เราเขียนเรื่องนี้มันจะละเอียดที่สุดเลยนะคะ เราเขียนเพื่อไม่ให้ลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งค่ะ หลังจากซื้อของเสร็จก็เข็นรถเข็นมาจัดของใส่รถ เห็นรถข้างๆสตาร์ตเครื่องจอดอยู่กับที่ตั้งแต่เดินมาแล้ว คิดว่าเค้าต้องรอใครอยู่แน่ๆ จัดของใส่รถเสร็จโดยใช้เวลาซักพัก เราก็เดินเข็นรถเข็นไปจอดรวมกับรถเข็นอื่นไว้ แล้วจึงเดินมารถ ทางเข้ารถแคบมาก เลยเปิดหลังประตูระวังๆไม่ให้โดนรถข้างๆ พอขึ้นไปนั้งได้แล้วก็จะปิดประตู แต่ประตูดันปิดไม่ได้ เราร้องเลยค่ะ เฮ้ยประตูปิดไม่ได้ สังเกตเห็นรถข้างๆขยับเดินหน้าถอยหลังอะไรไม่รู้ แทนที่จะหยุดรถ กระตูมันก็ดังแกร้กกกกกๆๆๆๆๆๆๆ เรานี่ใจจะวายกรีดร้องเลย ทั้งคันรถพูดไม่เป็นภาษา เดินๆ ว้ากก ถอย ว้ากกกก หยุดว้ากกก กลัวมากตะโกนกันอยู่ในรถ เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก และแล้วประตูก็ปิดได้ แต่มีรอยพร้อมกระบังล้อที่ติดกับประตูเปิดง้างออกมา
พ่อแม่เราออกมาดู ยกเว้นเราที่ออกมาไม่ได้เพราะมีของขนมาตันอยู่เบาะข้างๆเลยกดกระจกลงดู พี่ที่ขับรถคันนั้นเค้าก็ออกมาดูรถพี่เค้า แล้วก็ดันกระบังล้อรถเราให้ปิด พี่เค้าจับรถพี่เค้าบอกว่า "อืมม อ่ะรถผมไม่เป็นอะไร ผมไปละ" แล้วรีบชิ่งไปเลย
ฝ่ายเราที่กำลังอึ้งร้องเฮ้ยยย เดี๋ยวว แบบตกใจมาก แล้วพ่อเราถามพี่เค้าว่าจ่ายมั้ย พี่เค้าก็หันกลับมามองหน้าเฉยๆ แม่เราเลยถามต่อว่าจะจ่ายให้มั้ย พี่เค้าตอบว่า"จะจ่ายให้ผมหรอ" พ่อแม่เราเลยชี้แจงว่าให้มาคุยกันก่อนรถมันเสียหายเพราะคุณถอยมาชน ยังพูดไม่จบดี พี่เค้ารีบเถียงปั้บๆเลยค่ะ " ถอยมาชนอะไร รถผมจอดตรงซองแล้วตรงเป๊ะเลย คุณจอดเอียงงู้นงี้ คราวหลังต้องจอดให้ตรงสิ ดูรถผมตั้งใจจอดให้ตรงแบบนี้ รถผมไม่มีประกันนะ บลาๆๆๆ" พูดเยอะมากพ่อแม่เราขัดไม่ได้เลย สอนพ่อแม่เราด้วย เราก็นั่งฟังรับรู้เหตุการณ์ทุกอย่าง เราฟังเค้าทุกคำพูด แล้วเค้าก็กดโทรหาประกัน เล่าเหตุการณ์ ถามว่าใครถูกใครผิด ผมถูกใช่มั้ย ฝ่ายนั้นผิด ฝ่ายนั้นจอดไม่ตรงเส้น บลาๆๆ เหมือนกับพยายามสรรหาคำพูดมาเพื่อให้ฝ่ายเราผิด เอาเรื่องเส้นเป็นประเด็นหลัก แต่คนคนนั้นตอบว่า มันเป็นที่ส่วนบุคคล กฎหมายไม่ครอบคลุม ต้องถามทางห้าง (เราขอชี้แจงว่ารถเรามันเอียงแต่อยู่ในเส้นนะ แล้วมันก็ไม่เกี่ยวกันกับเรื่องชนเลย ฝ่ายเราเลยไม่พูด ปล่อยเค้าพูดไป )
