(ประกันที่ว่าคือประกันกรมธรรม์ ที่เสนอตัดผ่านบัตรเครดิตนี่หล่ะ ขอเรียกว่าบริษัทประกันละกัน มันเป็นของไทยพาณิชย์เหมือนกันนี่หละ)
เราได้รับโทรศัพท์จากตัวแทนประกันธนาคารไทยพาณิชย์ที่เสนอกรมธรรม์ให้ตัดผ่านบัตรเครดิต(ราวๆวันที่ 13/14 เดือนมิย. 59 เวลาราว 10นาฬิกา ใช้เวลาร่วม ครึ่งชั่วโมงในการสนทนา) ชี้ชวนให้ซื้อกรมธรรม์ โดยกล่าวว่าสามารถยกเลิกได้ภายในสามสิบวัน เรากำลังรอเดินทางไปทำงานอยู่ มีเวลาคุยสักพัก พยายามบอกว่า น่าสนใจขอรายละเอียดแล้วอ่านเล่มกรมธรรม์ก่อนจึงค่อยตัดสินใจ ทางพนักงานของประกันได้หว่านล้อมให้เชื่อว่าสามารถยกเลิกได้โดยยังไม่มีผลใดๆกับเงิน ก่อนที่จะพูดคำว่าตกลง ถามย้ำพนักงานอีกครั้ง พนักงานเป็นคนพูดว่าต้องพูดคำว่าตกลงก่อน ถึงจะมีผลส่งเล่มกรมธรรม์ให้อ่านได้
หลังจากนั้นวันที่ 16 ซึ่งเป็นวันตัดรอบบิลบัตรเครดิต เราเช็ครายการในช่วงกลางวัน ยังไม่พบรายการกรมธรรม์นี้ ซึ่งเราเช็คทุกเดือนเพื่อตรวจรายการตัดยอด พอช่วงวันที่ 18 เช้า ได้เช็คอีกครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าเห็นบิลรายการสูงมากผิดปกติ จึงเข้าไปตรวจสอบว่าเป็นรายการประกันและโทรไปที่คอลเซ็นเตอร์ เพราะยังไม่ได้อ่านเล่มกรมธรรม์ สามารถตัดเงินได้แล้วหรอ? บอกพนักงานขายแล้วว่าขอดูเล่มก่อน ยังจะตัดดดดดดด คอลเซ็นเตอร์ไม่สามารถโฮลยอดให้ได้และให้โทรหา ฝ่ายประกันกรรมธรรม์ และฝ่ายประกันก็บ่ายเบี่ยงว่าต้องได้รับเล่มก่อนถึงจะยกเลิกได้ ซึ่งกำลังจัดทำเล่ม? โอเคชั้นพลาดที่พูดคำว่าตกลงสินะ แต่ชาตินี้เกิดมายังไม่เคยทำธุรกรรมตัดเงินผ่านโทรศัพท์เลย
ตลอดเวลาเราไม่ได้ยินยอม ทำประกันด้วยความสมัครใจเพราะได้บอกแก่พนักงานแล้วว่าขออ่านเล่มกรมธรรม์ก่อน แต่พนักงานก็ยัง พยายามบอกว่าต้องตกลงอันนี้ ต้องตกลงให้หักเงินในบัญชี ซึ่งถ้าเราอยากทำ เราเต็มใจให้หักในรอบเดือนนี้ได้ แต่เพราะต้องคำนวณความคุ้มค่า และดูรายระเอียดอย่างอื่น ทำให้ต้องอ่านเล่มก่อน แล้วถึงเซ็น เราพยายามโทรไปยังคอลเซ็นเตอร์ อีกครั้งในวันพฤหัสบดี ที่ 23 เพราะยังไม่ได้รับเล่มและพยายามจะยกเลิกเพราะรู้ว่าต้องใช้เวลาดำเนินการ พนักงานประกันแนะนำให้ไปติดต่อสาขาใดก็ได้ ซึ่งเข้าไปสาขาห้างสยามพารากอน เพราะกำลังเดินอยู่แถวนั้น ให้พนักงานสาขาคุยกับประกัน เขาก็บอกว่าต้องเซ็นฟอร์ม แต่พนักงานสาขาไม่รู้ว่าฟอร์มไหน ด้วยความที่คิดว่าไม่ใช่ความผิดของสาขาและคงไม่ได้เรื่อง จึงโทรไปที่คอลเซ็นเตอร์อีกครั้ง คอลเซ็นเตอร์บัตรเครดิตต่อให้ไปบริษัทประกันอีกครั้ง ซึ่งบอกว่าให้ไปที่สาขา กรอกแบบฟอร์มแล้วนำเล่มไปให้ธนาคารทีหลังได้ จึงไปสาขา แถวบ้าน และรอสายให้พนักงานจากประกันไทยพานิชย์โทรมาบอกเลขกรมธรรม์และคุยกับพนักงานสาขาเอง ซึ่งเขาก็ตกลงกันให้เซ้นฟอร์มและถ่ายหน้าบัตรประชาชนไป (พนักงานสาขาพยายามถามชื่อพนักงานกรมธรรม์แต่พนักงานกรมธรรม์ไม่ยอมแจ้งแก่พนักงานสาขา)
เราได้รับเล่มกรมธรรม์ในวันอาทิตย์ 26 เนื่องจากอาศัยในคอนโด พัสดุต้องรอแจกจ่ายให้ลูกบ้าน วันจันทร์ อังคารเราไม่สามารถไปธนาคารในเวลาทำการได้ จึงเอาเล่มไปคืนวัน พุธที่29 เช้า และได้เขียนเอกสารยกเลิกอีกครั้ง และพนักงานยืนยันว่าจะส่งเรื่องให้ทันที
5 กรกฎาคม ยอดชำระ รายการประกันนี้ยังไม่ออกจากรายการที่ต้องจ่าย ซึ่งเราไม่ได้ยินยอมจ่ายตั้งแต่ตัน พนักงานคอลเซ็นเตอร์ยืนยันให้เป็นเรื่องของบริษัทประกันที่ต้องทำเรื่องมายกเลิกกับทางบัตรเครดิตก่อนถึงทำเรื่องยกเลิกยอดนี้ได้ จึงโอนไปที่ประกันเราจึงคุยกับทางประกัน ให้ส่งเอกสารไปให้ทำเรื่องยกเลิก ซึ่งบริษัทประกันกล่าวว่า การยกเลิกใช้เวลา 15 วัน เอกสารเรามาถึงแล้ว วันที่ 4 ฮัลโหลลลลลล ไปเกาะมาหรอคะ ตั้งแต่วันพุธ
ทั้งๆที่เราพยายามยกเลิกตั้งแต่วันที่ 23 (หากไม่นับรวมการโทรไปท้วงยอดครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 18) ขณะที่ทำการอนุมัติกรมธรรม์ภายใน3 วันตัดเงินเลยโดยที่ไม่ต้องรอพิจารณาอะไรมากมายขนาดนี้ โอ้โห้ ลู่ทางการ-
เราได้แสดงเจตน์จำนง ยกเลิกไปแล้ว ดังนั้นเราไม่คิกว่า ยอด 5000กว่านั้น เป็นธรรมในการจะจ่าย เพราะหากจ่ายเท่ากับข้าพเจ้ายอมรับกรมธรรม์ที่เราไม่ได้ทำอะไรด้วยเลย การที่พนักงานบัตรเครดิตบอกให้เราจ่ายเงินจำนวนนี้ก่อน แล้วจะคืนยอดให้ภายหลัง เราคิดว่าไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค และเงินจำนวนนี้ทำให้เราเสียโอกาสในการทำเงินเพิ่มในชีวิตหากจะจ่ายไป และเป็นระบบความวุ่นวายของธนาคารและบริษัทประกันเองที่ทำงานยืดยาดขนาดนี้ทั้งๆที่ทุกอย่างเป็นดิจิตอลหมดแล้ว ทำไมต้องจ่าย งง
