วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาพี่สาวจขกท.ชวนไปเดินป่า ตอนแรกก็ไม่คิดหรอกว่ามันจะสุด จะสวยขนาดนี้ บอกเลยว่าคุ้มจริงๆค่ะ
นี่เป็นการเดินป่าแบบจริงจังครั้งแรกของเรา ที่ผ่านมาก็ได้แต่เดินแบบเด็กน้อย ก็ได้ประสบการณ์ไปอีกแบบนะคะ ตลอดทางก็มีผู้ร่วมทางที่สุดแสนจะน่ารัก(เหรอ) อย่างเจ้าทากน้อย แหม่ เจอกันครั้งแรกเล่นเอากรี๊ดลั่นป่าเลย ตัวไรเนี่ยย ขนลุก
การเดินทาง : พี่จขกท.ได้ติดต่อไกด์นำทางไว้ที่บ้านแม่กลางหลวงค่ะ เช้าวันเดินทางเราก็เอารถไปจอดไว้ที่หมู่บ้าน แล้วนั่งรถกระบะของไกด์เข้าไปที่จุดเดินป่า เป๊ะๆนิจำไม่ได้แต่อยู่บริเวณผาตั้งค่ะ
ระยะเวลาเดิน : ประมาณ 5 ชั่วโมง
หมายเหตุ : จขกท.ถ่ายรูปไม่ค่อยเก่ง+ไม่มีกล้องโปร+ตลอดการเดินทางต้องรีบวิ่งรีบเดิน เพราะทากเยอะมากก หยุดเมื่อไรไต่เมื่อนั้น ฉะนั้นภาพที่เอามาลงอาจจะไม่สวย ไม่ฮิปตามสมัยนิยมนัก ขออภัยค่ะ
เอาละ ไม่พูดมากละไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ปล.ฟังเพลงนี้ไปด้วยละชิลล์มาก แนะนำๆ 
warm up ด้วยกาแฟร้อนๆจากบ้านแม่กลางหลวงค่ะ
วันนั้นฟ้าฝนไม่ค่อยเต็มใจ ตกตลอดทางเลย สำหรับทริปนี้จขกท.มีไกด์ร่วมทางทั้งหมด 2 ท่าน แต่ละท่านก็มากด้วยประสบการณ์ คอยแนะนำพืชพรรณและให้ความรู้เกี่ยวกับป่าไม้ได้เป็นอย่างดีค่ะ สนุกจริงๆ
เบี้ยบ้ายรายทางค่ะ เห็ดขึ้นเยอะมากทั้งที่กินได้และไม่ได้ ก็ดูแต่ตามืออย่าต้องละกันเนอะ 55
รูปซ้ายล่างเป็นเปลือกแมลงที่ลอกคราบไปแล้วค่ะ ส่วนรูปขวาล่าง จขกท.ชอบมากเลย เป็นเถาวัลย์ที่เราสามารถดื่มน้ำได้
ลองชิมน้ำแล้วอร่อยมากเลยค่ะ รสชาติก็เหมือนน้ำเปล่านั่นแหละ แต่จะหวานนิดๆ รู้เลยว่าเป็นน้ำบริสุทธิ์ ตอนไกด์ถือมาให้ น้ำนิไหลเป็นทางเชียว พูดแล้วก็อยากดื่มอีก (ขออภัยที่ถ่ายเบลอ รีบกินรีบถ่ายค่ะ ทากจะไต่แล้ว ฮืออ T T)
เดินป่าหน้าฝน สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือเจ้านี่ค่ะ "ทาก"
