วางถุงกาวก่อนแล้วค่อยคุยกัน โดยคำผกา บายนพนครพิงค์

กระทู้คำถาม
อาจเป็นเพราะในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา สังคมไทยและคนไทยใช้พลังงานเกือบทั้งหมดไปกับเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิตของพวกเราคือเรื่อง การเมืองการปกครอง นับตั้งแต่มีการรัฐประหารปี 2549

คนไทยกลุ่มหนึ่งรวมทั้งตัวฉันเองก็หมกมุ่นทุ่มเทคิดแต่เรื่อง เมื่อไหร่ประชาธิปไตยจะกลับคืน

ส่วนคนไทยอีกกลุ่มหนึ่งก็หมกมุ่นเรื่อง ทำอย่างไรจะเอาทักษิณและพวกออกจากสังคมไทยให้จงได้

เราหมกมุ่นเรื่องนี้หนักมากจนบางครั้งไม่ได้ติดตามอัพเดตข้อมูลข่าวสารเรื่องอื่นๆ ที่อาจไกลตัวออกไป

เช่น ล่าสุด ข้อถกเถียงต่อประเด็นการจะเอายาบ้าออกจากบัญชียาเสพติด (ซึ่งฉันเห็นว่าก่อนอื่นเอาคำว่า ยาบ้า ออกไปจากยาชนิดนี้เสียก่อน เพราะการตั้งชื่อมันว่ายาบ้าทำให้เกิดกระบวนการสร้างตราประทับ และตัดสินผู้เสพไปเรียบร้อยแล้วว่าพวกเขาจะต้องกลายเป็นบ้า คุ้มคลั่ง-เราคงลืมไปว่าในโลกนี้มีคนคลุ้มคลั่งโดยไม่ต้องเสพยาอยู่ไม่น้อย)

การที่คนไทยจำนวนมาก ออกมา “ประณาม” นโยบายนี้ทันที และดูเหมือนจะช็อกมาก คล้ายๆ กับมีคนมาบอกเราว่าต่อไปนี้ “ขี้” คือสิ่งที่กินได้และมีประโยชน์ ประมาณนั้นเลย

เรื่องนี้ทำให้ฉันตระหนกมากว่า องค์ความรู้เกี่ยวยาเสพติดของสาธารณชนไทยนั้นไม่ได้อับเดตไปไกลกว่าสมัยประธานาธิบดีนิกสันประกาศสงครามกับยาเสพติดครั้งแรกในโลกเลย

สิ่งที่เรารู้จักกันว่าเป็นยาเสพติดในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็น ฝิ่น กัญชา เฮโรอีน ถูกบรรจุให้เป็นสิ่งเสพติดที่ผิดกฎหมายเมื่อร้อยปี และสงครามกับยาเสพติดเกิดขึ้นแล้วประมาณห้าสิบปี

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากประกาศสงครามกับยาเสพติดกันมาห้าทศวรรษ ไปเพียงแต่อเมริกา แต่ทุกประเทศทั่วโลกที่ดำเนินนโนบายนี้ด้วยใฝ่ฝันคือ free drug society หรือ สังคมปลอดยาเสพติด ประเทศที่ทำสงครามกับยาเสพติดรุนแรงมาก เช่น รัสเซีย เม็กซิโก-แต่ผลกลับกลายเป็นว่า ทุกประเทศที่ทำสงครามกับยาเสพติดนั้นพ่ายแพ้ ย่อยยับ

จำนวนผู้เสพยาในคุกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มาเฟีย เจ้าพ่อค้ายาเพิ่มขึ้น เพราะพอมันผิดกฎหมายก็เป็นของแพง ทำกำไร ใครๆ ก็อยากค้า ยิ่งค้าของผิดกฎหมายได้ ก็ยิ่งกลายเป็นผู้มีอิทธิพล สถิติอาชญากรรมพุ่ง การละเมิดสิทธิมนุษยชนก็พุ่ง การวิสามัญก็เพิ่ม การยัดคดียาเสพติดให้ศัตรูทางการเมืองก็มี

