่ติดชมพู คือออกเป็นโทนเหลือง เหมาะกับสาวไทย
เป็นเนื้อแมทสนิท เนื้อค่อนข้างหนา แห้งไว เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบ
ชิชอบรองพื้นตัวนี้ที่สุดดดดดดด คือทึ่งกับรองพื้นตัวนี้มาก เพราะไม่ได้คาดหวังอะไรเลย
แต่เมื่อทาออกมาแล้ว รู้สึกหน้าผ่องขึ้น และเป็นลุคแมทๆ ที่สวยมากจริงๆ
อันนี้คิดว่าคนผิวมันก็น่าจะชอบ (โดยส่วนตัวแล้วเป็นคนผิวแห้งนะคะ)
แต่บอกตามตรงว่าเมื่อวานแอบไปดูเจ้ารองพื้นตัวนี้ที่สาขา central eastville มา
ไม่เห็นมีขาย เลยไม่แน่ใจว่าที่ไทยจะมีรึป่าว แต่แอบไปสอยรองพื้นแบบขวดมาเพิ่ม
ถ้าใช้แล้วเริ่ดยังไงจะมาอัพเดทกันนะคะ

เมื่อลงรองพื้นแล้วก็มาดูกันที่ตัวต่อไปเลยก็คือ Concealer คะ
ซึ่งชิก็เลือกสีที่เข้มที่สุดมาอีกเช่นเคย ตัวนี้ราคา 800เยน ราวๆ 279บาท
แอบไปส่องมา ที่ไทยขายราคา 250บาท เท่านั้น จริงๆแล้วจะซื้อถูกหรือแพงก็ต้องแล้วแต่ค่าเงินแต่ละช่วงด้วยเนอะ
Concealer ตัวนี้ มาในรูปแบบลิควิดคอนซิลเลอร์ ซึ่งเนื้อค่อนข้างหนา แห้ง มีสีให้เลือกน้อยมากๆ
ตัวแปรงแข็งไปหน่อย สีติดโทนเหลือง ส่วนตัวแล้วเฉยๆนะคะ
คิดว่ามีแบรนด์อื่นที่ราคาเท่านี้ แต่คุณภาพนำกว่านี้

อันนี้คือใบหน้า หลังจากลงรองพื้นและคอนซิลเลอร์เสร็จแล้ว
จะเห็นเลยว่ารองพื้นทำให้ใบหน้าเนียนกริบ ผิวสวยขึ้นได้ในพริบตา

ต่อไปก็คือแป้งผสมรองพื้น ต้องบอกเลยว่าลังเลมาก ตอนแรกจะหยิบเป็นแป้งฝุ่นมา
แต่ในใจก็คิดว่า แป้งฝุ่นส่วนมาก มักจะดีอยู่แล้ว เลยหยิบแป้งพัฟมาปราบเซียน ว่าจะดีหรือเปล่า
ซึ่งที่ได้มาจะเป็นแบบรีฟิวนะคะ ที่ญี่ปุ่นมันจะมีตลับขายแยกด้วย
แต่พอดูราคาแล้ว ตลับราคาไม่น่ารักเลย ก็เลยใช้แบบรีฟิวอย่างเดียวก็ได้
ใช้อยู่บ้านแบบไม่ต้องพกไปไหน ซึ่งตอนที่ชิเลือกสีที่ญี่ปุ่น จะบอกว่าเลือกยากมาก
เพราะมีสีให้เลือกเยอะมากกกกก ถึงสิบกว่าสีกันเลยทีเดียว
สีที่ได้มาตัวนี้ไม่เข้มที่สุดนะคะ แต่ถือว่าเข้ากับสีผิวเรามาก
เนื้อแป้งเนียนกริบ ให้การปปิดปานกลาง ทาแล้วหน้าดูผ่องมาก รูขุมขนหายเกลี้ยง
แต่สำหรับลุคนี้อาจจะดูหนาไปนิดนะคะ เพราะลงทั้งรองพื้นและแป้งพัฟผสมรองพื้น
หากจะใช้ในชีวิตประจำวัน ลงรองพื้นแล้วตามด้วยแป้งฝุ่นก็พอคะ
ตัวแป้งนี้ราคา 1000เยน ราวๆ 349บาท

