หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR][SR] มาเที่ยว"กาญนะจ๊ะบุรี" หน้าฝนให้ชุ่มฉ่ำหัวใจกันเถอะ!!
กระทู้รีวิว
ภาพถ่ายทิวทัศน์
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวไทย
จังหวัดกาญจนบุรี
เที่ยวหน้าฝนก็เฟี้ยวได้ "กาญจนบุรี" เป็นจังหวัดที่มีธรรมชาติที่สมบูรณ์จังหวัดหนึ่ง เหมาะจะมาเปรี้ยวในหน้าฝน มานั่งชมหมอกรับอากาศอันแสนสดชื่นเข้าสู่ร่างกายกันบ้าง หลังจากที่ผ่านหน้าร้อนมาแล้ว คุณพร้อมรึยังครับ ถ้าพร้อม เตรียมตัวเตรียมใจเปียกแฉะกันได้เลย Let's go !!!!!!!
เราจะไปเที่ยวไหนกันบ้าง แผนผมมีดังนี้ครับ
1.พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด
2.นอนแพ แอทราฟท์ ที่ไทรโยคใหญ่
3.สะพานมอญ (สังขละบุรี)
4.ด่านเจดีย์ สามองค์
5.เหมืองปิล็อก บ้านอีต่อง เนินช้างศึก
6.น้ําตกจ๊อกกระดิ่น
7.เขื่อนวชิราลงกรณ
หลังจานั่งรถเมื่อยตัวกันเป็นเวลา 2 ชั่งโมงครึ่ง ปกติถ้ารถไม่ติดและไม่แวะไหนเลย 2 ชั่วโมงก็จะถึงตัวเมืองครับ
ซึ่งออกตอนเช้าถึงตอนบ่ายๆ ก็หิวกันแล้วใช่ไหมครับ ผมแนะนำเลย ร้านโตโต้เจ้าเดียว เราจะไปซื้อผ้าปูที่นอนที่นั่นกัน เย้ยย ไม่ใช่ครับ! เราจะไปรับประทานอาหารเที่ยงกัน ท่านไม่เข้าใจผิดหรอกครับ เพราะว่าร้านนี้เป็นสุดยอดก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู-เนื้อ-ปลา ระดับตำนานเลยหล่ะ น้ำซุปเป็นสีขาวเหลืองทองจากซุปกระดูกหมูแท้ๆ ออกหวานๆเค็มๆรสชาติกลมกล่อมมากครับ ที่ตั้งร้านอยู่ในตลาดขนส่ง ในตัวจังหวัดกาญจบุรี
พออิ่มท้องพร้อมลุยกันต่อ ที่พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด อำเภอไทรโยค ห่างจากตัวเมืองกาญจน์ประมาณ 80 กิโลเมตร สามารถขับรถไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 323 สู่อำเภอทองผาภูมิ สังเกตได้เมื่อขับรถเลยน้ำตกไทรโยคน้อยไปประมาณ 20 กิโลเมตร ทางเข้าพิพิธภัณฑ์จะอยู่ทางซ้ายมือ ที่เที่ยวเชิงประวัติศาสตร์เก่าแก่อีกที่หนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งผมแนบประวัติคร่าวๆเอาไว้นะครับเอามาจาก wikipedia
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
"ช่องเขาขาด" หรือ "ช่องไฟนรก" เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายไทย-พม่า (เส้นทางรถไฟสายมรณะ)ตลอดเส้นทางรถไฟสายไทย-พม่า (เส้นทางรถไฟสายมรณะ)มีหลายจุดที่มีเนินหิน ภูเขา หน้าผา หรือหุบเหว ขวางอยู่จึงต้องขุดให้เป็นช่องเพื่อที่รถไฟสามารถวิ่งผ่านไปได้ซึ่งที่ช่องเขาขาด หรือ ช่องไฟนรก เป็นจุดที่ใหญ่ที่สุดบนเส้นทางนี้ การขุดเจาะช่องเขาขาดเริ่มในเดือนเมษายนปีพ.