คิดซะว่าอ่านนิยายเรื่องนึงเพลินๆนะคะ
เรื่องมีอยู่ว่า เราเพิ่งเลิกกับแฟนมาได้ 2 วัน แล้วเราก็ได้ไปงานแต่งงานเพื่อนสมัยมัธยม เราได้เจอกับเพื่อนเก่าที่เค้าเคยชอบเราตอนมัธยม จริงๆเค้าก็เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันกับเรานี่แหละ แต่ด้วยความที่เค้ามาจีบเรา เราไม่ได้ชอบเค้า เราเลยไม่คุยด้วยเท่าไหร่ และไม่ค่อยสนิท หลังจากงานเลิกเราก็ไปต่อกันที่ร้านนม ระหว่างที่นั่งกินเพื่อนก็ถามว่าเป็นงัยบ้างเห็นโพสต์เฟสแปลกๆ เราก็เลยนั่งเล่าให้เพื่อนฟังว่าเพิ่งเลิกกับแฟนมา เราโดนหลอกเค้ามีคนอื่นอยู่แล้ว หลังพูดจบผู้ชายคนนั้นก็พูดว่า งี้แหละทีเราจีบไม่สนใจไม่ชอบเค้า เค้าน่ะรักเดียวใจเดียวนะ ด้วยความที่ตอนนั้นเราก็คิดถึงแฟนเก่า เราก็ได้แต่พูดว่า แหมๆทำบ่นๆ จริงๆเราก็รู้สึกผิดกับเค้านะ เราว่าตอนมัธยมเค้าก็ดูชอบเรามากในระดับนึง ซื้อขนมฝากเพื่อนมาให้ตอนเช้าบ่อยๆ วาดรูปให้ตอนวันเกิด แต่ตอนนั้นเราก็มีคนที่เราแอบชอบอยู่ก่อนแล้ว ในช่วงที่กินเราก็ถ่ายรูปกันไปมา มีครั้งนึงที่เราถ่ายรูปแล้วเราบอกเค้าให้เงยหน้ามองกล้อง ตอนนั้นแหละที่เรารู้สึกว่าทำไมเราไม่เคยมองคนดีๆคนนี้นะ ที่จริงเค้าก็ดูดีขึ้นไม่น้อย แต่ตอนนั้นเราคิดว่าไม่เอาดีกว่าถ้าตอนนี้เราเก็บเค้ามารู้สึกอะไรต้องไม่ดีแน่ เพราะในหัวเราก็ยังคิดถึงแต่คนที่ทิ้งเราไปอยู่ เผลอๆเราอาจจะทำให้เค้าเสียใจอีกรอบก็ได้ เสียดายกว่าจะมานั่งกินข้าวพูดคุยได้ปกติก็ไม่ง่าย อยู่ๆเพื่อนอีกคนก็พูดว่าเราจัดทริปไปเที่ยวกันดีกว่า เลยสรุปว่าจะไปเที่ยวเขาใหญ่กัน เค้าก็บอกว่าจะไปด้วย ตอนนั้นเราก็ไม่คิดอะไรแต่ก็รู้สึกว่าเค้าเริ่มอยากกลับมาเข้ากลุ่มอีกครั้ง หลังจากกินไอติมเสร็จแล้ว เพื่อนเราเลยบอกเราไปส่งเค้าที่บ้านเพราะว่าเค้าไม่ได้เอารถมา และก็ทางกลับบ้านทางเดียวกัน ระหว่างทางก็เพิ่งมีโอกาสได้พูดกันแบบ 2 ต่อ 2 เป็นครั้งแรก มันเลยได้พูดกันมากขึ้น เค้าเล่าเรื่องเค้า เราเล่าเรื่องเรา เราเลยถามเค้าไปว่าเป็นงัยบ้างกับคนที่คบอยู่ ที่อัพรูปด้วยกันบ่อยๆ เค้าบอกเราว่าไม่ได้คบนะ เป็นเพื่อนกัน ลองไปด้วยกันดูแล้วจีบกันแล้วแต่ยังไม่ใช่ ไอ้เราก็ไม่ได้ซอกแซกอะไรมาก แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่คุยกัน เราก็ได้แต่นึกในใจว่า เนี่ยจริงๆคนดีๆจริงใจก็มีทำไมไม่ชอบ ไปชอบแต่คนที่เจ้าชู้ แต่ยังงัยเราก็คิดกับเค้าแค่เพื่อนแหละ พอหลังจากไปส่งเค้าที่บ้านก็ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกัน จนถึงวันที่จะไปเที่ยว เรารู้จากเพื่อนคนอื่นนะว่าเค้าจะไม่ไป ติดงาน เค้าก็แชทมาถามว่าถึงไหนแล้ว เดินทางเป็นงัย ตอนนั้นเราก็ค่อนข้างโล่งใจนะที่เค้าไม่มา เราอยากแบบสนุกแบบเต็มที่กับเพื่อน แต่ในใจก็คิดว่าเสียดายโอกาสพัฒนานะ บางทีเราอาจจะรู้สึกกับเค้าพิเศษขึ้นถ้าเค้าไปเที่ยวครั้งนี้ด้วย มันอาจจะมีโมเมนต์ไรสักอย่าง พอไปถึงสวนน้ำเค้าก็โผล่มากับเพื่อนอิกคนนึง เราก็แปลกใจที่เค้ามา แต่ถามว่าถึงขั้นดีใจมั้ย ก็ไม่นะ แต่ก็โอเคไม่ถึงกับอึดอัดอะไร เวลาเล่นเครื่องเล่นอะไร เพื่อนๆมักจะยุให้เราเล่นคู่กันกับเค้า เค้าทำตัวเป็นสุภาพบุรุษมาก คอยอาสาไปซื้อน้ำซื้อขนมมาให้ คอยชวนเราไปเล่นนุ้นนี่ตลอด เอาหมวกเค้าให้เราใส่กันแดด แต่....