สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกของผมซึ่งเป็นการเดินทางตัวคนเดียวตลอดทริป หากรีวิวผิดพลาดประการใดก็ขออภัยล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ด้วย
ตอนที่สองตามลิงค์
http://ppantip.com/topic/35351186 (หาที่พักที่หลวงพระบาง เที่ยวตามริมแม่น้ำคานไหลลงสู่น้ำโขง เข้าวัดเชียงทอง ชมพระอาทิตย์ตกดินที่พูสี)
ตอนที่สามตามลิงค์
http://ppantip.com/topic/35353300 (เที่ยวน้ำตกตาดแส้ เดินป่าชมน้ำตกที่อยู่ในชั้นที่ลึกกว่าโซนจัดให้เล่นน้ำ)
ตอนที่สี่ตามลิงค์
http://ppantip.com/topic/35363256 (เที่ยวน้ำตกตาดกวางซี เดินชมทัศนียภาพบริเวณน้ำตก)
ตอนที่ห้าตามลิงค์
http://ppantip.com/topic/35378698 (เที่ยวถ้ำติ่ง เดินเล่นเก็บตกบริเวณเมืองหลวงพระบาง)
ตอนที่หกตามลิงค์
http://ppantip.com/topic/35546206 (ตอนที่หก ตอนสุดท้ายเก็บตกวิวข้างถนนเส้นเมืองนาน-กาสี เก็บตกมุมวังเวียงที่ผู้คนไม่ค่อยไปกัน)
ขอกล่าวโดยภาพรวมในการเดินทางเบื้องต้น ผมออกเดินทางด้วยรถไฟเวลาประมาณ ๒๐.๓๐ น. ของวันที่ ๒๕ ธ.ค. ๒๕๕๙ ที่สถานีสามเสน พอถึงวันที่ ๒๖ ธ.ค. ผมถึงสถานีหนองคาย จากนั้นขึ้นรถสองแถว (๒๐ บาท) ไปสะพานมิตรมิตรภาพ ไทย - ลาว พอทำเรื่องข้ามด่านที่ฝั่งไทยเสร็จต่อรถข้ามสะพานมิตรภาพ (๒๐ บาท) เมื่อถึงด่านที่ฝั่งลาวทำเรื่องข้ามแดนเสร็จต่อรถเมล์เขียวขาวที่ฝั่งลาว (๖,๐๐๐ กีบ) ไปตลาดเช้า จากนั้นต่อรถเมล็เขียวขาวไปขนส่งเหนืออีก (๕,๐๐๐) กีบ เมื่อถึงขนส่งเหนือก็ต่อรถตู้เวียงจันทน์ - วังเวียง (๕๐,๐๐๐ กีบ) ก็ถึงที่วังเวียงรายๆ บ่ายสามครับผม
วันที่ ๑ ในลาว (๒๖ ธ.ค. ๒๕๕๘) เริ่มต้นหาที่พักในวังเวียงและเดินเที่ยวแค่ในตัวเมือง
ที่จริงผมมาวังเวียงไม่ต่ำกว่า ๓ ครั้งแล้ว ผมตั้งใจแค่แวะพักรอเดินทางไปหลวงพระบางช่วงกลางวัน ผมมาถึงนี่ก็เย็นพอสมควรวันนี้จึงยังไม่ค่อยมีอะไรมากนัก หาที่พักและจองเที่ยวรถไปหลวงพระบางต่อพรุ่งนี้เช้า เพราะว่าวิวหลวงพระบางนั้นสวยมาก เพราะผมอยากจะสัมผัสบรรยากาศวิวข้างทางของมัน
ภูเขาข้างหน้ามีชื่อว่าผาแดง ผมกะจะมาขึ้นภูนี้ขากลับจากหลวงพระบางแล้ว ในตัวเมืองยังคงสงบดี เดินเล่นได้ชิว ชิว
