สวัสดีค่ะพี่ๆน้องๆเพื่อนๆห้องแป้งทุกท่าน
วันนี้มี่เอา Sleeping pack หรือ Overnight mask หรือ มาสค์หน้าข้ามคืน ตามแต่จะเรียกมารีวิวให้ชมกันค่ะ
มาสค์หน้าที่มี่ใช้ช่วงนี้ มี 4 ตัวนี้ค่ะ
จากซ้ายไปขวา คือ Mamonde rose honey sleeping pack, Etude house bubble tea sleeping pack, Kose cosmeport hada rizumu และ A'pieu good night water sleeping pack ค่ะ
มาดูส่วนผสมแต่ละตัวกันก่อนดีกว่านะคะ
เริ่มจาก Mamonde rose honey sleeping pack
ในส่วนผสมจะเห็นว่าเนื้อเบสหลักเป็นแบบน้ำ มีองค์ประกอบของน้ำมันอยู่นิดหน่อย น้ำมันที่ใช้ให้สมบัติเคลือบผิว และบางตัวก็ดูดซึมได้ค่ะ ร่วมกับน้ำมันจากพืชอย่าง Rosehips และ มะรุม ที่ให้สมบัติฟื้นฟูไขมันให้ผิวหนัง
ใช้สารสกัดจากพืชอยู่หลายชนิด โดยตัวเคลมน่าจะเป็นสารสกัดจากกุหลาบ กับ น้ำผึ้ง ตามชื่อเลย สารสกัดอื่นๆที่ใส่มาดูจะมีประโยชน์กว่ากุหลาบกับน้ำผึ้ง โดยรวมให้ผลในด้าน Antioxidant ชะลอวัย ลดริ้วรอย และยังได้เรื่องผิวขาวเข้ามาด้วย
สิ่งที่น่าสนใจคือ การใส่สารบริสุทธิ์ที่หายาก และทรงคุณค่า
เช่น
Epigallocatechin gallate หรือ EGCG ที่เป็นสารออกฤทธิ์ในชาเขียว มีคุณสมบัติดีๆกับผิวมากมาย แทบครอบจักรวาลเลยทีเดียว
Kaempferol เป็นสารบริสุทธิ์ในกลุ่ม Flavonoids ที่พบในพืชหลายชนิด มีคุณสมบัติเป็น Antioxidant ที่มีฤทธิ์แรง
ถึงแม้ว่าในส่วนท้ายๆจะมี Alcohol เข้ามา แต่คิดว่ามาในลำดับท้ายๆ และในส่วนผสมมีสารดูดน้ำอยู่หลายตัว และมีสารตัวใหม่อย่าง Butanetriol ซึ่งไม่ค่อยเจอเท่าไหร่ในวงการ ยังไม่ค่อยมีข้อมูลเท่าไหร่
โดยรวมถือว่าทำมาได้ดีเลยทีเดียวค่ะ ค่อนข้างเป็นมิตรกับผิวเลยหละ
ให้คะแนนนิดหน่อยพอเป็นพิธีค่ะ
ส่วนผสม 5/5
ตัวที่สองเป็น มาสค์หน้าชามุก จาก etude house ค่ะ
ส่วนผสมนะคะ
เพื่อความสะดวกขอถ่ายรูปเอานะคะ
จากส่วนผสมจะเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นสารเติมน้ำให้ผิวเป็นหลัก ตัวที่น่าสนใจก็จะมี
สารสกัดจากใบชาเขียว (Camellia sinensis leaf extract) จะทำเป็นมองข้ามปริมาณไปนะคะ 1900 ppb คือ น้อยนิด มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แต่ถ้าดูจากลำดับ ก็ไม่น่าเกลียดอะไรค่ะ ส่วนตัวอิชั้นคิดว่า ไม่น่าวงเล็บเลยค่ะ ชาเขียวมีประโยชน์เป็น Antioxidant ที่ดีค่ะ
สารสกัดจากเมล็ดอัลมอนด์ ประกอบด้วยโปรตีน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
Panthenol เป็นโปรวิตามินบี 5 ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และลดการอักเสบในผิว
Coptis japonica root extract เป็นพืชยาจีนชนิดหนึ่ง ที่เกาหลีเรียกว่า Hwangryun ฮวัง-รยุน ส่วนของรากประกอบด้วยสารกลุ่ม Alkaloid หลายชนิด เช่น Berberine, Coptisine ซึ่งมีคุณสมบัติลดการอักเสบที่ดี และช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้
โดยรวมมาสค์ชามุกสูตรชาดำนี้จึงให้ผลในด้านของการชะลอวัย รีแพร์ผิว ลดการอักเสบ และเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นหลักค่ะ
