สวัสดีค่ะ

เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว เดินแล้วขาพลิกค่ะ ปวดพอสทควร วันสองวันแรกลงน้ำหนักไม่ได้เลยแต่ว่าก็ไม่ได้ไปหาหมอ (อยู่ต่างประเทศ หาหมอที่นี่ค่อนข้างแพงแล้วก็เรื่องใหญ่มากเลยไม่ได้ไปน่ะค่ะ T_T) ก็เลยปฐมพยาบาลเบื้องต้นแบบในเน็ต ประคบน้ำแข็ง ใช้ผ้าพัน ทานยาแก้อักเสบ+ยาคลายกล้ามเนื้อ นอนหนุนขา ทำอยู่ประมาณเกือบสัปดาห์ก็ดีขึ้นและเดินได้ ข้อเท้าบวมน้อยลงและรอยช้ำก็หาย ก็เลยคิดว่าน่าจะโอเคเลยไม่ได้ไปหาหมอ ทายา และพันผ้า ประคบน้ำแข็งทุกวัน

แต่ว่าตอนนี้ผ่านมาเกือบเดือนแล้วตาตุ่มยังบวมนิดๆ ตอนแรกเห็นไม่ชัดแต่ว่าพอหลังจากเดินในแต่ละวัน ก็จะสังเกตเห็นได้ว่าบวมกว่าอีกข้าง กระดกขึ้นลง หมุนข้อเท้าได้นะคะ แต่ว่าทำเร็วมากๆหรือว่าแรงมากๆยังไม่ได้ แล้วก็ตอนตื่นนอนมักจะมีอาการปวดนิดๆ แต่พอลองขยับข้อเท้า ลองเดินแล้วก็ไม่ได้ปวดอะไร อันนี้ปกติมั้ยคะ

คือเราน้ำหนักตัวเยอะ แล้วก็ต้องเดินบ่อยมากๆ (เดินไปมหาลัย ไปธุระ ขึ้นลงบันได) ยิ่งช่วงขาพลิกเป็นช่วงสอบ ต้องไปมหาลัยทุกวัน หยุดพักได้สี่วัน พอเริ่มเดินได้ก็เลยเดินค่อนข้างเยอะ เคยถามเพื่อนที่เป็นนักกสยภาพบำบัดเขาบอกว่าอาจจะพักเท้าไม่มากพอเลยยังมีอาการปวดและบวมนิดๆ

ตอนนี้แอบกังวลใจหน่อยๆค่ะ คือตอนเดินไม่ปวด ไม่เจ็บอะไรนะคะ ขึ้นบันไดได้ปกติ ตอนลงอาจจะต้องช้าๆหน่อยแต่ก็ดีขึ้นกว่าตอนพลิกใหม่ๆมากแล้ว ตอนเช้าจะมีอาการปวดตึงนิดๆ ตกเย็นมาก็จะบวมกว่าตอนเช้านิดหน่อย กดตรงข้อเท้าด้านนอกและในก็ไม่เจ็บนะคะ เหมือนมันปวดจากข้างในมากกว่า อันนี้ผิดปกติมั้ยคะ มีวิธีรักษาอะไรเพิ่มเติมนอกจากที่เราทำอยู่แล้วมั้ยคะ (ประคบน้ำแข็ง พันผ้า ทาเคาน์เตอร์เพนบ้าง)

ถ้าใครมีข้อแนะนำรบกวนชี้แนะด้วยนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ ^^

ปล. เราพิมพ์จากมือถือ อาจจะอ่านไม่สะดวกเท่าไหร่ต้องขอโทษด้วยนะคะ

*แก้ไขคำผิด