ที่ผ่านมาในเวลาสามสี่เดือนนี่
มันชัดขึ้นทุกที ๆ ครับ ว่าเหมือนมีธง มีใบสั่ง มีการสมรู้ร่วมคิด
โดยเฉพาะการออกมาแสดงบทบาทของนายสุวิทย์อ้อน้อย นายไพบูลย์ นิติตะวัน นายมโน อะไรนั่นอีกคน
ฉะนั้น เมื่อทางฝ่ายธรรมกายเขามีคำถาม มีคำตอบโต้แย้ง DSI แบบนี้
ทาง DSI ตอบโต้และชี้แจงได้ไหมครับ
ธรรมกายเขาตั้งประเด็นว่า
- ที่ผ่านมาจากการตรวจสอบข้อมูลร่วมกันระหว่างสหกรณ์คลองจั่น ดีเอสไอและทางวัดพระธรรมกาย
พบว่า นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ได้สั่งจ่ายเช็คสหกรณ์ เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นมาบริจาคให้กับพระเทพญาณมหามุนี จำนวน 10 ฉบับ
รวมยอดเงิน 387,160,000 บาท และบริจาคให้กับวัดพระธรรมกาย จำนวน 11 ฉบับ รวมยอดเงิน 668,400,000 บาท
ยอดรวมเงินทั้ง 2 ส่วนเท่ากับ 1,055,560,000 บาท
- ทางคณะศิษย์ได้ช่วยกันตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือเยียวยาแก่สหกรณ์ฯ คลองจั่น เต็มจำนวน 1,055,560,000 บาท
ทางสหกรณ์ฯ คลองจั่น จึงได้มีหนังสือขอบคุณมายังคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายและทำหนังสือแจ้งไปยังดีเอสไอให้ทราบว่า
สหกรณ์ฯ คลองจั่น ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่แท้จริงไม่ติดใจดำเนินคดีต่อวัดพระธรรมกาย และพระเทพญาณมหามุนีอีกต่อไป
- สหกรณ์ฯ คลองจั่นได้ฟ้องคดีแพ่งกับผู้ที่รับเช็คจากสหกรณ์ฯ คลองจั่นไปทั้งหมด 32 ราย รวมยอดเงิน 13,000 ล้านบาท
ซึ่งมีเพียงคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายเท่านั้นที่ได้ช่วยเหลือเยียวยาแก่ ทางสหกรณ์ฯ คลองจั่นจนครบจำนวน
บุคคลอื่น ๆ อีก 30 ราย ไม่มีใครเยียวยาแก่สหกรณ์ฯ คลองจั่นเลยแม้แต่บาทเดียว
- ทำไมดีเอสไอไม่ไปทุ่มเทกำลังตามหาเงินที่เหลืออีก 13,000 ล้านบาทจากผู้รับเงินรายที่เหลือ ซึ่งยอดเงินมากกว่านับสิบเท่า
- พระสุวิทย์ วัดอ้อน้อย และนายไพบูลย์ นิติตะวัน ซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีในการกดดันให้ดำเนินคดีกับพระเทพญาณมหามุนีนั้น
เป็นผู้ต้องหาในคดีกบฏ จากการ shut down กรุงเทพฯ ดีเอสไอได้ส่งฟ้องแล้ว อัยการก็ได้พิจารณาสั่งฟ้องแล้ว
ขั้นตอนล่วงเลยจนจะเป็นจำเลยขึ้นศาลแล้ว แต่ทั้ง 2 คนได้ ร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการสูงสุด สั่งให้สอบเพิ่มเติม
คดีนี้เวลาล่วงเลยมากว่า 2 ปีแล้ว ทำไมข่าวจึงเงียบสนิท
ทั้งที่เป็นผู้ต้องหาในคดีร้ายแรงถึงขนาดเป็นกบฏต่อแผ่นดิน ยึดสถานที่ราชการนานหลายเดือน ปิดเมืองหลวงของประเทศ
สร้างความเสียหายแก่การบริหารราชการแผ่นดิน และความสามัคคีของคนในชาติอย่างใหญ่หลวง
ดีเอสไอได้ออกหมายเรียก หมายจับ หมายค้นนำตัวทั้งคู่มาสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อส่งให้อัยการ สั่งคดีขึ้นสู่ศาลโดยเร็วหรือไม่
- การกระทำของดีเอสไอนี้เป็น 2 มาตรฐานหรือไม่ มีธงหรือเปล่า มีใบสั่งหรือเปล่า
ดีเอสไอจะสร้างความเชื่อมั่นแก่สังคมว่าจะดำเนินการทุกอย่างด้วยความเที่ยงธรรมตามกฎหมาย ไม่มีเอียง ไม่ 2 มาตรฐาน ได้อย่างไร
เด็กนักการเมืองสองคน รับเงินจากนายศุภชัย ประธานสหกรณ์คลอจั่นไป 2,500 ล้านบาท
ดีเอสไอ บอกว่าหลักฐานไม่พอฟ้อง ไม่เอาผิดใด ๆ
ก็แปลกนะครับ เงินอะไรให้กันตั้งสองพันห้าร้อยล้าน ?