จขกท.เจอครั้งแรกกรี๊ดแทบลั่นป่า ตอนมันกำลังกระดึ๊บๆขึ้นรองเท้าอะ ยังจำความรู้สึกได้เลย หยึ่ย~ ~ ~
แต่หลังๆเริ่มชินละ ก็อาศัยเอาไม้เท้าเขี่ยๆมันออกไป + รีบเดินและหยุดเช็คเป็นระยะ วิวข้างทางไม่ค่อยได้มองหรอกค่ะ มองแต่เท้าตัวเอง ฮ่าๆ หากคุณมัวแต่เอ้อระเหยลอยชาย เตรียมตัวเป็นบุฟเฟ่ต์ให้เจ้าพวกนี้ได้เลย มันรอทุกคนอยู่ค่ะ ชูหัวจากพื้นดินเลยค่ะ /จะเป็นลม มือไม้อ่อน โอ่ยย
เริ่มเห็นต้นสนแล้วว นั่นหมายความว่าเราใกล้ถึงยอดเขาละ บ้ายบายทากจ๋าพี่ขอลาก่อนน
ไม่น่าเชื่อว่าจะเดินมาได้ไกลขนาดนี้ การมาดอยหัวเสือต้องเดินข้ามเขา 3 ลูกค่ะ ตามทางก็จะมีเควสให้ทำทั้งข้ามต้นไม้บ้าง วิ่งฝ่าลำธารบ้าง(หยุดไม่ได้ค่ะ ดงทากทั้งนั้น) เกมนี้ไม่มีใบชุบ ไม่มีเวลาฮีลนะคะ ตัวใครตัวมันเจอกันอีกทีบนยอดดอย 55
ชะง่อนผาอยู่ข้างหน้าแล้ว อีกนิดเดียวว ฮึ่บๆ
ถึงแล้ววว บอกเลยว่า คุ้มมากที่บุกป่าฝ่าดงมาถึงนี่ จขกท.โชคดีอยู่อย่างค่ะ คือฝนตกตลอดทางเลย แต่พอขึ้นมาข้างบนปุ๊บ ไม่น่าเชื่อ ฟ้าเปิดค่ะ สวยงาม ลมเย็นๆ มองเห็นเมฆที่กำลังเคลื่อนผ่านสันเขา มองไปทางขวาก็เป็นยอดดอยอินทนนท์ คือมันฟินมากอะ รูปนี่เทียบไม่ได้กับของจริงเลย สุดดด
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เป็นมื้อที่มีความสุขมากค่ะ เหนียวไก่ที่หายไปกับผึ้ง 1 ตัว นั่งกินไปชมวิวไป ลมก็พัดเย็นๆ
..มีความสุขอะ กินเสร็จแล้วก็ไม่ลืมที่จะเก็บขยะกลับไปด้วย
ขอฝากไปหน่อยนะคะ ถึงเพื่อนๆนักเดินทางทุกท่าน หากไปเที่ยวที่ไหนรบกวนรับผิดชอบสัมภาระทุกอย่างรวมถึงขยะของท่านด้วยนะคะ จขกท.เห็นไกด์เดินเก็บขยะของกลุ่มก่อนหน้าที่หล่นตามทางแล้วรู้สึกไม่ดีเลย ขอความร่วมมือทุกคนหน่อยเนอะ
แต่ช้าก่อน พอกินข้าวเสร็จไกด์บอกว่ายังไม่ถึงหัวเสือ ตรงที่ๆเราแวะพักมันคือจุดกางเต้นท์ ของจริงต้องขึ้นเขาไปอีก จะไปไหม? ไอ่เรามาถึงนี่แล้วก็ลุยสิ ไปค่ะลุง โก! โก!!
