สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
การส่งเงินแล้วไม่ได้มีชื่อในโฉนดเป็นความผิดพลาดใหญ่หลวงแน่นอน
ถ้างั้นแล้วจะทำอย่างไรดี ถ้าหากไปจดทะเบียนโอนที่ดินก่อนมันก็ไม่เป็นสินสมรส
แม้ต่อมาจะจดทะเบียนสมรสแล้ววันหลังมาโอนกัน ก็จะเสียค่าโอน ภาษี อากร
เยอะมาก แต่ถ้าไปจดทะเบียนสมรสกันก่อน แล้วถึงจะรับโอนที่ดินจากคนขายมันก็เป็นสินสมรส
มีสิทธิคนละครึ่ง และก็ผ่อนกันไปเมื่อหมดแล้วก็มาใส่ชื่อเพิ่มในประเภท "ลงชื่อคู่สมรส" จะเสียค่าธรรมเนียม
ทุกอย่างแค่ไม่ถึงร้อยบาท(จะเสียน้อยกว่าวิธีแรกอย่างลิบลับ) เพราะไม่ใช่เป็นการยกให้แต่ใส่
เพราะเป็นสินสมรสแล้วซึ่งมีสิทธิอยู่ครึ่งหนึ่งแล้ว การไปจดลงชื่อจึงเป็นแค่ใส่ชื่อตามที่มีสิทธิอยู่แล้ว
กฎหมายจึงให้เสียค่าธรรมเนียมน้อยมากไม่เสียภาษีอากรเลย
ความจริงไม่ต้องผ่อนหมดก็จดลงชื่อคู่สมรสได้ เพียงแต่ธนาคารไม่ยอมให้เอาโฉนดมา
จดเท่านั้นเอง แต่เราก็มีสิทธิอยู่แล้วในฐานะเป็นสินสมรส แต่วิธีนี้คุณคงไม่ชอบอีก
เพราะเป็นการไปจดทะเบียนสมรสกันเลยก่อนแต่ง มันอึดอัดตรงนี้ นี่ก็แค่มาบอกให้รู้ไว้
แค่นั้นแหละจะเลือกจะทำอะไรก็คิดกันให้ดีแล้วกัน ชีวิตใครก็เป็นเรื่องของคนนั้น
จะวางแผนกันเอง
และก็บอกเพิ่มอีกหน่อย ถ้าใส่ชื่อเขาคนเดียวและเขาเกิดตายไปก่อนจะลงชื่อร่วมหรือจดทะเบียนสมรส
คุณจะมีปัญหาไม่ได้สิทธิรับมรดก พ่อแม่เขาจะได้ไปหมดเงินที่ส่งก็ต้องขอคืนจะได้หรือเปล่า
ก็มีปัญหาอีก คือการตกลงแบบช่วยผ่อนน่ะผิดมาแต่ต้น ถ้าเรามีเงินเดือนก็ร่วมกันกู้ลงชื่อพร้อมกัน
จะดีสุด คือหลักการง่าย ๆ ถ้าออกเงินร่วมต้องมีชื่อร่วมทันทีในวันโอน จะทำอย่างไรก็แล้วแต่จะหาทางตกลงกัน
แต่อะไรที่เสียเปรียบก็ต้องไม่ยอมก็แค่นั้นเอง เพราะคนเราเปลี่ยนใจกันได้ไง แต่เป็นผมไม่เอาหรอกเรื่องแบบ
นี้น่ะ เสียเปรียบชัด ๆ แต่ก็อีกแหละหัวใจความรักบางทีก็ทำให้ทำในสิ่งที่ไม่สมเหตุผล เขาเรียกว่า heart before head
กลับมาบอกวิธีการจดทะเบียนประเภท "ลงชื่อคู่สมรส" ไว้ประดับความรู้ ไปอ่านได้ตามลิ้งค์นี้
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=landclinic&group=14
ถ้างั้นแล้วจะทำอย่างไรดี ถ้าหากไปจดทะเบียนโอนที่ดินก่อนมันก็ไม่เป็นสินสมรส
แม้ต่อมาจะจดทะเบียนสมรสแล้ววันหลังมาโอนกัน ก็จะเสียค่าโอน ภาษี อากร
เยอะมาก แต่ถ้าไปจดทะเบียนสมรสกันก่อน แล้วถึงจะรับโอนที่ดินจากคนขายมันก็เป็นสินสมรส
มีสิทธิคนละครึ่ง และก็ผ่อนกันไปเมื่อหมดแล้วก็มาใส่ชื่อเพิ่มในประเภท "ลงชื่อคู่สมรส" จะเสียค่าธรรมเนียม
ทุกอย่างแค่ไม่ถึงร้อยบาท(จะเสียน้อยกว่าวิธีแรกอย่างลิบลับ) เพราะไม่ใช่เป็นการยกให้แต่ใส่
เพราะเป็นสินสมรสแล้วซึ่งมีสิทธิอยู่ครึ่งหนึ่งแล้ว การไปจดลงชื่อจึงเป็นแค่ใส่ชื่อตามที่มีสิทธิอยู่แล้ว
กฎหมายจึงให้เสียค่าธรรมเนียมน้อยมากไม่เสียภาษีอากรเลย
ความจริงไม่ต้องผ่อนหมดก็จดลงชื่อคู่สมรสได้ เพียงแต่ธนาคารไม่ยอมให้เอาโฉนดมา
จดเท่านั้นเอง แต่เราก็มีสิทธิอยู่แล้วในฐานะเป็นสินสมรส แต่วิธีนี้คุณคงไม่ชอบอีก
เพราะเป็นการไปจดทะเบียนสมรสกันเลยก่อนแต่ง มันอึดอัดตรงนี้ นี่ก็แค่มาบอกให้รู้ไว้
