Digital TV คือ ระบบส่งสัญญาณแบบใหม่ที่จะมาแทนที่การส่งแบบ Analog
ที่มาของการค้นหา Digital TV มาใส่ในรถยนต์ เพราะไปได้ font ติดรถยนต์มาในราคามิตรภาพ
เลยทำให้เลยเทิดจนต้องมาตามหากล่อง Digital TV ในรถยนต์สักกล่อง ที่คิดว่าให้ความคุ้มค่า คุ้มราคา แล้วยี่ห้อไหนละ...?
ก็ถามพี่ Goo สิ นั่งหาไปเรื่อยๆ ข้อมูลที่สมองโง่ๆ พอจะประมวลได้คือ
1 เริ่มจากกล่องที่ใช้ในบ้านเอามาติดในรถยนต์ใช้เสารับดีๆ ข้อดีคือประหยัด ข้อเสียวิ่งเกิน 60-80 km. มีอาการรับสัญญาณไม่ได้เป็นข้อกำจัดของกล่องบ้าน กล่องที่หาข้อมูลมาว่าติดบนรถแล้วพอดูได้ คือ Strong (ไม่ใช่รุ่นโปรนะ)
2 1 tuner 1 เสา, 1 tuner 2 เสา นั่งอ่านๆ ไป ก็ไม่หนีกล่องบ้าน+เสาดีๆ ข้อดีคือตรงวัตถุประสงค์การใช้งาน ดูได้แม้รถจะเคลื่อนที่แต่ก็ไม่หนีไปจากข้อ 1 เท่าไหร่ ข้อเสีย แต่ราคานี่แพงกว่าข้อ1 ประมาณ 3-4 เท่าตัว
3 2 tuner 2 เสา พอนั่งหาข้อมูล โฮ...ราคากระโดดมาเริ่มต้นที่ 4,xxx-9,xxx แพงจังฟะ กล่องบ้าอะไร
4 4 tuner 4 เสา ราคากระโดไปไกลเลย 5,xxx-9,xxx หรือถ้าร้านติดตั้งเครื่องเสียงดังๆ ก็เลยไปหมื่นต้นๆ
พอได้ข้อมูลมา ก็มานั่งหาข้อเสียของแต่ละกล่องว่าตัวไหนมันให้ความคุ้มค่า คุ้มราคา รองรับและตอบโจทย์ไลส์สไตล์เราได้
ผมก็เลือกไปที่ 2 tuner 2 เสา เพราะดูแล้วน่าจะให้ความคุ้มค่า คุ้มราคาและดูทีวีได้ดี ด้วยความคิดของผมเองนะครับ
แล้วยี่ห้อไหนละ...บังเอิญนั่งหาข้อมูลเยอะ มึนไปหมดจนมาสะดุดเจอกระทู้นึงใน pantip >>>
http://ppantip.com/topic/33761755
ยี่ห้อ ThreeTouch เลยทำการติดต่อผ่านไลท์ เพื่อขอซื้อรุ่นที่ว่ามานี้ แต่ทางร้านบอกว่าสินค้ารุ่นแรกหมดไปแล้ว ปัจจุบันเป็นรุ่น 2 เสา 2 tuner เข้าไปอ่านเม้นใน facebook ของเพจ ก็มีแต่คนถามกับคนซื้อแต่ไม่มีคนรีวิว ว่าเป็นไง เอาฟะ..ลองเสี่ยงดวงจัดมาข้อดีที่ทำให้ผมตัดสินใจซื้อเจ้านี้เพราะ
1 มีเทคโนโลยี MRC (เจ้าอื่นก็คงมีเหมือนกันแต่หาอ่านไม่ได้) เป็นเทคโนโลยีใหม่เพื่อปรับปรุงคุณภาพของสัญญาณ และเอาชนะอุปสรรคในการรับสัญญาณ(multi-path fading และ Doppler effect)ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง ด้วยเทคนิคที่เรียกว่า MRC Diversity (Maximum Ratio Combining Diversity) ซึ่งเป็นการรวมสัญญาณจาก 2 แหล่ง(เสา) ขึ้นไปแล้วนำมาปรับปรุงคุณภาพให้ดียิ่งขึ้น โดยถ้าเป็น2เสาก็ต้องใช้ 2 tuner chipsets ตามจำนวนเสาที่เพิ่มขึ้น
ด้วยเหตุนี้จึงสามารถรวมสัญญาณจากจุดต่างๆที่มีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาและยังเหมาะสำหรับการติดในจุดที่ต่างกันเช่นด้านหน้ากับด้านหลังอีกด้วยครับ สำหรับบริษัทผู้ผลิตชิพเซ็ตที่ใช้เทคโนโลยีนี้ ณ ปัจจุบันมีเพียง 3 ยี่ห้อคือ Siano, Parrot และ Sony
2 มีสติ๊กเกอร์ กสทช. ช่วยให้อุ่นใจว่า..มีมาตรฐาน
หน้าตากล่องพระเอกของผม
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องมี กล่องดิจิตอล เสา 2เสา สายไฟ ตาแมว+รีโมท สายสัญญาณ
interface ด้านหน้า มี audio out, video out 3, component, HDMI
ด้านหลัง antena 2 เสาชุบทอง, usb, AV/In (กล่องมีขนาดความยาว 1 ฝามือ)
คู่มือ พร้อมใบรับประกัน(เสียเปลี่ยนกล่องให้ใหม่ ไม่ซ่อม)
เส้นทางที่ผมทดสอบคือ
1 จากที่พักไปที่ทำงาน ขาไป: แจ้งวัฒนะ-รามอินทรา-มีนบุรี-สุวินทวงศ์-ที่ทำงาน ห่างจากเสาส่งประมาณ 52 km.
