เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องของธรรมชาติที่ทุกคนจะต้องประสบพบเจอกันถ้วนหน้าไม่มีใครไม่เจ็บไม่ป่วยหรอกค่ะ ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันมักมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นเสมอๆหนีไม่พ้นจริงๆค่ะ มาเข้าเรื่องกันดีกว่ากล่าวบทนำมาซะปลงชีวิตเชียว วันนี้ตอนนี้เรายังอยู่ที่กรุงโซล ณ ประเทศเกาหลีใต้เช่นเคยค่ะเคยสังเกตกันไหมว่าคนเกาหลีทำไมดูหน้าเด็กว่าอายุจริงไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ขนาดเรามีเพื่อนเกาหลีที่อายุเท่ากันนะเรายังดูแกกว่าเยอะเลย (เค้ากินเค้าบำรุงอะไรกันอ่ะ)หลายๆคนเคยถามว่าเกาหลีมีดีอะไรทำไม่ต้องมาบ่อยครั้ง อันนี้เราก็คงตอบคนกลุ่มนั้นไม่ได้หรอกนะว่าทำไมเพราะการมาเกาหลีของเราแต่ล่ะครั้งเรามีความสุข(ไม่มาก็คงไม่รู้)อย่างวันนี้ที่เราจะพาไปเที่ยวที่ พิพิธภัณฑ์สมุนไพรในกรุงโซล (Seoul Yangnyeongsi Herb Medicine Museum) เป็นสถานที่ที่รวบรวมสมุนไพรและยาต่างๆตั้งแต่ในอดีตมารวมไว้ที่นี่มากกว่า 500 ชนิดเลยทีเดียว บางชนิดหลายคนก็เชื่อว่าสามารถทำให้ดูเด็กลง บางชนิดก็หายจากโรคภัยไข้เจ็บ แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ต้องขึ้นอยู่กับการดูเลตัวเองด้วยนะค่ะ



มาเริ่มตั้งแต่การเดินทางกันเลยดีกว่าค่ะ

รถไฟฟ้าใต้ดินหมายเลข 1 ลง สถานี Jegi-dong ทางออกที่ 3 เดินตงมาเรื่อยๆจะจอตึก  Donguibogam Tower (동의보감타워) เดินมาจนสุดตึกเลยค่ะ จะเจอทางเข้าของพิพิธภัณฑ์สมุนไพร อย่างชัดเจนไม่หลงทางแน่นอนค่ะ




เจอทางเข้าแล้วลงไปด้านล่างได้เลยค่ะ มีป้ายบอกทางไปพิพิธภัณฑ์สมุนไพรเป็นระยะๆ





มาถึงตัวพิพิธภัณฑ์แล้วเดินมาลงชื่อที่เค้าเตอร์ค่ะ จะมีเจ้าหน้าที่คอยบอก บรรยาย และให้เราได้สอบถามอย่างใกล้ชิด






ดูจากทางเข้าด้านนอกเหมือนพิพิธภัณฑ์จะเก่าๆไม่มีไรมากมาย แต่พอได้เข้ามาด้านในเท่านั้นแหละ "อลังสุดฤทธิ์ขอบอก"นี่คือเรื่องจริงที่อยากให้ทุกๆได้ไปสัมผัส ที่น่าสวยงามสีสันก็สบายตา




ภายในมีการจัดแสดงสมุนไพรโบราณต่างๆมากมาย รวมไปถึงวิถีชีวิตของชาวบ้านเกาหลีในสมัยนั้นด้วย มีทั้งภาพทั้งเสียงที่สามารถกดฟังได้อย่างสะดวกสบาย และจำลองงศูนย์ “Bojewon” (보제원) หรือศูนย์ดูแลสุขภาพในสมัยราชวงศ์โชซอน ที่คอยให้ความช่วยเหลือคนยากจนที่เจ็บป่วยจากโรคภัยต่างๆ รวมไปถึงหนังสือตำหรับตำรายาสมุนไพรต่างๆที่ใช้ในการรักษาโรคด้วย








อุปกรณ์ในการทำยาสมุนไพร  และสมุนไพรต่างๆ








มาถึงโซนที่เราชอบอีกโซนนึงก็คือโซนนี้สามารถดมกลิ่นสมุนไพรต่างๆได้และการออกแบบการจัดตกแต่งออกมาได้ดูดีมาก





