เป็นนัดแรกของฤดูกาลที่ได้ดูฟุตบอลไทยลีก ระหว่าง ราชบุรี กับเมืองทอง
ก็เพราะได้ข่าวว่า “เฮแบร์ตี้” นักเตะที่ชื่นชอบ จะอำลาลีกไทยไปซาอุฯ

กัปตัน “เฮแบร์ตี้” นับเป็นนักเตะที่ครบเครื่องที่สุดในไทยลีก
ทั้งแอสซิสต์, ทั้งเตะมุม, เตะฟรีคิก, ลูกจุดโทษ, ทั้งชงเอง ยิงเอง,
ทั้งกระชากลากเลื้อย พ่อประคุณคนนี้เอาทุกอย่าง
โดยเฉพาะลูกฟรีคิกในระยะหวังผล มักจะมีโอกาสจบสกอร์สูง
และยังไม่เห็นมีใครเทียบได้สักคน

นอกจากเกมในสนามที่มีคุณภาพ และครบทุกรสแล้ว
สิ่งที่ให้ฉุกคิด และสะกิดใจมากที่สุดคือ บรรยากาศก่อนแข่ง และหลังแข่ง
ที่คณะผู้บริหารสโมสร และแฟนบอล  เห็นคุณค่า และให้เกียรติ “เฮแบร์ตี้” กับตันทีม
ที่ทุ่มเท และทำผลงานให้กับทีมอย่างดีเยี่ยมมาตลอดระยะเวลาที่มาค้าแข้งที่ราชบุรี

กัปตันเฮแบร์ตี้ ตำนานของราชบุรี กล่าวต่อหน้าแฟนบอลที่มาเชียร์เขาหลังจบเกมด้วยน้ำตา
แฟนบอลบางคนก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่เช่นกัน









เหตุการณ์นี้ทำให้นึกถึง กัปตัน "ไดกิ อิวามาสะ" นักเตะคนโปรดอีกคนหนึ่ง  
ตอนอำลา “คาชิมา อันเลอร์ส” มาอยู่เทโร แฟนบอลก็ร้องห่มร้องให้กันระงมเซ็งแซ่

นึกถึง "แมธ สมิธ" กัปตันคนเก่ง ตอนอำลา บริสเบน โรว์ มาอยู่บางกอกกล๊าส ก็สมเกียรติ ไม่แพ้กัน

หันมาทางไอโมบาย สเตเดี้ยม
บรรยากาศการรู้บุญ ตอบคุณซึ่งกันและกัน ยังไม่มีให้เห็น  

ปรากฏการณ์หักเหลี่ยมเฉือนคม กับ“อุ้มลูกรัก” ก็ดี
ปรากฏการณ์ปลดกลางดึกต่อ “กาม่า” ก็ดี
หรือแม้แต่กรณีไล่กลางกรุงโซลต่อ “อรรถพล” ก็ดี
เหตุการณ์เหล่านี้สะเทือนต่อมคุณธรรมความรู้สึกต่อแฟนบอลไม่น้อย  

ให้สงสัยว่า... คนเราจะไม่เหลือความดีให้กันเลยหรือ???
จะไม่เหลือเกียรติให้กันบ้างหรือ???
ทั้งที่ทั้ง 3 คนนี้ ล้วนแล้วแต่มีผลงาน
และทุ่มเทให้กับทีม ไม่น้อยไปกว่ากัปตัน “เฮแบร์ตี้” เลย



ในฐานะแฟนบุรีรัมย์  แฟนบอลของตูเญซ
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า บรรยากาศที่ราชบุรีเมื่อตอนหัวค่ำ
สโมสรจะตั้งสติทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมา

พร้อมละลดความเป็นตัวGU ของGU  
คิดถึงบุญคุณของกันและกัน ปฏิบัติต่อเพื่อนร่วมงานทุกคน
ต่อ “กัปตันกบ”  ต่อกัปตัน “ตูเญซ” อย่างเห็นค่า และให้เกียรติ