เส้นทางขากลับ: ที่ทำงาน-สุวินทวงศ์-รามคำแหง-เสรีไทย-นวมินทร์(จุดนี้สัญญาณขาดหายบ่อย)-เกษตรนวมินทร์-รามอินทรา-แจ้งวัฒนะ
2 เส้นทางไปตจว. แจ้งวัฒนะ-สระบุรี วิ่งผ่านทางด่วนเส้นอุดรรัถยาเพื่อทดสอบความเร็วที่ยังสามารถรับสัญญาณได้ 150 km.Confrim!!!(ใช้ช่อง 3 ทดสอบ) สัญญาณที่ยังรับได้ไกลสุดที่ระยะประมาณ 72 km. จากเสาส่งตึกใบหยก 2 เริ่มมีสัญญาณขาดหาย
app ที่ใช้ทดสอบความไกลจากเสากี่กิโลเมตร คือเจ้านี่เลย DTV Service Area โหลดได้ฟรีเลยครับ
ที่ระยะ 67 km. ยังคงรับสัญญาณได้นิ่งภาพไม่แตกเสียงไม่ขาดหาย สัญญาณยังไม่หลุด
จากการลองใช้งานจริงมาเกือบ 2 อาทิตย์ จากคนที่ไม่เคยลองใช้กล่องดิจิตอลในรถยนต์มาก่อน ไม่รู้ว่ามันจะได้ความนิ่งของสัญญาณได้เท่าเทียมกับกล่องในบ้านรึเปล่า ขอสรุปเป็นข้อๆ
1 กล่องตัวนี้ที่ผมใช้มันสามารถวิ่งที่ความเร็ว 150km/hr สัญญาณก็ยังรับได้จากการลองวิ่งใช้งานทดสอบเองเส้นอุตราภิมุข ไปบางประอินใช้ช่อง 3 ในการทดสอบ ไม่รู้ว่าสุดที่ความเร็วเท่าไหร่ (แต่ในใบปลิวที่แนบมาในกล่องบอก แรงเกิน 160!!!)
