แบบว่ากำลังจะทำแผนเที่ยวยุโรปค่ะ ก็เลยนำมาลง Pantip ซะเลย เผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลอยู่ ทริปนี้ไปมาช่วงสงกรานต์ปี 59 วันที่ 3-15 เม.ย. เที่ยวทั้งหมด 13 วัน 11 คืนค่ะ มาเริ่มกันเลยค่ะ
เตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง
Step 1 จองตั๋วเครื่องบิน
ลำดับแรก เริ่มจากการหาตั๋วเครื่องบินค่ะ ในตอนแรกตั้งใจจะหาตั๋วไปนิวซีแลนด์ เพราะอยากจะไปโดดบันจี้จัมพ์ให้ถึงถิ่นออริจินอล แต่กลับหาตั๋วถูกไม่ได้เลย หาไปหามา ช่วงต้นตุลาก็มาเจอตั๋วถูกไปอังกฤษกลับเนเธอร์แลนด์ เห็นแบบนี้ ตาลุกวาวเลยค่ะ คิดเปลี่ยนแผนจากนิวซีแลนด์เป็นยุโรปทันที เพราะเป็นประเทศที่ตั้งใจคิดอยากจะไปอยู่แล้ว เพราะก่อนหน้านี้ช่วงสงกรานต์ปี 58 ได้ไปฝรั่งเศส-สวิตเซอร์แลนด์-อิตาลี มาแล้ว และกะจะเก็บสิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 7 โซนยุโรปให้ครบ ที่นี้ก็ได้ไป Stonehenge สมใจแล้ว และครั้งก่อนก็พลาดไม่ได้ขึ้นหอไอเฟลกับเข้าพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ไปฝรั่งเศสแล้วแต่เหมือนยังไปไม่ถึงยังงัยก็ไม่รู้ คราวนี้จะได้ถือโอกาสไปแก้ตัวด้วยเลย ประกอบกับช่วงเมษา ดอกทิวลิปที่เนเธอร์แลนด์ก็บานพอดี เป็น Trip ที่ตั้งใจไว้อยู่แล้วแบบนี้ ก็เลยจัดเลยค่ะ ไม่รอช้า
ตั๋วเครื่องบินที่หาได้หาได้จาก Skyscanner เป็นของ Etihad ค่ะ ราคาตามรูปเป็นราคาที่โชว์หน้าเว็บในวันที่หาตั๋วเจอนะคะ แต่จ่ายจริงราคา 19,825.40 บาทต่อคนค่ะ เพราะราคาจะขยับตามอัตราแลกเปลี่ยนในวันที่ตัดบัตรเครดิต เลยต้องจ่ายเพิ่มมานิดนุงก็แอบเซงอยู่เหมือนกัน แต่ก็ช่างมันเถอะค่ะได้ราคาประมาณนี้ก็คิดว่าถูกพอสมควร
- ไป Kuala Lumpur – London วันที่ 3 เม.ย. เวลา 20:05 ถึง วันที่ 4 เม.ย. เวลา 7:35 (ต่อเครื่องที่ Abu Dhabi)
- กลับ Amsterdam – Bangkok วันที่ 15 เม.ย. เวลา 22:00 ถึง วันที่ 16 เม.ย. เวลา 19:50 (ต่อเครื่องที่ Abu Dhabi เช่นเดียวกัน) เวลาถึงกรุงเทพนี้ จะต่างจากในรูปค่ะ ที่เลือกเวลานี้จะได้มีเวลาต่อเครื่องเพิ่มขึ้นอีกหน่อย เพราะ Trip ก่อนเคยมีประสบการณ์เครื่องบิน Delay เลยตกเครื่องหนะค่ะ
เวลาก็ดี ช่วงวันก็เหมาะสม ตรงวันหยุดช่วงสงกรานต์บ้านเราพอดี และเลือกที่จะเดินทางไปจาก Kuala Lumpur เพราะได้ตั๋วถูกกว่า ดังนั้นก็ต้องจองตั๋ว AirAsia ไปมาเลเซียด้วย ซึ่ง AirAsia จะมี Promotion อยู่เรื่อยๆอยู่แล้ว พอมี Promotion ปั๊บก็จองทันทีในราคา 1,390 บาทต่อคน บวกกับค่าธรรมเนียมการชำระอีก 130 บาท รวมเป็นราคาตั๋วเครื่องบินทั้ง Etihad และ AirAsia เป็น 21,345.40 บาทต่อคนค่ะ