นี่คือวิวแม่น้ำซองครับ เดินเล่นยามเย็นรับวิตามินดีหน่อย
อันนี้ที่พักบังกะโลคลิฟวิวครับ วิวสวยงามมาก ถ้าใครได้มีโอกาศเหมาะมากเลยครับตรงนี้ ฮวงจุ้ยดีตามหลักความเชื่อของคนจีนที่ว่า ด้านหน้ามีแม่น้ำ หลังมีภูเขา
เวลายามเย็นๆ ชาวบ้านเมืองวังเวียงจะมาอาบน้ำที่ริมน้ำซอง ผมชอบมากที่จะปักหลักตรงนี้นานๆ เพื่อชื่นชมวิถีชีวิตของคนที่ดำเนินอย่างเรียบง่าย
สุดท้ายของวันแรกครับไม่มีอะไรมากเนื่องจากเดินทางมาจากกรุงเทพต่อรถหลายต่อและมาถึงวังเวียงก็บ่ายสาม ไหนจะหาที่พักอีก ผมเลยขอดื่มด่ำกับเครื่องดื่มและอาหาร ณ ที่ในภาพนี้ละกัน จบการเดินทางวันที่ ๑ ครับ
วันที่ ๒ ในลาว (๒๗ ธ.ค. ๒๕๕๘) ออกเดินทางมุ่งสู่หลวงพระบาง
รถตู้ที่ผมจองไว้เที่ยวรถเวลา ๐๙.๐๐ น. (๙๐,๐๐๐ กีบ เรื่องราคารถตู้ที่จองแล้วแต่เกสต์เฮาส์จะกำหนดนะครับ บางที่อาจจะ ๑๐๐,๐๐๐ กีบ ซึ่งท่านต้องเดินดูหาว่าอันไหนราคาถูกกว่ากัน แต่ถ้าหากเดินทางไปขึ้นคิวรถตู้ที่สนามบินเก่าช่วงนั้นราคาตกอยู่ที่ ๘๐,๐๐๐ กีบครีบ )
ผมบอกแล้วว่าวิวทางไปหลวงพระบางจากวังเวียงว่าสวยแค่ไหน
อีกรูป การเดินทางกลางวันในลาวถือว่าเพิ่มระดับความปลอดภัยเพิ่มขึ้นด้วยครับ เพราะหากเดินทางในเวลากลางคืนถนนมืดมากครับ แทบจะมองไม่เห็นทางและเส้นทางไปหลวงพระบางก็ต้องผ่านภูเขาที่สูงมากๆ ด้วย(เส้นทางกาสี - เมืองนาน - หลวงพระบาง)
ข้างทางวิวสวยดีครับ
ข้างหน้าก็สวยไม่แพ้กันครับ
วิวข้างทางมีหมู่บ้านเล็กๆ หลังเล็กๆ ก็อยู่อย่างมีความสุขได้
ภูเขาที่วังเวียงจะเป็นภูเขาหินปูนคล้ายทางแถวกระบี่ พังงา ครับผม
เส้นทางเข้าเมืองกาสีครับ แต่เราจะไม่เข้าเมืองกาสี จะมีทางเลี้ยวซ้ายออกทางไปเมืองนาน เพื่อเดินทางไปสู่เมืองหลวงพระบางต่อไปครับ
วิวข้างทางอีกรูปครับ ตอนนี้ผมเปิดกระจกรถตู้ขอแอบสูดบรรยากาศที่บริสุทธิ์สักซี้ดนึงครับ
เจอหมอกบ้างตามรายทางให้ชื่นใจ แต่ว่านี่เวลาประมาณ ๑๐.๐๐ น. แล้วนะครบก็ยังมีหมอกให้เห็น
ต่อไปก็จะขึ้นเขาที่สูงชันแล้วนะครับ ข้างหน้าหาได้ใช่ก้อนเมฆไม่ หากแต่เป็นหมอกครับผม ผมรีบดูนาฬิกาทันทีปรากฏว่าเวลาประมาณ ๑๑.๐๐ น. แล้ว ยังมีหมอกให้เห็นอยู่เหรอเนี่ย โอ้วววว!!!