2 อย่าคาดหวังสูง การดูดิจิตอลทีวีในรถยนต์ได้ 80-90%(ก่อนซื้อทางเซลก็บอกไว้..ชอบตรงนี้ที่ให้ข้อมูลที่แท้จริงไม่โอ้อวด เกินจริง) เท่าที่หาข้อมูลกล่องแพงก็เป็นครับไม่ใช่ว่าได้ 100% เมื่อเทียบกับกล่องบ้าน กล่องบ้านผมใช้ Samart Strong Pro
- ปัจจัยสำคัญขึ้นอยู่กับพื้นที่ของการรับสัญญาณ ตรงจุดไหนที่สัญญาณเคยหาย เมื่อวิ่งผ่านก็จะเป็นแบบนั้น ต้นไม้ 2 ข้างทาง(เส้นนวมินทร์ มีผลทำให้สัญญาณหายเป็นระยะๆ) ฟ้าฝนก็มีผลบ้าง ตึก 2ข้างทางก็มีผล ห
- ตำแหน่งจุดติดตั้งเสาอากาศ มีผลครับตอนติดตั้งมาจากร้านเค้าเอาเสาหลบไว้ในตรงกันชนหน้า-หลัง ผมเลยย้ายจากกันชนหน้าด้านในมาไว้ตรงกระจังหน้าด้านนอกเลย โดยตลอดการทดสอบผมใช้ช่อง 3 เป็นช่อง Refernce (เพราะแฟนชอบดูช่องนี้...เลยต้องเอาใจแฟนหน่อย อิอิ) อย่าใกล้โลหะ อย่าตั้งไว้ตำแหน่งสูง
- การกวนกันของอุปกรณ์ในรถเช่นกล้องหน้ารถ พัดลม ไฟโปรเจคเตอร์ ไฟเดย์ไลท์ อื่นๆ
3 สามารถนำมาใช้เปิดไฟล์หนังเช่น *.mp4 *.mkv(ไม่สามารถถอดเสียง dolby ได้เพราะไม่มีชิปเซ็ต) ไฟล์เพลง *.mp3 *.flac(เสียงดีกว่า MP3 อีก)
4 เวลาไป ตจว. ก็ต้องกดปุ่ม scan เพื่อหาคลื่นใหม่ เพราะสัญญาณที่ปล่อยจะใช้คลื่นคนละความถี่กับใน กทม. ใช้เวลาสแกนประมาณ 5 นาที แต่ถ้าอยู่ใน กทม.กดปุ่มสีแดงที่รีโมทจะเป็น quick scan ใช้เฉพาะในกทม.จะสแกนแป๊บเดียวครับไม่ถึงนาทีช่องที่ดูได้ทั้งหมดประมาณ 25-27 ช่อง
สรุป ถามว่ากล่องตัวนี้เทียบกับตัวอื่นดีกว่ายังไง ผมบอกได้ว่าไมรู้ครับ เพราะไม่เคยใช้ตัวอื่น แต่สิ่งที่ผมคาดหวังทีแรกว่าจะสามารถดูทีวีบนรถได้ราบเรียบ 100% ตลอดระยะเส้นทาง บอกได้เลยว่าเป็นไปไม่ได้ครับทั้งเส้นทางที่วิ่ง จุดอับสัญญาณ ขึ้นสะพาน เลี้ยวเปลี่ยนทิศ ต้นไม้ ตึกราบ้านช่องล้วนแล้วแต่มีผล ให้คาดหวังไว้ที่ 80-90% พอครับ เรื่องความเร็วไม่เป็นปัญหาถ้าพื้นที่ที่วิ่งผ่านสัญญาณดี ผม Happy นะกับกล่องใบนี้มันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผมได้ ให้แฟนได้ดูละครบนรถยนต์ หรืออย่างน้อยรถติดๆ ก็ช่างผมยังได้ชมข่าวสาร หรือจะเปิดหนังให้ลูกดูในยามขับออกตจว. หรือจะฟังเพลง *.flac เสียงดีกว่า mp3 เยอะครับ
ข้อดี
1 ราคากับคุณภาพยอมรับได้ครับ ผมว่าออกจะเกินค่าตัวไปด้วย (4190 บาทไม่รวมค่าติดตั้ง)
2 มีสติกเกอร์ กสทช. ช่วยให้อุ่นใจว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
3 เล่นไฟล์หนัง kvm กับไฟล์เพลง flac ได้ด้วย
4 มีช่องต่อ Video/out ทั้ง composite 3 ขั้ว(ต่อออกจอได้ 3 จอ ขั้วแบบธรรมดา), component 1 set, HDMI 1 ขั้ว(1080P)
5 งานประกอบดูแน่นหนา ขั้วต่อมีมาตรฐานไม่ก๊องแก๊ง
6 มีโหมด Quick Scan ที่รีโมท ช่วยให้การจูนสัญญาณเร็วภายใน 1 นาที ใช้ได้ในเฉพาะ กทม.ครับ
ข้อเสีย
1 ไม่สามารถถอดรหัสเสียง dolby ได้ ถ้าถอดได้นะ แจ่มเลย
*จุดติดตั้งเสาด้านหน้าสำคัญครับ จากที่ลองหาตำแหน่งด้วยตัวเองร่วมๆ 2 ชม. ผมใช้ช่อง 3 ตลอดการทดสอบ
การรับสัญญาณตามทษฎี 100 km.จากเสาส่ง ทางปฏิบัติ 80 km. ใช้งานจริง 60-80 km.