ดังนั้นเราไม่คิดว่า จะยอมรับดอกเบี้ยที่เกิดจากการทำรายการนี้ หากเราจะต้องจ่ายเงินจำนวนนี้ในรอบบิลนี้เราต้องเสียโอกาสจากการที่ธนาคาร โฮลด์เงินจำนวนนี้ไว้กับตัวเอง โดยที่ระบบทำงานของท่านเองทำงานล่าช้าไม่ใช่เกิดจากเราที่พยายามยกเลิกตั้งแต่ต้น
เราควรติดต่อช่องทางไหนของธนาคาร เห็นใจมนุษย์เงินเดือนที่ต้องหมุนเงินสดเถอะค่ะ การขายผ่านโทรศัพท์นี่คุณคิดว่าแฟร์หรือคะ หน่วยงานไหนกระทำการอนุญาตให้ขายแบบนี้ควรพิจารณาค่ะ ว่าการที่คุณนั่งฟังข้อมูลสิบนาที แล้วตัดสินใจนี่เป็นผลดีหรอคะ แล้วไม่มีอะไรมารับรอง ผู้บริโภคเสียเปรียบชัดๆ โวยวายกับคอลเซ็นเตอร์เขาก็แค่พยักงาน ตาดำๆที่คุณจ้างมารับความผิดแทนเท่านั้น เขาทำอะไรกับนโยบายไม่ได้ เลิกเถอะค่ะ จะเป็นธนาคารหรือจะขายประกันเลือกสักทาง อย่าขายพ่วงเป็นร้านโชว์ห่วย บทบาทมันทับซ้อนกันหน้าที่คุณจะไม่ชัดเจนนะคะ มีความชัดเจนอย่างเดียวคือเงินค่ะ
SCB ทำแบบนี้ได้ด้วยหรอ? กับกรมธรรม์ที่โทรมาตื้อ จากข้อมูลฐานบัตรเครดิต
เราได้รับโทรศัพท์จากตัวแทนประกันธนาคารไทยพาณิชย์ที่เสนอกรมธรรม์ให้ตัดผ่านบัตรเครดิต(ราวๆวันที่ 13/14 เดือนมิย. 59 เวลาราว 10นาฬิกา ใช้เวลาร่วม ครึ่งชั่วโมงในการสนทนา) ชี้ชวนให้ซื้อกรมธรรม์ โดยกล่าวว่าสามารถยกเลิกได้ภายในสามสิบวัน เรากำลังรอเดินทางไปทำงานอยู่ มีเวลาคุยสักพัก พยายามบอกว่า น่าสนใจขอรายละเอียดแล้วอ่านเล่มกรมธรรม์ก่อนจึงค่อยตัดสินใจ ทางพนักงานของประกันได้หว่านล้อมให้เชื่อว่าสามารถยกเลิกได้โดยยังไม่มีผลใดๆกับเงิน ก่อนที่จะพูดคำว่าตกลง ถามย้ำพนักงานอีกครั้ง พนักงานเป็นคนพูดว่าต้องพูดคำว่าตกลงก่อน ถึงจะมีผลส่งเล่มกรมธรรม์ให้อ่านได้