มาต่อกันที่อายแชร์โดวแบบตลับ4 สีเลยคะ
ตัวอายแชร์โดวมีให้เลือกประมาณ 3-4สี แต่เราเลือกสีนี้มาเพราะคิดว่า
มันแต่งได้ในหลายๆโอกาส และต้องบอกเลยว่าอายแชร์โดวของญี่ปุ่น
ส่วนมากจะเป็นวิ้งค์หมด  คือมีชิมเมอร์ ทุกสี
ฉะนั้นถ้าอันไหนวิ้งค์และสีติดดี คือผ่านนนน
ซึ่งตัวนี้ ชิจะทำการพิสูจน์โดยการทา Eye primer บนเปลือกตาเพียงด้านเดียวเท่านั้น

จากภาพ ทา Eye primer ด้านซ้ายมือ และด้านขวาไม่ได้ทาอะไร
จะเห็นเลยว่าความวิ้งค์ด้านที่ลงไพร์เมอร์ จะวิบวับและสีติดกว่าด้านที่ไม่ลงมากๆ
ฉะนั้นถ้าใครมี Eye primer อยู่แล้วแนะนำให้ลงก่อน จะได้สีที่สวยกว่าคะ
แต่ส่วนตัวแล้วก็ถือว่าชอบนะ สีมันสวยดีคะ เนื้อติดทนใช้ได้เลย
ตัวนี้สอยมาในราคา 750เยน ราวๆ261บาท ที่ไทยขาย 295บาท
(ขอแอบบ่นนิดนึง ราคาที่เราแปลงเงินเยนเป็นเงินไทยวันนี้ แอบสูงนิดนึง
ทำให้ราคาบางอย่างจะสูงกว่าที่ไทย ซึ่งช่วงที่เราไปเงินเยนยังไม่สูงขนาดนี้น้า)

ไอเทมอีกอย่างที่สอยมาด้วยก็คือที่ดัดขนตา ซึ่งอันนี้เล็งไว้นานมากแล้ว
และก็ได้ยินเสียงกล่าวขานมาเยอะ ว่ามันแหล่มมาก
พอลองใช้แล้ว ดีจริงๆคะ ราคาไม่สูงมากด้วย
แต่แอบนอกเรื่อง ถ้าเทียบกับของ Gino maccray แล้ว ตัวนี้ยังไม่สุดเท่านะ
แต่ขนตาก็เด้งอยู่จ้า ปล. เราเป็นคนขนตาน้อยน้าาา อาจจะไม่เห็นความต่างมากนัก

ต่อมาก็มาปัดมาสคาร่ากันเลยค่า ซึ่งตัวนี้แปรงค่อนข้างเล็ก
ปัดแล้วขนตาไม่เด้งเท่าที่ควร มาสคาร่าเฉยๆค่า ข้ามไปได้เลยย

ตัวนี้เป็นอายแชร์โดวตลับจิ๋วอีกอันที่สอยมา
ถ้าถามเรื่องความคุ้มค่า แบบ4สี จะคุ้มกว่ามาก เพราะราคาต่างกันเพียง200เยนเท่านั้น
แต่ไอเราติดใจวิ้งค์สีทองอันนี้ เลยสอยมา ซึ่งก็ไม่ได้โดดเด่นไปกว่าพาเลท4สีเท่าไหร่
พอลองแล้วเฉยๆ ก็เลยคิดว่า ไม่จำเป็นต้องซื้อแยกก็ได้หากไม่ได้ชอบสีของมันจริงๆ

มาต่อกันที่บรัชออนกันบ้าง ลืมบอกไปว่าอีกอย่างที่ชอบคือ
ชอบแพคเกจของมูจิมากๆ มันสวย ดูสบายตาไม่เบื่อดีคะ
อันนี้ที่ได้มาเป็นสีส้มเนื้อแมท ซึ่งจริงๆบรัชออน มีให้เลือกค่อนข้างเยอะ
หลากหลายสี แต่โดยส่วนมากแล้วจะมีชิมเมอร์ ก็เลยเลือกแบบเนื้อแมทมา
ซึ่งสีก็ได้ลุคที่เป็นธรรมชาติ สีไม่แรง ไม่ชัด หากใครชอบลุคเบาๆใสๆก็น่าจะชอบ
แต่ส่วนตัวแล้วเราชอบแบบสีชัดๆมากกว่า ก็เลยเฉยๆกับตัวนี้
ราคา 600เยน ราวๆ209บาท ที่ไทยขาย195บาท
แต่ที่ญี่ปุ่นจะมีสีให้เลือกเยอะกว่าหน่อยคะ แต่สีนี้ ที่ไทยมีขายน้าา

