เราไม่ทราบโครงสร้างของหลุมดำ และก็ไม่มีทางสังเกตใต้ขอบฟ้าเหตุการณ์ได้เลย เหมือนที่เราไม่รู้ว่าในอะตอมประกอบด้วยอะไรบ้าง ในปัจจุบันจึงเอาอะตอมมาชนกันที่ความเร็วใกล้แสง แล้วสังเกตว่ามีอนุภาคอะไรปรากฎออกมาหลังจากการชนจนโครงสร้างอะตอมแตกสลาย ยิ่งใช้พลังงานในการชนมากเท่าใดก็ยิ่งได้ข้อมูลมากขึ้น เทคโนโลยีปัจจุบันเราทำได้แต่เอาอะตอมมาชนกัน เพราะมีปัญญาแค่นี้
ถ้ามนุษย์ไม่สูญพันธ์ไปก่อนและยังคงพัฒนาวิทยาการไปด้วยอัตราเร่ง ถ้าองค์การอย่าง CERN ยังคงอยู่ บางทีอาจมีการทดลองนำหลุมดำมวลมหาศาลสองหลุมวิ่งเข้าชนกันด้วยความเร็วใกล้แสง เพื่อตรวจสอบข้อมูลที่หลุดออกจากหลุมดำ ฟังดูอาจเหลือเชื่อ แต่ไม่แน่ว่าในอนาคตอีกหมื่นปีหรือแสนปีข้างหน้า อาจมีวิทยาการที่สามารถทำได้
การทดลองของ CERN ในอีก 10000 ปีข้างหน้า
ถ้ามนุษย์ไม่สูญพันธ์ไปก่อนและยังคงพัฒนาวิทยาการไปด้วยอัตราเร่ง ถ้าองค์การอย่าง CERN ยังคงอยู่ บางทีอาจมีการทดลองนำหลุมดำมวลมหาศาลสองหลุมวิ่งเข้าชนกันด้วยความเร็วใกล้แสง เพื่อตรวจสอบข้อมูลที่หลุดออกจากหลุมดำ ฟังดูอาจเหลือเชื่อ แต่ไม่แน่ว่าในอนาคตอีกหมื่นปีหรือแสนปีข้างหน้า อาจมีวิทยาการที่สามารถทำได้