เวลาที่เรามองเค้าเรากลับรู้สึกว่า ไม่ใช่หรอกนี่ไม่น่าใช่ความรู้สึกชอบรึความรักอะไรหรอก ถ้าเราชอบเค้าเราต้องรู้สึกเอนจอยซ์กับเค้ากว่านี้มั้ย รึแม้แต่ต้องนั่งข้างกันเราก็ไม่ได้อยากนั่งเลย แต่เราก็ชอบตรงที่เรารู้สึกเป็นคนสำคัญดีจัง ทุกอย่างตอนนี้แทบจะเรียกว่าดีหมด ติดอยู่อย่างเดียว เรายังไม่ได้มองเค้าแบบคนที่จะชอบคนที่จะรัก น่าเสียดายนะทำยังงัยเราถึงจะชอบเค้า เราจะได้ไม่เสียใจซำ้ซากๆซะที แต่เราคิดว่าบางทีมันอาจจะเป็นเพราะเราเพิ่งเลิกกับแฟนมาหมาดๆก็ได้ ใครจะไปเปลี่ยนใจปุปปั๊ปได้ขนาดนั้น ว่ามั้ย
แต่น่าแปลก พอหลังจากกลับจากสวนน้ำ เรามาเข้าที่พัก เรากลับมีความรู้สึกดีขึ้นกับเค้า เราอยากให้เค้าอยู่เที่ยวต่อ อยากให้กินข้าวด้วย ไม่ได้รู้สึกแบบไม่อยากอยู่ใกล้เหมือนตอนอยู่สวนน้ำเลย เราก็นั่งกินคอกเทลกัน แต่เค้าไม่ได้กินหรอก เพราะว่าเค้าต้องขับรถไปกรุงเทพทำงานตอนเช้าเลยไม่ได้ค้างด้วย แต่เลือกที่จะกลับดึกๆแทน เรากินเหล้าอยู่ข้างๆสระน้ำกัน บางคนก็เล่นน้ำ บางคนก็เอากล้องมาถ่ายรูป เรานั่งอยู่กับเค้าแล้วก็เพื่อนอีกคนนึง เขาบอกว่าเค้าอยากกลับมาทำงานที่บ้าน จะเรียนโทอีกใบนึงแล้วจะเอาวุฒมาเป็นครูที่มหาลัย ตอนนั้นเราคิดว่าก็ดีนะ บางทีถ้าเค้ากลับมาอยู่บ้านก็อาจจะมีโอกาสพัฒนาความรู้สึกก็ได้นะ คนนี้อาจจะค่อยเป็นค่อยไปก็ได้ ในระหว่างที่เล่น ที่คุยก็จะโดนเพื่อนล้อเพื่อนแซวตลอดว่าให้คบกัน ถ้าถึงขั้นแต่งงานกันเพื่อนจะใส่ซองให้หมื่นนึง แล้วก็ทำการ์ดแต่งงานให้ด้วย เราก็แบบพูดทีเล่นทีจริงบ้าง แบบไม่ได้ให้ความหวังมากแต่ก็ไม่เสียความรู้สึก ถึงจะยังไม่รู้สึกว่าชอบแต่ก็เรียกว่ารู้สึกดี มีโอกาสพัฒนา พอถึงเวลาที่เค้าต้องกลับประมาณสัก 4-5 ทุ่มได้ เพื่อนบอกให้เราเดินไปส่งเค้าที่รถ แต่ตอนนั้นเราเริ่มเมาแล้วล่ะ เรากลัวทำอะไรแปลกๆก็เลยไม่ไป ที่สำคัญไม่อยากไปด้วยแหละ เค้ายืนรอแปปนึง แล้วเค้าก็เห็นหน้าเราแดงมากแระเค้าเลยบอกว่า ไม่เป็นไรหรอก ดูสิเมามากแล้ว พอกลับไปถึงเค้าก็ส่งข้อความมาบอกว่าถึงแล้วนะ
หลังจากกลับจากไปเที่ยว เราก็บอกเพื่อนว่าอย่าเพิ่งยุอะไรนักเลย ตอนนี้เราก็ยังไม่ได้คิดกับเค้ามากกว่าเพื่อน คอยๆดูไป บางทีเราคิดว่าเราอาจจะไม่ได้ชอบเค้าหรอก ถ้าชอบเราคงไม่เป็นแบบนี้หรอก เพราะปกติถ้าชอบใครเราจะฟินเฟร่อ โอเว่อร์ ดีดดิ้นมาก กลับจากเขาใหญ่ก็มีทักกันบ้าง คุยกันในกลุ่มบ้าง แต่ยังไม่ถึงขั้นสานต่ออะไร เรารอว่าให้เค้ากลับมาเจอบ่อยๆรึไม่ก็กลับมาทำงานที่บ้านก่อนแล้วค่อยเริ่มตอนนั้นก็ไม่น่าสายนะ