สำหรับตั๋ว AirAsia นั้น หากมีการเลือกที่นั่ง และ Load กระเป๋า จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก ซึ่งครั้งนี้ส่วนตัวไม่ได้เลือกที่นั่ง ส่วน Load กระเป๋า ได้ทำบัตรเครดิตร่วมแอร์เอเชีย Platinum ของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งจะได้บัตร Load กระเป๋าฟรี 20 กิโล มาด้วย ซึ่งช่วยประหยัดเงินได้อีก 640 บาทต่อคนเลยค่ะ
Step 2 กำหนดจำนวนวันเที่ยว
ลำดับต่อไปก็มาคิดค่ะว่าอยากไปเที่ยวที่ไหนของแต่ละประเทศบ้าง เพื่อจะได้รู้จำนวนวันที่ต้องอยู่ในแต่ละประเทศ จะได้จองโรงแรมได้ถูกว่าแต่ละที่จะนอนกี่วัน และควรพักแถวไหน ซึ่งสถานที่เที่ยวที่ตนเองอยากจะไปก็หาจากหนังสือคู่มือท่องเที่ยวบ้าง ใน Pantip บ้าง หนังสือคู่มือการเที่ยวของเราจะใช้ 3 เล่มนี้ค่ะ ชุด “ใครๆก็ไปเที่ยว” ของสำนักพิมพ์ฟอร์เวิร์ด
สรุปแล้วเรากำหนดสถานที่เที่ยวคร่าวๆ และจำนวนวันที่จะอยู่ไว้ได้ดังนี้
อังกฤษ (5D5N วันที่ 4/4/2016-8/4/2016)
- London ; Millennium Bridge, St Paul's Cathedral, London Eye, Tower Bridge, Big ben, Harrods, British Museam, Warner Brothers Harry Potter Studio
- Eton ; Winsor Castle
- Salisbury ; Stonehenge
- Manchester ; สนาม Old Trafford
ฝรั่งเศส (2D1N วันที่ 9/4/2016-10/4/2016)
- Paris ; Cathédrale Notre-Dame de Paris, Tour Eiffel, Louvre Museum
เบลเยียม (2D2N วันที่ 11/4/2016-12/4/2016)
- Brussels ; จัตุรัสกร็องปลัส, ศาลาว่าการเมือง, Manneken Pis, Rue des Bouchers, Rue au Beurre
เนเธอร์แลนด์ (3D3N วันที่ 13/4/2016-15/4/2016)
- Amsterdam ; ไชน่าทาวน์, พิพิธภัณฑ์แวนโกะห์, หมู่บ้านกังหันลมซานเซ สคันส์, สวนดอกไม้เคอเคนฮอฟ, Sex Museum, ทุ่งกังหันลมคินเดอร์ไดค์
Step 3 หาโรงแรม
เมื่อกำหนดที่เที่ยวได้คร่าวๆแล้ว ก็มาเริ่มหาโรงแรมกันเลยค่ะ ส่วนตัวจะใช้หลักการหาโรงแรมที่ใกล้สถานีรถไฟที่เป็นชุมทางระหว่างประเทศค่ะ เพราะวันที่ต้องเดินทางย้ายประเทศจะได้ไม่ลำบากในการลากกระเป๋าใบโตมากนัก ซึ่งวิธีดูว่าสถานีไหนเป็นสถานีที่เราจะต้องใช้เป็นจุดต่อรถเพื่อเดินทางย้ายประเทศนั้น ก็ลองขอเส้นทางใน GoogleMap เอาค่ะ ยกตัวอย่างเช่น
ขอเส้นทางจาก London ไป Paris ; เราต้องออกเดินทางจากสถานี St Pancras International และไปถึงสถานี Gare du Nord ของ Parisค่ะ
ขอเส้นจาก Paris ไป Bruxelles ; เราต้องออกเดินทางจากสถานี Gare du Nord และไปถึงสถานี Brussels-South Railway Station ของ Bruxellesค่ะ
ขอเส้นทางจาก Bruxelles ไป Amsterdam ; เราต้องออกเดินทางจากสถานี Brussels-South Railway Station และไปถึงสถานี Amsterdam Centraal ค่ะ
ซึ่งสรุปแล้วแต่ละประเทศก็จะได้สถานีสำหรับจองที่พัก ดังต่อไปนี้
- ลอนดอน – อังกฤษ พักแถวสถานี St Pancras International