มันมีช่วงนึงที่พี่เค้าบอกว่า "ผมกำลังถอยรถ แล้วเค้าก็เปิดประตูออกมาชนรถผมเป็นรอย" เรารู้ว่าโกหกเลยตะโกนออกไป
(เราเป็นคนที่ยึดมั่นเรื่องมารยาท เป็นคนพูดค่อยเสียงหวาน สำหรับบางคนก็อาจจะคิดว่าที่เราตะโกนบอกมันวัยรุ่นธรรมดา แต่นั่นคือเราสุดๆแล้ว เราตะโกนใส่ใครบ้างเราจำได้หมดเพราะมันมีน้อยมากจริงๆ กับคนนี้ที่เค้าแก่กว่าเราเป็น10ปี แต่ไม่มีวุฒิภาวะ ไม่มีมารยาท ไม่สุภาพกับพ่อซึ่งแก่กว่าเค้าเกือบ20ปี แม่เราซึ่งอายุมากว่าเค้า10กว่าปี เค้าทำรถเสียหาย แล้วยังมาโกหกใส่ร้ายฝ่ายเราอีก)
เราตะโกนว่า "ประตูเปิดอยู่แล้วค่ะ แล้วพี่เค้าก็ถอยมาชน" ประโยคนี้พูดไม่ทันจบดีเลย แม่บอกให้หยุด ไม่ต้องพูด มันไม่น่ารัก แม่สั่งสอนเราค่ะ พี่เค้าได้ทีตะโกนชี้หน้าเราด้วย "ใช่ น้องเป็นเด็ก ไม่ต้องมาพูด พี่ทำไฟแนนซ์พี่หมด บลาๆๆ" แม่เราเลยพูดบอกพี่เค้าว่าชี้หน้าด่าน้องเค้าจะเสียความรู้สึกนะ ถ้าน้องไม่ถูกแม่จะสอนเอง" พี่เค้าเลยหยุดได้
ฝ่ายเราโชคดีมากเห็นตำรวจเดินมาพอดีเลยเข้าไปขอความช่วยเหลือ คุณตำรวจก็มาดูให้ถามเหตุการณ์พี่เค้าก็กระหน่ำเลยคะ พูดเก่งมาก พ่อเราก็พยายามชี้แจงเหตุการณ์อยู่นะคะ พี่เค้าก็ขัดๆๆ เราเลยจะช่วยพ่อเราพูด แม่เราก็ห้ามเรา อย่าไปพูด คุณตำรวจบอกให้โทรไปสน.เอาเบอร์ให้เพราะ ต้องไปแล้ว ฝ่ายเราเลยโทรไปสน.
ตอนนั้นน่าจะบ่ายแล้วหล่ะ วางแผนกันว่าซื้อของเสร็จจะไปกินข้าวร้านอร่อยๆ เราพึ่งสอบสัมภาษณ์เข้ามหาลัยเสร็จ เมื่อวานก็สอบข้อเขียน ตอนนั้นเราล้ามาก ยังใส่ชุดนักเรียนอยู่เลย ข้าวยังไม่กิน มาเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก กับคนแบบนั้นอีก โดนชี้หน้าด่าอีก แม่เราก็คงสงสารอยู่แหละ เลยชวนเราไปรอในห้าง ทั้งๆหน้าแบบรู้เลยว่าแม่โกรธและไม่โอเครมากๆ เราเลยบอกพ่อว่าถ้าตำรวจมาให้โทรบอกหน่อยนะ พอเดินเข้าห้างแม่ก็ให้เราไปซื้อของกิน แม่เราไม่กินนะ เราก็หิวมากจริงๆแต่กินไม่อร่อยเลย ซักพักเห็นรถตำรวจมาก เราเลยเดินออกไปรถ
เราเดินไปถึงพี่เค้าก็พูดเก่งมากตามเคย พูดโบ้ยแต่จะให้เราผิด โวยวายมาก แล้วก็ขัดไม่ให้ฝ่ายเราพูด เราก็คือเห็นว่าพี่เค้าสรรหาคำพูดมาให้เราผิดอีกแล้ว เรื่องไม่ตรงเส้นอีกแล้ว เราเลยแทรกว่า " ที่จอดเอียงเพราะต้องดูคันข้างๆทั้งสองด้าน พี่เค้ามาจอดที่หลังต้องดูเราด้วย " แม่เราก็ห้ามเราพูด เราก็หยุด พี่เค้าพูดเยอะเสียงดังโวยวายมากๆ ใครถูกใครผิดอยู่นั่นแหละ โกหกตำรวจว่า"เค้าว่าเค้าคันใหญ่เลยถูก