ภาพจาก
http://www.shockya.com/news/2016/03/18/the-legend-of-tarzan-gets-a-new-movie-poster/
52/2016
The legend of tarzan
ทาร์ซานฉบับใหม่นี้เสมือนหนังภาคต่อจากทาร์ซานฉบับปกติที่เรา ๆ คุ้นเคยกัน
โดยภาคนี้ ไม่ได้หยิบประเด็นของชีวิตทาร์ซานออกมามากนัก (มีบ้างประปราย) แต่กลับไปเจาะจงที่ประเด็นเรื่องจริงทางประวัติศาสตร์อย่าง "Congo free state" ซึ่งตัวละครอื่น ๆ ในเรื่อง (นอกเหนือจากทาร์ซานและเจน) มีตัวตนอยู่จริง ๆ เป็นประเด็นหลักของเรื่อง ที่เกี่ยวข้องการค้าทาสและใช้ทรัพยากรของประเทศใต้อาณานิคม ส่วนเสริมอีกก้อนคือหนังเน้นที่ตัวทาร์ซานกลับไปช่วยเพื่อน ๆ ในป่า และช่วยเจนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน
ภาพรวมหนังดูยิ่งใหญ่ ประเด็นเรื่องที่หยิบยกขึ้นมาก็ใหญ่
แต่เล่าเรื่องอืดอาดไปนิดทำให้บางฉากนี่น่าเบื่อ
แม้จะไม่ใช่หนังภาคต่อ แต่ด้วยความที่มันต่อยอดจากทาร์ซานฉบับเดิม จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีการใช้แฟลชแบคเล่าเรื่องเพื่อปูพื้นให้กับคนบางส่วนที่อาจจะไม่ได้ดูฉบับก่อน ๆ ซึ่งไอ้ฉากแฟลชแบคนี่มันก็สวยงามดี มุมกล้องดี แม้จะรีทัชจนฟุ้ง แต่ก็ไม่ขัดตา
ฉากแอคชั่นมีไม่เยอะมาก แต่พอมาทีก็สนุกใช้ได้
-อเล็กซานเดอร์หล่อแบบไม่สุดแต่หุ่นแซ่บเว่อร์ การแสดงก็... จะว่าจืด ๆ ก็จืด จะว่าเพราะบททาร์ซานมาแบบนิ่ง ๆ ก็ไม่ผิด
-มาร์โก้ยังคงสวยเว่อร์วัง เป็นเจนที่สตรองมาก
-ที่น่าชื่นชมคือป๋าคริสตอฟ แม้บทจะดูคลิเช่ แต่ยอมรับว่าหน้าของป๋าและรอยยิ้มของป๋ามีความอำมหิตแบบที่ทำให้รู้สึกเสียวสันหลังวาบทุกครั้งที่เจอกันบนจอ จนรู้สึกว่าป๋าขโมยซีนกว่าใครๆในเรื่อง
-ลุงแซมมวลมาแบบซ้ำ ๆ แสดงแบบเดิม ๆ แต่ยอมรับว่าแกสายฮาจริงไรจริง ช่วยชุบชีวิตความจืดชืดในบางช่วงของหนังได้ดี
-เฮียฮุนซูกับลุงจิมคือความเสียของ บทแบบนี้เอาคนอื่นมาเล่นก็ได้ ไม่ต้องใช้ระดับเฮียกับลุงหรอก
ซีจีสัตว์มีความละเอียดระดับพีค เหมือนถ่ายกับสัตว์จริงเลยอ่ะ
ซีนป่าเขาสวยมากระดับสิบ!