- ปารีส – ฝรั่งเศส พักแถวสถานี Gare du Nord
- บรัสเซลส์ – เบลเยี่ยม พักแถวสถานี Brussels-South Railway Station
- อัมสเตอร์ดัม – เนเธอร์แลนด์ พักแถวสถานี Amsterdam Centraal
การหาโรงแรมส่วนตัวจะชอบหาจาก www.hotelscombined.com ค่ะ เพราะเว็บนี้จะเปรียบเทียบราคาโรงแรมให้หลายๆ Agency จะได้เลือกจองโรงแรมจาก Agency ที่ให้ราคาถูกที่สุด หรือถ้าหาแล้วราคายังไม่โดน ก็จะหาจาก www.agoda.com และ www.tripadvisor.com เพิ่มเติมด้วย เพราะบางโรงแรม Search ใน Hotelscombined แล้วก็อาจไม่เจอนะคะ
การเลือกโรงแรมนั้น ส่วนตัวจะติดสบายนิดหนึ่ง คือ ต้องใกล้สถานีรถไฟห่างไม่เกิน 700 เมตร จะได้เดินไม่เหนื่อย ห้องเป็น Private Room ที่มีห้องน้ำในตัวจะได้แต่งตัวได้สบาย วันไหนเร่งรีบจะได้ไม่ลำบาก ซึ่งโรงแรมที่จองได้มีดังนี้ค่ะ
London ประเทศอังกฤษ – The Belgrove Hotel แถว King’s Cross
โรงแรมนี้ห่างจากสถานีรถไฟ St Pancras International เพียง 100 เมตรเองค่ะ เป็นห้อง Double Bed มีห้องน้ำส่วนตัว และอาหารเช้าด้วย ราคาต่อคืน 70 ปอนด์ จำนวน 5 คืน รวมราคา 350 ปอนด์ (คิดเป็นเงินบาท 3,544 บาทต่อคืน) จองตรงผ่าน Website ของโรงแรมเลยค่ะ
http://www.belgrovehotel.com จริงๆเราเจอโรงแรมนี้โดยการหาผ่าน www.hotelscombined.com ค่ะ แต่พอลองเทียบระหว่างจองผ่าน Agency กับลองเข้าไปจองตรงแล้ว ปรากฏว่าจองตรงถูกกว่า ก็เลยจองตรงค่ะ
Paris ประเทศฝรั่งเศส – Hotel Paris Liege แถว Gare du Nord
ดูจากแผนที่แล้วก็ใกล้สถานี Gare du Nord อยู่มาก มีห้องน้ำส่วนตัว และเลือกจองแบบมีอาหารเช้าด้วย ตกราคาต่อคืนอยู่ที่ 2,331.34 บาท โดยจองผ่าน EasyToBook ค่ะ
แต่ต้องบอกไว้ก่อนค่ะว่า สุดท้ายเราไม่ได้พักที่โรงแรมนี้ ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ทางเจ้าหน้า EasyToBook ได้โทรมาแจ้งและเปลี่ยนแปลงที่พักให้เป็นโรงแรม Hotel d'Amiens ค่ะ ซึ่งที่พักก็น่าอยู่สะดวกสบายดีเหมือนกัน น่าจะดีกว่าโรงแรมที่เราจองไว้เองเสียอีก 55+
Brussels ประเทศเบลเยียม – Hotel De France Brussels พักแถวสถานี Brussels-South Railway Station
โรงแรมที่บรัสเซลส์ค่อนข้างหาง่ายค่ะ ห้องกว้างๆ และราคาไม่แพง มีให้เลือกหลายโรงแรมเลยค่ะ โรงแรมที่เลือกคือ Hotel De France Brussels สำหรับ 2 คืนค่ะ ราคา 60 ยูโรต่อคืน (คิดเป็นเงินบาท 2,386 บาทต่อคืน) โดยจองผ่าน Booking ค่ะ
Amsterdam ประเทศเนเธอร์แลนด์ – Shenzhou Bed & Breakfast พักแถวย่าน China Town
เมืองนี้กว่าจะเจอที่พักได้ถูกใจหาอยู่นานเหมือนกันค่ะ เพราะโรงแรมส่วนใหญ่ห้องค่อนข้างเล็ก และราคาถูกๆมักเป็นห้องน้ำรวม จึงไปหา B&B ดูจาก BedandBreakfast.com ก็ได้ที่นี้มา ห้อง 2 คนตกราคาต่อคืนอยู่ที่ 85 ยูโร หรือ ประมาณ 3,220 บาท โดยจองตรงผ่านเวบ