ขอตัวไปก่อนละครับ ดูทีวีบนรถยนต์ก็อย่าละสายตาขณะขับ เดี๋ยวจะเกิดอุบัติเหตุได้นะครับ
[CR] รีวิวกล่อง Digital TV ในรถยนต์ by Three Touch
ที่มาของการค้นหา Digital TV มาใส่ในรถยนต์ เพราะไปได้ font ติดรถยนต์มาในราคามิตรภาพ
เลยทำให้เลยเทิดจนต้องมาตามหากล่อง Digital TV ในรถยนต์สักกล่อง ที่คิดว่าให้ความคุ้มค่า คุ้มราคา แล้วยี่ห้อไหนละ...?
ก็ถามพี่ Goo สิ นั่งหาไปเรื่อยๆ ข้อมูลที่สมองโง่ๆ พอจะประมวลได้คือ
1 เริ่มจากกล่องที่ใช้ในบ้านเอามาติดในรถยนต์ใช้เสารับดีๆ ข้อดีคือประหยัด ข้อเสียวิ่งเกิน 60-80 km. มีอาการรับสัญญาณไม่ได้เป็นข้อกำจัดของกล่องบ้าน กล่องที่หาข้อมูลมาว่าติดบนรถแล้วพอดูได้ คือ Strong (ไม่ใช่รุ่นโปรนะ)
2 1 tuner 1 เสา, 1 tuner 2 เสา นั่งอ่านๆ ไป ก็ไม่หนีกล่องบ้าน+เสาดีๆ ข้อดีคือตรงวัตถุประสงค์การใช้งาน ดูได้แม้รถจะเคลื่อนที่แต่ก็ไม่หนีไปจากข้อ 1 เท่าไหร่ ข้อเสีย แต่ราคานี่แพงกว่าข้อ1 ประมาณ 3-4 เท่าตัว
3 2 tuner 2 เสา พอนั่งหาข้อมูล โฮ...ราคากระโดดมาเริ่มต้นที่ 4,xxx-9,xxx แพงจังฟะ กล่องบ้าอะไร
4 4 tuner 4 เสา ราคากระโดไปไกลเลย 5,xxx-9,xxx หรือถ้าร้านติดตั้งเครื่องเสียงดังๆ ก็เลยไปหมื่นต้นๆ
พอได้ข้อมูลมา ก็มานั่งหาข้อเสียของแต่ละกล่องว่าตัวไหนมันให้ความคุ้มค่า คุ้มราคา รองรับและตอบโจทย์ไลส์สไตล์เราได้
ผมก็เลือกไปที่ 2 tuner 2 เสา เพราะดูแล้วน่าจะให้ความคุ้มค่า คุ้มราคาและดูทีวีได้ดี ด้วยความคิดของผมเองนะครับ
แล้วยี่ห้อไหนละ...บังเอิญนั่งหาข้อมูลเยอะ มึนไปหมดจนมาสะดุดเจอกระทู้นึงใน pantip >>> http://ppantip.com/topic/33761755
ยี่ห้อ ThreeTouch เลยทำการติดต่อผ่านไลท์ เพื่อขอซื้อรุ่นที่ว่ามานี้ แต่ทางร้านบอกว่าสินค้ารุ่นแรกหมดไปแล้ว ปัจจุบันเป็นรุ่น 2 เสา 2 tuner เข้าไปอ่านเม้นใน facebook ของเพจ ก็มีแต่คนถามกับคนซื้อแต่ไม่มีคนรีวิว ว่าเป็นไง เอาฟะ..ลองเสี่ยงดวงจัดมาข้อดีที่ทำให้ผมตัดสินใจซื้อเจ้านี้เพราะ
1 มีเทคโนโลยี MRC (เจ้าอื่นก็คงมีเหมือนกันแต่หาอ่านไม่ได้) เป็นเทคโนโลยีใหม่เพื่อปรับปรุงคุณภาพของสัญญาณ และเอาชนะอุปสรรคในการรับสัญญาณ(multi-path fading และ Doppler effect)ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง ด้วยเทคนิคที่เรียกว่า MRC Diversity (Maximum Ratio Combining Diversity) ซึ่งเป็นการรวมสัญญาณจาก 2 แหล่ง(เสา) ขึ้นไปแล้วนำมาปรับปรุงคุณภาพให้ดียิ่งขึ้น โดยถ้าเป็น2เสาก็ต้องใช้ 2 tuner chipsets ตามจำนวนเสาที่เพิ่มขึ้น
ด้วยเหตุนี้จึงสามารถรวมสัญญาณจากจุดต่างๆที่มีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาและยังเหมาะสำหรับการติดในจุดที่ต่างกันเช่นด้านหน้ากับด้านหลังอีกด้วยครับ สำหรับบริษัทผู้ผลิตชิพเซ็ตที่ใช้เทคโนโลยีนี้ ณ ปัจจุบันมีเพียง 3 ยี่ห้อคือ Siano, Parrot และ Sony
2 มีสติ๊กเกอร์ กสทช. ช่วยให้อุ่นใจว่า..มีมาตรฐาน
หน้าตากล่องพระเอกของผม
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องมี กล่องดิจิตอล เสา 2เสา สายไฟ ตาแมว+รีโมท สายสัญญาณ
interface ด้านหน้า มี audio out, video out 3, component, HDMI
ด้านหลัง antena 2 เสาชุบทอง, usb, AV/In (กล่องมีขนาดความยาว 1 ฝามือ)
คู่มือ พร้อมใบรับประกัน(เสียเปลี่ยนกล่องให้ใหม่ ไม่ซ่อม)
เส้นทางที่ผมทดสอบคือ
1 จากที่พักไปที่ทำงาน ขาไป: แจ้งวัฒนะ-รามอินทรา-มีนบุรี-สุวินทวงศ์-ที่ทำงาน ห่างจากเสาส่งประมาณ 52 km.