งบประมาณที่ใช้ในการทำสงครามกับยาเสพติดนั้นก็สูงเสียจนน่าใจหาย

เม็กซิโกนั้น ตั้งแต่ประกาศสงครามปี 2006 มีคนตายจากสงครามนี้ไป 60,000 คน

ในระหว่างห้าสิบหกสิบปีที่เขาทำสงครามกับยาเสพติด ก็มีนักวิชาการ นักกฎหมาย นักกิจกรรม นักสิทธิมนุษยชน นักสังคมวิทยา มานุษยวิทยา หมอ จิตแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ ก็ทำงานค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับผู้ติดยายา ปัญหาสังคม ฯลฯ ไปด้วย

สุดท้าย นักวิชาการเหล่านี้ก็ค้นพบว่า วิธีที่จะจัดการกับปัญหายาเสพติดที่ดีที่สุดคือวิธีที่เรียกว่า Harm Reduction หรือ การลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติด ซึ่งหมายถึง
การช่วยให้ผู้ติดยาเสพติด (ส่วนใหญ่เป็นชนิดฉีด) สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้โดยยังคงใช้ยาเสพติดหรือสารทดแทนในขณะที่ยังไม่สามารถหยุดใช้ยาเสพติดได้ทันที ทั้งนี้ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับตัวผู้เสพ (เช่น ฉีดยาผิดที่จนพิการ ฉีดยาเกินขนาดจนช็อกเสียชีวิต ติดเชื้อ HIV ไวรัสตับอักเสบชนิดบี และซี อันเกิดจากการใช้เข็มฉีดยาเสพติดร่วมกันในหมู่ผู้เสพ) ครอบครัว คนรอบข้าง และสังคม (กรณีเกิดอาชญากรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อันตรายจากการแพร่เชื้อที่เกิดจากการทิ้งเข็มฉีดยาที่ใช้แล้ว) รูปแบบการดำเนินงานมีหลายแนวทาง เช่น การให้ความรู้ สื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจให้กับผู้ติดยาและครอบครัว การให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วยและครอบครัว การให้สารเมทาโดนทดแทนระยะยาวเพื่อไม่ให้เกิดอาการขาดยาและลงแดงในผู้ติดเฮโรอีน การมีศูนย์รับปรึกษาปัญหาสุขภาพและปัญหาอื่นๆ (drop in center) ซึ่งในต่างประเทศ เช่น เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย มีการจัดสถานที่และอุปกรณ์สะอาดให้ผู้ติดยาสามารถเข้าไปฉีดยาเสพติดได้เพื่อความปลอดภัย (แต่ศูนย์ไม่ได้จัดเตรียมยาเสพติดให้ มีแต่บุคลากรที่สามารถดูแลความปลอดภัยและให้คำแนะนำในการฉีดและอุปกรณ์) การจัดอาสาสมัครเข้าไปให้คำปรึกษาและบริการเข็มสะอาดให้กับผู้ติดยาในชุมชน (outreach program) การให้บริการเข็มและอุปกรณ์ฉีดยาที่สะอาดในร้านขายยาและให้คำปรึกษาโดยเภสัชกร หรือโปรแกรมการแลกเข็มใช้แล้วกับเข็มสะอาด”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เนื้อความอาจจะยาวสักหน่อยนะเจ้าคะ
http://www.matichon.co.th/news/195345
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
อาจจะมีความเห็นต่างจากคุณคำผกาและคุณนพบ้างแต่ถือว่ามาแชร์มุมมองอีกด้านหนึ่งให้กันฟังครับคุณนพ

"นักวิชาการเหล่านี้ก็ค้นพบว่า วิธีที่จะจัดการกับปัญหายาเสพติดที่ดีที่สุดคือวิธีที่เรียกว่า Harm Reduction หรือ การลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติด ซึ่งหมายถึง
การช่วยให้ผู้ติดยาเสพติด (ส่วนใหญ่เป็นชนิดฉีด) สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้โดยยังคงใช้ยาเสพติดหรือสารทดแทนในขณะที่ยังไม่สามารถหยุดใช้ยาเสพติดได้ทันที ทั้งนี้ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับตัวผู้เสพ (เช่น ฉีดยาผิดที่จนพิการ ฉีดยาเกินขนาดจนช็อกเสียชีวิต ติดเชื้อ HIV ไวรัสตับอักเสบชนิดบี และซี อันเกิดจากการใช้เข็มฉีดยาเสพติดร่วมกันในหมู่ผู้เสพ) ครอบครัว คนรอบข้าง และสังคม (กรณีเกิดอาชญากรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อันตรายจากการแพร่เชื้อที่เกิดจากการทิ้งเข็มฉีดยาที่ใช้แล้ว) รูปแบบการดำเนินงานมีหลายแนวทาง เช่น การให้ความรู้ สื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจให้กับผู้ติดยาและครอบครัว การให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วยและครอบครัว การให้สารเมทาโดนทดแทนระยะยาวเพื่อไม่ให้เกิดอาการขาดยาและลงแดงในผู้ติดเฮโรอีน ..."