http://www.shenzhou.com/bed-and-breakfast ค่ะ
Step 4 ขอวีซ่า
เมื่อเราจองที่พักแล้ว จองตั๋วเครื่องบินแล้ว และมีแผนการเดินทางคร่าวๆแล้ว ก็สามารถยื่นขอวีซ่าได้แล้วค่ะ เพราะสิ่งเหล่านี้ต้องใช้ประกอบการยื่นขอวีซ่าด้วย เนื่องจากการเดินทางในครั้งนี้ เราไปทั้งอังกฤษ ซึ่งต้องทำวีซ่าอังกฤษ และก็ไปโซนยุโรปอย่างฝรั่งเศส เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ ซึ่งต้องทำวีซ่าแชงเก็นค่ะ
ขั้นตอนทำวีซ่าอังกฤษ (เพื่อการท่องเที่ยว)
1. ไปที่
https://www.visa4uk.fco.gov.uk/home/welcome
2. Register an account
3. log in เพื่อทำการกรอก Application Form และ Submit Form
4. ทำการนัดหมายผ่านหน้าเวบ
5. ชำระเงิน (ด้วยบัตรเครดิตเท่านั้น จำนวน 4917.45 บาทต่อคน)
6. ไปยื่นเอกสารตามที่นัดหมายที่ VFS Bangkok Visa Application Centre อยู่ที่สุขุมวิทซอย 13 Trendy Office Building ชั้น 28
เอกสารที่ต้องเตรียมไปยื่น
- Application Form ที่ Print จากหน้าเวบ
- รูปถ่าย 2 นิ้ว 2 ใบ
- ใบนัดหมาย
- เอกสารรับรองการทำงาน
- เอกสารรับรองบัญชีซึ่งให้ธนาคารออกให้ อายุไม่เกิน 15 วันนับจากวันที่ไปยื่นเอกสาร (มีค่าใช้จ่าย ซึ่งจำนวนเงินแล้วแต่ธนาคาร)
- สำเนา Book Bank ที่มีการเคลื่อนไหวย้อนหลัง 6 เดือน
- เอกสารจองตั๋วเครื่องบิน และจองโรงแรม
- เอกสารการซื้อประกันการเดินทาง
ขั้นตอนทำวีซ่าแชงเก็น
ในโซนแชงเก็นเราอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์นานสุด ก็เลยทำของประเทศนี้ค่ะ
1. เข้าไปที่เวป
http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/thai เพื่อทำการ Download Application Form
2. Print ออกมา และกรอก Application Form พร้อมแนบรูป (แนะนำว่าใช้คลิปหนีบ ไม่ต้องติดกาวค่ะ)
3. นัดหมายล่วงหน้าผ่านหน้าเวป เพื่อไปยื่นเอกสาร (แนะนำว่าลองโทรไปถามกับทาง VFS ก่อนค่ะ)
4. ไปยื่นเอกสารที่ VFS Bangkok Visa Application Centre อยู่ที่สุขุมวิทซอย 13 Trendy Office Building ชั้น 28 (Netherlands อยู่ที่เดียวกับ UK ค่ะ แต่แยกส่วนกัน ต้องขึ้นลิฟภายใน VFS อีกที ซึ่งแนะนำว่าลองโทรไปถาม VFS ก่อนค่ะ ว่าต้องจองล่วงหน้าไหม เพราะบางช่วงคนน้อยก็ไม่ต้องจองค่ะ)
เอกสารที่ต้องเตรียมไปยื่น
- Application Form ที่ Print จากหน้าเวบ
- รูปถ่าย 2 นิ้ว 2 ใบ
- ใบนัดหมาย
- เอกสารรับรองการทำงาน
- เอกสารรับรองบัญชีซึ่งให้ธนาคารออกให้ อายุไม่เกิน 15 วันนับจากวันที่ไปยื่นเอกสาร (มีค่าใช้จ่าย ซึ่งจำนวนเงินแล้วแต่ธนาคาร)
- สำเนา Book Bank ที่มีการเคลื่อนไหวย้อนหลัง 6 เดือน
- เอกสารจองตั๋วเครื่องบิน และจองโรงแรม
- เอกสารการซื้อประกันการเดินทาง
- ชำระเงิน (ค่าทำ VISA ต่อคนประกอบด้วย Visa Fees 2,300 บาท, VFS Service Fees 996 บา
[CR] ยุ โ ร ป + <ทริปตามฝัน 5 ประเทศ 16 เมือง 13 วัน 11 คืน เริงระรื่น 30 จุดหมาย เบ็ดเสร็จงบ 85K>
เตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง
Step 1 จองตั๋วเครื่องบิน
ลำดับแรก เริ่มจากการหาตั๋วเครื่องบินค่ะ ในตอนแรกตั้งใจจะหาตั๋วไปนิวซีแลนด์ เพราะอยากจะไปโดดบันจี้จัมพ์ให้ถึงถิ่นออริจินอล แต่กลับหาตั๋วถูกไม่ได้เลย หาไปหามา ช่วงต้นตุลาก็มาเจอตั๋วถูกไปอังกฤษกลับเนเธอร์แลนด์ เห็นแบบนี้ ตาลุกวาวเลยค่ะ คิดเปลี่ยนแผนจากนิวซีแลนด์เป็นยุโรปทันที เพราะเป็นประเทศที่ตั้งใจคิดอยากจะไปอยู่แล้ว เพราะก่อนหน้านี้ช่วงสงกรานต์ปี 58 ได้ไปฝรั่งเศส-สวิตเซอร์แลนด์-อิตาลี มาแล้ว และกะจะเก็บสิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 7 โซนยุโรปให้ครบ ที่นี้ก็ได้ไป Stonehenge สมใจแล้ว และครั้งก่อนก็พลาดไม่ได้ขึ้นหอไอเฟลกับเข้าพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ไปฝรั่งเศสแล้วแต่เหมือนยังไปไม่ถึงยังงัยก็ไม่รู้ คราวนี้จะได้ถือโอกาสไปแก้ตัวด้วยเลย ประกอบกับช่วงเมษา ดอกทิวลิปที่เนเธอร์แลนด์ก็บานพอดี เป็น Trip ที่ตั้งใจไว้อยู่แล้วแบบนี้ ก็เลยจัดเลยค่ะ ไม่รอช้า
ตั๋วเครื่องบินที่หาได้หาได้จาก Skyscanner เป็นของ Etihad ค่ะ ราคาตามรูปเป็นราคาที่โชว์หน้าเว็บในวันที่หาตั๋วเจอนะคะ แต่จ่ายจริงราคา 19,825.40 บาทต่อคนค่ะ เพราะราคาจะขยับตามอัตราแลกเปลี่ยนในวันที่ตัดบัตรเครดิต เลยต้องจ่ายเพิ่มมานิดนุงก็แอบเซงอยู่เหมือนกัน แต่ก็ช่างมันเถอะค่ะได้ราคาประมาณนี้ก็คิดว่าถูกพอสมควร
- ไป Kuala Lumpur – London วันที่ 3 เม.ย. เวลา 20:05 ถึง วันที่ 4 เม.ย. เวลา 7:35 (ต่อเครื่องที่ Abu Dhabi)
- กลับ Amsterdam – Bangkok วันที่ 15 เม.ย. เวลา 22:00 ถึง วันที่ 16 เม.ย. เวลา 19:50 (ต่อเครื่องที่ Abu Dhabi เช่นเดียวกัน) เวลาถึงกรุงเทพนี้ จะต่างจากในรูปค่ะ ที่เลือกเวลานี้จะได้มีเวลาต่อเครื่องเพิ่มขึ้นอีกหน่อย เพราะ Trip ก่อนเคยมีประสบการณ์เครื่องบิน Delay เลยตกเครื่องหนะค่ะ
เวลาก็ดี ช่วงวันก็เหมาะสม ตรงวันหยุดช่วงสงกรานต์บ้านเราพอดี และเลือกที่จะเดินทางไปจาก Kuala Lumpur เพราะได้ตั๋วถูกกว่า ดังนั้นก็ต้องจองตั๋ว AirAsia ไปมาเลเซียด้วย ซึ่ง AirAsia จะมี Promotion อยู่เรื่อยๆอยู่แล้ว พอมี Promotion ปั๊บก็จองทันทีในราคา 1,390 บาทต่อคน บวกกับค่าธรรมเนียมการชำระอีก 130 บาท รวมเป็นราคาตั๋วเครื่องบินทั้ง Etihad และ AirAsia เป็น 21,345.40 บาทต่อคนค่ะ
สำหรับตั๋ว AirAsia นั้น หากมีการเลือกที่นั่ง และ Load กระเป๋า จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก ซึ่งครั้งนี้ส่วนตัวไม่ได้เลือกที่นั่ง ส่วน Load กระเป๋า ได้ทำบัตรเครดิตร่วมแอร์เอเชีย Platinum ของธนาคารกรุงเทพ ซึ่งจะได้บัตร Load กระเป๋าฟรี 20 กิโล มาด้วย ซึ่งช่วยประหยัดเงินได้อีก 640 บาทต่อคนเลยค่ะ
Step 2 กำหนดจำนวนวันเที่ยว
ลำดับต่อไปก็มาคิดค่ะว่าอยากไปเที่ยวที่ไหนของแต่ละประเทศบ้าง เพื่อจะได้รู้จำนวนวันที่ต้องอยู่ในแต่ละประเทศ จะได้จองโรงแรมได้ถูกว่าแต่ละที่จะนอนกี่วัน และควรพักแถวไหน ซึ่งสถานที่เที่ยวที่ตนเองอยากจะไปก็หาจากหนังสือคู่มือท่องเที่ยวบ้าง ใน Pantip บ้าง หนังสือคู่มือการเที่ยวของเราจะใช้ 3 เล่มนี้ค่ะ ชุด “ใครๆก็ไปเที่ยว” ของสำนักพิมพ์ฟอร์เวิร์ด
สรุปแล้วเรากำหนดสถานที่เที่ยวคร่าวๆ และจำนวนวันที่จะอยู่ไว้ได้ดังนี้
อังกฤษ (5D5N วันที่ 4/4/2016-8/4/2016)
- London ; Millennium Bridge, St Paul's Cathedral, London Eye, Tower Bridge, Big ben, Harrods, British Museam, Warner Brothers Harry Potter Studio
- Eton ; Winsor Castle
- Salisbury ; Stonehenge
- Manchester ; สนาม Old Trafford
ฝรั่งเศส (2D1N วันที่ 9/4/2016-10/4/2016)
- Paris ; Cathédrale Notre-Dame de Paris, Tour Eiffel, Louvre Museum
เบลเยียม (2D2N วันที่ 11/4/2016-12/4/2016)
- Brussels ; จัตุรัสกร็องปลัส, ศาลาว่าการเมือง, Manneken Pis, Rue des Bouchers, Rue au Beurre
เนเธอร์แลนด์ (3D3N วันที่ 13/4/2016-15/4/2016)
- Amsterdam ; ไชน่าทาวน์, พิพิธภัณฑ์แวนโกะห์, หมู่บ้านกังหันลมซานเซ สคันส์, สวนดอกไม้เคอเคนฮอฟ, Sex Museum, ทุ่งกังหันลมคินเดอร์ไดค์
Step 3 หาโรงแรม
เมื่อกำหนดที่เที่ยวได้คร่าวๆแล้ว ก็มาเริ่มหาโรงแรมกันเลยค่ะ ส่วนตัวจะใช้หลักการหาโรงแรมที่ใกล้สถานีรถไฟที่เป็นชุมทางระหว่างประเทศค่ะ เพราะวันที่ต้องเดินทางย้ายประเทศจะได้ไม่ลำบากในการลากกระเป๋าใบโตมากนัก ซึ่งวิธีดูว่าสถานีไหนเป็นสถานีที่เราจะต้องใช้เป็นจุดต่อรถเพื่อเดินทางย้ายประเทศนั้น ก็ลองขอเส้นทางใน GoogleMap เอาค่ะ ยกตัวอย่างเช่น
ขอเส้นทางจาก London ไป Paris ; เราต้องออกเดินทางจากสถานี St Pancras International และไปถึงสถานี Gare du Nord ของ Parisค่ะ
ขอเส้นจาก Paris ไป Bruxelles ; เราต้องออกเดินทางจากสถานี Gare du Nord และไปถึงสถานี Brussels-South Railway Station ของ Bruxellesค่ะ
ขอเส้นทางจาก Bruxelles ไป Amsterdam ; เราต้องออกเดินทางจากสถานี Brussels-South Railway Station และไปถึงสถานี Amsterdam Centraal ค่ะ
ซึ่งสรุปแล้วแต่ละประเทศก็จะได้สถานีสำหรับจองที่พัก ดังต่อไปนี้
- ลอนดอน – อังกฤษ พักแถวสถานี St Pancras International
- ปารีส – ฝรั่งเศส พักแถวสถานี Gare du Nord
- บรัสเซลส์ – เบลเยี่ยม พักแถวสถานี Brussels-South Railway Station
- อัมสเตอร์ดัม – เนเธอร์แลนด์ พักแถวสถานี Amsterdam Centraal
การหาโรงแรมส่วนตัวจะชอบหาจาก www.hotelscombined.com ค่ะ เพราะเว็บนี้จะเปรียบเทียบราคาโรงแรมให้หลายๆ Agency จะได้เลือกจองโรงแรมจาก Agency ที่ให้ราคาถูกที่สุด หรือถ้าหาแล้วราคายังไม่โดน ก็จะหาจาก www.agoda.com และ www.tripadvisor.com เพิ่มเติมด้วย เพราะบางโรงแรม Search ใน Hotelscombined แล้วก็อาจไม่เจอนะคะ
การเลือกโรงแรมนั้น ส่วนตัวจะติดสบายนิดหนึ่ง คือ ต้องใกล้สถานีรถไฟห่างไม่เกิน 700 เมตร จะได้เดินไม่เหนื่อย ห้องเป็น Private Room ที่มีห้องน้ำในตัวจะได้แต่งตัวได้สบาย วันไหนเร่งรีบจะได้ไม่ลำบาก ซึ่งโรงแรมที่จองได้มีดังนี้ค่ะ
London ประเทศอังกฤษ – The Belgrove Hotel แถว King’s Cross
โรงแรมนี้ห่างจากสถานีรถไฟ St Pancras International เพียง 100 เมตรเองค่ะ เป็นห้อง Double Bed มีห้องน้ำส่วนตัว และอาหารเช้าด้วย ราคาต่อคืน 70 ปอนด์ จำนวน 5 คืน รวมราคา 350 ปอนด์ (คิดเป็นเงินบาท 3,544 บาทต่อคืน) จองตรงผ่าน Website ของโรงแรมเลยค่ะ http://www.belgrovehotel.com จริงๆเราเจอโรงแรมนี้โดยการหาผ่าน www.hotelscombined.com ค่ะ แต่พอลองเทียบระหว่างจองผ่าน Agency กับลองเข้าไปจองตรงแล้ว ปรากฏว่าจองตรงถูกกว่า ก็เลยจองตรงค่ะ
Paris ประเทศฝรั่งเศส – Hotel Paris Liege แถว Gare du Nord
ดูจากแผนที่แล้วก็ใกล้สถานี Gare du Nord อยู่มาก มีห้องน้ำส่วนตัว และเลือกจองแบบมีอาหารเช้าด้วย ตกราคาต่อคืนอยู่ที่ 2,331.34 บาท โดยจองผ่าน EasyToBook ค่ะ
แต่ต้องบอกไว้ก่อนค่ะว่า สุดท้ายเราไม่ได้พักที่โรงแรมนี้ ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ทางเจ้าหน้า EasyToBook ได้โทรมาแจ้งและเปลี่ยนแปลงที่พักให้เป็นโรงแรม Hotel d'Amiens ค่ะ ซึ่งที่พักก็น่าอยู่สะดวกสบายดีเหมือนกัน น่าจะดีกว่าโรงแรมที่เราจองไว้เองเสียอีก 55+
Brussels ประเทศเบลเยียม – Hotel De France Brussels พักแถวสถานี Brussels-South Railway Station
โรงแรมที่บรัสเซลส์ค่อนข้างหาง่ายค่ะ ห้องกว้างๆ และราคาไม่แพง มีให้เลือกหลายโรงแรมเลยค่ะ โรงแรมที่เลือกคือ Hotel De France Brussels สำหรับ 2 คืนค่ะ ราคา 60 ยูโรต่อคืน (คิดเป็นเงินบาท 2,386 บาทต่อคืน) โดยจองผ่าน Booking ค่ะ
Amsterdam ประเทศเนเธอร์แลนด์ – Shenzhou Bed & Breakfast พักแถวย่าน China Town
เมืองนี้กว่าจะเจอที่พักได้ถูกใจหาอยู่นานเหมือนกันค่ะ เพราะโรงแรมส่วนใหญ่ห้องค่อนข้างเล็ก และราคาถูกๆมักเป็นห้องน้ำรวม จึงไปหา B&B ดูจาก BedandBreakfast.com ก็ได้ที่นี้มา ห้อง 2 คนตกราคาต่อคืนอยู่ที่ 85 ยูโร หรือ ประมาณ 3,220 บาท โดยจองตรงผ่านเวบ http://www.shenzhou.com/bed-and-breakfast ค่ะ