ศ. 2486 ปรากฏว่างานล่าช้ากว่ากำหนดจึงมีช่วงที่เร่งงานซึ่งแรงงานแต่ละกะต้องทำงานถึง 18 ชั่วโมงโดยงานส่วนใหญ่ล้วนใช้แรงคนทั้งสิ้น เช่นการสกัดภูเขาด้วยมือ ซึ่งเป็นการทำงานที่ทารุณยิ่ง เนื่องจากต้องปีนลงไปสกัดในช่องเขาซึ่งบางช่วงสูงถึง 11 เมตร จนแทบไม่มีอากาศหายใจทั้งยังต้องทำงานท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวในช่วงเดือนมีนาคม ในภาวะขาดแคลนน้ำและอาหาร เมื่อเจ็บป่วยแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ก็ไม่เพียงพอต่อการพยาบาลต้องดูแลกันตามมีตามเกิด เชลยศึกและกรรมกรที่ช่องเขาขาดต้องทำงานตอนกลางคืนด้วยแสงไฟจากคบเพลิงและกองเพลิงทำให้สะท้อนเห็นเงาของเชลยศึกและผู้คุมวูบวาบบนผนังทำให้ที่นี่ได้รับการขนานนามว่า "ช่องไฟนรก" หรือ Hellfire Pass ในภาษาอังกฤษ
สองข้างทางเป็นป่าไผ่และไม้ใหญ่ บรรยากาศร่มรื่น ทางเดินโรยกรวดก้อนใหญ่แบบทางรถไฟทั่วไป ควรใส่รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าพื้นแข็ง และเตรียมน้ำดื่มไปเองนะครับเพราะไม่มีร้านค้าระหว่างทาง เดินก็เหนื่อยหอบแหกกันไปตามๆกันเพราะใช้เวลาเดินเกือบ 1ชั่วโมง ครึ่ง พร้อมที่จะไปแช่น้ำลอยคอที่น้ำตกไทรโยคกันแล้วค๊าบ
พอมาถึงที่พักบอกเลย ต่างคนต่างไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบเปลี่ยนเปิดห้องเอาของมาเก็บแล้วเตรียมตัวโดดน้ำกันอย่างไม่รีรอ ผมถ่ายรูปที่แพที่ผมพักให้รับชมกันครับ ชื่อแพ แอทราฟท์ ที่นี่บอกเลยเขาบริการดีมากๆ บริการรับ-ส่ง ของถึงที่ เพราะต้องเดินจากที่จอดรถประมาณ 200 เมตร นะครับ
โชคดีมาก.....ที่ผมมาวันธรรมดา ผมมานี่เป็นเหมือนแพส่วนตัวเลย แต่ถ้ามาวันศุกร์-เสา-อาทิตย์ อาจจะเต็มทั้งแพ ผมแนะนำให้โทรสอบถามก่อนเลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
https://www.facebook.com/pages/%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9F%E0%B8%97%E0%B9%8C-%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B9%88/628871340559189
<< ลิ๊งที่พักแพ แอทลาฟท์
หง่อวว เย็นสุดๆไปเลย
น้ำที่นี่ไหลไม่แรงครับ สามารถไปลอยคอจากอีกฝั่งมาอีกฝั่งได้เลย
หลังจากที่เล่นน้ำจนหมดแรงแล้วก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า มาทานข้าวเย็นริมน้ำบนแพกัน(ผมแนะนำว่าให้รีบสั่งข้าวก่อน 1 ทุ่มนะครับเพราะครัวปิด 1 ทุ่ม ไปถึงให้เราสั่งไว้ก่อนเลยแล้วบอกเขาว่าพร้อมรับประทานอาหารกี่โมง) ถัดจากโต๊ะกินข้าวก็มีสะพานเหล็กข้ามแม่น้ำ มีน้ำไหลอ่อนๆผ่านแพ ชิลๆ สบ๊ายสบาย รสชาติอาหารที่นี่ก็อร่อยจริงๆครับ ไม่ต้องซื้อเข้ามาทานเลย เพราะราคาอาหารที่นี่ก็ไม่แพงอย่างที่คิดสำหรับบรรยากาศธรรมชาติแบบนี้