ใครใคร่อยากดูในโรงก็ลองจัดเพราะภาพมันสวย
แต่ถ้าไม่ดู ก็ไม่เสียหายอะไร
David Yates อาจจะเคยชินกับการทำแฮร์รี่มากเกินไปหน่อย ชินกับการเล่ายืดๆแบบหนังที่ลากได้หลายภาค พอมาทำแบบภาคเดียวจบเลยรู้สึกขาดๆเกินๆไปนิดนึง
************************************
รีวิว The Legend of Tarzan ... การต่อยอดทาร์ซานครั้งใหม่ (ไม่สปอย)
ภาพจาก http://www.shockya.com/news/2016/03/18/the-legend-of-tarzan-gets-a-new-movie-poster/
52/2016
The legend of tarzan
ทาร์ซานฉบับใหม่นี้เสมือนหนังภาคต่อจากทาร์ซานฉบับปกติที่เรา ๆ คุ้นเคยกัน
โดยภาคนี้ ไม่ได้หยิบประเด็นของชีวิตทาร์ซานออกมามากนัก (มีบ้างประปราย) แต่กลับไปเจาะจงที่ประเด็นเรื่องจริงทางประวัติศาสตร์อย่าง "Congo free state" ซึ่งตัวละครอื่น ๆ ในเรื่อง (นอกเหนือจากทาร์ซานและเจน) มีตัวตนอยู่จริง ๆ เป็นประเด็นหลักของเรื่อง ที่เกี่ยวข้องการค้าทาสและใช้ทรัพยากรของประเทศใต้อาณานิคม ส่วนเสริมอีกก้อนคือหนังเน้นที่ตัวทาร์ซานกลับไปช่วยเพื่อน ๆ ในป่า และช่วยเจนที่ถูกจับเป็นตัวประกัน
ภาพรวมหนังดูยิ่งใหญ่ ประเด็นเรื่องที่หยิบยกขึ้นมาก็ใหญ่
แต่เล่าเรื่องอืดอาดไปนิดทำให้บางฉากนี่น่าเบื่อ
แม้จะไม่ใช่หนังภาคต่อ แต่ด้วยความที่มันต่อยอดจากทาร์ซานฉบับเดิม จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีการใช้แฟลชแบคเล่าเรื่องเพื่อปูพื้นให้กับคนบางส่วนที่อาจจะไม่ได้ดูฉบับก่อน ๆ ซึ่งไอ้ฉากแฟลชแบคนี่มันก็สวยงามดี มุมกล้องดี แม้จะรีทัชจนฟุ้ง แต่ก็ไม่ขัดตา
ฉากแอคชั่นมีไม่เยอะมาก แต่พอมาทีก็สนุกใช้ได้
-อเล็กซานเดอร์หล่อแบบไม่สุดแต่หุ่นแซ่บเว่อร์ การแสดงก็... จะว่าจืด ๆ ก็จืด จะว่าเพราะบททาร์ซานมาแบบนิ่ง ๆ ก็ไม่ผิด
-มาร์โก้ยังคงสวยเว่อร์วัง เป็นเจนที่สตรองมาก
-ที่น่าชื่นชมคือป๋าคริสตอฟ แม้บทจะดูคลิเช่ แต่ยอมรับว่าหน้าของป๋าและรอยยิ้มของป๋ามีความอำมหิตแบบที่ทำให้รู้สึกเสียวสันหลังวาบทุกครั้งที่เจอกันบนจอ จนรู้สึกว่าป๋าขโมยซีนกว่าใครๆในเรื่อง
-ลุงแซมมวลมาแบบซ้ำ ๆ แสดงแบบเดิม ๆ แต่ยอมรับว่าแกสายฮาจริงไรจริง ช่วยชุบชีวิตความจืดชืดในบางช่วงของหนังได้ดี
-เฮียฮุนซูกับลุงจิมคือความเสียของ บทแบบนี้เอาคนอื่นมาเล่นก็ได้ ไม่ต้องใช้ระดับเฮียกับลุงหรอก
ซีจีสัตว์มีความละเอียดระดับพีค เหมือนถ่ายกับสัตว์จริงเลยอ่ะ
ซีนป่าเขาสวยมากระดับสิบ!
ใครใคร่อยากดูในโรงก็ลองจัดเพราะภาพมันสวย
แต่ถ้าไม่ดู ก็ไม่เสียหายอะไร
David Yates อาจจะเคยชินกับการทำแฮร์รี่มากเกินไปหน่อย ชินกับการเล่ายืดๆแบบหนังที่ลากได้หลายภาค พอมาทำแบบภาคเดียวจบเลยรู้สึกขาดๆเกินๆไปนิดนึง
************************************