ผมคันเล็กผมเลยผิด" เราพูดว่า"หนูยังไม่ได้พูดซักคำนะคะ พี่เค้าเอาแต่ว่าฝ่ายเราอยู่นั่นแหละ" แม่เราก็ดุไม่ให้พูด แม่เราชี้แจงกับตำรวจอยู่ว่าพี่เค้ามาชนแล้วไม่รับผิดชอบจะไปเลย ตำรวจบอกทุกคนว่าไปคุยที่โรงพัก พี่เค้าก็โวยวายแล้วเดินตามมาด่าเรากับแม่ซึ่งกำลังเดินไปขึ้นรถ พูดว่า"ว่าหาว่าใครไม่รับผิดชอบ บลาๆๆๆ" พ่อเราเลยบอกว่าไปคุยที่โรงพักดีกว่าครับเดี๋ยวจะกลายเป็นทะเลาะวิวาท พ่อเราเป็นคนใจเย็นดุจสายน้ำค่ะ ส่วนแม่กับเราใจร้อน แม่เลยไม่อยากให้พูด แม้จะถูกก็ตาม
พอไปแล้วระหว่างในรถแม่ก็บอกว่าห้ามเราพูด พอไปถึงสน.ค่ะเค้าก็พูดแต่จะให้เราผิดเหมือนเดิม เรื่องเส้นเหมือนเดิม เราเปิดประตูไปชนเค้าเหมือนเดิม พ่อเราก็บอกว่าเค้าคงจะเกรงใจเห็นเราเช้ารถยาก เลยถอยออกมา มันเลยชน (ในใจเราเราได้ยินอยู่นะว่า เค้าพูดว่าเค้านั่งเล่นโทรศัพท์ในรถ เค้าไม่เห็นประตู ตอนถอยรถได้ยินเสียงแกร้ก เลยเดินหน้า) แต่พ่อเราดันไปพูดแก้ตัวให้เค้า เพื่อจะมัดตัวเค้าว่าเค้าขยับรถจริงๆ แต่เพราะแบบนั้นเลยทำให้เค้าดูดีไม่ได้ประมาทตั้งใจถอยให้เพราะเกรงใจ ความจริงมันใช่ซะที่ไหนล่ะ แค่พูดดีๆยังทำไม่เป็นเลย สุดท้ายตำรวจให้ยอมความ ตอนนั้นเราร้องไห้เลย เราทนไม่ได้กับการโดนเอาเปรียบจากคนแบบนั้น แถมเราต้องนั่งรอ พูดอะไรไม่ได้ทั้งที่เรารู้ เราไม่ได้อยากได้เงิน แต่เราอยากให้เค้ายอมรับซักหน่อยเรื่องทำผิดจริง เรื่องเค้าไม่ระวัง ขอโทษซักคำยังไม่มี ด่าเรา แถมโบ้ยความผิด ตอนอยู่สน.ทำตัวอย่างกับดีเจเก่_ เราเลยทนไม่ได้จริงๆ
งั้นขอพูดมุมนี้นะคะ วิเคราะห์จากเรา
เราเห็นรถพี่เค้าติดเครื่องอยู่แล้วตั้งแต่เราเดินมาก็เห็นว่าเครื่องติดอยู่และไม่มีท่าทีว่าจะถอยเลย เราว่าเค้าต้องรอใครอยู่แน่ๆ เรากับพ่อแม่เก็บของเข้ารถเรียบร้อยใช้เวลาซักพักเลยแหละ เราเอารถเข็นข้ามถนน ไปจอดรวมกับรถเข็นคันอื่น แล้วเดินมาที่รถ ฝั่งเราทางมันแคบมาก เราเลยระวังไม่ให้ชนรถข้างๆ พอขึ้นไปได้แล้วก็จับประตูจะดึงแต่ดึงไม่ได้ เพราะพี่เค้าถอยชนประตู แล้วเดินหน้า เลยทำให้ 'ที่จับประตูของรถพี่เค้า'เลยมาเกี่ยวกับ"แก้มกระบังล้อรถเรา" หลังจากนั้น แม่เราถามเค้าว่าเห็นมั้ยว่าประตูรถเปิดอยู่ พี่เค้าตอบว่าไม่ ตอนนั้นผมนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ พอกำลังถอยก็ได้ยินเสียงชนเลยเดินหน้า แล้วก็บอกว่าตัวเองไม่ผิดนะเพราะจอดอยู่ในเส้น (เรามองว่าจะตรงเส้น แต่มาหลังก็ควรจอดไม่ให้เบียดรถคันที่จอดก่อนหน้า ถูกมั้ย) พี่เค้าชี้หน้าด่าไม่ให้เราพูดเพราะเราเป็นเด็ก แต่เหตุที่เราพูดแต่ละครั้งก็เพื่อชี้แจงที่พี่เค้าใส่ร้ายเรา คนที่คิดว่าตัวเองถูกเค้าไม่ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดหรอก ไม่โบ้ยความผิด ไม่ใส่ร้ายด้วย แต่เค้าจะยืนยันในสิ่งที่ถูกต้อง สำหรับคนคนนี้ ถ้าเค้าคิดว่าตัวเองถูกจริง คนอย่างเค้าต้องบีบให้เราจ่ายค่าเสียหายแน่นอน แต่นี่กลับรีบหนี เค้าคงภูมิใจว่าตัวเองพูดเอาชนะทั้งๆที่ตัวเองผิดได้ แถมยังไม่ต้องขอโทษซักคำ ทำยัยเด็กนั่นร้องไห้ได้อีก สะใจโว้ยยยย พี่เค้าคงไม่เชื่อเรื่องเวรกรรมหรอก แต่เราเชื่อว่าซักวันพี่เค้าจะได้รับผลกรรมนี้คืน เราก็คิดซะว่าเราคงเคยทำกรรมกับเค้าไว้ตั้งแต่ชาติก่อน แถมปีนี้แม่กับเราชง หลายเรื่องแล้วแหละ ชงหนักมาก เด็กแอดปีนี้น่าจะรู้ว่ามันชงได้ชงดีจังเลย เราคิดว่าคนอื่นคงได้เจอเรื่องแย่ๆไม่ต่างกัน บางคนอาจจะเจอเยอะกว่าเราซะอีก ต่อไปมันจะดีขึ้นเนาะ สู้ไว้นะคะ เราก็บอกตัวเองสู้ไว้เหมือนกัน
โดนรถถอยชนประตูเป็นรอยกระบังล้อเปิด ปัดรับผิดชอบ แถมโดนสั่งสอนและใส่ร้าย
ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งค่ะ หลังจากซื้อของเสร็จก็เข็นรถเข็นมาจัดของใส่รถ เห็นรถข้างๆสตาร์ตเครื่องจอดอยู่กับที่ตั้งแต่เดินมาแล้ว คิดว่าเค้าต้องรอใครอยู่แน่ๆ จัดของใส่รถเสร็จโดยใช้เวลาซักพัก เราก็เดินเข็นรถเข็นไปจอดรวมกับรถเข็นอื่นไว้ แล้วจึงเดินมารถ ทางเข้ารถแคบมาก เลยเปิดหลังประตูระวังๆไม่ให้โดนรถข้างๆ พอขึ้นไปนั้งได้แล้วก็จะปิดประตู แต่ประตูดันปิดไม่ได้ เราร้องเลยค่ะ เฮ้ยประตูปิดไม่ได้ สังเกตเห็นรถข้างๆขยับเดินหน้าถอยหลังอะไรไม่รู้ แทนที่จะหยุดรถ กระตูมันก็ดังแกร้กกกกกๆๆๆๆๆๆๆ เรานี่ใจจะวายกรีดร้องเลย ทั้งคันรถพูดไม่เป็นภาษา เดินๆ ว้ากก ถอย ว้ากกกก หยุดว้ากกก กลัวมากตะโกนกันอยู่ในรถ เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก และแล้วประตูก็ปิดได้ แต่มีรอยพร้อมกระบังล้อที่ติดกับประตูเปิดง้างออกมา
พ่อแม่เราออกมาดู ยกเว้นเราที่ออกมาไม่ได้เพราะมีของขนมาตันอยู่เบาะข้างๆเลยกดกระจกลงดู พี่ที่ขับรถคันนั้นเค้าก็ออกมาดูรถพี่เค้า แล้วก็ดันกระบังล้อรถเราให้ปิด พี่เค้าจับรถพี่เค้าบอกว่า "อืมม อ่ะรถผมไม่เป็นอะไร ผมไปละ" แล้วรีบชิ่งไปเลย