มีช่วงนึง เราไม่ได้ทักเค้า เค้าไม่ทักเรา ไลน์กลุ่มไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร เราเองก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรหรอก เพราะปกติก็ไม่ได้คุยกันอยู่แล้ว ประกอบกับตัวเองไปเคลียร์หัวใจด้วย เราเริ่มรู้สึกไม่คิดถึงแฟนเก่าแล้ว ไม่เสียใจ แล้วก็ไม่เข้าไปส่องเค้าในเฟสแล้ว ช่วงนั้นก็เป็นช่วงเดียวกับที่เราเริ่มนึกถึงเพื่อนคนนั้นเข้าซะแล้ว แต่แค่ 3 วันเท่านั้นแหละ ช่วง 4-5 ทุ่มเค้าโพสต์รูปคู่ค่ะ คู่กะใคร ก็คู่กับคนที่เค้าบอกเป็นเพื่อนกัน ตอนนั้นเรารู้สึก เฮ้ยย ทำงี้ได้งัยอ่ะ รู้สึกเหมือนโดนหลอก เราก็เลยเลิกทักไปหาเค้าอิก เค้าเองก็ไม่ส่งอะไรมาเหมือนกัน ในใจเราก็คิดว่ารึเค้าจะทำใส่ที่เราทำเป็นเชิดใส่เค้านะ แต่ก็ช่างเถอะ เอามาปรึกษาเพื่อน เพื่อนก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอกก็เป็นเพื่อนกันยังงัยเมิงก็ไม่คิดกับเค้ามากมายไม่ใช่เหรอ ดีแล้วที่รู้ตอนนี้ ถ้าเกิดคบกันแล้วมารู้ทีหลังอาจจะแย่กว่านี้ก็ได้ พอเวลาผ่านไปสักระยะนึง เค้าก็ยังคอยกดไลค์เราทุกวันนะ บางวันเค้าก็โพสต์เพลงเหมือนคิดถึงใคร เหมือนอกหัก เราเองก็สายมโนเอามาบวกพ่วงกันอีกล่ะ ทำไมคนเราเพิ่งอัพรูปคู่หญิงถึงโพสต์แต่เพลงเศร้าวะ ช่วงที่สังเกตเค้านี่แหละ อยู่ดีๆความคิดที่ว่าถ้าเพลงพวกนั้นเค้าสื่อถึงเราล่ะ ถ้าทุกอย่างที่เค้าทำเพราะเค้ารู้สึกแย่ที่เราทำเป็นมองข้ามเค้าไปล่ะ เท่านั้นแหละเริ่มสงสัยตัวเอง นี่เราชอบเค้าแล้วเหรอเนี่ย ทำไมสนใจเค้าทุกวันงี้ล่ะ เลยลองปรึกษาเพื่อนว่าเอางัยดี เพื่อนเลยบอกว่า เมิงกล้าถามเค้ามั้ยล่ะ ว่าเค้าคบกันจริงรึป่าว เราก็บอกไปว่าไม่เอาหรอก ไปถามงั้นเค้าก็รู้สิว่าเราชอบ เพื่อนเลยบอกงั้นเมิงก็ปล่อยๆไปทำเป็นเหมือนปกติ 2 วันเท่านั้นแหละ มันอดไม่ไหวจริงๆ เราไม่อยากให้เค้าไปทำดีกับคนอื่น เราไม่อยากรอจนกว่าเค้าจะกลับมาแล้ว เราเลยส่งข้อความไปบอกเค้าว่าคิดถึง ไม่รู้ว่ากล้าส่งไปได้ยังงัย เค้าก็ตอบกลับมาว่าคิดถึงเหมือนกัน เราเลยถามเค้าไปว่า อะไรนิหลอกกันเหรอ ไหนบอกว่าไม่ได้คบกันกับคนนั้นงัย เค้าก็ยังยืนยันคำตอบเดิมว่าเค้าไม่ได้คบ หลังจากนั้นเราก็เริ่มคุยกันบ่อยขึ้น มีโทรคุยกันบ้าง ความจริงเรานี่แหละเป็นฝ่ายโทรซะมากกว่าเพราะเรารู้สึกชอบช่วงที่โทรคุยกันมากกว่ามันรู้สึกสนิทมากขึ้น ที่สำคัญเรารู้สึกว่า เฮ้ยย การที่คุยกับใครที่เค้ารู้จักเราดี รู้อดีตถึงปัจจุบันเรามันดีอย่างนี้นี่เอง การเป็นเพื่อนกันมาก่อนดีอย่างนี้นี่เอง เราถามเค้านะว่าเคยเห็นตอนเราโวยวายเสียงดังกับเพื่อนมั้ย เคยเห็นตอนเราด่ากันกับเพื่อนมั้ย เราพูดกับเพื่อนไม่เพราะนะ เค้าก็บอกเราว่าเห็นแล้ว ไม่เห็นเป็นไรเลยก็สนุกดี ตอนนั้นคือเราดีใจมากที่เราว่าเราเจอแล้วล่ะ คนที่เค้าจะยืนยิ้มเวลาที่เราเสียงดัง คนที่เวลาเราทำตัวไม่น่ารักก็คงไม่ทิ้งเราไปไหน ที่สำคัญเรารู้สึกความรู้สึกตัวเองแล้วล่ะว่าเราชอบเค้าเข้าแล้ว เราก็เก็บไปคิดต่อยอดว่า ถ้าเค้ากลับมาคงจะได้เริ่มสัมพันธภาพที่ดีต่อกันแน่ๆ แต่..............