เล่นไปเล่นมา กางเกงขาดซะงั้นครับ แต่ช้าอยู่ใย อาหารมาแล้วก็รีบถ่ายอย่างไม่รีรอเพราะกลัวแสงหมด ฮ่าาๆๆ
กินไปมองวิวไปแปปเดียวก็หมดวันแล้วครับ เวลามีที่มีความสุขมันผ่านไปเร็ว จริง จริ๊ง ซักพักพระอาทิตย์ก็ตกแล้ว มาดูบรรยากาศตอนเย็นที่นี่กันครับ
นั่งจิบเบียร์เย็นๆ เอาเท้าจุ่มน้ำปล่อยให้ปลาตอด จ๊วบๆ จั๊กจี้หัวใจเล่นๆกัน
ที่ถ่ายรูปนี่คือปลาตะเพียนหางแดงตัวใหญ่มาก แต่มองในรูปเหมือนเล็ก ซึ่งตอนผมมานั่งก็เอาป๊อกกี้หักทีละนิดโยนให้กินทีละอัน ชิลปะหล่ะครับฮ่าๆ
ตอนกลางคืนอากาศเย็นสบายมาก ต้องลุกมาปิดพัดลมตอนดึกๆ เพราะมันเริ่มหนาวละ เลยทำให้ตื่นเกือบสาย หลับเพลินไปหน่อย รีบตื่นมาคว้ากล้องออกไปถ่ายทันที ในขณะที่ยังเมาขี้ฟันตัวเองอยู่เลยฮ่าๆ
พี่ผมเดินข้ามไปฝั่งตรงข้ามครับ เลยจัดซักชอต แช๊ะ
หลังจากที่เดินเซอร์'เวย์ เซลลงคลองท้องก็เริ่มร้องจ๊อกๆ ก็ได้ไปรับประทานอาหารเช้า ที่แพจัดเตรียมไว้ให้ครับ
ใส่พริกไทยนิดๆ แม๊กกี้เหยาะหน่อยๆ อร่อยมากครับ เป็นไข่ดาวที่อร่อยที่สุดเท่าที่กินมา ฮ่าาาา
หลังจากที่เติมพลัง เก็บของก่อนออกเดินทางต่อไปคือ สะพานมอญ (สังขละบุรี) ผมก็ได้เดินไปถ่ายรูปตรงทางเข้า มันจะมีตาน้ำพุน้ำตกไทรโยคใหญ่อยู่ครับ จากที่จอดรถ เลี้ยวซ้ายไป เดินไปประมาณ 100 เมตร จะพบบ่อน้ำแร่ เฮ่ยไม่ใช่ครับ บ่อน้ำซึ้งน้ำใสมากครับ เป็นน้ำจากตาน้ำพุ ซึ่งสามารถไปนอนแช่ได้สบายๆเลยไม่ลึกมาก เสียดายมากครับ เมื่อวานมาถึงเย็นไปหน่อยไม่งั้นบ่อนี้เป็นของผมแล้ว
ชื่อสินค้า:
ทริป 3 วัน 2 คืนที่ ไทรโยค สังขละบุรี ทองผาภูมิ ที่ตราตรึงใจ
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
สอบถามแพเมืองกาญจน์ (แม่น้ำแควน้อย) ที่คิดว่าบรรยากาศ และวิวดีที่สุดครับ
สอบถามแพเมืองกาญจน์ (แม่น้ำแควน้อย) ที่คิดว่าบรรยากาศ และวิวดีที่สุดครับ ตอนนี้ที่หาข้อมูลคือ วังนกแก้ว ไทรโยค วิว ราฟท์ เดอะ ริเวอร์แคว จังเกิล ราฟท์ เดอะ ฟอร์ เรสท์ รีสอร์ท คือแต่ละที่ในรูปสวยดีครั
สมาชิกหมายเลข 730317
เพราะชีวิตคือการเดินทาง... ทริปนี้ที่กาญจนบุรี (ไทรโยค วิว ราฟท์)
ทุกคนคงต้องการพักผ่อนในที่ๆสวย บรรยากาศดี และคนข้างกายดีๆ เหมือนเราแบตหมด แล้วได้ไปชาติแบตกับธรรมชาติ ... หน้าฝนแบบนี้ไปไหนดี.... ทุกคนคงต้องการพักผ่อนในที่ๆสวย บรรยากาศดี และคนข้างกายดีๆ ปะ... ชวนคนข
สมาชิกหมายเลข 1994424
ไปเที่ยวพักผ่อน @ไทรโยค วิว ราฟท์ กันคะ
หลังจากดองรูปไว้ 1 เดือนพอดี วันนี้มีเวลาว่างทำรีวิวทริปพักผ่อนกับครอบครัวมาให้ชมกันจ้า เราไปเที่ยวกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 7-8 มิถุนายน ที่ผ่านมาโดยจองที่พักล่วงหน้าไว้ 1 เดือนที่ " ไทรโยค วิว ราฟท
ปลาทองกุ๊กกิ๊ก