ป๊าดดดด ชันแค่ไหนถามใจเธอดู ตอนขึ้นน่ะไม่เท่าไร แต่ตอนลงนี่สิ จขกท.ต้องค่อยๆนั่งแล้วเอาตูดไถ่ๆลงมาอะ ชันเกิ๊นน
รูปนี้เหมือนถ่ายแนวนอนเลยเนอะ แต่ไม่ใช่ค่ะ! นี่ถ่ายแนวตั้ง ดูทรงแล้วเกือบๆ 90 องศาเลยมั้งน่ะ
เดาว่าลมข้างบนคงค่อนข้างแรง ต้นไม้เลยเอน ส่วนดอกไม้นี่ ดอกบัวสวรรค์รึเปล่าไม่แน่ใจ จขกท.ห่วยเรื่องพืชพรรณมากค่ะ ผู้รู้ท่านไหนทราบรบกวนบอกทีว่ามันคือดอกอะไร สวยดีค่ะ
ขึ้นมาก็ไม่ค่อยเท่าไรนะ จขกท.ว่าตรงบริเวณจุดกางเต้นท์สวยกว่า บนหัวเสือก็เป็นยอดดอยกลมๆเนี่ยแหละค่ะ แต่จะเป็นหลุมเหมือนมีคนขุดลงไป ไกด์เล่าว่า สมัยก่อนตอนคนในหมู่บ้านชาวเขาเสียชีวิต เขาจะขึ้นมาฝังศพบนยอดดอย โดยการขุดหลุมแล้วฝังศพไปพร้อมๆกับข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เล่าเสร็จยืนเงียบๆสักแปบ ลุงก็ชวนกลับ
ลุงอย่าเพิ่งไปปป รอหนูด้วยย แหม่มาพูดให้กลัวแล้วรีบไปเลยนะคะ T^T
ขอลากันไปด้วยภาพนี้แล้วกันนะคะ ไกด์พรชัยแห่งดอยหัวเสือ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
อ้อ! เกือบลืม อย่าลืมช่วยกันรักษาระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมกันด้วยนะคะ
ใครเอาอะไรมาก็รับผิดชอบนำกลับไปด้วย ทิ้งขยะให้ถูกที่ เรามาเที่ยวบ้านเค้าแล้วก็ต้องช่วยกันเก็บกวาดให้สะอาด เค้าจะได้อยู่กับเราไปนานๆเนอะ ^^
โหด มัน ฮา กับการเดินป่า(แบบจริงจัง)ครั้งแรก ณ ดอยหัวเสือ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
นี่เป็นการเดินป่าแบบจริงจังครั้งแรกของเรา ที่ผ่านมาก็ได้แต่เดินแบบเด็กน้อย ก็ได้ประสบการณ์ไปอีกแบบนะคะ ตลอดทางก็มีผู้ร่วมทางที่สุดแสนจะน่ารัก(เหรอ) อย่างเจ้าทากน้อย แหม่ เจอกันครั้งแรกเล่นเอากรี๊ดลั่นป่าเลย ตัวไรเนี่ยย ขนลุก
การเดินทาง : พี่จขกท.ได้ติดต่อไกด์นำทางไว้ที่บ้านแม่กลางหลวงค่ะ เช้าวันเดินทางเราก็เอารถไปจอดไว้ที่หมู่บ้าน แล้วนั่งรถกระบะของไกด์เข้าไปที่จุดเดินป่า เป๊ะๆนิจำไม่ได้แต่อยู่บริเวณผาตั้งค่ะ
ระยะเวลาเดิน : ประมาณ 5 ชั่วโมง
หมายเหตุ : จขกท.ถ่ายรูปไม่ค่อยเก่ง+ไม่มีกล้องโปร+ตลอดการเดินทางต้องรีบวิ่งรีบเดิน เพราะทากเยอะมากก หยุดเมื่อไรไต่เมื่อนั้น ฉะนั้นภาพที่เอามาลงอาจจะไม่สวย ไม่ฮิปตามสมัยนิยมนัก ขออภัยค่ะ
