ไปเที่ยวเกาะพะงัน เช่ามอเตอร์ไซด์ ทำรถล้ม ถูกเรียกค่าเสียหายมากเกินไป

ผมไปเที่ยวเกาะพะงั้น เมื่อวันที่ 19-23 มิ.ย. 2559 ที่ผ่านมา  ตัดสินใจเช่ามอเตอร์ไซด์เพื่อใช้เที่ยวและเดินทาง

ผมเช่ารถ ยามาฮ่า แกรนด์ฟีลาโน่  ค่าเข่า 200 บาท/วัน จ่ายค่าเช่า 800 บาท มัดจำ 2000 บาท พร้อมให้บัตรประชาชนไป

วันที่ 2 ของการเช่า ผมขี่รถไปล้มที่ทางไปเกาะม้า ซึ่งกำลังทำทาง  ล้มในช่วงที่เป็นหินคลุก  ผมทำรถล้ม 3 ครั้ง จนขาวบ้านที่ผ่านมาต้องมาช่วยขี่รถให้พ้นทางลูกรังที่มีหินคลุก  ผมจึงขี่กลับที่พักได้

ผมบาดเจ็บมีแผลถลอก  ก็รีบไปล้างแผลทายา  ไม่ได้ไปโรงพยาบาล เพราะคิดว่าขี่ด้วยความเร็วต่ำมากๆ  ที่ล้มเพราะหินร่วนๆมันทำให้ทรงตัวไม่ได้แล้วล้ม

ส่วนสภาพรถ ก็มีรอยถลอกรอบคัน

วันที่ 3 ของการเช่า ผมเอารถไปให้ที่ร้านดู และขอดูราคาค่าเสียหายที่เขาเรียกเก็บ   ทางร้านมีแบบฟอร์ม และราคาต่อชิ้นส่วนที่เสียหาย  ผลรวมค่าเสียหายจากแบบฟอร์ม 37,800 บาท  เขาว่าเป็นคนไทยด้วยกัน ลดให้ 50%  ถ้าเป็นต่างชาติจะลดแค่ 30%

ค่าเสียหายสูงมาก ผมจึงขอให้เขาลดให้อีก  สุดท้ายจบที่ 16,000 บาท  ผมต่อรองและยืนยันว่ามีเงินจ่ายแค่ 12,000 บาท  คุยกันอยู่นาน เริ่มโดนด่าว่าเห็นแก่ตัวอย่างงั้นอย่างงี้   ดูแล้วทางร้านคงไม่ยอม  อยู่ต่อก็โดนด่ามากขึ้น   โทรปรึกษาเพื่อนที่มีความรู้เรื่องมอเตอร์ไซด์ ก็ยืนยันว่าเขาเรียกแพงเกินไปมาก และ แนะนำว่าให้ไปหาตำรวจ

ผมจึงไปหาตำรวนสถานีพะงัน  สุดท้ายตำรวจก็ให้ทางร้านส่งคนมาเจรจากับผม   สรุป  ให้เอารถไปซ่อมที่ศูยน์ยามาฮ่า ให้มีสภาพดีดังเดิม และให้ผมจ่ายค่าเสียโอกาสที่ทางร้านไม่ได้ค่าเช่าระหว่างซ่อม

ผมและตัวแทนทางร้านจึงนำรถไปที่ศูนย์ยามาฮ่าที่เกาะพะงัน ให้ประเมินค่าซ่อม ผลออกมาดังนี้
ค่าอะไหล่ + ค่าแรง    =   7,340 บาท
ค่ารออะไหล่และซ่อม 21 วัน วันละ 200 บาท รวมเป็น  4,200 บาท
รวมเงินที่ผลต้องจ่ายจากการทำรถล้ม    11,540 บาท

ผมโดนตัวแทนทางร้านหาเรื่องด่า อย่างต่อเนื่อง จนวันเอารถไปคืน  เขาว่าเขาให้พ่อของเขาไปคุยกับตำรวจที่ไกล่เกลี่ย และว่าจะหาทางร้องเรียน  เพราะทุกเรื่องที่ผ่านมา เขาไม่ได้รับความเป็นธรรมจาก ตำรวจ

ผมเอาเรื่องนี้มาแชร์ เพื่อ ไม่ให้ทางร้านหากินกับการเรียกค่าเสียหายแบบมากเกินไป
- ทางร้านยอมรับว่า เขามีรายได้จากเรื่อง รถล้ม  ผมขอบอกว่าสูงมากเลยละ
- ตำรวจบอกว่า เรื่องทำรถเขาเสียหายเป็น คดีแพ่ง  หากตกลงกันไม่ได้ ก็ให้ไปฟ้องร้องกัน
- ทางร้านไม่สามารถยึดบัตรประชาชน หรือ พาสพอร์ตของผู้เช่า  เพื่อต่อรองเรียกค่าเสียหาย  หากทำจะผิดคดีอาญาทันที
- ผู้เช่าที่มีเรื่องค่าเสียหาย  แนะว่าไม่ควร ไปวันสุดท้ายของทริป  เผื่อเวลาการติดต่ออื่นๆด้วย  มิเช่นนั้นก็ต้องยอมจ่ายตามที่ทางร้านพอใจ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่