ให้คะแนนซักหน่อยเป็นพิธี จากส่วนผสมไม่ได้มีตัวไหนมีพิษมีภัยอะไร เน้นไปที่การเติมน้ำให้ผิวเป็นหลัก แต่ส่วนของสารบำรุงน้อยไปนิดนึง เลยขอให้ 4 ฟลาสก์
ตัวที่ 3 สัญชาตญี่ปุ่นค่ะ มาสค์หน้าผสม Carbonic acid จาก Kose cosmeport ที่เคลมเรื่องของการเพิ่ม metabolism ให้แก่ผิวหนัง ตัวนี้มี่ไม่มีส่วนผสมนะคะ
ตัวที่ 4 ได้รับ sample มา ประมาณ 10 กระปุก ตอนไปซื้อของที่ชอป A'pieu สมัยไปเกาหลี กับตัว Good night water sleeping mask ค่ะ
หน้าตาแพคเกจจริงจะประมาณนี้ค่ะ
(Image from A'pieu)
ส่วนผสมไปใช้ google แปล + มียอนเดา จากเวบ A'pieu official ค่ะ
จากส่วนผสมจะเห็นว่าด้านสารบำรุงนั้นไม่ค่อยเด่นมาก จะมีตัว Birch sap มี่เดาว่าน่าจะหมายถึง Betula alba juice ซึ่งให้ผลด้านความชุ่มชื้น และช่วยกระชับรูขุมขน (เป็น Astringent) ร่วมกับ Hydrolyzed collagen และ hyaluron ที่เน้นเติมน้ำให้ผิวค่ะ
ส่วนสารสกัดจากคาโมมายล์กับลาเวนเดอร์ คิดว่าน่าจะให้ผลด้านลดการระคายเคืองในผิว ให้ความรู้สึกสบายผิว
ให้คะแนนส่วนผสมที่ 3/5 นะคะ
มาดูเรื่องความชุ่มชื้นกันบ้าง จะมาแบบมโนลอยๆ ก็คงจะไม่ฟิน นี่ก็เลยจะวัดความชื้นให้ดูเลยค่ะ
มี่ลองกับท้องแขนนะคะ ทำเครื่องหมายไว้ 4 จุดค่ะ
จุด 1 ใช้ mamonde
จุด 2 ใช้ etude house
จุด 3 ใช้ kose cosmeport
จุด 4 ใช้ a'pieu
วัดความชื้น/ปริมาณน้ำมันในผิวก่อนค่ะ ด้วยเครื่อง Skin analyzer SK-8
จะเห็นว่าความชื้นผิวมี่จะอยู่ระหว่าง ประมาณ 13 - 17% และมีน้ำมันประมาณ 6 - 7% นะคะ
แล้วก็ลงมาสค์ลงไปค่ะ ทีละตัว
ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วเอากระดาษกดซับเบาๆ ก่อนวัดความชื้นอีกรอบ
วัดความชื้นครั้งที่สองค่ะ หลังทิ้งไว้ 10 นาที
จะเห็นว่าค่าความชื้นในผิวเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ราวๆ 47 - 56% และปริมาณน้ำมัน ขึ้นไปที่ราวๆ 21 - 25% ค่ะ
คิดว่าน่าจะมาจากตัวครีมที่ติดค้างอยู่บนผิว
ตัวที่ทำให้ผิวมีปริมาณน้ำเพิ่มมากสุดจะเป็น Mamonde ค่ะ จาก 13% เพิ่มเป็น เกือบๆ 56% ส่วนที่เหลือ 3 ตัวจะค่อนข้างใกล้ๆกันค่ะ
ส่วนตัวที่มีความมันสูงสุด ก็จะเป็น Mamonde เช่นกันค่ะ ที่เหลืออีก 3 ตัวก็ใกล้เคียงกัน
จากนั้นก็ไปนอนค่ะ
แล้วตื่นมาวัดใหม่อีกทีตอนเช้า
ลองดูผลการเปลี่ยนแปลงนะคะ
ถ้าทำให้อยู่ในรูปแบบของ % จะได้ว่า Mamonde กับ Etude นั้นเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ค่อนข้างดีเลยค่ะ ในขณะที่ Kose นั้นเพิ่มได้ไม่มาก แต่ทำไม A'pieu นั้นทำให้ผิวแห้งขึ้นได้ หรือจะเป็นเพราะ alcohol ที่ผสมอยู่
จบแล้วค่ะ ขอบคุณที่ติดตามรับชมมาจนจบนะคะ
สุดท้ายนี้ขอฝากเพจเป็นพิธีนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/PinkCosmetIS
Disclaimer: ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นซื้อด้วยตัวเอง การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล เครื่องมือ Skin analyzer SK-8 ยังไม่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
[CR] เปิดกรุ รีวิว/วิเคราะห์ส่วนผสม Sleeping pack 4 ชิ้นภาคครึ่งปีแรก 2016 ในบ้านมียอน