เอาละ ไม่พูดมากละไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วันนั้นฟ้าฝนไม่ค่อยเต็มใจ ตกตลอดทางเลย สำหรับทริปนี้จขกท.มีไกด์ร่วมทางทั้งหมด 2 ท่าน แต่ละท่านก็มากด้วยประสบการณ์ คอยแนะนำพืชพรรณและให้ความรู้เกี่ยวกับป่าไม้ได้เป็นอย่างดีค่ะ สนุกจริงๆ
รูปซ้ายล่างเป็นเปลือกแมลงที่ลอกคราบไปแล้วค่ะ ส่วนรูปขวาล่าง จขกท.ชอบมากเลย เป็นเถาวัลย์ที่เราสามารถดื่มน้ำได้
ลองชิมน้ำแล้วอร่อยมากเลยค่ะ รสชาติก็เหมือนน้ำเปล่านั่นแหละ แต่จะหวานนิดๆ รู้เลยว่าเป็นน้ำบริสุทธิ์ ตอนไกด์ถือมาให้ น้ำนิไหลเป็นทางเชียว พูดแล้วก็อยากดื่มอีก (ขออภัยที่ถ่ายเบลอ รีบกินรีบถ่ายค่ะ ทากจะไต่แล้ว ฮืออ T T)
จขกท.เจอครั้งแรกกรี๊ดแทบลั่นป่า ตอนมันกำลังกระดึ๊บๆขึ้นรองเท้าอะ ยังจำความรู้สึกได้เลย หยึ่ย~ ~ ~
แต่หลังๆเริ่มชินละ ก็อาศัยเอาไม้เท้าเขี่ยๆมันออกไป + รีบเดินและหยุดเช็คเป็นระยะ วิวข้างทางไม่ค่อยได้มองหรอกค่ะ มองแต่เท้าตัวเอง ฮ่าๆ หากคุณมัวแต่เอ้อระเหยลอยชาย เตรียมตัวเป็นบุฟเฟ่ต์ให้เจ้าพวกนี้ได้เลย มันรอทุกคนอยู่ค่ะ ชูหัวจากพื้นดินเลยค่ะ /จะเป็นลม มือไม้อ่อน โอ่ยย
..มีความสุขอะ กินเสร็จแล้วก็ไม่ลืมที่จะเก็บขยะกลับไปด้วย
ขอฝากไปหน่อยนะคะ ถึงเพื่อนๆนักเดินทางทุกท่าน หากไปเที่ยวที่ไหนรบกวนรับผิดชอบสัมภาระทุกอย่างรวมถึงขยะของท่านด้วยนะคะ จขกท.เห็นไกด์เดินเก็บขยะของกลุ่มก่อนหน้าที่หล่นตามทางแล้วรู้สึกไม่ดีเลย ขอความร่วมมือทุกคนหน่อยเนอะ
แต่ช้าก่อน พอกินข้าวเสร็จไกด์บอกว่ายังไม่ถึงหัวเสือ ตรงที่ๆเราแวะพักมันคือจุดกางเต้นท์ ของจริงต้องขึ้นเขาไปอีก จะไปไหม? ไอ่เรามาถึงนี่แล้วก็ลุยสิ ไปค่ะลุง โก! โก!!
รูปนี้เหมือนถ่ายแนวนอนเลยเนอะ แต่ไม่ใช่ค่ะ! นี่ถ่ายแนวตั้ง ดูทรงแล้วเกือบๆ 90 องศาเลยมั้งน่ะ
ขึ้นมาก็ไม่ค่อยเท่าไรนะ จขกท.ว่าตรงบริเวณจุดกางเต้นท์สวยกว่า บนหัวเสือก็เป็นยอดดอยกลมๆเนี่ยแหละค่ะ แต่จะเป็นหลุมเหมือนมีคนขุดลงไป ไกด์เล่าว่า สมัยก่อนตอนคนในหมู่บ้านชาวเขาเสียชีวิต เขาจะขึ้นมาฝังศพบนยอดดอย โดยการขุดหลุมแล้วฝังศพไปพร้อมๆกับข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เล่าเสร็จยืนเงียบๆสักแปบ ลุงก็ชวนกลับ
อ้อ! เกือบลืม อย่าลืมช่วยกันรักษาระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมกันด้วยนะคะ
ใครเอาอะไรมาก็รับผิดชอบนำกลับไปด้วย ทิ้งขยะให้ถูกที่ เรามาเที่ยวบ้านเค้าแล้วก็ต้องช่วยกันเก็บกวาดให้สะอาด เค้าจะได้อยู่กับเราไปนานๆเนอะ ^^