ปัญหามันดันมาติดตรงที่ พอเวลาทักแชทกัน เค้าไม่ค่อยตอบเรา บางทีกว่าจะอ่านกว่าจะตอบก็ข้ามวัน. ข้ามคืน ซึ่งมันก็ดูแปลกมาก สำหรับคนที่จะเริ่มต้นกัน เราก็เลยเกิดความสงสัยแล้วอดที่จะถามไม่ได้ ถ้าประเมินจากการตอบแชท เค้าดูไม่ได้สนใจเราซะเลย แต่ถ้าประเมินจากการพูดคุยกัน เราว่าเค้าก็รู้สึกดีกับเราไม่น้อยนะ แต่ด้วยความที่เป็นเพื่อนกันเวลาที่เราถามเค้ามันเลยไม่ได้ดูงอแง ไม่ได้ดูงอนน่ารักเหมือนเด็กมั้ง เค้าคงรู้สึกเหมือนต่อว่ามากกว่า เค้าก็อธิบายว่ามันเป็นอารมณ์แบบไม่ได้ตั้งใจจะคุย แต่ว่าก็ส่งมาบ้างกลัวจะหาว่าไม่สนใจ พอส่งไปแล้วก็เลยไม่ได้ดูไม่ได้อ่านว่าส่งไรมารึป่าว จริงๆเราก็ไม่เข้าใจหรอก ว่าทำไมเป็นแบบนั้น แต่เพราะด้วยงานเค้าเราก็เลยบอกเค้าว่างั้นต่อไปนี้จะพยายามเข้าใจนะ ต่อให้เห็นออน ไม่ทักมา ส่งไรไปไม่อ่านไม่ตอบก็จะไม่โกรธ เค้าก็ตอบกลับมาว่าแน่ใจนะ เค้าส่งข้อความมาบอกเราว่าเค้าจะไปทำงานที่ชลบุรี 2-3 วัน เราเลยโทรไปหาเค้า เค้าไม่รับโทรศัพท์ เราก็งงว่าอ้าว ทำไมไม่รับล่ะ อยากคุยด้วยนะ สัก 10 นาทีเค้าโทรกลับมา ก็คุยกะนนิดๆหน่อยแต่ก็พูดกันนะว่าต่อไปเราต้องมีปัญหาเรื่องนี้แน่เลย เรื่องไม่ตอบแชท ไม่รับโทรศัพท์ แต่ก็ไม่อะไรมากเรารู้อยู่แล้วว่าเค้าค่อนข้างเป็นคนใจเย็นใจดี เวลาที่โกรธๆงอนๆเค้าก็จะบอกว่า เด๋วเลี้ยงหนมๆ เราก็รู้สึกโอเค ความจริงเราไม่ได้โอเคที่เค้าจะเลี้ยงหนมเรา เราโอเคที่เค้าง้อเรา เราโอเคที่เค้าใจเย็นแล้วก็ชอบดึงเราจากอารมณ์ที่พุ่งๆให้กลับมาปกติ พอเค้าไปชลบุรี เค้าไม่ติดต่ออะไรเรามาเลย เราก็ได้แต่คิดว่าเค้าทำงานแหละ การที่เค้าไม่ทักแชทมาอาจจะเป็นนิสัยของเค้าก็ได้ เราพูดเองนิ ว่าเราจะไม่โกรธ เราก็เลยส่งสติ๊กเกอร์ที่เป็นรูปเชียร์ให้สู้สู้ เค้าก็ไม่อ่านไม่ตอบอีก เรานี่ก็เริ่มคิดมากแระ แต่ก็ยังไม่อะไรรอดูดีกว่าว่าหลังจากกลับมาจากชลบุรีเค้าจะบอกเราว่ายังงัย ไม่ทันได้ถามอะไรเลย เช้าวันถัดมาเค้าส่งข้อความมาบอกว่า เราเป็นเพื่อนกันเถอะนะ ไม่อยากทะเลาะกัน เราก็อึ้งสิ เราเลยบอกเค้าไปว่ากว่าเราจะรู้สึกกับเค้าได้แบบนี้เราคิดแล้วคิดอีกนะ พอเราเริ่มรู้สึกไปแล้วมันก็เลยเถิดยังงัยก็ไม่รู้ เค้าก็ตอบมาว่า เราก็รู้สึกดีนะ แต่ด้วยมันหลายอย่าง เราอยู่ไกลกัน อะไรหลายอย่างเราไม่ตรงกัน ไม่อยากทะเลาะ ตอบสนองความที่เราอยากให้เค้าเป็นไม่ได้ ไม่อยากเสียความเป็นเพื่อน คุยแล้วมันไปด้วยกันไม่ได้ ถ้าคบกันไปก็คงมีแต่จะทะเลาะกัน เราก็จะทำอะไรได้ล่ะ เพราะเราคิดว่าเค้าคงคิดมาทั้งวันทั้งคืนแล้วล่ะ เค้าถึงบอกเราแบบนี้ น่าเสียดายเนอะ มันยังไม่ทันได้เริ่มเป็นอะไรสักอย่างเลย ฉันก็โดนเข้าอีกแล้ว นึกว่าในจำนวนผู้ชายทั้งหมดเค้าจะเป็นคนสุดท้ายที่ปล่อยมือฉันซะอีก โทษเค้าอย่างเดียวก็ไม่ได้หรอกคนเราใครก็อยากเลือกคนที่ดีที่สุดให้ตัวเอง เหมือนที่ฉันเคยบอกเค้ามาตลอดสิบปีว่า ดีแล้วแหละที่เธอเจอคนดีๆไม่ได้คบฉันเป็นแฟน