ฝ่ายเราที่กำลังอึ้งร้องเฮ้ยยย เดี๋ยวว แบบตกใจมาก แล้วพ่อเราถามพี่เค้าว่าจ่ายมั้ย พี่เค้าก็หันกลับมามองหน้าเฉยๆ แม่เราเลยถามต่อว่าจะจ่ายให้มั้ย พี่เค้าตอบว่า"จะจ่ายให้ผมหรอ" พ่อแม่เราเลยชี้แจงว่าให้มาคุยกันก่อนรถมันเสียหายเพราะคุณถอยมาชน ยังพูดไม่จบดี พี่เค้ารีบเถียงปั้บๆเลยค่ะ " ถอยมาชนอะไร รถผมจอดตรงซองแล้วตรงเป๊ะเลย คุณจอดเอียงงู้นงี้ คราวหลังต้องจอดให้ตรงสิ ดูรถผมตั้งใจจอดให้ตรงแบบนี้ รถผมไม่มีประกันนะ บลาๆๆๆ" พูดเยอะมากพ่อแม่เราขัดไม่ได้เลย สอนพ่อแม่เราด้วย เราก็นั่งฟังรับรู้เหตุการณ์ทุกอย่าง เราฟังเค้าทุกคำพูด แล้วเค้าก็กดโทรหาประกัน เล่าเหตุการณ์ ถามว่าใครถูกใครผิด ผมถูกใช่มั้ย ฝ่ายนั้นผิด ฝ่ายนั้นจอดไม่ตรงเส้น บลาๆๆ เหมือนกับพยายามสรรหาคำพูดมาเพื่อให้ฝ่ายเราผิด เอาเรื่องเส้นเป็นประเด็นหลัก แต่คนคนนั้นตอบว่า มันเป็นที่ส่วนบุคคล กฎหมายไม่ครอบคลุม ต้องถามทางห้าง (เราขอชี้แจงว่ารถเรามันเอียงแต่อยู่ในเส้นนะ แล้วมันก็ไม่เกี่ยวกันกับเรื่องชนเลย ฝ่ายเราเลยไม่พูด ปล่อยเค้าพูดไป )
มันมีช่วงนึงที่พี่เค้าบอกว่า "ผมกำลังถอยรถ แล้วเค้าก็เปิดประตูออกมาชนรถผมเป็นรอย" เรารู้ว่าโกหกเลยตะโกนออกไป
(เราเป็นคนที่ยึดมั่นเรื่องมารยาท เป็นคนพูดค่อยเสียงหวาน สำหรับบางคนก็อาจจะคิดว่าที่เราตะโกนบอกมันวัยรุ่นธรรมดา แต่นั่นคือเราสุดๆแล้ว เราตะโกนใส่ใครบ้างเราจำได้หมดเพราะมันมีน้อยมากจริงๆ กับคนนี้ที่เค้าแก่กว่าเราเป็น10ปี แต่ไม่มีวุฒิภาวะ ไม่มีมารยาท ไม่สุภาพกับพ่อซึ่งแก่กว่าเค้าเกือบ20ปี แม่เราซึ่งอายุมากว่าเค้า10กว่าปี เค้าทำรถเสียหาย แล้วยังมาโกหกใส่ร้ายฝ่ายเราอีก)
เราตะโกนว่า "ประตูเปิดอยู่แล้วค่ะ แล้วพี่เค้าก็ถอยมาชน" ประโยคนี้พูดไม่ทันจบดีเลย แม่บอกให้หยุด ไม่ต้องพูด มันไม่น่ารัก แม่สั่งสอนเราค่ะ พี่เค้าได้ทีตะโกนชี้หน้าเราด้วย "ใช่ น้องเป็นเด็ก ไม่ต้องมาพูด พี่ทำไฟแนนซ์พี่หมด บลาๆๆ" แม่เราเลยพูดบอกพี่เค้าว่าชี้หน้าด่าน้องเค้าจะเสียความรู้สึกนะ ถ้าน้องไม่ถูกแม่จะสอนเอง" พี่เค้าเลยหยุดได้
ฝ่ายเราโชคดีมากเห็นตำรวจเดินมาพอดีเลยเข้าไปขอความช่วยเหลือ คุณตำรวจก็มาดูให้ถามเหตุการณ์พี่เค้าก็กระหน่ำเลยคะ พูดเก่งมาก พ่อเราก็พยายามชี้แจงเหตุการณ์อยู่นะคะ พี่เค้าก็ขัดๆๆ เราเลยจะช่วยพ่อเราพูด แม่เราก็ห้ามเรา อย่าไปพูด คุณตำรวจบอกให้โทรไปสน.เอาเบอร์ให้เพราะ ต้องไปแล้ว ฝ่ายเราเลยโทรไปสน.