เส้นทางขากลับ: ที่ทำงาน-สุวินทวงศ์-รามคำแหง-เสรีไทย-นวมินทร์(จุดนี้สัญญาณขาดหายบ่อย)-เกษตรนวมินทร์-รามอินทรา-แจ้งวัฒนะ
2 เส้นทางไปตจว. แจ้งวัฒนะ-สระบุรี วิ่งผ่านทางด่วนเส้นอุดรรัถยาเพื่อทดสอบความเร็วที่ยังสามารถรับสัญญาณได้ 150 km.Confrim!!!(ใช้ช่อง 3 ทดสอบ) สัญญาณที่ยังรับได้ไกลสุดที่ระยะประมาณ 72 km. จากเสาส่งตึกใบหยก 2 เริ่มมีสัญญาณขาดหาย
app ที่ใช้ทดสอบความไกลจากเสากี่กิโลเมตร คือเจ้านี่เลย DTV Service Area โหลดได้ฟรีเลยครับ
ที่ระยะ 67 km. ยังคงรับสัญญาณได้นิ่งภาพไม่แตกเสียงไม่ขาดหาย สัญญาณยังไม่หลุด
จากการลองใช้งานจริงมาเกือบ 2 อาทิตย์ จากคนที่ไม่เคยลองใช้กล่องดิจิตอลในรถยนต์มาก่อน ไม่รู้ว่ามันจะได้ความนิ่งของสัญญาณได้เท่าเทียมกับกล่องในบ้านรึเปล่า ขอสรุปเป็นข้อๆ
1 กล่องตัวนี้ที่ผมใช้มันสามารถวิ่งที่ความเร็ว 150km/hr สัญญาณก็ยังรับได้จากการลองวิ่งใช้งานทดสอบเองเส้นอุตราภิมุข ไปบางประอินใช้ช่อง 3 ในการทดสอบ ไม่รู้ว่าสุดที่ความเร็วเท่าไหร่ (แต่ในใบปลิวที่แนบมาในกล่องบอก แรงเกิน 160!!!)