เคยเป็นมั้ย จากความไม่ชอบ พยายามชอบ จนชอบ จนต้องตัดใจไม่ชอบ
เรื่องมีอยู่ว่า เราเพิ่งเลิกกับแฟนมาได้ 2 วัน แล้วเราก็ได้ไปงานแต่งงานเพื่อนสมัยมัธยม เราได้เจอกับเพื่อนเก่าที่เค้าเคยชอบเราตอนมัธยม จริงๆเค้าก็เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันกับเรานี่แหละ แต่ด้วยความที่เค้ามาจีบเรา เราไม่ได้ชอบเค้า เราเลยไม่คุยด้วยเท่าไหร่ และไม่ค่อยสนิท หลังจากงานเลิกเราก็ไปต่อกันที่ร้านนม ระหว่างที่นั่งกินเพื่อนก็ถามว่าเป็นงัยบ้างเห็นโพสต์เฟสแปลกๆ เราก็เลยนั่งเล่าให้เพื่อนฟังว่าเพิ่งเลิกกับแฟนมา เราโดนหลอกเค้ามีคนอื่นอยู่แล้ว หลังพูดจบผู้ชายคนนั้นก็พูดว่า งี้แหละทีเราจีบไม่สนใจไม่ชอบเค้า เค้าน่ะรักเดียวใจเดียวนะ ด้วยความที่ตอนนั้นเราก็คิดถึงแฟนเก่า เราก็ได้แต่พูดว่า แหมๆทำบ่นๆ จริงๆเราก็รู้สึกผิดกับเค้านะ เราว่าตอนมัธยมเค้าก็ดูชอบเรามากในระดับนึง ซื้อขนมฝากเพื่อนมาให้ตอนเช้าบ่อยๆ วาดรูปให้ตอนวันเกิด แต่ตอนนั้นเราก็มีคนที่เราแอบชอบอยู่ก่อนแล้ว ในช่วงที่กินเราก็ถ่ายรูปกันไปมา มีครั้งนึงที่เราถ่ายรูปแล้วเราบอกเค้าให้เงยหน้ามองกล้อง ตอนนั้นแหละที่เรารู้สึกว่าทำไมเราไม่เคยมองคนดีๆคนนี้นะ ที่จริงเค้าก็ดูดีขึ้นไม่น้อย แต่ตอนนั้นเราคิดว่าไม่เอาดีกว่าถ้าตอนนี้เราเก็บเค้ามารู้สึกอะไรต้องไม่ดีแน่ เพราะในหัวเราก็ยังคิดถึงแต่คนที่ทิ้งเราไปอยู่ เผลอๆเราอาจจะทำให้เค้าเสียใจอีกรอบก็ได้ เสียดายกว่าจะมานั่งกินข้าวพูดคุยได้ปกติก็ไม่ง่าย อยู่ๆเพื่อนอีกคนก็พูดว่าเราจัดทริปไปเที่ยวกันดีกว่า เลยสรุปว่าจะไปเที่ยวเขาใหญ่กัน เค้าก็บอกว่าจะไปด้วย ตอนนั้นเราก็ไม่คิดอะไรแต่ก็รู้สึกว่าเค้าเริ่มอยากกลับมาเข้ากลุ่มอีกครั้ง หลังจากกินไอติมเสร็จแล้ว เพื่อนเราเลยบอกเราไปส่งเค้าที่บ้านเพราะว่าเค้าไม่ได้เอารถมา และก็ทางกลับบ้านทางเดียวกัน ระหว่างทางก็เพิ่งมีโอกาสได้พูดกันแบบ 2 ต่อ 2 เป็นครั้งแรก มันเลยได้พูดกันมากขึ้น เค้าเล่าเรื่องเค้า เราเล่าเรื่องเรา เราเลยถามเค้าไปว่าเป็นงัยบ้างกับคนที่คบอยู่ ที่อัพรูปด้วยกันบ่อยๆ เค้าบอกเราว่าไม่ได้คบนะ เป็นเพื่อนกัน ลองไปด้วยกันดูแล้วจีบกันแล้วแต่ยังไม่ใช่ ไอ้เราก็ไม่ได้ซอกแซกอะไรมาก แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่คุยกัน เราก็ได้แต่นึกในใจว่า เนี่ยจริงๆคนดีๆจริงใจก็มีทำไมไม่ชอบ ไปชอบแต่คนที่เจ้าชู้ แต่ยังงัยเราก็คิดกับเค้าแค่เพื่อนแหละ พอหลังจากไปส่งเค้าที่บ้านก็ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกัน จนถึงวันที่จะไปเที่ยว เรารู้จากเพื่อนคนอื่นนะว่าเค้าจะไม่ไป ติดงาน เค้าก็แชทมาถามว่าถึงไหนแล้ว เดินทางเป็นงัย ตอนนั้นเราก็ค่อนข้างโล่งใจนะที่เค้าไม่มา เราอยากแบบสนุกแบบเต็มที่กับเพื่อน แต่ในใจก็คิดว่าเสียดายโอกาสพัฒนานะ บางทีเราอาจจะรู้สึกกับเค้าพิเศษขึ้นถ้าเค้าไปเที่ยวครั้งนี้ด้วย มันอาจจะมีโมเมนต์ไรสักอย่าง พอไปถึงสวนน้ำเค้าก็โผล่มากับเพื่อนอิกคนนึง เราก็แปลกใจที่เค้ามา แต่ถามว่าถึงขั้นดีใจมั้ย ก็ไม่นะ แต่ก็โอเคไม่ถึงกับอึดอัดอะไร เวลาเล่นเครื่องเล่นอะไร เพื่อนๆมักจะยุให้เราเล่นคู่กันกับเค้า เค้าทำตัวเป็นสุภาพบุรุษมาก คอยอาสาไปซื้อน้ำซื้อขนมมาให้ คอยชวนเราไปเล่นนุ้นนี่ตลอด เอาหมวกเค้าให้เราใส่กันแดด แต่....