แค่นั้นแหละจะเลือกจะทำอะไรก็คิดกันให้ดีแล้วกัน ชีวิตใครก็เป็นเรื่องของคนนั้น
จะวางแผนกันเอง
และก็บอกเพิ่มอีกหน่อย ถ้าใส่ชื่อเขาคนเดียวและเขาเกิดตายไปก่อนจะลงชื่อร่วมหรือจดทะเบียนสมรส
คุณจะมีปัญหาไม่ได้สิทธิรับมรดก พ่อแม่เขาจะได้ไปหมดเงินที่ส่งก็ต้องขอคืนจะได้หรือเปล่า
ก็มีปัญหาอีก คือการตกลงแบบช่วยผ่อนน่ะผิดมาแต่ต้น ถ้าเรามีเงินเดือนก็ร่วมกันกู้ลงชื่อพร้อมกัน
จะดีสุด คือหลักการง่าย ๆ ถ้าออกเงินร่วมต้องมีชื่อร่วมทันทีในวันโอน จะทำอย่างไรก็แล้วแต่จะหาทางตกลงกัน
แต่อะไรที่เสียเปรียบก็ต้องไม่ยอมก็แค่นั้นเอง เพราะคนเราเปลี่ยนใจกันได้ไง แต่เป็นผมไม่เอาหรอกเรื่องแบบ
นี้น่ะ เสียเปรียบชัด ๆ แต่ก็อีกแหละหัวใจความรักบางทีก็ทำให้ทำในสิ่งที่ไม่สมเหตุผล เขาเรียกว่า heart before head
กลับมาบอกวิธีการจดทะเบียนประเภท "ลงชื่อคู่สมรส" ไว้ประดับความรู้ ไปอ่านได้ตามลิ้งค์นี้
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=landclinic&group=14
ความคิดเห็นที่ 24
ก็ในเมื่อมันเป็นทรัพย์สินของเค้าคนเดียว ยื่นกู้ก็ยื่นคนเดียวแสดงว่า รายได้เพียงพอที่จะผ่อน ก็ให้เค้าผ่อนของเค้าไปคนเดียว เงินส่วนของคุณก็เอาไปทำอย่างอื่น มีให้ทำอีกตั้งเยอะตั้งแยะ เช่น ผ่อนรถ ผ่อนตึก ผ่อนที่ดิน เป็นชื่อคุณเอง แบบแยกทรัพย์สินก่อนสมรสของใครของมันไปเลย จะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายทีหลัง
ลองหาคำตอบดูว่า ทำไมไม่จดทะเบียนก่อน เพราะ ผู้ชายยังไม่อยากจด ?? ทำไมไม่ยื่นกู้ร่วมกันแต่แรก ถ้าคิดว่าอนาคตจะอยู่ด้วยกัน ?? ทำไมเราต้องแสดงความรักด้วยการเอาเงินไปช่วยเค้าผ่อนบ้าน เพราะเราไปอาศัยบ้านเค้าอยู่รึ ??
ถ้ารักและไว้ใจกันจริง เรื่องแค่นี้น่าจะตกลงกันได้ เพราะถ้าแค่นี้ยังคุยกันไม่ได้ แสดงว่าในเรื่องนี้ต้องมีอะไรผิดปกติสักอย่างครับ
ลองหาคำตอบดูว่า ทำไมไม่จดทะเบียนก่อน เพราะ ผู้ชายยังไม่อยากจด ?? ทำไมไม่ยื่นกู้ร่วมกันแต่แรก ถ้าคิดว่าอนาคตจะอยู่ด้วยกัน ?? ทำไมเราต้องแสดงความรักด้วยการเอาเงินไปช่วยเค้าผ่อนบ้าน เพราะเราไปอาศัยบ้านเค้าอยู่รึ ??
ถ้ารักและไว้ใจกันจริง เรื่องแค่นี้น่าจะตกลงกันได้ เพราะถ้าแค่นี้ยังคุยกันไม่ได้ แสดงว่าในเรื่องนี้ต้องมีอะไรผิดปกติสักอย่างครับ
แสดงความคิดเห็น
แฟนทำเรื่องกู้ซื้อบ้านคนเดียว แต่ผ่อนคนละครึ่ง เราจะรักษาสิทธิอย่างไรได้บ้างคะ
เช่น ทำสัญญาระหว่างกันสองคนได้มั้ยคะ ว่าเราจะร่วมกันผ่อน เมื่อไถ่ถอนบ้านหลังนี้แล้ว จขกท. มีกรรมสิทธิในบ้านหลังนี้กึ่งหนึ่งเช่นกัน
หรือมีวิธีอื่นๆแนะนำมั้ยคะ หรือถ้าเป็นวิธีการเขียนสัญญามีแนะนำวิธีการเขียนมั้ยคะ
ถามด้วยความไม่รู้จริงๆค่ะ
ปล. ไม่ใช่ว่าไม่รักและไม่ใจซึ่งกันและกัน แต่ไม่มีใครสามารถรู้อนาคตได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และเราสองคนตกลงที่จะทำทุกอย่างให้แฟร์และสบายใจกันทั้ง 2 ฝ่ายค่ะ
ขอบคุณสำหรับแนวทาง และคำตอบล่วงหน้านะคะ
ปล. 2 จะไปทำเรื่องโอนบ้านและทำสัญญากับทางธนาคารวันอังคารที่ 28 มิ. ย. 59 นี้แล้วค่ะ
หากTag ผิดห้องอย่างไรขออภัยด้วยนะคะ