หลังจากนั้นวันที่ 16 ซึ่งเป็นวันตัดรอบบิลบัตรเครดิต เราเช็ครายการในช่วงกลางวัน ยังไม่พบรายการกรมธรรม์นี้ ซึ่งเราเช็คทุกเดือนเพื่อตรวจรายการตัดยอด พอช่วงวันที่ 18 เช้า ได้เช็คอีกครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าเห็นบิลรายการสูงมากผิดปกติ จึงเข้าไปตรวจสอบว่าเป็นรายการประกันและโทรไปที่คอลเซ็นเตอร์ เพราะยังไม่ได้อ่านเล่มกรมธรรม์ สามารถตัดเงินได้แล้วหรอ? บอกพนักงานขายแล้วว่าขอดูเล่มก่อน ยังจะตัดดดดดดด คอลเซ็นเตอร์ไม่สามารถโฮลยอดให้ได้และให้โทรหา ฝ่ายประกันกรรมธรรม์ และฝ่ายประกันก็บ่ายเบี่ยงว่าต้องได้รับเล่มก่อนถึงจะยกเลิกได้ ซึ่งกำลังจัดทำเล่ม? โอเคชั้นพลาดที่พูดคำว่าตกลงสินะ แต่ชาตินี้เกิดมายังไม่เคยทำธุรกรรมตัดเงินผ่านโทรศัพท์เลย
ตลอดเวลาเราไม่ได้ยินยอม ทำประกันด้วยความสมัครใจเพราะได้บอกแก่พนักงานแล้วว่าขออ่านเล่มกรมธรรม์ก่อน แต่พนักงานก็ยัง พยายามบอกว่าต้องตกลงอันนี้ ต้องตกลงให้หักเงินในบัญชี ซึ่งถ้าเราอยากทำ เราเต็มใจให้หักในรอบเดือนนี้ได้ แต่เพราะต้องคำนวณความคุ้มค่า และดูรายระเอียดอย่างอื่น ทำให้ต้องอ่านเล่มก่อน แล้วถึงเซ็น เราพยายามโทรไปยังคอลเซ็นเตอร์ อีกครั้งในวันพฤหัสบดี ที่ 23 เพราะยังไม่ได้รับเล่มและพยายามจะยกเลิกเพราะรู้ว่าต้องใช้เวลาดำเนินการ พนักงานประกันแนะนำให้ไปติดต่อสาขาใดก็ได้ ซึ่งเข้าไปสาขาห้างสยามพารากอน เพราะกำลังเดินอยู่แถวนั้น ให้พนักงานสาขาคุยกับประกัน เขาก็บอกว่าต้องเซ็นฟอร์ม แต่พนักงานสาขาไม่รู้ว่าฟอร์มไหน ด้วยความที่คิดว่าไม่ใช่ความผิดของสาขาและคงไม่ได้เรื่อง จึงโทรไปที่คอลเซ็นเตอร์อีกครั้ง คอลเซ็นเตอร์บัตรเครดิตต่อให้ไปบริษัทประกันอีกครั้ง ซึ่งบอกว่าให้ไปที่สาขา กรอกแบบฟอร์มแล้วนำเล่มไปให้ธนาคารทีหลังได้ จึงไปสาขา แถวบ้าน และรอสายให้พนักงานจากประกันไทยพานิชย์โทรมาบอกเลขกรมธรรม์และคุยกับพนักงานสาขาเอง ซึ่งเขาก็ตกลงกันให้เซ้นฟอร์มและถ่ายหน้าบัตรประชาชนไป (พนักงานสาขาพยายามถามชื่อพนักงานกรมธรรม์แต่พนักงานกรมธรรม์ไม่ยอมแจ้งแก่พนักงานสาขา)
เราได้รับเล่มกรมธรรม์ในวันอาทิตย์ 26 เนื่องจากอาศัยในคอนโด พัสดุต้องรอแจกจ่ายให้ลูกบ้าน วันจันทร์ อังคารเราไม่สามารถไปธนาคารในเวลาทำการได้ จึงเอาเล่มไปคืนวัน พุธที่29 เช้า และได้เขียนเอกสารยกเลิกอีกครั้ง และพนักงานยืนยันว่าจะส่งเรื่องให้ทันที