เวลาที่เรามองเค้าเรากลับรู้สึกว่า ไม่ใช่หรอกนี่ไม่น่าใช่ความรู้สึกชอบรึความรักอะไรหรอก ถ้าเราชอบเค้าเราต้องรู้สึกเอนจอยซ์กับเค้ากว่านี้มั้ย รึแม้แต่ต้องนั่งข้างกันเราก็ไม่ได้อยากนั่งเลย แต่เราก็ชอบตรงที่เรารู้สึกเป็นคนสำคัญดีจัง ทุกอย่างตอนนี้แทบจะเรียกว่าดีหมด ติดอยู่อย่างเดียว เรายังไม่ได้มองเค้าแบบคนที่จะชอบคนที่จะรัก น่าเสียดายนะทำยังงัยเราถึงจะชอบเค้า เราจะได้ไม่เสียใจซำ้ซากๆซะที แต่เราคิดว่าบางทีมันอาจจะเป็นเพราะเราเพิ่งเลิกกับแฟนมาหมาดๆก็ได้ ใครจะไปเปลี่ยนใจปุปปั๊ปได้ขนาดนั้น ว่ามั้ย
แต่น่าแปลก พอหลังจากกลับจากสวนน้ำ เรามาเข้าที่พัก เรากลับมีความรู้สึกดีขึ้นกับเค้า เราอยากให้เค้าอยู่เที่ยวต่อ อยากให้กินข้าวด้วย ไม่ได้รู้สึกแบบไม่อยากอยู่ใกล้เหมือนตอนอยู่สวนน้ำเลย เราก็นั่งกินคอกเทลกัน แต่เค้าไม่ได้กินหรอก เพราะว่าเค้าต้องขับรถไปกรุงเทพทำงานตอนเช้าเลยไม่ได้ค้างด้วย แต่เลือกที่จะกลับดึกๆแทน เรากินเหล้าอยู่ข้างๆสระน้ำกัน บางคนก็เล่นน้ำ บางคนก็เอากล้องมาถ่ายรูป เรานั่งอยู่กับเค้าแล้วก็เพื่อนอีกคนนึง เขาบอกว่าเค้าอยากกลับมาทำงานที่บ้าน จะเรียนโทอีกใบนึงแล้วจะเอาวุฒมาเป็นครูที่มหาลัย ตอนนั้นเราคิดว่าก็ดีนะ บางทีถ้าเค้ากลับมาอยู่บ้านก็อาจจะมีโอกาสพัฒนาความรู้สึกก็ได้นะ คนนี้อาจจะค่อยเป็นค่อยไปก็ได้ ในระหว่างที่เล่น ที่คุยก็จะโดนเพื่อนล้อเพื่อนแซวตลอดว่าให้คบกัน ถ้าถึงขั้นแต่งงานกันเพื่อนจะใส่ซองให้หมื่นนึง แล้วก็ทำการ์ดแต่งงานให้ด้วย เราก็แบบพูดทีเล่นทีจริงบ้าง แบบไม่ได้ให้ความหวังมากแต่ก็ไม่เสียความรู้สึก ถึงจะยังไม่รู้สึกว่าชอบแต่ก็เรียกว่ารู้สึกดี มีโอกาสพัฒนา พอถึงเวลาที่เค้าต้องกลับประมาณสัก 4-5 ทุ่มได้ เพื่อนบอกให้เราเดินไปส่งเค้าที่รถ แต่ตอนนั้นเราเริ่มเมาแล้วล่ะ เรากลัวทำอะไรแปลกๆก็เลยไม่ไป ที่สำคัญไม่อยากไปด้วยแหละ เค้ายืนรอแปปนึง แล้วเค้าก็เห็นหน้าเราแดงมากแระเค้าเลยบอกว่า ไม่เป็นไรหรอก ดูสิเมามากแล้ว พอกลับไปถึงเค้าก็ส่งข้อความมาบอกว่าถึงแล้วนะ
หลังจากกลับจากไปเที่ยว เราก็บอกเพื่อนว่าอย่าเพิ่งยุอะไรนักเลย ตอนนี้เราก็ยังไม่ได้คิดกับเค้ามากกว่าเพื่อน คอยๆดูไป บางทีเราคิดว่าเราอาจจะไม่ได้ชอบเค้าหรอก ถ้าชอบเราคงไม่เป็นแบบนี้หรอก เพราะปกติถ้าชอบใครเราจะฟินเฟร่อ โอเว่อร์ ดีดดิ้นมาก กลับจากเขาใหญ่ก็มีทักกันบ้าง คุยกันในกลุ่มบ้าง แต่ยังไม่ถึงขั้นสานต่ออะไร เรารอว่าให้เค้ากลับมาเจอบ่อยๆรึไม่ก็กลับมาทำงานที่บ้านก่อนแล้วค่อยเริ่มตอนนั้นก็ไม่น่าสายนะ