วันนี้มี่เอา Sleeping pack หรือ Overnight mask หรือ มาสค์หน้าข้ามคืน ตามแต่จะเรียกมารีวิวให้ชมกันค่ะ
มาสค์หน้าที่มี่ใช้ช่วงนี้ มี 4 ตัวนี้ค่ะ
จากซ้ายไปขวา คือ Mamonde rose honey sleeping pack, Etude house bubble tea sleeping pack, Kose cosmeport hada rizumu และ A'pieu good night water sleeping pack ค่ะ
มาดูส่วนผสมแต่ละตัวกันก่อนดีกว่านะคะ
เริ่มจาก Mamonde rose honey sleeping pack
ในส่วนผสมจะเห็นว่าเนื้อเบสหลักเป็นแบบน้ำ มีองค์ประกอบของน้ำมันอยู่นิดหน่อย น้ำมันที่ใช้ให้สมบัติเคลือบผิว และบางตัวก็ดูดซึมได้ค่ะ ร่วมกับน้ำมันจากพืชอย่าง Rosehips และ มะรุม ที่ให้สมบัติฟื้นฟูไขมันให้ผิวหนัง
ใช้สารสกัดจากพืชอยู่หลายชนิด โดยตัวเคลมน่าจะเป็นสารสกัดจากกุหลาบ กับ น้ำผึ้ง ตามชื่อเลย สารสกัดอื่นๆที่ใส่มาดูจะมีประโยชน์กว่ากุหลาบกับน้ำผึ้ง โดยรวมให้ผลในด้าน Antioxidant ชะลอวัย ลดริ้วรอย และยังได้เรื่องผิวขาวเข้ามาด้วย
สิ่งที่น่าสนใจคือ การใส่สารบริสุทธิ์ที่หายาก และทรงคุณค่า
เช่น
Epigallocatechin gallate หรือ EGCG ที่เป็นสารออกฤทธิ์ในชาเขียว มีคุณสมบัติดีๆกับผิวมากมาย แทบครอบจักรวาลเลยทีเดียว
Kaempferol เป็นสารบริสุทธิ์ในกลุ่ม Flavonoids ที่พบในพืชหลายชนิด มีคุณสมบัติเป็น Antioxidant ที่มีฤทธิ์แรง
ถึงแม้ว่าในส่วนท้ายๆจะมี Alcohol เข้ามา แต่คิดว่ามาในลำดับท้ายๆ และในส่วนผสมมีสารดูดน้ำอยู่หลายตัว และมีสารตัวใหม่อย่าง Butanetriol ซึ่งไม่ค่อยเจอเท่าไหร่ในวงการ ยังไม่ค่อยมีข้อมูลเท่าไหร่
โดยรวมถือว่าทำมาได้ดีเลยทีเดียวค่ะ ค่อนข้างเป็นมิตรกับผิวเลยหละ
ให้คะแนนนิดหน่อยพอเป็นพิธีค่ะ
ส่วนผสม 5/5
ตัวที่สองเป็น มาสค์หน้าชามุก จาก etude house ค่ะ
ส่วนผสมนะคะ
เพื่อความสะดวกขอถ่ายรูปเอานะคะ
จากส่วนผสมจะเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นสารเติมน้ำให้ผิวเป็นหลัก ตัวที่น่าสนใจก็จะมี
สารสกัดจากใบชาเขียว (Camellia sinensis leaf extract) จะทำเป็นมองข้ามปริมาณไปนะคะ 1900 ppb คือ น้อยนิด มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แต่ถ้าดูจากลำดับ ก็ไม่น่าเกลียดอะไรค่ะ ส่วนตัวอิชั้นคิดว่า ไม่น่าวงเล็บเลยค่ะ ชาเขียวมีประโยชน์เป็น Antioxidant ที่ดีค่ะ
สารสกัดจากเมล็ดอัลมอนด์ ประกอบด้วยโปรตีน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
Panthenol เป็นโปรวิตามินบี 5 ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และลดการอักเสบในผิว
Coptis japonica root extract เป็นพืชยาจีนชนิดหนึ่ง ที่เกาหลีเรียกว่า Hwangryun ฮวัง-รยุน ส่วนของรากประกอบด้วยสารกลุ่ม Alkaloid หลายชนิด เช่น Berberine, Coptisine ซึ่งมีคุณสมบัติลดการอักเสบที่ดี และช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้
โดยรวมมาสค์ชามุกสูตรชาดำนี้จึงให้ผลในด้านของการชะลอวัย รีแพร์ผิว ลดการอักเสบ และเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นหลักค่ะ
ให้คะแนนซักหน่อยเป็นพิธี จากส่วนผสมไม่ได้มีตัวไหนมีพิษมีภัยอะไร เน้นไปที่การเติมน้ำให้ผิวเป็นหลัก แต่ส่วนของสารบำรุงน้อยไปนิดนึง เลยขอให้ 4 ฟลาสก์