5 กรกฎาคม ยอดชำระ รายการประกันนี้ยังไม่ออกจากรายการที่ต้องจ่าย ซึ่งเราไม่ได้ยินยอมจ่ายตั้งแต่ตัน พนักงานคอลเซ็นเตอร์ยืนยันให้เป็นเรื่องของบริษัทประกันที่ต้องทำเรื่องมายกเลิกกับทางบัตรเครดิตก่อนถึงทำเรื่องยกเลิกยอดนี้ได้ จึงโอนไปที่ประกันเราจึงคุยกับทางประกัน ให้ส่งเอกสารไปให้ทำเรื่องยกเลิก ซึ่งบริษัทประกันกล่าวว่า การยกเลิกใช้เวลา 15 วัน เอกสารเรามาถึงแล้ว วันที่ 4 ฮัลโหลลลลลล ไปเกาะมาหรอคะ ตั้งแต่วันพุธ
ทั้งๆที่เราพยายามยกเลิกตั้งแต่วันที่ 23 (หากไม่นับรวมการโทรไปท้วงยอดครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 18) ขณะที่ทำการอนุมัติกรมธรรม์ภายใน3 วันตัดเงินเลยโดยที่ไม่ต้องรอพิจารณาอะไรมากมายขนาดนี้ โอ้โห้ ลู่ทางการ-
เราได้แสดงเจตน์จำนง ยกเลิกไปแล้ว ดังนั้นเราไม่คิกว่า ยอด 5000กว่านั้น เป็นธรรมในการจะจ่าย เพราะหากจ่ายเท่ากับข้าพเจ้ายอมรับกรมธรรม์ที่เราไม่ได้ทำอะไรด้วยเลย การที่พนักงานบัตรเครดิตบอกให้เราจ่ายเงินจำนวนนี้ก่อน แล้วจะคืนยอดให้ภายหลัง เราคิดว่าไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค และเงินจำนวนนี้ทำให้เราเสียโอกาสในการทำเงินเพิ่มในชีวิตหากจะจ่ายไป และเป็นระบบความวุ่นวายของธนาคารและบริษัทประกันเองที่ทำงานยืดยาดขนาดนี้ทั้งๆที่ทุกอย่างเป็นดิจิตอลหมดแล้ว ทำไมต้องจ่าย งง
ดังนั้นเราไม่คิดว่า จะยอมรับดอกเบี้ยที่เกิดจากการทำรายการนี้ หากเราจะต้องจ่ายเงินจำนวนนี้ในรอบบิลนี้เราต้องเสียโอกาสจากการที่ธนาคาร โฮลด์เงินจำนวนนี้ไว้กับตัวเอง โดยที่ระบบทำงานของท่านเองทำงานล่าช้าไม่ใช่เกิดจากเราที่พยายามยกเลิกตั้งแต่ต้น
เราควรติดต่อช่องทางไหนของธนาคาร เห็นใจมนุษย์เงินเดือนที่ต้องหมุนเงินสดเถอะค่ะ การขายผ่านโทรศัพท์นี่คุณคิดว่าแฟร์หรือคะ หน่วยงานไหนกระทำการอนุญาตให้ขายแบบนี้ควรพิจารณาค่ะ ว่าการที่คุณนั่งฟังข้อมูลสิบนาที แล้วตัดสินใจนี่เป็นผลดีหรอคะ แล้วไม่มีอะไรมารับรอง ผู้บริโภคเสียเปรียบชัดๆ โวยวายกับคอลเซ็นเตอร์เขาก็แค่พยักงาน ตาดำๆที่คุณจ้างมารับความผิดแทนเท่านั้น เขาทำอะไรกับนโยบายไม่ได้ เลิกเถอะค่ะ จะเป็นธนาคารหรือจะขายประกันเลือกสักทาง อย่าขายพ่วงเป็นร้านโชว์ห่วย บทบาทมันทับซ้อนกันหน้าที่คุณจะไม่ชัดเจนนะคะ มีความชัดเจนอย่างเดียวคือเงินค่ะ