มีช่วงนึง เราไม่ได้ทักเค้า เค้าไม่ทักเรา ไลน์กลุ่มไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร เราเองก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรหรอก เพราะปกติก็ไม่ได้คุยกันอยู่แล้ว ประกอบกับตัวเองไปเคลียร์หัวใจด้วย เราเริ่มรู้สึกไม่คิดถึงแฟนเก่าแล้ว ไม่เสียใจ แล้วก็ไม่เข้าไปส่องเค้าในเฟสแล้ว ช่วงนั้นก็เป็นช่วงเดียวกับที่เราเริ่มนึกถึงเพื่อนคนนั้นเข้าซะแล้ว แต่แค่ 3 วันเท่านั้นแหละ ช่วง 4-5 ทุ่มเค้าโพสต์รูปคู่ค่ะ คู่กะใคร ก็คู่กับคนที่เค้าบอกเป็นเพื่อนกัน ตอนนั้นเรารู้สึก เฮ้ยย ทำงี้ได้งัยอ่ะ รู้สึกเหมือนโดนหลอก เราก็เลยเลิกทักไปหาเค้าอิก เค้าเองก็ไม่ส่งอะไรมาเหมือนกัน ในใจเราก็คิดว่ารึเค้าจะทำใส่ที่เราทำเป็นเชิดใส่เค้านะ แต่ก็ช่างเถอะ เอามาปรึกษาเพื่อน เพื่อนก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอกก็เป็นเพื่อนกันยังงัยเมิงก็ไม่คิดกับเค้ามากมายไม่ใช่เหรอ ดีแล้วที่รู้ตอนนี้ ถ้าเกิดคบกันแล้วมารู้ทีหลังอาจจะแย่กว่านี้ก็ได้ พอเวลาผ่านไปสักระยะนึง เค้าก็ยังคอยกดไลค์เราทุกวันนะ บางวันเค้าก็โพสต์เพลงเหมือนคิดถึงใคร เหมือนอกหัก เราเองก็สายมโนเอามาบวกพ่วงกันอีกล่ะ ทำไมคนเราเพิ่งอัพรูปคู่หญิงถึงโพสต์แต่เพลงเศร้าวะ ช่วงที่สังเกตเค้านี่แหละ อยู่ดีๆความคิดที่ว่าถ้าเพลงพวกนั้นเค้าสื่อถึงเราล่ะ ถ้าทุกอย่างที่เค้าทำเพราะเค้ารู้สึกแย่ที่เราทำเป็นมองข้ามเค้าไปล่ะ เท่านั้นแหละเริ่มสงสัยตัวเอง นี่เราชอบเค้าแล้วเหรอเนี่ย ทำไมสนใจเค้าทุกวันงี้ล่ะ เลยลองปรึกษาเพื่อนว่าเอางัยดี เพื่อนเลยบอกว่า เมิงกล้าถามเค้ามั้ยล่ะ ว่าเค้าคบกันจริงรึป่าว เราก็บอกไปว่าไม่เอาหรอก ไปถามงั้นเค้าก็รู้สิว่าเราชอบ เพื่อนเลยบอกงั้นเมิงก็ปล่อยๆไปทำเป็นเหมือนปกติ 2 วันเท่านั้นแหละ มันอดไม่ไหวจริงๆ เราไม่อยากให้เค้าไปทำดีกับคนอื่น เราไม่อยากรอจนกว่าเค้าจะกลับมาแล้ว เราเลยส่งข้อความไปบอกเค้าว่าคิดถึง ไม่รู้ว่ากล้าส่งไปได้ยังงัย เค้าก็ตอบกลับมาว่าคิดถึงเหมือนกัน เราเลยถามเค้าไปว่า อะไรนิหลอกกันเหรอ ไหนบอกว่าไม่ได้คบกันกับคนนั้นงัย เค้าก็ยังยืนยันคำตอบเดิมว่าเค้าไม่ได้คบ หลังจากนั้นเราก็เริ่มคุยกันบ่อยขึ้น มีโทรคุยกันบ้าง ความจริงเรานี่แหละเป็นฝ่ายโทรซะมากกว่าเพราะเรารู้สึกชอบช่วงที่โทรคุยกันมากกว่ามันรู้สึกสนิทมากขึ้น ที่สำคัญเรารู้สึกว่า เฮ้ยย การที่คุยกับใครที่เค้ารู้จักเราดี รู้อดีตถึงปัจจุบันเรามันดีอย่างนี้นี่เอง การเป็นเพื่อนกันมาก่อนดีอย่างนี้นี่เอง เราถามเค้านะว่าเคยเห็นตอนเราโวยวายเสียงดังกับเพื่อนมั้ย เคยเห็นตอนเราด่ากันกับเพื่อนมั้ย เราพูดกับเพื่อนไม่เพราะนะ เค้าก็บอกเราว่าเห็นแล้ว ไม่เห็นเป็นไรเลยก็สนุกดี ตอนนั้นคือเราดีใจมากที่เราว่าเราเจอแล้วล่ะ คนที่เค้าจะยืนยิ้มเวลาที่เราเสียงดัง คนที่เวลาเราทำตัวไม่น่ารักก็คงไม่ทิ้งเราไปไหน ที่สำคัญเรารู้สึกความรู้สึกตัวเองแล้วล่ะว่าเราชอบเค้าเข้าแล้ว เราก็เก็บไปคิดต่อยอดว่า ถ้าเค้ากลับมาคงจะได้เริ่มสัมพันธภาพที่ดีต่อกันแน่ๆ แต่..............