ตอนนั้นน่าจะบ่ายแล้วหล่ะ วางแผนกันว่าซื้อของเสร็จจะไปกินข้าวร้านอร่อยๆ เราพึ่งสอบสัมภาษณ์เข้ามหาลัยเสร็จ เมื่อวานก็สอบข้อเขียน ตอนนั้นเราล้ามาก ยังใส่ชุดนักเรียนอยู่เลย ข้าวยังไม่กิน มาเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก กับคนแบบนั้นอีก โดนชี้หน้าด่าอีก แม่เราก็คงสงสารอยู่แหละ เลยชวนเราไปรอในห้าง ทั้งๆหน้าแบบรู้เลยว่าแม่โกรธและไม่โอเครมากๆ เราเลยบอกพ่อว่าถ้าตำรวจมาให้โทรบอกหน่อยนะ พอเดินเข้าห้างแม่ก็ให้เราไปซื้อของกิน แม่เราไม่กินนะ เราก็หิวมากจริงๆแต่กินไม่อร่อยเลย ซักพักเห็นรถตำรวจมาก เราเลยเดินออกไปรถ
เราเดินไปถึงพี่เค้าก็พูดเก่งมากตามเคย พูดโบ้ยแต่จะให้เราผิด โวยวายมาก แล้วก็ขัดไม่ให้ฝ่ายเราพูด เราก็คือเห็นว่าพี่เค้าสรรหาคำพูดมาให้เราผิดอีกแล้ว เรื่องไม่ตรงเส้นอีกแล้ว เราเลยแทรกว่า " ที่จอดเอียงเพราะต้องดูคันข้างๆทั้งสองด้าน พี่เค้ามาจอดที่หลังต้องดูเราด้วย " แม่เราก็ห้ามเราพูด เราก็หยุด พี่เค้าพูดเยอะเสียงดังโวยวายมากๆ ใครถูกใครผิดอยู่นั่นแหละ โกหกตำรวจว่า"เค้าว่าเค้าคันใหญ่เลยถูก ผมคันเล็กผมเลยผิด" เราพูดว่า"หนูยังไม่ได้พูดซักคำนะคะ พี่เค้าเอาแต่ว่าฝ่ายเราอยู่นั่นแหละ" แม่เราก็ดุไม่ให้พูด แม่เราชี้แจงกับตำรวจอยู่ว่าพี่เค้ามาชนแล้วไม่รับผิดชอบจะไปเลย ตำรวจบอกทุกคนว่าไปคุยที่โรงพัก พี่เค้าก็โวยวายแล้วเดินตามมาด่าเรากับแม่ซึ่งกำลังเดินไปขึ้นรถ พูดว่า"ว่าหาว่าใครไม่รับผิดชอบ บลาๆๆๆ" พ่อเราเลยบอกว่าไปคุยที่โรงพักดีกว่าครับเดี๋ยวจะกลายเป็นทะเลาะวิวาท พ่อเราเป็นคนใจเย็นดุจสายน้ำค่ะ ส่วนแม่กับเราใจร้อน แม่เลยไม่อยากให้พูด แม้จะถูกก็ตาม
พอไปแล้วระหว่างในรถแม่ก็บอกว่าห้ามเราพูด พอไปถึงสน.ค่ะเค้าก็พูดแต่จะให้เราผิดเหมือนเดิม เรื่องเส้นเหมือนเดิม เราเปิดประตูไปชนเค้าเหมือนเดิม พ่อเราก็บอกว่าเค้าคงจะเกรงใจเห็นเราเช้ารถยาก เลยถอยออกมา มันเลยชน (ในใจเราเราได้ยินอยู่นะว่า เค้าพูดว่าเค้านั่งเล่นโทรศัพท์ในรถ เค้าไม่เห็นประตู ตอนถอยรถได้ยินเสียงแกร้ก เลยเดินหน้า) แต่พ่อเราดันไปพูดแก้ตัวให้เค้า เพื่อจะมัดตัวเค้าว่าเค้าขยับรถจริงๆ แต่เพราะแบบนั้นเลยทำให้เค้าดูดีไม่ได้ประมาทตั้งใจถอยให้เพราะเกรงใจ ความจริงมันใช่ซะที่ไหนล่ะ แค่พูดดีๆยังทำไม่เป็นเลย สุดท้ายตำรวจให้ยอมความ ตอนนั้นเราร้องไห้เลย เราทนไม่ได้กับการโดนเอาเปรียบจากคนแบบนั้น แถมเราต้องนั่งรอ พูดอะไรไม่ได้ทั้งที่เรารู้ เราไม่ได้อยากได้เงิน แต่เราอยากให้เค้ายอมรับซักหน่อยเรื่องทำผิดจริง เรื่องเค้าไม่ระวัง ขอโทษซักคำยังไม่มี ด่าเรา แถมโบ้ยความผิด ตอนอยู่สน.