สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นข้าราชการที่เพิ่งจะได้รับเข้าบรรจุ ซึ่งบรรจุมาได้เกิน 6 เดือน ซึ่งถือว่าผ่านโปรการทดลองงานแล้ว การเข้ารับราชการเป็นความหวังของครอบครัวของดิฉัน นอกจากจะภาคภูมิใจแล้วยังสามารถช่วยเหลือพ่อแม่ในเรื่องสิทธิการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลขอรัฐได้
ปัญหาของดิฉันคือ ดิฉันทำงานมาจนเกือบจะครบ 1 ปี แล้ว ตอนนี้สิทธิและสวัสดิการในการเบิกจ่ายตรงของแม่ยังไม่ขึ้น ซึ่งแสดงว่า แม่ของดิฉันยังไม่สามารถทำเรื่องเบิกจ่ายตรงกับทางโรงพยาบาลของรัฐได้ นอกจากนั้นสิทธิเรื่องของบัตรทองที่แม่เคยใช้ก็ไม่สามารถใช้ได้เช่นกัน แม่ของดิฉันต้องใช้เงินในการรักษาพยาบาลเองซึ่งทางบ้านก็ยากจน บางครั้งแม่ตัดสินใจไม่ไปโรงพยาบาลเนื่องจากเห็นว่าไม่เป็นอะไรมากกลัวจะเปลืองเงินทองซึ่งก็มีน้อยมาก ตอนนี้ความหวังเดียวคือการได้สิทธิเบิกจ่ายตรงกับทางโรงพยาบาล (แม่ของดิฉันอยู่ต่างจังหวัดค่ะ ไกลจากที่ทำงานของดิฉันมาก จึงไม่สามารถนำค่ารักษาที่จ่ายเองก่อนกลับมาเบิกกับทางต้นสังกัดได้สะดวก) กลับกันพอของดิฉันกลับมีสิทธิแล้ว
ที่มาของปัญหาคือ การคีย์ระบบของมูลของนายทะเบียนที่ต้นสังกัดนี่แหละค่ะที่จะต้องคีย์ข้อมูลลงไปในระบบของกรมบัญชีกลางเพื่อให้ชื่อแม่ของดิฉันขึ้นสิทธิสามารถทำเรื่องเบิกจ่ายตรงได้ ดิฉันคิดว่าโดนกลั่นแกล้งน่ะค่ะ ซึ่งก็เคยบอกไปแล้วแต่ก็กลับเพิกเฉย เคยโทรไปสอบถามกับกรมบัญชีกลางก็ได้คำตอบว่า ได้มอบให้นายทะเบียนของหน่วยงานท่านเป็นนายทะเบียน มีอำนาจผู้เดียวในการคีย์ข้อมูล (นั้นหมายความว่าถ้าเขาไม่ชอบดิฉันหรืออยากกลั่นแกล้งก็จะไม่คีย์ข้อมูลให้ดิฉัน)
ดิฉันขอถามท่านผู้รู้น่ะค่ะ
1.การคีย์ข้อมูลลงในระบบของกรมบัญชีกลางถึงสิทธิการเบิกจ่ายตรงกับโรงพยาบาล มีการกำหนดระยะเวลาไหมค่ะ ว่า ต้องคีย์ข้อมูลภายในระยะเวลากี่วัน เพื่อให้ข้าราชการได้สิทธิ์ (มิฉะนั้นนายทะเบียนที่ได้มอบหมายถ้าใช้ความรู้สึกส่วนตัว มากกว่า คำว่าความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ไม่คีย์ข้อมูลให้แม่ของดิฉัน อาจทำให้ดิฉันเสียสิทธิที่พึงจะได้รับ)
2.หากการกระทำดังกล่าวทำให้ดิฉันเสียสิทธิ์ ดิฉันสามารถฟ้องร้องได้ไหมค่ะ
3. นายทะเบียน ตามที่กรมบัญชีกลางตั้งไว้ ละเลยต่อหน้าที่ มีความผิดไหมค่ะ
รบกวนผู้รู้ช่วยตอบหน่อยน่ะค่ะ จะขอขอบพระคุณมากๆ
***อยากขอความเห็นใจผู้ที่รู้ช่วยตอบหรือให้คำปรึกษาหรือให้คำแนะนำแก่ดิฉันด้วยค่ะ จะเป็นการช่วยเหลือแก่ดิฉันเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากแม่ของดิฉันมีเหตุฉุกเฉินก็ต้องออกเงินค่ารักษาไปก่อน ซึ่งถ้าต้องใช้เงินมากเกินกว่าจะจ่ายได้ เพราะต้องสำรองจ่ายก่อน ต้องกู้ยืมเงินมา ทั้งๆที่แม่ดิฉันมีสิทธิเบิกจ่ายตรงได้อยู่แล้ว ติดแค่ข้าราชการเห็นแก่ตัวที่ใช้ความรู้สึกส่วนตัว บ้าอำนาจ กลั่นแกล้งข้าราชการที่เด็กกว่า ***
*อย่าด่าอย่าว่าดิฉันน่ะค่ะ ดิฉันใหม่จริงๆ แค่อยากได้คำปรึกษาจากข้าราชการด้วยกันหรือจากผู้นู้กฏหมายเท่านั้นเอง*