Step 4 ขอวีซ่า
เมื่อเราจองที่พักแล้ว จองตั๋วเครื่องบินแล้ว และมีแผนการเดินทางคร่าวๆแล้ว ก็สามารถยื่นขอวีซ่าได้แล้วค่ะ เพราะสิ่งเหล่านี้ต้องใช้ประกอบการยื่นขอวีซ่าด้วย เนื่องจากการเดินทางในครั้งนี้ เราไปทั้งอังกฤษ ซึ่งต้องทำวีซ่าอังกฤษ และก็ไปโซนยุโรปอย่างฝรั่งเศส เบลเยี่ยม เนเธอร์แลนด์ ซึ่งต้องทำวีซ่าแชงเก็นค่ะ
ขั้นตอนทำวีซ่าอังกฤษ (เพื่อการท่องเที่ยว)
1. ไปที่ https://www.visa4uk.fco.gov.uk/home/welcome
2. Register an account
3. log in เพื่อทำการกรอก Application Form และ Submit Form
4. ทำการนัดหมายผ่านหน้าเวบ
5. ชำระเงิน (ด้วยบัตรเครดิตเท่านั้น จำนวน 4917.45 บาทต่อคน)
6. ไปยื่นเอกสารตามที่นัดหมายที่ VFS Bangkok Visa Application Centre อยู่ที่สุขุมวิทซอย 13 Trendy Office Building ชั้น 28
เอกสารที่ต้องเตรียมไปยื่น
- Application Form ที่ Print จากหน้าเวบ
- รูปถ่าย 2 นิ้ว 2 ใบ
- ใบนัดหมาย
- เอกสารรับรองการทำงาน
- เอกสารรับรองบัญชีซึ่งให้ธนาคารออกให้ อายุไม่เกิน 15 วันนับจากวันที่ไปยื่นเอกสาร (มีค่าใช้จ่าย ซึ่งจำนวนเงินแล้วแต่ธนาคาร)
- สำเนา Book Bank ที่มีการเคลื่อนไหวย้อนหลัง 6 เดือน
- เอกสารจองตั๋วเครื่องบิน และจองโรงแรม
- เอกสารการซื้อประกันการเดินทาง
ขั้นตอนทำวีซ่าแชงเก็น
ในโซนแชงเก็นเราอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์นานสุด ก็เลยทำของประเทศนี้ค่ะ
1. เข้าไปที่เวป http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/thai เพื่อทำการ Download Application Form
2. Print ออกมา และกรอก Application Form พร้อมแนบรูป (แนะนำว่าใช้คลิปหนีบ ไม่ต้องติดกาวค่ะ)
3. นัดหมายล่วงหน้าผ่านหน้าเวป เพื่อไปยื่นเอกสาร (แนะนำว่าลองโทรไปถามกับทาง VFS ก่อนค่ะ)
4. ไปยื่นเอกสารที่ VFS Bangkok Visa Application Centre อยู่ที่สุขุมวิทซอย 13 Trendy Office Building ชั้น 28 (Netherlands อยู่ที่เดียวกับ UK ค่ะ แต่แยกส่วนกัน ต้องขึ้นลิฟภายใน VFS อีกที ซึ่งแนะนำว่าลองโทรไปถาม VFS ก่อนค่ะ ว่าต้องจองล่วงหน้าไหม เพราะบางช่วงคนน้อยก็ไม่ต้องจองค่ะ)
เอกสารที่ต้องเตรียมไปยื่น
- Application Form ที่ Print จากหน้าเวบ
- รูปถ่าย 2 นิ้ว 2 ใบ
- ใบนัดหมาย
- เอกสารรับรองการทำงาน
- เอกสารรับรองบัญชีซึ่งให้ธนาคารออกให้ อายุไม่เกิน 15 วันนับจากวันที่ไปยื่นเอกสาร (มีค่าใช้จ่าย ซึ่งจำนวนเงินแล้วแต่ธนาคาร)
- สำเนา Book Bank ที่มีการเคลื่อนไหวย้อนหลัง 6 เดือน
- เอกสารจองตั๋วเครื่องบิน และจองโรงแรม
- เอกสารการซื้อประกันการเดินทาง
- ชำระเงิน (ค่าทำ VISA ต่อคนประกอบด้วย Visa Fees 2,300 บาท, VFS Service Fees 996 บา