ทำตัวอย่างกับดีเจเก่_ เราเลยทนไม่ได้จริงๆ
งั้นขอพูดมุมนี้นะคะ วิเคราะห์จากเรา
เราเห็นรถพี่เค้าติดเครื่องอยู่แล้วตั้งแต่เราเดินมาก็เห็นว่าเครื่องติดอยู่และไม่มีท่าทีว่าจะถอยเลย เราว่าเค้าต้องรอใครอยู่แน่ๆ เรากับพ่อแม่เก็บของเข้ารถเรียบร้อยใช้เวลาซักพักเลยแหละ เราเอารถเข็นข้ามถนน ไปจอดรวมกับรถเข็นคันอื่น แล้วเดินมาที่รถ ฝั่งเราทางมันแคบมาก เราเลยระวังไม่ให้ชนรถข้างๆ พอขึ้นไปได้แล้วก็จับประตูจะดึงแต่ดึงไม่ได้ เพราะพี่เค้าถอยชนประตู แล้วเดินหน้า เลยทำให้ 'ที่จับประตูของรถพี่เค้า'เลยมาเกี่ยวกับ"แก้มกระบังล้อรถเรา" หลังจากนั้น แม่เราถามเค้าว่าเห็นมั้ยว่าประตูรถเปิดอยู่ พี่เค้าตอบว่าไม่ ตอนนั้นผมนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ พอกำลังถอยก็ได้ยินเสียงชนเลยเดินหน้า แล้วก็บอกว่าตัวเองไม่ผิดนะเพราะจอดอยู่ในเส้น (เรามองว่าจะตรงเส้น แต่มาหลังก็ควรจอดไม่ให้เบียดรถคันที่จอดก่อนหน้า ถูกมั้ย) พี่เค้าชี้หน้าด่าไม่ให้เราพูดเพราะเราเป็นเด็ก แต่เหตุที่เราพูดแต่ละครั้งก็เพื่อชี้แจงที่พี่เค้าใส่ร้ายเรา คนที่คิดว่าตัวเองถูกเค้าไม่ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดหรอก ไม่โบ้ยความผิด ไม่ใส่ร้ายด้วย แต่เค้าจะยืนยันในสิ่งที่ถูกต้อง สำหรับคนคนนี้ ถ้าเค้าคิดว่าตัวเองถูกจริง คนอย่างเค้าต้องบีบให้เราจ่ายค่าเสียหายแน่นอน แต่นี่กลับรีบหนี เค้าคงภูมิใจว่าตัวเองพูดเอาชนะทั้งๆที่ตัวเองผิดได้ แถมยังไม่ต้องขอโทษซักคำ ทำยัยเด็กนั่นร้องไห้ได้อีก สะใจโว้ยยยย พี่เค้าคงไม่เชื่อเรื่องเวรกรรมหรอก แต่เราเชื่อว่าซักวันพี่เค้าจะได้รับผลกรรมนี้คืน เราก็คิดซะว่าเราคงเคยทำกรรมกับเค้าไว้ตั้งแต่ชาติก่อน แถมปีนี้แม่กับเราชง หลายเรื่องแล้วแหละ ชงหนักมาก เด็กแอดปีนี้น่าจะรู้ว่ามันชงได้ชงดีจังเลย เราคิดว่าคนอื่นคงได้เจอเรื่องแย่ๆไม่ต่างกัน บางคนอาจจะเจอเยอะกว่าเราซะอีก ต่อไปมันจะดีขึ้นเนาะ สู้ไว้นะคะ เราก็บอกตัวเองสู้ไว้เหมือนกัน