2 อย่าคาดหวังสูง การดูดิจิตอลทีวีในรถยนต์ได้ 80-90%(ก่อนซื้อทางเซลก็บอกไว้..ชอบตรงนี้ที่ให้ข้อมูลที่แท้จริงไม่โอ้อวด เกินจริง) เท่าที่หาข้อมูลกล่องแพงก็เป็นครับไม่ใช่ว่าได้ 100% เมื่อเทียบกับกล่องบ้าน กล่องบ้านผมใช้ Samart Strong Pro
- ปัจจัยสำคัญขึ้นอยู่กับพื้นที่ของการรับสัญญาณ ตรงจุดไหนที่สัญญาณเคยหาย เมื่อวิ่งผ่านก็จะเป็นแบบนั้น ต้นไม้ 2 ข้างทาง(เส้นนวมินทร์ มีผลทำให้สัญญาณหายเป็นระยะๆ) ฟ้าฝนก็มีผลบ้าง ตึก 2ข้างทางก็มีผล ห
- ตำแหน่งจุดติดตั้งเสาอากาศ มีผลครับตอนติดตั้งมาจากร้านเค้าเอาเสาหลบไว้ในตรงกันชนหน้า-หลัง ผมเลยย้ายจากกันชนหน้าด้านในมาไว้ตรงกระจังหน้าด้านนอกเลย โดยตลอดการทดสอบผมใช้ช่อง 3 เป็นช่อง Refernce (เพราะแฟนชอบดูช่องนี้...เลยต้องเอาใจแฟนหน่อย อิอิ) อย่าใกล้โลหะ อย่าตั้งไว้ตำแหน่งสูง
- การกวนกันของอุปกรณ์ในรถเช่นกล้องหน้ารถ พัดลม ไฟโปรเจคเตอร์ ไฟเดย์ไลท์ อื่นๆ
3 สามารถนำมาใช้เปิดไฟล์หนังเช่น *.mp4 *.mkv(ไม่สามารถถอดเสียง dolby ได้เพราะไม่มีชิปเซ็ต) ไฟล์เพลง *.mp3 *.flac(เสียงดีกว่า MP3 อีก)
4 เวลาไป ตจว. ก็ต้องกดปุ่ม scan เพื่อหาคลื่นใหม่ เพราะสัญญาณที่ปล่อยจะใช้คลื่นคนละความถี่กับใน กทม. ใช้เวลาสแกนประมาณ 5 นาที แต่ถ้าอยู่ใน กทม.กดปุ่มสีแดงที่รีโมทจะเป็น quick scan ใช้เฉพาะในกทม.จะสแกนแป๊บเดียวครับไม่ถึงนาทีช่องที่ดูได้ทั้งหมดประมาณ 25-27 ช่อง
สรุป ถามว่ากล่องตัวนี้เทียบกับตัวอื่นดีกว่ายังไง ผมบอกได้ว่าไมรู้ครับ เพราะไม่เคยใช้ตัวอื่น แต่สิ่งที่ผมคาดหวังทีแรกว่าจะสามารถดูทีวีบนรถได้ราบเรียบ 100% ตลอดระยะเส้นทาง บอกได้เลยว่าเป็นไปไม่ได้ครับทั้งเส้นทางที่วิ่ง จุดอับสัญญาณ ขึ้นสะพาน เลี้ยวเปลี่ยนทิศ ต้นไม้ ตึกราบ้านช่องล้วนแล้วแต่มีผล ให้คาดหวังไว้ที่ 80-90% พอครับ เรื่องความเร็วไม่เป็นปัญหาถ้าพื้นที่ที่วิ่งผ่านสัญญาณดี ผม Happy นะกับกล่องใบนี้มันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผมได้ ให้แฟนได้ดูละครบนรถยนต์ หรืออย่างน้อยรถติดๆ ก็ช่างผมยังได้ชมข่าวสาร หรือจะเปิดหนังให้ลูกดูในยามขับออกตจว. หรือจะฟังเพลง *.flac เสียงดีกว่า mp3 เยอะครับ
ข้อดี
1 ราคากับคุณภาพยอมรับได้ครับ ผมว่าออกจะเกินค่าตัวไปด้วย (4190 บาทไม่รวมค่าติดตั้ง)
2 มีสติกเกอร์ กสทช. ช่วยให้อุ่นใจว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
3 เล่นไฟล์หนัง kvm กับไฟล์เพลง flac ได้ด้วย
4 มีช่องต่อ Video/out ทั้ง composite 3 ขั้ว(ต่อออกจอได้ 3 จอ ขั้วแบบธรรมดา), component 1 set, HDMI 1 ขั้ว(1080P)
5 งานประกอบดูแน่นหนา ขั้วต่อมีมาตรฐานไม่ก๊องแก๊ง
6 มีโหมด Quick Scan ที่รีโมท ช่วยให้การจูนสัญญาณเร็วภายใน 1 นาที ใช้ได้ในเฉพาะ กทม.ครับ
ข้อเสีย
1 ไม่สามารถถอดรหัสเสียง dolby ได้ ถ้าถอดได้นะ แจ่มเลย
*จุดติดตั้งเสาด้านหน้าสำคัญครับ จากที่ลองหาตำแหน่งด้วยตัวเองร่วมๆ 2 ชม. ผมใช้ช่อง 3 ตลอดการทดสอบ
การรับสัญญาณตามทษฎี 100 km.จากเสาส่ง ทางปฏิบัติ 80 km. ใช้งานจริง 60-80 km.
ขอตัวไปก่อนละครับ ดูทีวีบนรถยนต์ก็อย่าละสายตาขณะขับ เดี๋ยวจะเกิดอุบัติเหตุได้นะครับ