แพพัก..กาญจนบุรี ล่องแพ แลภูเขา เล่นน้ำตก ใกล้ชิดธรรมชาติ @น้ำตกไทรโยคใหญ่
เริ่มต้นจากการหาทริปที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก ทริปธรรมชาติๆ คลายร้อน ไปกันแบบครอบครัว ทำอาหารทานกัน เริ่มกันเลย เริ่มจากการหาที่พัก แล้วเราก็ได้พบกับที่พัก ที่น้ำตกไทรโยคใหญ่ โชคดีมาก แพที่เราไปพัก เพ
Again210
รบกวน...ช่วยวางโปรแกรมเที่ยวกาญจนบุรี-ไทรโยค ให้หน่อยค่ะ
รบกวน...ช่วยวางโปรแกรมเที่ยวกาญจนบุรี-ไทรโยค ให้หน่อยค่ะ จะไปเที่ยวกาญ วันที่ 07/11/15 - 08/11/15 รวม 2 วัน 1 คืน จองที่พักไว้แล้ว ที่ ไทรโยค วิว ราฟท์ แล้วค่ะ พอดีจะพาครอบครัว(ใหญ่)ประมาณ 14-15 ค
kitty_som1985
ไทรโยค วิว ราฟท์ ถ้าไม่มีรถยนต์ส่วนตัวต้องเดินทางยังไงน๊า
ไทรโยค วิว ราฟท์ ถ้าไม่มีรถยนต์ส่วนตัวต้องเดินทางยังไงน๊า ใครพอจะแนะนำได้บ้างคะ เส้นทางในการเดินทาง เดินทางมาจากทางใต้ ลงดอนเมืองแล้วจะไปอะไรยังไงต่อ เพราะส่วนมากที่อ่านรีวิวมีแต่ไปรถยนต์ส่วนตัวทั้งน
สมาชิกหมายเลข 2128364
รบกวนจัดตารางการเดินทางเที่ยว กาญจนบุรี หน่อยคะ
เดินทางวันที่ 5-8 ไม่มีรถไป วันที่5 จะนั่งรถทัวร์ไปลงสังขละบุรี แล้วพัก 1 คืน เที่ยวในสังขละ อยากปรึกษา วันที่6-8 พักที่ บูติค ราฟท์ รีสอร์ท ริเวอร์แคว 2 คืนเลย สถานที่อยากไป ตามนี่คะ วัดป่าหลวงตาบั
jingzjingz
อยากให้เพื่อนๆ โหวต ที่พัก ระหว่าง ไทรโยค วิว ราฟท์ VS เดอะ ฟอร์ เรสท์ รีสอร์ท จ.กาญ
อยากให้เพื่อนๆ โหวต ที่พัก ระหว่าง ไทรโยค วิว ราฟท์ VS เดอะ ฟอร์ เรสท์ รีสอร์ท จ.กาญจนบุรี ใครที่เคยไปพัก ที่ไหน ช่วยมา รีวิว ข้อดี - ข้อเสีย ของแต่ละที่ เป็นข้อมูล ให้ด้วยนะครับบบ -ที่พัก -บรรยา
NoteZa_MBK
กาญจนบุรี: ระหว่างวังนกแก้ว และไทรโยควิวราฟท์
มาขอข้อมูลเพื่อตัดสินใจค่ะ ใครเคยไปพัก 2 ที่นี้มาแล้วบ้างคะ เป็นอย่างไรบ้าง คือเราจะไปกาญฯ 2 คืนค่ะ เท่าที่ดูรีวิว ถูกใจ วังนกแก้ว และไทรโยควิวราฟท์ กำลังคิดว่า ถ้าเราจะเลือกพักที่ละคืน เพื่อนๆคิดว่า
You are my Chubby Garfield
นอนแพหรูริมเขื่อน ล่องแพเปียก เล่นสวนน้ำสนุกๆ กาญจนบุรี
หลบร้อน summer ชวนคนรักไปพักแพริมเขื่อน อากาศร้อนๆแบบนี้ จะเที่ยวทั้งที ไปหาที่คูลๆกันหน่อย มีกิจกรรมให้เล่นสนุกๆ นอนแพ แช่น้ำ ที่นี่ ลีฟ เลค กาญ&nbs
YhakTiewKorTiew
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ภาพถ่ายทิวทัศน์
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวไทย
จังหวัดกาญจนบุรี
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 17
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR][SR] มาเที่ยว"กาญนะจ๊ะบุรี" หน้าฝนให้ชุ่มฉ่ำหัวใจกันเถอะ!!