เงินส่วนอื่น ๆ อีกหมื่นกว่าล้าน
ไม่มีใครรับของโจร ไม่มีใครฟอกเงิน มีแค่ธัมมโชยคนเดียว
แปลกครับ
DSI ตอบโต้คำถามเหล่านี้ของธรรมกายได้ไหมครับ เพื่อให้เห็นว่าท่านปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นธรรม ไร้ใบสั่ง ไม่มีธง
มันชัดขึ้นทุกที ๆ ครับ ว่าเหมือนมีธง มีใบสั่ง มีการสมรู้ร่วมคิด
โดยเฉพาะการออกมาแสดงบทบาทของนายสุวิทย์อ้อน้อย นายไพบูลย์ นิติตะวัน นายมโน อะไรนั่นอีกคน
ฉะนั้น เมื่อทางฝ่ายธรรมกายเขามีคำถาม มีคำตอบโต้แย้ง DSI แบบนี้
ทาง DSI ตอบโต้และชี้แจงได้ไหมครับ
ธรรมกายเขาตั้งประเด็นว่า
- ที่ผ่านมาจากการตรวจสอบข้อมูลร่วมกันระหว่างสหกรณ์คลองจั่น ดีเอสไอและทางวัดพระธรรมกาย
พบว่า นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ได้สั่งจ่ายเช็คสหกรณ์ เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นมาบริจาคให้กับพระเทพญาณมหามุนี จำนวน 10 ฉบับ
รวมยอดเงิน 387,160,000 บาท และบริจาคให้กับวัดพระธรรมกาย จำนวน 11 ฉบับ รวมยอดเงิน 668,400,000 บาท
ยอดรวมเงินทั้ง 2 ส่วนเท่ากับ 1,055,560,000 บาท
- ทางคณะศิษย์ได้ช่วยกันตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือเยียวยาแก่สหกรณ์ฯ คลองจั่น เต็มจำนวน 1,055,560,000 บาท
ทางสหกรณ์ฯ คลองจั่น จึงได้มีหนังสือขอบคุณมายังคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายและทำหนังสือแจ้งไปยังดีเอสไอให้ทราบว่า
สหกรณ์ฯ คลองจั่น ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่แท้จริงไม่ติดใจดำเนินคดีต่อวัดพระธรรมกาย และพระเทพญาณมหามุนีอีกต่อไป
- สหกรณ์ฯ คลองจั่นได้ฟ้องคดีแพ่งกับผู้ที่รับเช็คจากสหกรณ์ฯ คลองจั่นไปทั้งหมด 32 ราย รวมยอดเงิน 13,000 ล้านบาท
ซึ่งมีเพียงคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายเท่านั้นที่ได้ช่วยเหลือเยียวยาแก่ ทางสหกรณ์ฯ คลองจั่นจนครบจำนวน
บุคคลอื่น ๆ อีก 30 ราย ไม่มีใครเยียวยาแก่สหกรณ์ฯ คลองจั่นเลยแม้แต่บาทเดียว
- ทำไมดีเอสไอไม่ไปทุ่มเทกำลังตามหาเงินที่เหลืออีก 13,000 ล้านบาทจากผู้รับเงินรายที่เหลือ ซึ่งยอดเงินมากกว่านับสิบเท่า
- พระสุวิทย์ วัดอ้อน้อย และนายไพบูลย์ นิติตะวัน ซึ่งเป็นตัวตั้งตัวตีในการกดดันให้ดำเนินคดีกับพระเทพญาณมหามุนีนั้น
เป็นผู้ต้องหาในคดีกบฏ จากการ shut down กรุงเทพฯ ดีเอสไอได้ส่งฟ้องแล้ว อัยการก็ได้พิจารณาสั่งฟ้องแล้ว
ขั้นตอนล่วงเลยจนจะเป็นจำเลยขึ้นศาลแล้ว แต่ทั้ง 2 คนได้ ร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการสูงสุด สั่งให้สอบเพิ่มเติม
คดีนี้เวลาล่วงเลยมากว่า 2 ปีแล้ว ทำไมข่าวจึงเงียบสนิท
ทั้งที่เป็นผู้ต้องหาในคดีร้ายแรงถึงขนาดเป็นกบฏต่อแผ่นดิน ยึดสถานที่ราชการนานหลายเดือน ปิดเมืองหลวงของประเทศ
สร้างความเสียหายแก่การบริหารราชการแผ่นดิน และความสามัคคีของคนในชาติอย่างใหญ่หลวง
ดีเอสไอได้ออกหมายเรียก หมายจับ หมายค้นนำตัวทั้งคู่มาสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อส่งให้อัยการ สั่งคดีขึ้นสู่ศาลโดยเร็วหรือไม่
- การกระทำของดีเอสไอนี้เป็น 2 มาตรฐานหรือไม่ มีธงหรือเปล่า มีใบสั่งหรือเปล่า
ดีเอสไอจะสร้างความเชื่อมั่นแก่สังคมว่าจะดำเนินการทุกอย่างด้วยความเที่ยงธรรมตามกฎหมาย ไม่มีเอียง ไม่ 2 มาตรฐาน ได้อย่างไร
เด็กนักการเมืองสองคน รับเงินจากนายศุภชัย ประธานสหกรณ์คลอจั่นไป 2,500 ล้านบาท
ดีเอสไอ บอกว่าหลักฐานไม่พอฟ้อง ไม่เอาผิดใด ๆ
ก็แปลกนะครับ เงินอะไรให้กันตั้งสองพันห้าร้อยล้าน ?
เงินส่วนอื่น ๆ อีกหมื่นกว่าล้าน
ไม่มีใครรับของโจร ไม่มีใครฟอกเงิน มีแค่ธัมมโชยคนเดียว
แปลกครับ