ก็สาเหตุที่ไม่เลือกปัดแก้มแบบมีชิมเมอร์ เพราะอยากลองไฮไลท์ด้วยนี่ละ
ซึ่งตัวนี้เป็นไฮไลท์แบบวิ้งค์เยอะ ไฮไลท์ของมูจิ มีให้เลือกหลายแบบมาก
ทั้งแบบออกขาว ออกชมพู ออกม่วง ซึ่งตัวนี้จะออกทองหน่อย คิดว่าเหมาะกับผิวเรามากที่สุด
ตัวนี้บอกตามตรงว่าแอบผิดหวังเล็กๆ เพราะตอนลองสีที่ร้าน มันวิ้งค์มาก
แต่ปัดออกมาแล้ว กลับไม่ค่อยติดหน้าเท่าที่ควร เลยคิดว่า มีไฮไลท์ตัวอื่นที่มันสวยกว่านี้
ราคาตัวนี้อยู่ที่ 1050เยน ราวๆ 366บาท ที่ไทยขาย 495บาท

สุดท้ายมาจบกันที่ลิป ซึ่งลิปก็มีให้เลือกหลายแบบ
แต่ส่วนมากญี่ปุ่นจะเน้นลิปเนื้อ Sheer ให้ปากดูฉ่ำๆวาวๆหรือกลอส
แต่เราเลือกเป็นลิปดินสอมา เพราะเป็นเนื้อแมท แล้วก็สีสวยดีคะ
ราคาตัวนี้ถูกมาก 380เยน ราวๆ 132บาท ทีไทยก็ขายประมาณนี้คะ

ซึ่งในภาพเราทาสีเข้มด้านใน  และทาสีอ่อนทางด้านนอก
จะเห็นเลยว่าลิป เนื้อจะออกแมทมาก ดินสอเนื้อจะแข็งหน่อย
อาจจะต้องใช้เวลาในการใช้ไปสักพักเนื้อสีอาจจะลื่น ทาง่ายขึ้น

หมดแล้วววสำหรับการรีวิวเครื่องสำอางค์จากไดโซะ
เดี๋ยวชิจะมาสรุปให้ฟังกันอีกทีน้าา
สำหรับตัวชิเองชอบสิ่งเหล่านี้
ประกอบไปด้วย รองพื้น แป้งพัฟผสมรองพื้น อายแชร์โดวตลับ4สี และที่ดัดขนตา

สำหรับไอเทมที่คิดว่าเฉยๆ แต่ก็ไม่ถึงกับแย่หรือผิดหวังที่ซื้อมาคือสิ่งเหล่านี้คะ


เดี๋ยวเรามาดูรูปภาพหลังจากแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางค์จากมูจิกันเลยจ้า


สำหรับลุคนี้มีแค่ที่เขียนคิ้วกับเฉดดิ้งที่ชิไม่ได้ใช้ของมูจิน้าา

นี่คือรายชื่อเมคอัพทั้งหมดที่นำมารีวิวในวันนี้คะ
Foundation SPF27 PA++ (1100เยน) สี ocher
Concealer (800เยน) สี light
Powder foundation SPF32 PA++ (1000เยน) สี beige natural
Eye base color (550เยน) สี gold
Eye color (750เยน) สี Brown
Eyelash curler (550เยน)
Mascara (900เยน)
Cheek color (600เยน) สี orange
Lucent powder (1050เยน) Honey beige
Lip pencil (380เยน)

และนี่คือการรีวิวแบบความเห็นส่วนตัวของชิน้า หากใครชอบหรือเล็งตัวไหนไว้
ก็ลองไปเทสดูที่ร้านก่อนได้ค่าาา วันนี้ขอลาไปก่อนน้า บ้ายบายย สวัสดีคะ
ชื่อสินค้า:   muji
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่