ตอนนี้ผมได้เข้าไปในหมอกเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ รู้สึกเหมือนอยู่ใน Alone in the Dark มากเลย
กลางถนนแอบมีสายน้ำเล็กๆ ไหลผ่านด้วย เรียกได้ว่าถนนหนทางโหดใช้ได้เลยเชียว
หมอกเริ่มจางแล้ว
อย่าดูแต่วิวล่ะข้างหน้ามีป้ายเตือนโค้งอันตรายนะ ยิ่งไม่ค่อยมีราวกันตกซะด้วย
รถขับต่อไป และแล้วก็เจอวิวที่ โอ้ ว้าว ลาวมีที่อย่างนี้ด้วยเหรอ แบบว่าหลุดจากหมอกแล้วมาเจอวิวแบบนี้ แทบลืมหายใจไปเลยในตอนนั้น
อย่าเล่นโค้งเพลินนะครับที่นี่ ถนนทรุดตัวก็มีนะครับ มากลางคืนอาจมีหวัง....(ช่วยเติมคำในช่องว่าง)
อีกโค้งที่สวยงามครับ
ลงมาจากเขาแล้ว
วิวข้างทางครับผม
ยาวไปๆ
น่าถ่ายพรีเวดดิ้งกลางถนนมาก เสียดายผมดันโสดซะนี่
อีกรูปครับที่น่าถ่ายพรีเวดดิ้ง จูงมือเจ้าสาวไปเลยครับเดินขึ้นเขาไปสูงระดับนึง แล้วตากล้องสาดมุมกล้องอยู่ระดับที่ต่ำกว่าเจ้าบ่าว เจ้าสาวนะครับ แล้วอย่าหันมาที่กล้องนะ ให้หันไปทางอื่นผมว่า แหม เป็นภาพพรีเวดดิ้งที่สวยงามแน่ๆ เลยครับ (มโนครับ คนโสดมโน)
โอ้ว จะกลับเข้าไปในหมอกอีกแล้วสิเนี่ย
กลับมาอยู่ในหมอกอีกครั้ง นี่ก็เวลาประมาณ ๑๓.๐๐ น. เห็นจะได้แล้วนะครับ หมอกก็ยังไม่หายเลย
ไปตอนที่ ๒ ต่อเลยครับตามลิงค์
http://ppantip.com/topic/35351186
[CR] เที่ยวข้ามปี วังเวียง - หลวงพระบาง ๙ วัน ๘ คืน (๒๖ ธ.ค. ๒๕๕๘ - ๓ ม.ค. ๒๕๕๙)
สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกของผมซึ่งเป็นการเดินทางตัวคนเดียวตลอดทริป หากรีวิวผิดพลาดประการใดก็ขออภัยล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ด้วย
ตอนที่สองตามลิงค์ http://ppantip.com/topic/35351186 (หาที่พักที่หลวงพระบาง เที่ยวตามริมแม่น้ำคานไหลลงสู่น้ำโขง เข้าวัดเชียงทอง ชมพระอาทิตย์ตกดินที่พูสี)
ตอนที่สามตามลิงค์ http://ppantip.com/topic/35353300 (เที่ยวน้ำตกตาดแส้ เดินป่าชมน้ำตกที่อยู่ในชั้นที่ลึกกว่าโซนจัดให้เล่นน้ำ)
ตอนที่สี่ตามลิงค์ http://ppantip.com/topic/35363256 (เที่ยวน้ำตกตาดกวางซี เดินชมทัศนียภาพบริเวณน้ำตก)
ตอนที่ห้าตามลิงค์ http://ppantip.com/topic/35378698 (เที่ยวถ้ำติ่ง เดินเล่นเก็บตกบริเวณเมืองหลวงพระบาง)
ตอนที่หกตามลิงค์ http://ppantip.com/topic/35546206 (ตอนที่หก ตอนสุดท้ายเก็บตกวิวข้างถนนเส้นเมืองนาน-กาสี เก็บตกมุมวังเวียงที่ผู้คนไม่ค่อยไปกัน)
ขอกล่าวโดยภาพรวมในการเดินทางเบื้องต้น ผมออกเดินทางด้วยรถไฟเวลาประมาณ ๒๐.๓๐ น. ของวันที่ ๒๕ ธ.ค. ๒๕๕๙ ที่สถานีสามเสน พอถึงวันที่ ๒๖ ธ.ค. ผมถึงสถานีหนองคาย จากนั้นขึ้นรถสองแถว (๒๐ บาท) ไปสะพานมิตรมิตรภาพ ไทย - ลาว พอทำเรื่องข้ามด่านที่ฝั่งไทยเสร็จต่อรถข้ามสะพานมิตรภาพ (๒๐ บาท) เมื่อถึงด่านที่ฝั่งลาวทำเรื่องข้ามแดนเสร็จต่อรถเมล์เขียวขาวที่ฝั่งลาว (๖,๐๐๐ กีบ) ไปตลาดเช้า จากนั้นต่อรถเมล็เขียวขาวไปขนส่งเหนืออีก (๕,๐๐๐) กีบ เมื่อถึงขนส่งเหนือก็ต่อรถตู้เวียงจันทน์ - วังเวียง (๕๐,๐๐๐ กีบ) ก็ถึงที่วังเวียงรายๆ บ่ายสามครับผม
วันที่ ๑ ในลาว (๒๖ ธ.ค. ๒๕๕๘) เริ่มต้นหาที่พักในวังเวียงและเดินเที่ยวแค่ในตัวเมือง
ที่จริงผมมาวังเวียงไม่ต่ำกว่า ๓ ครั้งแล้ว ผมตั้งใจแค่แวะพักรอเดินทางไปหลวงพระบางช่วงกลางวัน ผมมาถึงนี่ก็เย็นพอสมควรวันนี้จึงยังไม่ค่อยมีอะไรมากนัก หาที่พักและจองเที่ยวรถไปหลวงพระบางต่อพรุ่งนี้เช้า เพราะว่าวิวหลวงพระบางนั้นสวยมาก เพราะผมอยากจะสัมผัสบรรยากาศวิวข้างทางของมัน
ภูเขาข้างหน้ามีชื่อว่าผาแดง ผมกะจะมาขึ้นภูนี้ขากลับจากหลวงพระบางแล้ว ในตัวเมืองยังคงสงบดี เดินเล่นได้ชิว ชิว
นี่คือวิวแม่น้ำซองครับ เดินเล่นยามเย็นรับวิตามินดีหน่อย
อันนี้ที่พักบังกะโลคลิฟวิวครับ วิวสวยงามมาก ถ้าใครได้มีโอกาศเหมาะมากเลยครับตรงนี้ ฮวงจุ้ยดีตามหลักความเชื่อของคนจีนที่ว่า ด้านหน้ามีแม่น้ำ หลังมีภูเขา
เวลายามเย็นๆ ชาวบ้านเมืองวังเวียงจะมาอาบน้ำที่ริมน้ำซอง ผมชอบมากที่จะปักหลักตรงนี้นานๆ เพื่อชื่นชมวิถีชีวิตของคนที่ดำเนินอย่างเรียบง่าย
สุดท้ายของวันแรกครับไม่มีอะไรมากเนื่องจากเดินทางมาจากกรุงเทพต่อรถหลายต่อและมาถึงวังเวียงก็บ่ายสาม ไหนจะหาที่พักอีก ผมเลยขอดื่มด่ำกับเครื่องดื่มและอาหาร ณ ที่ในภาพนี้ละกัน จบการเดินทางวันที่ ๑ ครับ
วันที่ ๒ ในลาว (๒๗ ธ.ค. ๒๕๕๘) ออกเดินทางมุ่งสู่หลวงพระบาง
รถตู้ที่ผมจองไว้เที่ยวรถเวลา ๐๙.๐๐ น. (๙๐,๐๐๐ กีบ เรื่องราคารถตู้ที่จองแล้วแต่เกสต์เฮาส์จะกำหนดนะครับ บางที่อาจจะ ๑๐๐,๐๐๐ กีบ ซึ่งท่านต้องเดินดูหาว่าอันไหนราคาถูกกว่ากัน แต่ถ้าหากเดินทางไปขึ้นคิวรถตู้ที่สนามบินเก่าช่วงนั้นราคาตกอยู่ที่ ๘๐,๐๐๐ กีบครีบ )
ผมบอกแล้วว่าวิวทางไปหลวงพระบางจากวังเวียงว่าสวยแค่ไหน