ก่อนอื่นคงต้องบอกก่อนว่ากรณีในต่างประเทศที่นักวิชาการได้ศึกษามานี้เป็นเคสของผู้เสพยาชนิดที่ร่างกายขาดไม่ได้ เมื่อขาดยาแล้วจะมีอาการลงแดงซึ่งอาจทำให้ตายได้จากอาการขาดยา  ซึ่งมันจะต่างกับบ้านเราที่มีการระบาดของยาบ้า  การขาดยาบ้ามันไม่ทำให้ตายครับ ผมเองไม่เคยเห็นคนขาดยาบ้าแล้วตาย มีแต่เสพยาเกินขนาดแล้วตาย  การขาดยาบ้าไม่ทำให้ร่างกายช็อคจากการขาดสารที่เคยได้รับ  เพียงแต่ระยะแรกจะมีผลทางด้านจิต

ในส่วนของผมจะนำอาการและข้อสังเกตแบบง่ายๆของผู้ที่ยุ่งเกี่ยวกับยาบ้าโดยที่ไม่ต้องเป็นทางการมาก ใช้ภาษาชาวบ้าน และไม่ต้องไปเปิดเวปไซด์ค้นหามาให้อ่านกันดูนะครับ

- ร่างกายผอมซูบลง หรือจากเคยมีเนื้อมีหนัง ก็น้ำหนักลดลงโดยที่ไม่ต้องออกกำลังกาย เนื่องจากยาบ้าพอเสพเข้าไป (ยาบ้าใช้วิธีกินควันนะครับไม่ใช่สูบควันเหมือนบุหรี่หรือกัญชา) ร่างกายจะมีความร้อน เหงื่อแตก มีการเผาผลาญแคลลอลี่เป็นอย่างมาก ใจสั่น นอนไม่หลับ มีอาการขมปากทำให้ไม่รู้สึกหิว ไม่ต้องทานอาหารก็อยู่ได้แม้ร่างกายอ่อนเพลียแต่สมองมันจะยังบอกว่าแกยังไหวสบายมาก

- เริ่มมีการปลีกตัวออกจากสังคม อารมณ์เอาแน่เอานอนไม่ได้ ตอนยาบ้ากำลังดีดก็อารมณ์ดี กระตือรือร้น ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา แต่พอเริ่มจะหมดฤทธิ์ก็เริ่มรั่ว มีอาการท้อแท้ หดหู่ โทษตัวเอง บางคนระแวงว่าจะมีคนมาทำร้าย มองโลกในแง่ร้าย หวาดระแวง กลัวทั้งคนกลัวทั้งผี มีความเชื่อแปลกๆเหมือนคนเป็นโรคประสาทเพราะสมองเริ่มถูกทำลาย

- ลมหายใจมีกลิ่นช็อคโกแลตไหม้อ่อนๆปนออกมา เพราะยาบ้ามันจะผสมกลิ่นเจ้าพวกนี้เข้าไปด้วยเพื่ออรรถรสในการเสพยาสากกะเบือพวกนี้ มันเป็นรสชาติเฉพาะตัวที่มีส่วนทำให้ผู้เสพมีอาการอยากไปสรรหามาเสพต่อ

