คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ไม่แน่ใจว่าตอนที่คุณกรอกแบบฟอร์มนั้นมีกี่ใบครับ ตอนที่ผมเคยไปบริจาคที่สภากาชาดจะมีแบบฟอร์มคัดกรองกลุ่มรักร่วมเพศแนบมาด้วย แต่ตอนนั้นผมกรอกข้อมูลเท็จไปแหละ (เท็จแค่เรื่องรักร่วมเพศนะครับ เรื่องความเสี่ยงอื่น ๆ ตอบความจริงหมด เพราะผมไม่มีความเสี่ยง) เพราะช่วงนั้นได้ขอรับบริจาคเลือดไปเพราะพ่อต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ เลยคิดว่าอยากจะบริจาคเลือดคืนบ้างเพราะห่างจากบริจาคเลือดมานานพอสมควร แต่หลังจากครั้งนั้นก็ยังไม่ได้ไปอีกเลยครับ เพราะลังเลตรงเอกสารแนบนี่แหละ คืออยากบริจาคแต่ก็ไม่อยากโกหก ถึงโกหกแล้วจะผ่านก็เถอะครับ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจอะไรนะครับ เพราะคิดว่าเขามีเหตุผลที่ดีพอที่จะออกกฎมาแบบนั้น แต่คำพูดที่คุณโดนมาก็น่าผิดหวังอยู่นะ หมอไม่น่าใช้วิธีพูดแบบนั้นเลย...
แสดงความคิดเห็น
น้องคะ ถ้าน้องจะมีแฟนเป็นผู้ชายทำบุญด้วยวิธีอื่นนะคะ เพราะบริจาคเลือดไม่ได้-เสียงจากห้องคัดกรองผู้บริจาคเลือด สภากาชาด
โดยปกติ ก็ตอบคำถามสุขภาพ และผ่านการคัดกรองปกติ และก็เคยได้ยินมานะ ว่าเพศที่ 3 เค้าไม่ให้บริจาค แต่เราก็บริจาคมานาน
จนมาถึงครั้งนี้ คุณหมอที่กรองผู้รับบริจาค สอบถามว่า
หมอ: น้องคะ มีแฟนหรือยัง
ผม: ยังครับ
หมอ: ละถ้ามี จะมีแฟนผู้ชายหรือผู้หญิง ตอบตรงๆนะ
ผม: ผู้ชายครับ
หมอ: ว่าละ หน้าอย่างน้องมองก็รู้ว่าไม่ได้ชอบผู้หญิง (เอ่อ จะพูดเพื่อไร คิดในใจ)
หมอ: ละเคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายมั๊ย
ผม: ไม่อะครับ (โกหกอะ แต่รู้ตัวดี มันหลายเดือน ละใช้เควาย และสวมถุงยางป้องกันอย่างดีอะ)
หมอ: แน่ใจนะ เพราะอนาคต ถ้าน้องจะมีแฟนเป็นผู้ชาย ไปทำบุญอย่างอื่นนะ บริจาคเลือดไม่ได้...
คือแอบอึ้งเล็กน้อย ไม่เคยเจอจังๆ ใจนึงก็เข้าใจ ในความเป็นกลุ่มเสี่ยง แต่อีกใจก็รู้สึกเหมือนโดนเหยียดเพศ แล้วยังไง ชาย หญิง เอากันไม่เสี่ยงหรือ?
ผมเป็นผู้บริจาคเลือดคนนึงที่ดูแลสุขภาพ แข็งแรงดี และครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 30 ละครับ
เรื่องคือ อยากให้สภากาชาด แจ้งประกาศเป็นทางการเลย ว่าไม่รับเลือดของเพศที่ 3 เพื่อจะไม่ให้ผู้ที่ไปบริจาค เสียความรู้สึก
"ถ้าเขาไม่รับบริจาค มันก็คงเป็นส่วนของเขา คงไม่ใช่เราที่เดือดร้อน เราต้องการบริจาคด้วยใจอยากบริจาคจริงๆ ไม่ได้มีใครบังคับ ถ้าไม่อยากได้ก็ไม่เป็นไร แต่อยากให้รู้ไว้ว่า ในกรณีที่ต้องการ ก็ยังมีพวกเราอยู่"
เคยมีคนพูดไว้ ก็ทิ้งท้ายไว้ละกันนะครับ