ปัญหามันดันมาติดตรงที่ พอเวลาทักแชทกัน เค้าไม่ค่อยตอบเรา บางทีกว่าจะอ่านกว่าจะตอบก็ข้ามวัน. ข้ามคืน ซึ่งมันก็ดูแปลกมาก สำหรับคนที่จะเริ่มต้นกัน เราก็เลยเกิดความสงสัยแล้วอดที่จะถามไม่ได้ ถ้าประเมินจากการตอบแชท เค้าดูไม่ได้สนใจเราซะเลย แต่ถ้าประเมินจากการพูดคุยกัน เราว่าเค้าก็รู้สึกดีกับเราไม่น้อยนะ แต่ด้วยความที่เป็นเพื่อนกันเวลาที่เราถามเค้ามันเลยไม่ได้ดูงอแง ไม่ได้ดูงอนน่ารักเหมือนเด็กมั้ง เค้าคงรู้สึกเหมือนต่อว่ามากกว่า เค้าก็อธิบายว่ามันเป็นอารมณ์แบบไม่ได้ตั้งใจจะคุย แต่ว่าก็ส่งมาบ้างกลัวจะหาว่าไม่สนใจ พอส่งไปแล้วก็เลยไม่ได้ดูไม่ได้อ่านว่าส่งไรมารึป่าว จริงๆเราก็ไม่เข้าใจหรอก ว่าทำไมเป็นแบบนั้น แต่เพราะด้วยงานเค้าเราก็เลยบอกเค้าว่างั้นต่อไปนี้จะพยายามเข้าใจนะ ต่อให้เห็นออน ไม่ทักมา ส่งไรไปไม่อ่านไม่ตอบก็จะไม่โกรธ เค้าก็ตอบกลับมาว่าแน่ใจนะ เค้าส่งข้อความมาบอกเราว่าเค้าจะไปทำงานที่ชลบุรี 2-3 วัน เราเลยโทรไปหาเค้า เค้าไม่รับโทรศัพท์ เราก็งงว่าอ้าว ทำไมไม่รับล่ะ อยากคุยด้วยนะ สัก 10 นาทีเค้าโทรกลับมา ก็คุยกะนนิดๆหน่อยแต่ก็พูดกันนะว่าต่อไปเราต้องมีปัญหาเรื่องนี้แน่เลย เรื่องไม่ตอบแชท ไม่รับโทรศัพท์ แต่ก็ไม่อะไรมากเรารู้อยู่แล้วว่าเค้าค่อนข้างเป็นคนใจเย็นใจดี เวลาที่โกรธๆงอนๆเค้าก็จะบอกว่า เด๋วเลี้ยงหนมๆ เราก็รู้สึกโอเค ความจริงเราไม่ได้โอเคที่เค้าจะเลี้ยงหนมเรา เราโอเคที่เค้าง้อเรา เราโอเคที่เค้าใจเย็นแล้วก็ชอบดึงเราจากอารมณ์ที่พุ่งๆให้กลับมาปกติ พอเค้าไปชลบุรี เค้าไม่ติดต่ออะไรเรามาเลย เราก็ได้แต่คิดว่าเค้าทำงานแหละ การที่เค้าไม่ทักแชทมาอาจจะเป็นนิสัยของเค้าก็ได้ เราพูดเองนิ ว่าเราจะไม่โกรธ เราก็เลยส่งสติ๊กเกอร์ที่เป็นรูปเชียร์ให้สู้สู้ เค้าก็ไม่อ่านไม่ตอบอีก เรานี่ก็เริ่มคิดมากแระ แต่ก็ยังไม่อะไรรอดูดีกว่าว่าหลังจากกลับมาจากชลบุรีเค้าจะบอกเราว่ายังงัย ไม่ทันได้ถามอะไรเลย เช้าวันถัดมาเค้าส่งข้อความมาบอกว่า เราเป็นเพื่อนกันเถอะนะ ไม่อยากทะเลาะกัน เราก็อึ้งสิ เราเลยบอกเค้าไปว่ากว่าเราจะรู้สึกกับเค้าได้แบบนี้เราคิดแล้วคิดอีกนะ พอเราเริ่มรู้สึกไปแล้วมันก็เลยเถิดยังงัยก็ไม่รู้ เค้าก็ตอบมาว่า เราก็รู้สึกดีนะ แต่ด้วยมันหลายอย่าง เราอยู่ไกลกัน อะไรหลายอย่างเราไม่ตรงกัน ไม่อยากทะเลาะ ตอบสนองความที่เราอยากให้เค้าเป็นไม่ได้ ไม่อยากเสียความเป็นเพื่อน คุยแล้วมันไปด้วยกันไม่ได้ ถ้าคบกันไปก็คงมีแต่จะทะเลาะกัน เราก็จะทำอะไรได้ล่ะ เพราะเราคิดว่าเค้าคงคิดมาทั้งวันทั้งคืนแล้วล่ะ เค้าถึงบอกเราแบบนี้ น่าเสียดายเนอะ มันยังไม่ทันได้เริ่มเป็นอะไรสักอย่างเลย ฉันก็โดนเข้าอีกแล้ว นึกว่าในจำนวนผู้ชายทั้งหมดเค้าจะเป็นคนสุดท้ายที่ปล่อยมือฉันซะอีก โทษเค้าอย่างเดียวก็ไม่ได้หรอกคนเราใครก็อยากเลือกคนที่ดีที่สุดให้ตัวเอง เหมือนที่ฉันเคยบอกเค้ามาตลอดสิบปีว่า ดีแล้วแหละที่เธอเจอคนดีๆไม่ได้คบฉันเป็นแฟน