- ดูดบุหรี่หนักขึ้น เพราะยาบ้ามักจะมีเครื่องเคียงที่ขาดไม่ได้ก็คือบุหรี่ อยากให้สังเกตยี่ห้อบุหรี่ที่ดูดด้วย เนื่องจากกระดาษฟอยล์ที่มีอยู่มากับซองบุหรี่นั่นคือหนึ่งในอุปกรณ์ในการเสพ ฟอยล์ต้องไม่ขาดหรือรั่วหรือมีรอยยับ มิเช่นนั้นฟอยล์จะรั่วทันทีเมื่อลอกกระดาษที่ติดอยู่กับแผ่นฟอยล์ออก บุหรี่บางยี่ห้อไม่สามารถลอกมาทำเป็นอุปกรณ์การเสพได้เช่นพวกสายฝน เป็นต้น เพราะมันใช้กาวยิดติดแน่นเป็นเนื้อเดียวกัน ทางเดียวคือเอาไปแช่น้ำให้กระดาษเปื่อยและค่อยๆถูเอากระดาษออกให้เหลือแต่ฟอยล์ ซึ่งเหล่าบรรดาจ๊อกกี้เขาไม่ทำกัน ในส่วนที่เป็นหลอดที่ใช้ดูดเอาควันเข้าไปกินนั้นก็ทำมาจากตัวซองด้านนอกที่เป็นกระดาษระบุยี่ห้อบุหรี่นั้นๆมาม้วนเป็นหลอด หรือพวกที่เก๋าๆและไม่เสียดายของก็จะทำเป็นอุปกรณ์ดูดผ่านน้ำคล้ายๆบ้องกัญชาแต่ทำมาจากท่อทองแดงกับขวดน้ำพลาสติก ปัจจุบันบางรายมันพกเป็นหลอดแก้วคล้ายๆหลอดทดลองมีกระเปาะกลมๆอยู่ด้านล่าง

- พกหมากฝรั่งแบบเป็นชิ้นแบนๆยาวๆที่มีกระดาษฟอยล์หุ้ม(สำหรับพวกเสพยาบ้าอย่างเดียวแต่บุหรี่ไม่เน้น) เพราะสามารถนำมาเป็นอุปกรณ์การเสพได้เช่นกัน บางคนไม่ต้องมานั่งลอกเหมือนฟอยล์หุ้มบุหรี่ ใช้วิธีเผาเลย วาบเดียวกระดาษที่ติดอยุ่กับฟอยล์จะหายเกลี้ยงเหรือแค่แผ่นฟอยล์ล้วนๆ สิบปีสิบชาติไม่เคยพกวันดีคืนดีกลับมาพกเจ้าพวกนี้แล้วมีอาการแปลกๆตามข้างต้นก็เริ่มสงสัยได้เลยว่าไปเสพมา

- พกไฟแช็คอยู่ตลอดเวลา คนพวกนี้จะพกไฟแช็คแก๊สที่ขายอันละ 5-10 บาทเท่านั้น จะไม่พกพวก Zippo, Dupont หรือพวกไฟฟู่ๆแรงๆที่ขายตามตลาดนัดทั่วไป จะเอาไฟแช็คถูกๆนี่แหละนำมาทำเป็นอุปกรณ์เสพยาบ้า โดยโมดิฟายให้เปลวไฟออกมาเล็ก แหลม เพื่อจี้เฉพาะจุด เรียกกันว่าไฟลอย วิธีทำไม่ขอบอก  คนพวกนี้เวลามีคนแปลกหน้ามาขอยืมไฟแช็คเพื่อจุดบุหรี่มักจะไม่ให้ เพราะเมื่อเห็นเปลวไฟที่จุดจะรู้ทันทีว่าเป็นไฟแช็คที่โมดิฟายมาเพื่อการนี้ และกลัวจะเป็นพวกสายสืบมาเช็คไฟแช็ค

- ไม่ค่อยชอบเที่ยวกลางคืนเพราะกลัวโดนจับตรวจฉี่ ดื่มเหล้าน้อยลงหรือจากที่เคยดื่มก็ไม่ดื่มเพราะต้องเอาเงินไปซื้อยาบ้า อีกอย่างคือแอลกอฮอล์มันทำให้เมา อาการดีดจากยาบ้าลดน้อยลง พวกนี้มักจะดื่มน้ำอัดลมหรือน้ำหวานแทนเพราะแก้อาการคอแห้ง