เราจะไปเที่ยวไหนกันบ้าง แผนผมมีดังนี้ครับ
1.พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด
2.นอนแพ แอทราฟท์ ที่ไทรโยคใหญ่
3.สะพานมอญ (สังขละบุรี)
4.ด่านเจดีย์ สามองค์
5.เหมืองปิล็อก บ้านอีต่อง เนินช้างศึก
6.น้ําตกจ๊อกกระดิ่น
7.เขื่อนวชิราลงกรณ
หลังจานั่งรถเมื่อยตัวกันเป็นเวลา 2 ชั่งโมงครึ่ง ปกติถ้ารถไม่ติดและไม่แวะไหนเลย 2 ชั่วโมงก็จะถึงตัวเมืองครับ
ซึ่งออกตอนเช้าถึงตอนบ่ายๆ ก็หิวกันแล้วใช่ไหมครับ ผมแนะนำเลย ร้านโตโต้เจ้าเดียว เราจะไปซื้อผ้าปูที่นอนที่นั่นกัน เย้ยย ไม่ใช่ครับ! เราจะไปรับประทานอาหารเที่ยงกัน ท่านไม่เข้าใจผิดหรอกครับ เพราะว่าร้านนี้เป็นสุดยอดก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู-เนื้อ-ปลา ระดับตำนานเลยหล่ะ น้ำซุปเป็นสีขาวเหลืองทองจากซุปกระดูกหมูแท้ๆ ออกหวานๆเค็มๆรสชาติกลมกล่อมมากครับ ที่ตั้งร้านอยู่ในตลาดขนส่ง ในตัวจังหวัดกาญจบุรี
พออิ่มท้องพร้อมลุยกันต่อ ที่พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด อำเภอไทรโยค ห่างจากตัวเมืองกาญจน์ประมาณ 80 กิโลเมตร สามารถขับรถไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 323 สู่อำเภอทองผาภูมิ สังเกตได้เมื่อขับรถเลยน้ำตกไทรโยคน้อยไปประมาณ 20 กิโลเมตร ทางเข้าพิพิธภัณฑ์จะอยู่ทางซ้ายมือ ที่เที่ยวเชิงประวัติศาสตร์เก่าแก่อีกที่หนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งผมแนบประวัติคร่าวๆเอาไว้นะครับเอามาจาก wikipedia
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สองข้างทางเป็นป่าไผ่และไม้ใหญ่ บรรยากาศร่มรื่น ทางเดินโรยกรวดก้อนใหญ่แบบทางรถไฟทั่วไป ควรใส่รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าพื้นแข็ง และเตรียมน้ำดื่มไปเองนะครับเพราะไม่มีร้านค้าระหว่างทาง เดินก็เหนื่อยหอบแหกกันไปตามๆกันเพราะใช้เวลาเดินเกือบ 1ชั่วโมง ครึ่ง พร้อมที่จะไปแช่น้ำลอยคอที่น้ำตกไทรโยคกันแล้วค๊าบ
พอมาถึงที่พักบอกเลย ต่างคนต่างไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบเปลี่ยนเปิดห้องเอาของมาเก็บแล้วเตรียมตัวโดดน้ำกันอย่างไม่รีรอ ผมถ่ายรูปที่แพที่ผมพักให้รับชมกันครับ ชื่อแพ แอทราฟท์ ที่นี่บอกเลยเขาบริการดีมากๆ บริการรับ-ส่ง ของถึงที่ เพราะต้องเดินจากที่จอดรถประมาณ 200 เมตร นะครับ