ตัวที่ 3 สัญชาตญี่ปุ่นค่ะ มาสค์หน้าผสม Carbonic acid จาก Kose cosmeport ที่เคลมเรื่องของการเพิ่ม metabolism ให้แก่ผิวหนัง ตัวนี้มี่ไม่มีส่วนผสมนะคะ
ตัวที่ 4 ได้รับ sample มา ประมาณ 10 กระปุก ตอนไปซื้อของที่ชอป A'pieu สมัยไปเกาหลี กับตัว Good night water sleeping mask ค่ะ
หน้าตาแพคเกจจริงจะประมาณนี้ค่ะ
(Image from A'pieu)
ส่วนผสมไปใช้ google แปล + มียอนเดา จากเวบ A'pieu official ค่ะ
จากส่วนผสมจะเห็นว่าด้านสารบำรุงนั้นไม่ค่อยเด่นมาก จะมีตัว Birch sap มี่เดาว่าน่าจะหมายถึง Betula alba juice ซึ่งให้ผลด้านความชุ่มชื้น และช่วยกระชับรูขุมขน (เป็น Astringent) ร่วมกับ Hydrolyzed collagen และ hyaluron ที่เน้นเติมน้ำให้ผิวค่ะ
ส่วนสารสกัดจากคาโมมายล์กับลาเวนเดอร์ คิดว่าน่าจะให้ผลด้านลดการระคายเคืองในผิว ให้ความรู้สึกสบายผิว
ให้คะแนนส่วนผสมที่ 3/5 นะคะ
มาดูเรื่องความชุ่มชื้นกันบ้าง จะมาแบบมโนลอยๆ ก็คงจะไม่ฟิน นี่ก็เลยจะวัดความชื้นให้ดูเลยค่ะ
มี่ลองกับท้องแขนนะคะ ทำเครื่องหมายไว้ 4 จุดค่ะ
จุด 1 ใช้ mamonde
จุด 2 ใช้ etude house
จุด 3 ใช้ kose cosmeport
จุด 4 ใช้ a'pieu
วัดความชื้น/ปริมาณน้ำมันในผิวก่อนค่ะ ด้วยเครื่อง Skin analyzer SK-8
จะเห็นว่าความชื้นผิวมี่จะอยู่ระหว่าง ประมาณ 13 - 17% และมีน้ำมันประมาณ 6 - 7% นะคะ
แล้วก็ลงมาสค์ลงไปค่ะ ทีละตัว
ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วเอากระดาษกดซับเบาๆ ก่อนวัดความชื้นอีกรอบ
วัดความชื้นครั้งที่สองค่ะ หลังทิ้งไว้ 10 นาที
จะเห็นว่าค่าความชื้นในผิวเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ราวๆ 47 - 56% และปริมาณน้ำมัน ขึ้นไปที่ราวๆ 21 - 25% ค่ะ
คิดว่าน่าจะมาจากตัวครีมที่ติดค้างอยู่บนผิว
ตัวที่ทำให้ผิวมีปริมาณน้ำเพิ่มมากสุดจะเป็น Mamonde ค่ะ จาก 13% เพิ่มเป็น เกือบๆ 56% ส่วนที่เหลือ 3 ตัวจะค่อนข้างใกล้ๆกันค่ะ
ส่วนตัวที่มีความมันสูงสุด ก็จะเป็น Mamonde เช่นกันค่ะ ที่เหลืออีก 3 ตัวก็ใกล้เคียงกัน
จากนั้นก็ไปนอนค่ะ
แล้วตื่นมาวัดใหม่อีกทีตอนเช้า
ลองดูผลการเปลี่ยนแปลงนะคะ
ถ้าทำให้อยู่ในรูปแบบของ % จะได้ว่า Mamonde กับ Etude นั้นเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้ค่อนข้างดีเลยค่ะ ในขณะที่ Kose นั้นเพิ่มได้ไม่มาก แต่ทำไม A'pieu นั้นทำให้ผิวแห้งขึ้นได้ หรือจะเป็นเพราะ alcohol ที่ผสมอยู่
จบแล้วค่ะ ขอบคุณที่ติดตามรับชมมาจนจบนะคะ
สุดท้ายนี้ขอฝากเพจเป็นพิธีนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Disclaimer: ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นซื้อด้วยตัวเอง การรีวิวครั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ส่วนผสมตามหลักการทางวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางและอาศัยความเห็นส่วนบุคคล เครื่องมือ Skin analyzer SK-8 ยังไม่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ผู้เขียนไม่ได้มีผลประโยชน์ใดๆในการขายสินค้า โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน