สอบถามผู้รู้ค่ะ ขอความกรุณาช่วยให้ความกระจ่างในด้านกฎหมายด้วยค่ะ เรื่องมีอยู่ว่าน้าสาวของดิฉันอยู่กินกับนาย ก. เป็นเวลาหลายปีค่ะ ต่อมาปี พ.ศ. 2555 น้าและนาย ก. ตัดสินใจซื้อรถยนต์ด้วยกัน โดยน้าได้เอาเงินก้อนมาดาวน์รถจำนวนหนึ่ง และได้ซื้อประกันรถจากโตโยต้า เป็นประกันจากบริษัท AIA ในกรณีที่คนเช่าซื้อคือนาย ก.เสียชีวิต AIA จะจ่ายเป็นเงินก้อนให้แก่ผู้รับผลประโยชน์คือน้าของดิฉัน และจ่ายเงินอีกก้อนให้แก่โตโยต้าปิดยอดผ่อนรถ ทั้งสองก็ช่วยกันผ่อนรถมาเรื่อยๆ จนเมื่อกันยายน ปี 2558 นาย ก.เสียชีวิตจากโรคร้าย น้าจึงได้ยื่นเอกสารไปยัง AIA และโตโยต้า ซึ่ง AIA ก็ได้จ่ายเงินให้น้าพร้อมปิดยอดผ่อนงวดรถเป็นที่เรียบร้อย ติดตรงที่ว่ายังไม่สามารถโอนรถเป็นชื่อน้าได้ เพราะโตโยต้าต้องการคำสั่งศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดก เพราะ นาย ก. ไม่ได้ทำพินัยกรรมอะไรไว้ และน้าก็ไม่ได้จดทะเบียนกับนาย ก. น้าจึงได้ปรึกษาทนายความที่รู้จักกัน เค้าแนะนำให้เอาลูกของนาย ก. ที่มีกับเมียเก่าไม่ได้จดทะเบียนเหมือนกัน เป็นตัวแทนในการฟ้องศาล น้าก็ได้ไปตกลงกับลูกเลี้ยงเป็นที่เรียบร้อย ลูกเลี้ยงก็บอกว่าถ้าได้คำสั่งศาลมายินดีจะไปโอนรถให้น้าตามคำสั่งเสียของพ่อที่ให้ไว้ก่อนตาย น้าจึงได้จัดการว่าจ้างทนายและให้ลูกเลี้ยงเป็นคนขึ้นศาล โดยค่าใช้จ่ายทุกอย่างน้าเป็นคนออก
หลายเดือนต่อมา พอคำสั่งศาลออกมาน้าได้สอบถามไปทางโตโยต้า ทางบริษัทก็จะโอนสองต่อให้เลย เพียงแต่ต้องเอาคำสั่งศาล และคนที่ศาลแต่งตั้งมาเซ็นด้วย การโอนจึงจะเสร็จสมบูรณ์ แต่ปัญหาอยู่ที่ลูกเลี้ยงไม่ยอมไปโอนให้น้า ถ่วงเวลาและพูดจาหลายอย่างที่บ่งบอกว่าไม่อยากจะโอนรถให้เรา เช่น หาว่าน้าพูดจากับเค้าไม่ดีบ้างล่ะ และบอกว่าถ้าน้ามีปัญญาไปโอนก็โอนเอา ในเมื่อศาลแต่งตั้งเค้าเป็นผู้จัดการมรดกแล้ว เค้าจะทำอะไรก็ได้ และก็หาว่าเราคิดไม่ซื่อให้ทนายเอาคำสั่งศาลมาให้ ไม่รอให้เค้าเป็นไปคัดคำสั่งมา
ดิฉันจึงอยากขอความกรุณาท่านผู้รู้ช่วยตอบด้วยค่ะ ว่ากรณีอย่างนี้น้าของดิฉันจะสามารถฟ้องร้องลูกเลี้ยงได้ไหม เพราะน้าเองก็ไม่มีใคร มีเพียงดิฉันและแม่ที่ไม่ได้มีความรู้เรื่องกฎหมายเท่าใดนัก โดยข้อเท็จจริงมีดังนี้ค่ะ
1. นาย ก. ไม่มีทรัพย์สินอื่นนอกจากรถยนต์คนเดียว และเงินในบัญชีที่ใช้รักษาตัวไปจนเกือบหมด
2. ระหว่างที่นาย ก.ยังมีชีวิตอยู่ ลูกสาวคนโตของนาย ก. ได้แอบเอาบัตร ATM ของนาย ก. แอบไปกดเงิน เป็นจำนวนเงินสองแสนบาท และน้าเป็นคนไปตรวจสอบกับธนาคาร จนรู้ว่าผู้ต้องสงสัยคือใคร ในตอนแรก นาย ก. จะแจ้งความ แต่เมื่อทราบว่าลูกตัวเองเป็นคนทำ จึงได้ยอมความไป
3. ช่วงที่นาย ก. ป่วยหนัก มีเพียงน้าของดิฉันดูแลและพาไปรักษาแต่เพียงผู้เดียว แกขับรถไม่เป็น ก็ต้องจ้างคนขับรถให้ จนหลังๆแกต้องหัดขับรถเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย โทรไปบอกลูกของนาย ก. เค้าก็รับทราบเฉยๆ เพิ่งจะมาหาช่วงที่นาย ก. ป่วยหนักมากสัปดาห์สุดท้ายจนเสียชีวิต
4. ความสัมพันธ์ของแม่เลี้ยงลูกเลี้ยงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะลูกเลี้ยงหาว่าน้าจัดการเงินของพ่อเค้าแต่เพียงผู้เดียว และลูกๆของนาย ก. ก็ต้องการเงินจากนาย ก. อยู่ตลอด คอยโทรมาขอยืมเงิน แต่พอให้ไปก็ไม่เคยคืน ไม่เคยสนใจไยดี นาย ก.เท่าไหร่ นอกจากขอเงิน ซึ่งนาย ก. ก็ยอมให้ เพราะรักลูก และสงสารที่ลูกไปเป็นหนี้นอกระบบ
5. นาย ก. ได้สั่งเสียลูกๆและญาติว่า รถยนต์ที่มีอยู่คันเดียว เป็นรถของน้า เพราะน้าเป็นคนดาวน์ และเงินที่ผ่อนก็ช่วยกันทำมาหากิน ห้ามใครเอาไปเป็นของตัวเอง
6. นาย ก.ได้ทำประกันชีวิตของกรุงไทยแอคซ่า ผู้รับผลประโยชน์เป็นลูกสาวทั้งสองคนของนาย ก. มีเพียงประกันของ ธกส.ที่ให้น้าเป็นผู้รับผลประโยชน์ด้วย และประกัน AIA ที่ซื้อพร้อมรถ
7. ลูกสาวคนโตของนาย ก. ได้รับเงินประกันไปเป็นเงินแสนกว่าบาท แต่หลังจาก นาย ก. เสียชีวิตไปไม่นาน ก็ไลน์มาพูดดีขอยืมเงินน้าไปสองหมื่นบาท น้าเห็นว่ายังต้องพึ่งให้เค้าขึ้นศาลให้ จึงยอมให้เงินไป ซึ่งตอนนี้คาดว่าคงจะไม่ได้เงินคืน และคงไม่ได้รถด้วย
ไม่ทราบว่าถ้าหากลูกของนาย ก. ไม่ยอมโอนรถให้น้าจริงๆ เราจะสามารถฟ้องคัดค้านหรือฟ้องเอารถได้ไหมคะ เพราะไปเจรจาแล้ววันนี้บอกจะโอนให้ แต่วันต่อมาก็เปลี่ยนใจ พูดเหมือนเราต้องง้อเค้ามากมาย เพราะเงินค่าฟ้องศาลน้าก็เป็นคนจ่าย แถมยืมเงินน้าไปอีก หรือว่ายังไงเราก็เสียเปรียบคะ
ขอบคุณล่วงหน้าไว้ ณ ที่นี้ค่ะ
ขอความช่วยเหลือจากท่านผู้รู้ค่ะ ควรจะทำอย่างไร
หลายเดือนต่อมา พอคำสั่งศาลออกมาน้าได้สอบถามไปทางโตโยต้า ทางบริษัทก็จะโอนสองต่อให้เลย เพียงแต่ต้องเอาคำสั่งศาล และคนที่ศาลแต่งตั้งมาเซ็นด้วย การโอนจึงจะเสร็จสมบูรณ์ แต่ปัญหาอยู่ที่ลูกเลี้ยงไม่ยอมไปโอนให้น้า ถ่วงเวลาและพูดจาหลายอย่างที่บ่งบอกว่าไม่อยากจะโอนรถให้เรา เช่น หาว่าน้าพูดจากับเค้าไม่ดีบ้างล่ะ และบอกว่าถ้าน้ามีปัญญาไปโอนก็โอนเอา ในเมื่อศาลแต่งตั้งเค้าเป็นผู้จัดการมรดกแล้ว เค้าจะทำอะไรก็ได้ และก็หาว่าเราคิดไม่ซื่อให้ทนายเอาคำสั่งศาลมาให้ ไม่รอให้เค้าเป็นไปคัดคำสั่งมา