อีกรูป การเดินทางกลางวันในลาวถือว่าเพิ่มระดับความปลอดภัยเพิ่มขึ้นด้วยครับ เพราะหากเดินทางในเวลากลางคืนถนนมืดมากครับ แทบจะมองไม่เห็นทางและเส้นทางไปหลวงพระบางก็ต้องผ่านภูเขาที่สูงมากๆ ด้วย(เส้นทางกาสี - เมืองนาน - หลวงพระบาง)
ข้างทางวิวสวยดีครับ
ข้างหน้าก็สวยไม่แพ้กันครับ
วิวข้างทางมีหมู่บ้านเล็กๆ หลังเล็กๆ ก็อยู่อย่างมีความสุขได้
ภูเขาที่วังเวียงจะเป็นภูเขาหินปูนคล้ายทางแถวกระบี่ พังงา ครับผม
เส้นทางเข้าเมืองกาสีครับ แต่เราจะไม่เข้าเมืองกาสี จะมีทางเลี้ยวซ้ายออกทางไปเมืองนาน เพื่อเดินทางไปสู่เมืองหลวงพระบางต่อไปครับ
วิวข้างทางอีกรูปครับ ตอนนี้ผมเปิดกระจกรถตู้ขอแอบสูดบรรยากาศที่บริสุทธิ์สักซี้ดนึงครับ
เจอหมอกบ้างตามรายทางให้ชื่นใจ แต่ว่านี่เวลาประมาณ ๑๐.๐๐ น. แล้วนะครบก็ยังมีหมอกให้เห็น
ต่อไปก็จะขึ้นเขาที่สูงชันแล้วนะครับ ข้างหน้าหาได้ใช่ก้อนเมฆไม่ หากแต่เป็นหมอกครับผม ผมรีบดูนาฬิกาทันทีปรากฏว่าเวลาประมาณ ๑๑.๐๐ น. แล้ว ยังมีหมอกให้เห็นอยู่เหรอเนี่ย โอ้วววว!!!
ตอนนี้ผมได้เข้าไปในหมอกเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ รู้สึกเหมือนอยู่ใน Alone in the Dark มากเลย
กลางถนนแอบมีสายน้ำเล็กๆ ไหลผ่านด้วย เรียกได้ว่าถนนหนทางโหดใช้ได้เลยเชียว
หมอกเริ่มจางแล้ว
อย่าดูแต่วิวล่ะข้างหน้ามีป้ายเตือนโค้งอันตรายนะ ยิ่งไม่ค่อยมีราวกันตกซะด้วย
รถขับต่อไป และแล้วก็เจอวิวที่ โอ้ ว้าว ลาวมีที่อย่างนี้ด้วยเหรอ แบบว่าหลุดจากหมอกแล้วมาเจอวิวแบบนี้ แทบลืมหายใจไปเลยในตอนนั้น
อย่าเล่นโค้งเพลินนะครับที่นี่ ถนนทรุดตัวก็มีนะครับ มากลางคืนอาจมีหวัง....(ช่วยเติมคำในช่องว่าง)
อีกโค้งที่สวยงามครับ
ลงมาจากเขาแล้ว
วิวข้างทางครับผม
ยาวไปๆ
น่าถ่ายพรีเวดดิ้งกลางถนนมาก เสียดายผมดันโสดซะนี่
อีกรูปครับที่น่าถ่ายพรีเวดดิ้ง จูงมือเจ้าสาวไปเลยครับเดินขึ้นเขาไปสูงระดับนึง แล้วตากล้องสาดมุมกล้องอยู่ระดับที่ต่ำกว่าเจ้าบ่าว เจ้าสาวนะครับ แล้วอย่าหันมาที่กล้องนะ ให้หันไปทางอื่นผมว่า แหม เป็นภาพพรีเวดดิ้งที่สวยงามแน่ๆ เลยครับ (มโนครับ คนโสดมโน)
โอ้ว จะกลับเข้าไปในหมอกอีกแล้วสิเนี่ย
กลับมาอยู่ในหมอกอีกครั้ง นี่ก็เวลาประมาณ ๑๓.๐๐ น. เห็นจะได้แล้วนะครับ หมอกก็ยังไม่หายเลย
ไปตอนที่ ๒ ต่อเลยครับตามลิงค์ http://ppantip.com/topic/35351186