โดนกลั่นแกล้งในเสียสิทธิ์
ปัญหาของดิฉันคือ ดิฉันทำงานมาจนเกือบจะครบ 1 ปี แล้ว ตอนนี้สิทธิและสวัสดิการในการเบิกจ่ายตรงของแม่ยังไม่ขึ้น ซึ่งแสดงว่า แม่ของดิฉันยังไม่สามารถทำเรื่องเบิกจ่ายตรงกับทางโรงพยาบาลของรัฐได้ นอกจากนั้นสิทธิเรื่องของบัตรทองที่แม่เคยใช้ก็ไม่สามารถใช้ได้เช่นกัน แม่ของดิฉันต้องใช้เงินในการรักษาพยาบาลเองซึ่งทางบ้านก็ยากจน บางครั้งแม่ตัดสินใจไม่ไปโรงพยาบาลเนื่องจากเห็นว่าไม่เป็นอะไรมากกลัวจะเปลืองเงินทองซึ่งก็มีน้อยมาก ตอนนี้ความหวังเดียวคือการได้สิทธิเบิกจ่ายตรงกับทางโรงพยาบาล (แม่ของดิฉันอยู่ต่างจังหวัดค่ะ ไกลจากที่ทำงานของดิฉันมาก จึงไม่สามารถนำค่ารักษาที่จ่ายเองก่อนกลับมาเบิกกับทางต้นสังกัดได้สะดวก) กลับกันพอของดิฉันกลับมีสิทธิแล้ว
ที่มาของปัญหาคือ การคีย์ระบบของมูลของนายทะเบียนที่ต้นสังกัดนี่แหละค่ะที่จะต้องคีย์ข้อมูลลงไปในระบบของกรมบัญชีกลางเพื่อให้ชื่อแม่ของดิฉันขึ้นสิทธิสามารถทำเรื่องเบิกจ่ายตรงได้ ดิฉันคิดว่าโดนกลั่นแกล้งน่ะค่ะ ซึ่งก็เคยบอกไปแล้วแต่ก็กลับเพิกเฉย เคยโทรไปสอบถามกับกรมบัญชีกลางก็ได้คำตอบว่า ได้มอบให้นายทะเบียนของหน่วยงานท่านเป็นนายทะเบียน มีอำนาจผู้เดียวในการคีย์ข้อมูล (นั้นหมายความว่าถ้าเขาไม่ชอบดิฉันหรืออยากกลั่นแกล้งก็จะไม่คีย์ข้อมูลให้ดิฉัน)
ดิฉันขอถามท่านผู้รู้น่ะค่ะ
1.การคีย์ข้อมูลลงในระบบของกรมบัญชีกลางถึงสิทธิการเบิกจ่ายตรงกับโรงพยาบาล มีการกำหนดระยะเวลาไหมค่ะ ว่า ต้องคีย์ข้อมูลภายในระยะเวลากี่วัน เพื่อให้ข้าราชการได้สิทธิ์ (มิฉะนั้นนายทะเบียนที่ได้มอบหมายถ้าใช้ความรู้สึกส่วนตัว มากกว่า คำว่าความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ไม่คีย์ข้อมูลให้แม่ของดิฉัน อาจทำให้ดิฉันเสียสิทธิที่พึงจะได้รับ)
2.หากการกระทำดังกล่าวทำให้ดิฉันเสียสิทธิ์ ดิฉันสามารถฟ้องร้องได้ไหมค่ะ
3. นายทะเบียน ตามที่กรมบัญชีกลางตั้งไว้ ละเลยต่อหน้าที่ มีความผิดไหมค่ะ
รบกวนผู้รู้ช่วยตอบหน่อยน่ะค่ะ จะขอขอบพระคุณมากๆ
***อยากขอความเห็นใจผู้ที่รู้ช่วยตอบหรือให้คำปรึกษาหรือให้คำแนะนำแก่ดิฉันด้วยค่ะ จะเป็นการช่วยเหลือแก่ดิฉันเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากแม่ของดิฉันมีเหตุฉุกเฉินก็ต้องออกเงินค่ารักษาไปก่อน ซึ่งถ้าต้องใช้เงินมากเกินกว่าจะจ่ายได้ เพราะต้องสำรองจ่ายก่อน ต้องกู้ยืมเงินมา ทั้งๆที่แม่ดิฉันมีสิทธิเบิกจ่ายตรงได้อยู่แล้ว ติดแค่ข้าราชการเห็นแก่ตัวที่ใช้ความรู้สึกส่วนตัว บ้าอำนาจ กลั่นแกล้งข้าราชการที่เด็กกว่า ***
*อย่าด่าอย่าว่าดิฉันน่ะค่ะ ดิฉันใหม่จริงๆ แค่อยากได้คำปรึกษาจากข้าราชการด้วยกันหรือจากผู้นู้กฏหมายเท่านั้นเอง*