โชคดีมาก.....ที่ผมมาวันธรรมดา ผมมานี่เป็นเหมือนแพส่วนตัวเลย แต่ถ้ามาวันศุกร์-เสา-อาทิตย์ อาจจะเต็มทั้งแพ ผมแนะนำให้โทรสอบถามก่อนเลยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ << ลิ๊งที่พักแพ แอทลาฟท์
หง่อวว เย็นสุดๆไปเลย น้ำที่นี่ไหลไม่แรงครับ สามารถไปลอยคอจากอีกฝั่งมาอีกฝั่งได้เลย
หลังจากที่เล่นน้ำจนหมดแรงแล้วก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า มาทานข้าวเย็นริมน้ำบนแพกัน(ผมแนะนำว่าให้รีบสั่งข้าวก่อน 1 ทุ่มนะครับเพราะครัวปิด 1 ทุ่ม ไปถึงให้เราสั่งไว้ก่อนเลยแล้วบอกเขาว่าพร้อมรับประทานอาหารกี่โมง) ถัดจากโต๊ะกินข้าวก็มีสะพานเหล็กข้ามแม่น้ำ มีน้ำไหลอ่อนๆผ่านแพ ชิลๆ สบ๊ายสบาย รสชาติอาหารที่นี่ก็อร่อยจริงๆครับ ไม่ต้องซื้อเข้ามาทานเลย เพราะราคาอาหารที่นี่ก็ไม่แพงอย่างที่คิดสำหรับบรรยากาศธรรมชาติแบบนี้
เล่นไปเล่นมา กางเกงขาดซะงั้นครับ แต่ช้าอยู่ใย อาหารมาแล้วก็รีบถ่ายอย่างไม่รีรอเพราะกลัวแสงหมด ฮ่าาๆๆ
กินไปมองวิวไปแปปเดียวก็หมดวันแล้วครับ เวลามีที่มีความสุขมันผ่านไปเร็ว จริง จริ๊ง ซักพักพระอาทิตย์ก็ตกแล้ว มาดูบรรยากาศตอนเย็นที่นี่กันครับ
นั่งจิบเบียร์เย็นๆ เอาเท้าจุ่มน้ำปล่อยให้ปลาตอด จ๊วบๆ จั๊กจี้หัวใจเล่นๆกัน
ที่ถ่ายรูปนี่คือปลาตะเพียนหางแดงตัวใหญ่มาก แต่มองในรูปเหมือนเล็ก ซึ่งตอนผมมานั่งก็เอาป๊อกกี้หักทีละนิดโยนให้กินทีละอัน ชิลปะหล่ะครับฮ่าๆ
ตอนกลางคืนอากาศเย็นสบายมาก ต้องลุกมาปิดพัดลมตอนดึกๆ เพราะมันเริ่มหนาวละ เลยทำให้ตื่นเกือบสาย หลับเพลินไปหน่อย รีบตื่นมาคว้ากล้องออกไปถ่ายทันที ในขณะที่ยังเมาขี้ฟันตัวเองอยู่เลยฮ่าๆ
พี่ผมเดินข้ามไปฝั่งตรงข้ามครับ เลยจัดซักชอต แช๊ะ
หลังจากที่เดินเซอร์'เวย์ เซลลงคลองท้องก็เริ่มร้องจ๊อกๆ ก็ได้ไปรับประทานอาหารเช้า ที่แพจัดเตรียมไว้ให้ครับ
ใส่พริกไทยนิดๆ แม๊กกี้เหยาะหน่อยๆ อร่อยมากครับ เป็นไข่ดาวที่อร่อยที่สุดเท่าที่กินมา ฮ่าาาา
หลังจากที่เติมพลัง เก็บของก่อนออกเดินทางต่อไปคือ สะพานมอญ (สังขละบุรี) ผมก็ได้เดินไปถ่ายรูปตรงทางเข้า มันจะมีตาน้ำพุน้ำตกไทรโยคใหญ่อยู่ครับ จากที่จอดรถ เลี้ยวซ้ายไป เดินไปประมาณ 100 เมตร จะพบบ่อน้ำแร่ เฮ่ยไม่ใช่ครับ บ่อน้ำซึ้งน้ำใสมากครับ เป็นน้ำจากตาน้ำพุ ซึ่งสามารถไปนอนแช่ได้สบายๆเลยไม่ลึกมาก เสียดายมากครับ เมื่อวานมาถึงเย็นไปหน่อยไม่งั้นบ่อนี้เป็นของผมแล้ว
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว