ขออนุญาตแก้ไขเนื้อหาเพิ่มเติม เนื่องจากวันที่ตั้งกระทู้ รีบไปหน่อยค่ะ
รีวิวนี้ขอแชร์ประสบการณ์ และ แบ่งปันรูปสวยๆ เผื่อใครกำลังตัดสินใจจะไปเที่ยวแถบนี้
พอดีว่า จขกท ต้องไปทำธุระที่อิตาลีและมีเงื่อนไขว่าเราต้องขึ้นและลงเครื่องที่อิตาลีเท่านั้น เลยหาข้อมูลและในที่สุดก็พบว่าประเทศโครเอเชีย เป็นประเทศเปิดใหม่และสามารถใช้วีซ่าเชงเก้นได้ วีซ่าดังกล่าว ต้องขอเป็นแบบ multiple นะคะ สำหรับเดินทางไปโครเอเชีย เส้นทางที่เราเลือกเดินทางในครั้งนี้
วันที่ 1 ลงเครื่องที่ Milan แล้วต่อรถไฟไปลง Florence
วันที่ 2 และ 3 อยู่เที่ยวใน Florence ได้ไปเที่ยวที่ Pisa แล้วอีกวันก้ไป outlet ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปประมาณชั่วโมงนึงค่ะ
วันที่ 4 เดินทางจาก จาก Florence ไป La Spezia เพื่อไปเที่ยวเมือง Cinque terre มีด้วยกัน 5 หมู่บ้าน คือ
- Monterosso al Mare,
- Vernazza,
- Corniglia,
- Manarola, and
- Riomaggiore
แต่ เป็นที่นิยมอยู่ 3 หมู่บ้านสำหรับนักท่องเที่ยว คือ Riomaggiore, Manarola และ Vernazza การเดินทางนั่งรถไฟ จาก Florence ไป La Spezia และ ซื้อ บัตร day pass 5 หมู่บ้านได้ที่นี่โดยจะขึ้นรถไฟจากหมู่บ้านนึงไปยังหมู่บ้านนึงได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งแต่ละหมู่บ้านใช้เวลานั่งรถไฟประมาณ 2-5 นาทีเท่านั้น แต่จะเสียเวลาตอนนั่งรถไฟจาก Florence ใช้เวลา 2-3 ชม. พอดีว่าช่วงที่ จขกท ไปนั้นเป็นช่วงหน้าร้อนของยุโรปพอดี แต่ไม่รู้ปีนี้ทำไมปีนี้อากาศงุนงงเพราะมีทั้งฝนตกด้วย วันที่เราออกเดินทาง ต้องตื่นแต่เช้าค่ะ เพราะอยากจะเก็บให้ครบทุกหมู่บ้าน เลยจองตั๋วรถไฟรอบ 6 โมงเช้าออกจาก Florence พอดีไปถึงหมู่บ้านก้ประมาณ 9 โมง ที่นี่ถึงจะเป็นหน้าร้อน แต่ตอนเช้านี่ลมเย็นมากกกกก แนะนำคนที่จะไปเที่ยวเตรียมเสื้อคลุมบางๆไปคลุมกันลมก้ดีนะคะ เพราะพอเริ่มสายๆ อากาศร้อนไม่แพ้บ้านเราเลยค่ะ ถ้าใส่เสื้อผ้าหนาเกินไปจะร้อนเปล่าๆ แถมต้องคอยแบกเสื้อหนักๆ ไม่สนุกแน่
การเดินทางไป Cinque Terre นี้ บ่งตงๆค่ะ ว่าเหนื่อยมากกก เพราะต้องตื่นเช้า แล้วต่อรถไฟหลายต่อ แต่คุ้มจริงๆๆ เพราะสวยจริงไรจริง ภาพที่ถ่ายออกมา แทบไม่ต้องปรับอะไรมากเลยเพราะวิวและบรรยากาศสวยอยู่แล้ว และที่น่าเบื่ออีกอย่างคือ ทัวร์จีนจะเยอะมากกก มีทุกหนทุนแห่ง พอๆกับโจรล้วงกระเป๋า ต้องคอยดูแลกระเป๋าอย่าห่างเลย
วันที่ 5 ออกเดินทางจาก Florence, Italy เพื่อไป Ljubljana, Slovenia โดยนั่งรถไฟจาก Florence ไป Venice mestre และ ใช้บริการ รถ Goopti transfer จาก Venice Mestre ไปสนามบิน Ljubljana เพื่อไปรับรถ เนื่องจากว่าการเดินทางในสโลวีเนียและโครเอเชีย การเช่ารถขับเองน่าจะเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด ถนนโล่ง ขับไม่ยาก เราได้เช่า GPS ไปจากเมืองไทย 15 วันราคารวม 950 บาท ซึ่งในคืนแรก เรานอนกันที่ Bled ซึ่งเป็นเมืองที่เงียบสงบ อยู่ริมทะเลสาป สวยมากค่ะ สำหรับเรา ยกให้เป็น mini Swiss เลย อากาศดีสุดๆ และนักท่องเที่ยวก้ยังไม่เยอะมาก ผู้คนเป็นมิตรมาก เค้าพูดภาษาอังกฤษกันไม่คล่องมาก แต่ทุกคนพยายามจะพูดและสื่อสารกับเราอย่างเต็มใจ (ตัดภาพไปที่อิตาลีค่ะ!! คนพูดภาษาอังกฤษน้อยมาก และไม่พยายามที่จะสื่อสารให้เราเค้าใจ เนื่องจากเค้าก้ไม่ได้แคร์นักท่องเที่ยวมากนัก...ไม่ว่ากันนะคะ ประสบการณ์ที่เจอกันมาอาจจะแต่กต่างกัน) เค้าพยายามจะโปรโมทเมือง ประเทศของเค้าว่ามีอะไรน่าเที่ยวบ้าง ซึ่งก้สวยตามที่เค้าพรรณาจริงๆนะ คุ้มค่าแก่การไปเยือนสุดๆ
วันที่ 6 จาก Bled เมืองหลวงของ Slovenia ไป Zagreb, Croatia โดยแวะเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติ Vintgar gorge ก่อน วันนั้นอากาศค่อนข้างเย็น เพราะมีฝนตกปรอยๆตลอดวัน น้ำตกที่นี่สวยมาก นึกว่าหลุดเข้าไปอยู่ในป่าในนิยายซะอีก
ภาพอุทยานแห่งชาติ Vintgar gorge
วันที่ 7 จาก Zagreb ไป อุทยานแห่งชาติ Plitvice lakes, Croatia และค้างที่ Plitvice lakes
วันนั้นฟ้าไม่เป็นใจจริงๆ เพราะฟ้ามามืดฝนทำท่าจะตกอยู่ตลอดเวลา พอไปถึงอุทยาน...นั่นไง ฝนตกจนได้! แต่ก้ไม่ได้ทำการความตั้งใจหมดไป ก้ยังได้รูปสวยไปอีกแบบ น้ำที่นี่สวยมากๆๆๆๆ คือเขียวสวยราวกับมีมรกตอยู่ใต้น้ำ สวยจนไม่คิดว่าเป็นของจริง พอช่วงบ่ายฝนหยุดตก แดดออก ฟ้าเปิด ถือว่าโชคดีมาก เราเดินกลับไปที่ Big Waterfall อีกครั้งน้ำตกดูยิ่งใหญ่สวยงาม เพราะรู้สึกมีน้ำเยอะขึ้นเนื่องจากฝนที่เทลงมา ตรงนี้เป็นจุด highlight ของที่นี่เลย ทุกคนที่ไป ต้องต่อคิวเพื่อถ่ายรูปกับน้ำตกนี้
Plitvice lakes
วันที่ 8 Plitvice lakes ไป Trogir และ Split ค้าง Split
คุณพระคุณเจ้า คือแบบ เมื่อวานอากาศเย็นเพราะฝนตก พอวันนี้ย้ายเมืองเท่านั้นแหละค่ะ ร้อนมาก แผดเผามากกก ร้อนพอๆกะบ้านเราแต่เป็นร้อนแห้งๆ คือปรับอากาศไม่ทันเลย ใครมาเที่ยวยุโรปช่วงนี้ แนะนำไม่ต้องหอบครีมกันแดดมาจากบ้านนะคะ มาเลือกซื้อเอาที่นี่เลย selection เค้ามีหลายแบบ หลายยี่ห้อ หรือถ้าใครอยากผิวแทนๆ ผลิตภัณฑ์ของเค้านี่เยอะมาก มากกว่าครีมกันแดดอีก มีให้เลือกแบบสนุกเลย อากาศแบบนี้ เหมาะกับผิวสีแทนๆสวยๆเลยใครชอบ แนะนำให้มาช่วงนี้ค่ะ เพราะยังไม่ร้อนมาก ช่วง สิงหาซิ ร้อนตายกันไปเลย 555
ที่ Split นี่ ได้แวะไป Palace of Diocletian ด้วย ใครที่เป็นแฟนพันธ์แท้ของ Game of Thrones ต้องไม่ยอมพลาดเป็นแน่ๆ เพราะเป็นสถานที่ที่ใช้ถ่ายทำฉากที่แม่มังกรใช้เก็บมังกร และ Daenerys' Throne Room ด้วย
วันที่ 9 Split - Dubrovnik ค้าง Dubrovnik
เมืองนี้เป็น highlight ของทริปเลยก้ว่าได้ เพราะ จขกท เป็นแฟน Game of Thrones มาเมืองนี้ได้เก็บหลายฉากจากในหนังเลยค่ะ คือสวยมากจริงๆ ถ้าเดินตอนบ่ายๆนี่มีสิทธฺ์ตายได้ เลยขอเข้าไปพักก่อน แล้วเย็นๆค่อยออกมาเดินเที่ยว ซัก 6 โมงกำลังดีค่ะ แดดไม่แรงมาก และแสงกำลังดี นี่คือข้อดีของการมายุโรปช่วง summer เพราะทำให้ใช้เวลาในแต่ละวันได้คุ้มค่ามาก กว่าพระอาทิตย์จะตกก้เกือบสามทุ่มแหนะ แล้วช่วงก่อนพระอาทิตย์จะตก เราก้ขึ้น cable ขึ้นไปเพื่อชมวิวจากจุดสูง ณ ช่วงนั้นทำให้สามารถถ่ายรูปได้สองเวลาคือ ก่อนอาทิตย์ตก และ หลังอาทิตย์ตก พอหลังอาทิตย์ตก เค้าก้จะเปิดไฟทั่วเมืองเลย สวยมากจริงๆ สวยจนรู้สึกว่าตัวเองเป็น Kaleesi 55555
ก่อนจะกลับลงไปก้แวะ dinner ที่ร้านอาหารด้านบน มีอยู่ร้านเดียวบนนี้ ทานไป รับลมไป มองวิวไป อาหารทะเลที่นี่อร๊อยอร่อยย คือถ้าจีบกันนี่โรแมนติกสุดๆ แต่พอดีมากะเพื่อนสนิท หันไปมองหน้ามันก้อยากกระโดดลงหน้าผาละค่ะ กร๊ากกกกก
วันที่ 10 Dubrovnik กลับมา Split เนื่องจากว่า เรือ Ferry ข้ามฟาก จาก Dubrovnik ไป Bari Italy เต็ม จึงต้องย้อนกลับมา Split ค้างอีก 1 คืน คืนรถเช่าและบินกลับไปที่ Rome, Italy แทน
วันที่ 11 Rome, Italy น่าเสียดายที่รอบๆ Colosseum อยู่ภายใต้การปรับปรุง เลยมีก่อสร้างเต็มไปหมด การถ่ายรูปก้ต้องเลี่ยงๆ ไม่ให้ติดสิ่งก่อสร้าง
วันที่ 12 Rome, Italy กลับ Bangkok บ้านเรา
จริงๆเที่ยวโรมเน้นไปทางสภาปัตยกรรม ถ้าใครชอบด้านนี้แนะนำให้มาค่ะ เมืองสวย แต่มาอิตาลีช่วงนี้ พกยากันยุงมาด้วยก้ดีนะคะ ยุงเยอะมาก แมลงด้วย คงเป็นเพราะฝนตกพอดี แล้วเป็นหน้าร้อนด้วย แมลงเพียบ
สำหรับการรีวิวครั้งนี้หากตกหล่นหรือมีอะไรผิดพลาดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ แค่อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ท่องเที่ยวให้เพื่อนๆและคนที่สนใจประเทศแถบๆนี้ ขอบคุณค่ะ
[CR] กาลครั้งหนึ่ง ณ Italy - Slovenia -Croatia
รีวิวนี้ขอแชร์ประสบการณ์ และ แบ่งปันรูปสวยๆ เผื่อใครกำลังตัดสินใจจะไปเที่ยวแถบนี้
พอดีว่า จขกท ต้องไปทำธุระที่อิตาลีและมีเงื่อนไขว่าเราต้องขึ้นและลงเครื่องที่อิตาลีเท่านั้น เลยหาข้อมูลและในที่สุดก็พบว่าประเทศโครเอเชีย เป็นประเทศเปิดใหม่และสามารถใช้วีซ่าเชงเก้นได้ วีซ่าดังกล่าว ต้องขอเป็นแบบ multiple นะคะ สำหรับเดินทางไปโครเอเชีย เส้นทางที่เราเลือกเดินทางในครั้งนี้
วันที่ 1 ลงเครื่องที่ Milan แล้วต่อรถไฟไปลง Florence
วันที่ 2 และ 3 อยู่เที่ยวใน Florence ได้ไปเที่ยวที่ Pisa แล้วอีกวันก้ไป outlet ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปประมาณชั่วโมงนึงค่ะ
วันที่ 4 เดินทางจาก จาก Florence ไป La Spezia เพื่อไปเที่ยวเมือง Cinque terre มีด้วยกัน 5 หมู่บ้าน คือ
- Monterosso al Mare,
- Vernazza,
- Corniglia,
- Manarola, and
- Riomaggiore
แต่ เป็นที่นิยมอยู่ 3 หมู่บ้านสำหรับนักท่องเที่ยว คือ Riomaggiore, Manarola และ Vernazza การเดินทางนั่งรถไฟ จาก Florence ไป La Spezia และ ซื้อ บัตร day pass 5 หมู่บ้านได้ที่นี่โดยจะขึ้นรถไฟจากหมู่บ้านนึงไปยังหมู่บ้านนึงได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งแต่ละหมู่บ้านใช้เวลานั่งรถไฟประมาณ 2-5 นาทีเท่านั้น แต่จะเสียเวลาตอนนั่งรถไฟจาก Florence ใช้เวลา 2-3 ชม. พอดีว่าช่วงที่ จขกท ไปนั้นเป็นช่วงหน้าร้อนของยุโรปพอดี แต่ไม่รู้ปีนี้ทำไมปีนี้อากาศงุนงงเพราะมีทั้งฝนตกด้วย วันที่เราออกเดินทาง ต้องตื่นแต่เช้าค่ะ เพราะอยากจะเก็บให้ครบทุกหมู่บ้าน เลยจองตั๋วรถไฟรอบ 6 โมงเช้าออกจาก Florence พอดีไปถึงหมู่บ้านก้ประมาณ 9 โมง ที่นี่ถึงจะเป็นหน้าร้อน แต่ตอนเช้านี่ลมเย็นมากกกกก แนะนำคนที่จะไปเที่ยวเตรียมเสื้อคลุมบางๆไปคลุมกันลมก้ดีนะคะ เพราะพอเริ่มสายๆ อากาศร้อนไม่แพ้บ้านเราเลยค่ะ ถ้าใส่เสื้อผ้าหนาเกินไปจะร้อนเปล่าๆ แถมต้องคอยแบกเสื้อหนักๆ ไม่สนุกแน่
การเดินทางไป Cinque Terre นี้ บ่งตงๆค่ะ ว่าเหนื่อยมากกก เพราะต้องตื่นเช้า แล้วต่อรถไฟหลายต่อ แต่คุ้มจริงๆๆ เพราะสวยจริงไรจริง ภาพที่ถ่ายออกมา แทบไม่ต้องปรับอะไรมากเลยเพราะวิวและบรรยากาศสวยอยู่แล้ว และที่น่าเบื่ออีกอย่างคือ ทัวร์จีนจะเยอะมากกก มีทุกหนทุนแห่ง พอๆกับโจรล้วงกระเป๋า ต้องคอยดูแลกระเป๋าอย่าห่างเลย