ดิฉันจึงอยากขอความกรุณาท่านผู้รู้ช่วยตอบด้วยค่ะ ว่ากรณีอย่างนี้น้าของดิฉันจะสามารถฟ้องร้องลูกเลี้ยงได้ไหม เพราะน้าเองก็ไม่มีใคร มีเพียงดิฉันและแม่ที่ไม่ได้มีความรู้เรื่องกฎหมายเท่าใดนัก โดยข้อเท็จจริงมีดังนี้ค่ะ
1. นาย ก. ไม่มีทรัพย์สินอื่นนอกจากรถยนต์คนเดียว และเงินในบัญชีที่ใช้รักษาตัวไปจนเกือบหมด
2. ระหว่างที่นาย ก.ยังมีชีวิตอยู่ ลูกสาวคนโตของนาย ก. ได้แอบเอาบัตร ATM ของนาย ก. แอบไปกดเงิน เป็นจำนวนเงินสองแสนบาท และน้าเป็นคนไปตรวจสอบกับธนาคาร จนรู้ว่าผู้ต้องสงสัยคือใคร ในตอนแรก นาย ก. จะแจ้งความ แต่เมื่อทราบว่าลูกตัวเองเป็นคนทำ จึงได้ยอมความไป
3. ช่วงที่นาย ก. ป่วยหนัก มีเพียงน้าของดิฉันดูแลและพาไปรักษาแต่เพียงผู้เดียว แกขับรถไม่เป็น ก็ต้องจ้างคนขับรถให้ จนหลังๆแกต้องหัดขับรถเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย โทรไปบอกลูกของนาย ก. เค้าก็รับทราบเฉยๆ เพิ่งจะมาหาช่วงที่นาย ก. ป่วยหนักมากสัปดาห์สุดท้ายจนเสียชีวิต
4. ความสัมพันธ์ของแม่เลี้ยงลูกเลี้ยงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะลูกเลี้ยงหาว่าน้าจัดการเงินของพ่อเค้าแต่เพียงผู้เดียว และลูกๆของนาย ก. ก็ต้องการเงินจากนาย ก. อยู่ตลอด คอยโทรมาขอยืมเงิน แต่พอให้ไปก็ไม่เคยคืน ไม่เคยสนใจไยดี นาย ก.เท่าไหร่ นอกจากขอเงิน ซึ่งนาย ก. ก็ยอมให้ เพราะรักลูก และสงสารที่ลูกไปเป็นหนี้นอกระบบ
5. นาย ก. ได้สั่งเสียลูกๆและญาติว่า รถยนต์ที่มีอยู่คันเดียว เป็นรถของน้า เพราะน้าเป็นคนดาวน์ และเงินที่ผ่อนก็ช่วยกันทำมาหากิน ห้ามใครเอาไปเป็นของตัวเอง
6. นาย ก.ได้ทำประกันชีวิตของกรุงไทยแอคซ่า ผู้รับผลประโยชน์เป็นลูกสาวทั้งสองคนของนาย ก. มีเพียงประกันของ ธกส.ที่ให้น้าเป็นผู้รับผลประโยชน์ด้วย และประกัน AIA ที่ซื้อพร้อมรถ
7. ลูกสาวคนโตของนาย ก. ได้รับเงินประกันไปเป็นเงินแสนกว่าบาท แต่หลังจาก นาย ก. เสียชีวิตไปไม่นาน ก็ไลน์มาพูดดีขอยืมเงินน้าไปสองหมื่นบาท น้าเห็นว่ายังต้องพึ่งให้เค้าขึ้นศาลให้ จึงยอมให้เงินไป ซึ่งตอนนี้คาดว่าคงจะไม่ได้เงินคืน และคงไม่ได้รถด้วย
ไม่ทราบว่าถ้าหากลูกของนาย ก. ไม่ยอมโอนรถให้น้าจริงๆ เราจะสามารถฟ้องคัดค้านหรือฟ้องเอารถได้ไหมคะ เพราะไปเจรจาแล้ววันนี้บอกจะโอนให้ แต่วันต่อมาก็เปลี่ยนใจ พูดเหมือนเราต้องง้อเค้ามากมาย เพราะเงินค่าฟ้องศาลน้าก็เป็นคนจ่าย แถมยืมเงินน้าไปอีก หรือว่ายังไงเราก็เสียเปรียบคะ
ขอบคุณล่วงหน้าไว้ ณ ที่นี้ค่ะ