- ตัวปล่อยยามักจะย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ อยู่ไม่นาน แต่เหล่าบรรดาจ๊อกกี้พวกนี้จมูกไวยิ่งกว่ามด ย้ายไปไหนก็จะตามไปหาซื้อได้หมด  ในกรณีเดลิเวอรี่ถึงที่เช่นตามนิคมอุตสาหกรรม หรือตามสถานศึกษา เหล่าบรรดาสาวกยานรกมักจะรู้เวลาที่เอเย่นปรากฏตัว ทันทีที่เหล่าเอเย่นปล่อยยาปรากฏตัวคนพวกนี้จะดีใจแทบกรี๊ดสลบยิ่งกว่าเห็นศิลปินซุปตาที่ตัวเองชื่นชอบ แหล่งพิมพ์นิยมที่สุดก็คือห้องน้ำ  เอเย่นจะทำทีไปเข้าห้องน้ำ เหล่าบรรดาสาวกที่ซุ่มรออยู่ก็จะค่อยๆลุกขึ้นยังกะปวดหนักปวดเบาพร้อมๆกันทีละคนสองคนมุ่งตรงตามไปทันทีก่อนที่ทั้งหมดจะถูกประตูทางเข้าห้องน้ำสูบเข้าไปหมดในเวลาไล่เลี่ยกัน พวกนี้จะเตรียมเงินไว้พอดีกับค่าของ เป็นอันรู้กันว่าผุ้ปล่อยไม่ต้องเตรียมเงินทอน

ยาบ้าไม่ได้มีผลทางร่างกายเหมือนเฮโรอีน หรือผงขาว การขาดยาไม่ทำให้ลงแดงตาย แต่อาจจะรั่ว หมดแรง ไม่คิดอยากจะทำอะไร และมีอาการท้อแท้กับชีวิตไปบ้างในช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปร่างกายจะกลับคืนสู่สภาพปกติเอง ส่วนสมองที่ถูกทำลายไปก็แล้วแต่ตัวบุคคลครับว่าโดนทำลายมามากน้อยขนาดไหนและจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้หรือไม่ ความรักความอบอุ่นและการใส่ใจในความรู้สึกของคนในครอบครัวเป็นเกราะป้องกันอย่างดีที่สุดไม่ให้คนในครอบครัวเราไปยุ่งกับยานรกพวกนี้  เพราะส่วนใหญ่คนขายมันก็ไม่ได้มานำเสนอขายให้คนของเรา แต่คนของเราเรานี่แหละวิ่งไปขอซื้อมันเอง

ดังนั้นการแก้ปัญหาเรื่องยาบ้าจึงจะใช้วิธีเดียวกันกับแก้ปัญหายาเสพติดในต่างประเทศไม่ได้ การถอนบัญชียาเสพติด หรือลดระดับประเภทยาเสพติดลงจึงไม่ใช่วิธีแก้ปัญหา จริงอยู่สารเสพติดประเภทนี้อาจนำมาใช้ในการรักษาโรคบางอย่างได้เช่นโรคง่วงซึม หรือนอนหลับง่ายกว่าปกติแม้ในสวาวะที่ไม่ควรหลับ แต่หากควบคุมมันไม่ได้พิษภัยของมันมีมากกว่านั้นมาก คงไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องราคายา หรือความไม่กลัวโทษ แต่ภัยของมันโดยตรงเช่นทำลายประสาทและสมอง เสี่ยงต่อการก่ออาชญากรรมและการทะเลาะวิวาท(พวกที่กำลังดีดเต็มที่น่ากลัวกว่าพวกเมาเหล้าหาเรื่องคนเยอะครับ ใจถึงกว่าและขาไม่อ่อน) อุบัติเหตุบนท้องถนนต้องเพิ่มขึ้นจากความคึกคะนองเกินปกติ การเสพสารเหล่านี้แทนกาแฟเพราะมีความตื่นตัวมากกว่า การใช้สารนี้แทนการใช้วิธีอื่นในการลดน้ำหนักของผู้หญิง  การใช้สารเหล่านี้เพื่อกระตุ้นเรื่องเซ็กส์ให้มีความกล้ามากขึ้นของวัยรุ่น ยังไม่รวมผลเสียในทางอ้อมเช่นอารมณ์ที่แปรปรวน สร้างปัญหาและความขัดแย้งในครอบครัวและสังคม ฯลฯ

สำหรับผมแล้ววิธีการแก้ปัญหายาเสพติดคือเพิ่มโทษให้หนัก และเด็ดขาดจริงจังกับมันเหมือนเช่นประเทศสิงคโปร หากเจ้าหน้าที่มีผลประโยชน์กับกระบวนการค้ายาเสพติด ตัดสินความให้หนักอย่าได้เป็นเยี่ยงอย่างครับ ไม่ใช่เอามันมาอยู่ด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่