วันที่ 5 ออกเดินทางจาก Florence, Italy เพื่อไป Ljubljana, Slovenia โดยนั่งรถไฟจาก Florence ไป Venice mestre และ ใช้บริการ รถ Goopti transfer จาก Venice Mestre ไปสนามบิน Ljubljana เพื่อไปรับรถ เนื่องจากว่าการเดินทางในสโลวีเนียและโครเอเชีย การเช่ารถขับเองน่าจะเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด ถนนโล่ง ขับไม่ยาก เราได้เช่า GPS ไปจากเมืองไทย 15 วันราคารวม 950 บาท ซึ่งในคืนแรก เรานอนกันที่ Bled ซึ่งเป็นเมืองที่เงียบสงบ อยู่ริมทะเลสาป สวยมากค่ะ สำหรับเรา ยกให้เป็น mini Swiss เลย อากาศดีสุดๆ และนักท่องเที่ยวก้ยังไม่เยอะมาก ผู้คนเป็นมิตรมาก เค้าพูดภาษาอังกฤษกันไม่คล่องมาก แต่ทุกคนพยายามจะพูดและสื่อสารกับเราอย่างเต็มใจ (ตัดภาพไปที่อิตาลีค่ะ!! คนพูดภาษาอังกฤษน้อยมาก และไม่พยายามที่จะสื่อสารให้เราเค้าใจ เนื่องจากเค้าก้ไม่ได้แคร์นักท่องเที่ยวมากนัก...ไม่ว่ากันนะคะ ประสบการณ์ที่เจอกันมาอาจจะแต่กต่างกัน) เค้าพยายามจะโปรโมทเมือง ประเทศของเค้าว่ามีอะไรน่าเที่ยวบ้าง ซึ่งก้สวยตามที่เค้าพรรณาจริงๆนะ คุ้มค่าแก่การไปเยือนสุดๆ
วันที่ 6 จาก Bled เมืองหลวงของ Slovenia ไป Zagreb, Croatia โดยแวะเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติ Vintgar gorge ก่อน วันนั้นอากาศค่อนข้างเย็น เพราะมีฝนตกปรอยๆตลอดวัน น้ำตกที่นี่สวยมาก นึกว่าหลุดเข้าไปอยู่ในป่าในนิยายซะอีก
ภาพอุทยานแห่งชาติ Vintgar gorge
วันที่ 7 จาก Zagreb ไป อุทยานแห่งชาติ Plitvice lakes, Croatia และค้างที่ Plitvice lakes
วันนั้นฟ้าไม่เป็นใจจริงๆ เพราะฟ้ามามืดฝนทำท่าจะตกอยู่ตลอดเวลา พอไปถึงอุทยาน...นั่นไง ฝนตกจนได้! แต่ก้ไม่ได้ทำการความตั้งใจหมดไป ก้ยังได้รูปสวยไปอีกแบบ น้ำที่นี่สวยมากๆๆๆๆ คือเขียวสวยราวกับมีมรกตอยู่ใต้น้ำ สวยจนไม่คิดว่าเป็นของจริง พอช่วงบ่ายฝนหยุดตก แดดออก ฟ้าเปิด ถือว่าโชคดีมาก เราเดินกลับไปที่ Big Waterfall อีกครั้งน้ำตกดูยิ่งใหญ่สวยงาม เพราะรู้สึกมีน้ำเยอะขึ้นเนื่องจากฝนที่เทลงมา ตรงนี้เป็นจุด highlight ของที่นี่เลย ทุกคนที่ไป ต้องต่อคิวเพื่อถ่ายรูปกับน้ำตกนี้
Plitvice lakes
วันที่ 8 Plitvice lakes ไป Trogir และ Split ค้าง Split
คุณพระคุณเจ้า คือแบบ เมื่อวานอากาศเย็นเพราะฝนตก พอวันนี้ย้ายเมืองเท่านั้นแหละค่ะ ร้อนมาก แผดเผามากกก ร้อนพอๆกะบ้านเราแต่เป็นร้อนแห้งๆ คือปรับอากาศไม่ทันเลย ใครมาเที่ยวยุโรปช่วงนี้ แนะนำไม่ต้องหอบครีมกันแดดมาจากบ้านนะคะ มาเลือกซื้อเอาที่นี่เลย selection เค้ามีหลายแบบ หลายยี่ห้อ หรือถ้าใครอยากผิวแทนๆ ผลิตภัณฑ์ของเค้านี่เยอะมาก มากกว่าครีมกันแดดอีก มีให้เลือกแบบสนุกเลย อากาศแบบนี้ เหมาะกับผิวสีแทนๆสวยๆเลยใครชอบ แนะนำให้มาช่วงนี้ค่ะ เพราะยังไม่ร้อนมาก ช่วง สิงหาซิ ร้อนตายกันไปเลย 555
ที่ Split นี่ ได้แวะไป Palace of Diocletian ด้วย ใครที่เป็นแฟนพันธ์แท้ของ Game of Thrones ต้องไม่ยอมพลาดเป็นแน่ๆ เพราะเป็นสถานที่ที่ใช้ถ่ายทำฉากที่แม่มังกรใช้เก็บมังกร และ Daenerys' Throne Room ด้วย
วันที่ 9 Split - Dubrovnik ค้าง Dubrovnik
เมืองนี้เป็น highlight ของทริปเลยก้ว่าได้ เพราะ จขกท เป็นแฟน Game of Thrones มาเมืองนี้ได้เก็บหลายฉากจากในหนังเลยค่ะ คือสวยมากจริงๆ ถ้าเดินตอนบ่ายๆนี่มีสิทธฺ์ตายได้ เลยขอเข้าไปพักก่อน แล้วเย็นๆค่อยออกมาเดินเที่ยว ซัก 6 โมงกำลังดีค่ะ แดดไม่แรงมาก และแสงกำลังดี นี่คือข้อดีของการมายุโรปช่วง summer เพราะทำให้ใช้เวลาในแต่ละวันได้คุ้มค่ามาก กว่าพระอาทิตย์จะตกก้เกือบสามทุ่มแหนะ แล้วช่วงก่อนพระอาทิตย์จะตก เราก้ขึ้น cable ขึ้นไปเพื่อชมวิวจากจุดสูง ณ ช่วงนั้นทำให้สามารถถ่ายรูปได้สองเวลาคือ ก่อนอาทิตย์ตก และ หลังอาทิตย์ตก พอหลังอาทิตย์ตก เค้าก้จะเปิดไฟทั่วเมืองเลย สวยมากจริงๆ สวยจนรู้สึกว่าตัวเองเป็น Kaleesi 55555
ก่อนจะกลับลงไปก้แวะ dinner ที่ร้านอาหารด้านบน มีอยู่ร้านเดียวบนนี้ ทานไป รับลมไป มองวิวไป อาหารทะเลที่นี่อร๊อยอร่อยย คือถ้าจีบกันนี่โรแมนติกสุดๆ แต่พอดีมากะเพื่อนสนิท หันไปมองหน้ามันก้อยากกระโดดลงหน้าผาละค่ะ กร๊ากกกกก
วันที่ 10 Dubrovnik กลับมา Split เนื่องจากว่า เรือ Ferry ข้ามฟาก จาก Dubrovnik ไป Bari Italy เต็ม จึงต้องย้อนกลับมา Split ค้างอีก 1 คืน คืนรถเช่าและบินกลับไปที่ Rome, Italy แทน
วันที่ 11 Rome, Italy น่าเสียดายที่รอบๆ Colosseum อยู่ภายใต้การปรับปรุง เลยมีก่อสร้างเต็มไปหมด การถ่ายรูปก้ต้องเลี่ยงๆ ไม่ให้ติดสิ่งก่อสร้าง
วันที่ 12 Rome, Italy กลับ Bangkok บ้านเรา
จริงๆเที่ยวโรมเน้นไปทางสภาปัตยกรรม ถ้าใครชอบด้านนี้แนะนำให้มาค่ะ เมืองสวย แต่มาอิตาลีช่วงนี้ พกยากันยุงมาด้วยก้ดีนะคะ ยุงเยอะมาก แมลงด้วย คงเป็นเพราะฝนตกพอดี แล้วเป็นหน้าร้อนด้วย แมลงเพียบ
สำหรับการรีวิวครั้งนี้หากตกหล่นหรือมีอะไรผิดพลาดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ แค่อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ท่องเที่ยวให้เพื่อนๆและคนที่สนใจประเทศแถบๆนี้ ขอบคุณค่ะ