สมุนไพรนอกจากจะเป็นยารักษาโรคต่างๆได้ดีแล้วสมุนไพรบางชนิดยังสมารถนำมาทำเป็นอาหารและขนมได้อีกด้วย





สิ่งแวดล้อมทุกอย่างที่อยู่รอบๆตัวเราสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดีหากรู้จักใช้ให้ถูกทางถูกวิธีจาก พืช สัตว์ แร่ สมุนไพรที่มีกลิ่นหอม สมุนไพรที่เป็นพิษ สมุนไพรหายาก เช่น เห็ด โสม เขากวาง หรืออะไรที่เราคิดว่าไม่ใช่สมุนไพร (แค่ความคิดของเรานะ) ก็มีมาจัดแสดงอยู่ที่นี่จ้าาา








โซนนี้น่ารักสดใสมากๆค่ะ สังเกตดีๆจะเห็นว่ามีข้อความและรายละเอียดที่สามารถเปิดอ่านได้บอกเป็นจุดๆค่ะ




มาถึงโซนสุดท้ายแล้วค่ะ เป็นโซนจัดแสดงความเป็นอยู่ ความพอเพียงของผู้คนในสมัยนั้นค่ะ  (ด้านในบ้านเป็นห้องที่ใช้แสดงภาพฉายโปรเจคเตอร์เกี่ยวกับสมุนไพร) สามารถเข้าไปชมได้ค่ะ







สำหรับใครที่ยังติดใจหรือสนใจอยากได้ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรเหล่านี้เพิ่มเติมล่ะก็เชิญที่ด้านนี้เลยค่ะ มีคอมพิวเตอร์ที่เป็นโปรแกรมของสมุนไพรโดยเฉพาะ ไว้ให้ท่านได้หาข้อมูลเพิ่มเติมกันค่ะ และรวมไปถึงพื้นที่พักผ่อน ทั้งจุดบริการน้ำดื่มและห้องน้ำที่สะอาดสะอ้านค่ะ







ชมครบจนรอบสถานที่แล้วก็มาถึงจุดที่เจ้าหน้าที่พูดคุยสนทนาแบบกันเองที่สุด มีน้ำดื่ม ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มสมุนไพรบริการให้กับผู้ที่มาเข้าชมฟรีและกรอกแบบสอบถามความคิดเห็นต่างๆเกี่ยวกับสมุนไพร และมีบริการเช็คร่างกายแบบย่อยๆด้วย






และจุดนี้ยังเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่แสดงการทำยาและสมุนไพรให้ดูอีกด้วย




สุดท้ายนี้เราต้องขอขอคุณคณะเจ้าหน้าที่ของที่นี่เป็นอย่างมากที่ดูแลอธิบายและให้ความรู้เราเป็นอย่งดี เจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้น่ารักกันเองมากๆ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เราอมยิ้มและมีความสุขตลอดการเข้าชม(จริงๆนะ) ลืมบอกไปเลยเจ้าหน้าที่ของที่นี่พูดภาษาอังกฤษกันนะจ๊ะสำเนียงเป๊ะเว่อร์ จนดูเหมือนว่าภาษาอังกฤษของเราติดลบเลยทีเดียว เจ้าหน้าที่ที่เรากล่าวถึงนี้ไม่ใช่วัยรุ่นหรือวัยทำงานนะ แต่เป็นคุณตาคุณยายที่ชื่นชอบในสมุนไพร คุณตาคุณยายบอกว่า เราสามคนรวมกันอายุเท่ากับโสมหนึ่งต้น (อันนี้คุณตาพูดเอง) ขอโชว์ภาพความน่ารักของเจ้าหน้าที่ที่นี่หน่อยล่ะกัน (ภาพนี้ได้รับการอนุญาตจากคุณตาคุณยายเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ) มีความสุขมากแค่ไหนสังเกตได้จากรอยยิ้มเหล่านี้ค่ะ และที่สำคัญที่นี่เข้าชมฟรี เปิดให้บริการ 10.00น.-18.00น. (เดือน มี.ค-ต.ค) 10.00น.-17.00น.(เดือน พ.ย-ก.พ) ปิดให้บริการในวันจันทร์ (ใครอย่าหลงไปวันนี้นะ)