มีใครทราบบ้างหากเราจะขอไกล่เกลี่ยกับบังคับคดีอีกรอบทำได้ไหม?

แฟนเก่าไปติดหนี้บัตรเครดิต (ไม่ได้จดทะเบียนแต่มีลูกด้วยกัน) มีหนังสือยึดทรัพย์คือบ้าน เราในฐานะผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วม ซึ่งมีชื่อซื้อบ้านนี้3คน คือ เรา พี่สาวเรา และแฟนเก่า ตั้งแต่เลิกกันเราก็ผ่อนบ้านมาคนเดียวตลอด เกือบ10ปีละ เราไม่อยากให้เค้ายึดบ้านจึงไปตามนัดเพื่อไปไกล่เกลี่ย เมื่อไปถึงพบเจ้าหน้าที่เป็นผู้ชายมีอายุคิดว่าน่าจะเกินวัยเกษียร แจ้งว่าเป็นผู้ไกล่เกลี่ยและตอนนี้โจทย์และจำเลยไม่มา เค้าก็ชี้แจงรายละเอียดตามคำสั่งศาลที่แ ฟนเก่าเราเป็นหนี้ ยอดหนี้60,000กว่าบาท รวมดอกเบี้ยตามคสั่งศาล ก็เกือบแสนแล้วจนท.คนดังกล่าวก็คำนวนตัวเลขแบบกดเครื่อว่าตอนนี้ดอกมันก็ต้องวิ่งอยู่ราวๆ140,000ละ เดี๋ยวจะโทรไปเจรจากับโจทย์ให้ว่าเค้าจะให้ทำยังไง (เราก็แปลกใจนิด ๆ ว่าลุงคนนี้เป็นจนท.บังคับคดีจริงหรอ กดโทรศัพท์กับเครื่องคิดเลข แบบตามองไม่เห็นแป้นตัวเลข)จากนั้นเค้าก็โทรหาธนาคารแล้วให้ธนาคารโทรกลับมา เมื่อธนาคารโทรกลับมาเค้าก็คุยกันสักพักได้ยินว่าให้ปิดยอด85,000 โดยไม่ให้เราคุยกับธนาคารเลย เมื่อจนท.คุยกับธนาคารเสร็จก็แจ้งเราว่าเค้าเสนอให้เราปิดยอดพร้อมลดหนี้ให้85,000ภายใน1เดือนก่อนขายทอดตลาด เราก็แจ้งเค้าไปว่าเคยโทรคุยกันกับธนาคารนี้แล้วว่าเราไม่อยากโดนยึดบ้านเค้าเสนอให้เราผ่อนได้ 6งวดนะ แต่ให้ระยะเวลา3เดือน  แล้วเราก็บอกว่าจนท.บังคับคดีว่าถ้าหาหนูหาเงินไม่ได้จริง ๆ ไม่ถึง85,000ตามที่เค้าต้องการละค่ะ คือหนูอยากผ่อนน่าจะดีกว่าค่ะ เพราะหนูต้องผ่อนเดือนละ7,000และต้องรับผิดชอบลูกอีก เงินเดือนหนูก็แค่หมื่นกว่าบาทเอง จนท.คนดังกล่าวบอกว่า บ้านนะที่ว่ากลัวถูกยึดนะ ตอนนี้มันยึดไปเรียบร้อยแล้ว เรานะรับข้อเสนอเค้าว่าจะจ่าย85,000นะจะยืดระยะเวลาขายทอดตลาดอย่างน้อยก็6เดือนนู้น ช่วงนี้ก็หาเงินถามญาติพี่น้อง กู้ยืมก็ได้ ถ้าไม่ได้จริงก็หายืมนอกระบบแบบดอกถูกๆก็ได้(รู้สึกแปลกตรงนอกระบบนี้ละ)แต่ในใจก็คิดว่า เค้าคงไม่หลอกเรามั้งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐนิ เลยบอกเค้าไปว่า ถ้าถึงตอนนั้นแล้วหนูหาเงินไม่ถึง85,000ละ หนูอยากขอผ่อนตามที่หนูไหวมากกว่.เค้าบอกเราว่าถ้าถึงเวลามีแค่ไหนก็จ่ายแค่นั้นก่อน แล้วค่อยเจรากับเค้าอีกทีดีกว่าขายทอดตลาด พูดให้เราเชื่อแบบนั้นแล้วจนท.คนนั้นก็เขียนข้อความให้เราเขียนตามเค้าลงในสำเนาบัตรประชาชนเราว่ายินยอมชำระหนี้และขอลดยอดหนี้ด้วยยอด85,000 และรัยผิดชอบเสียค่าธรรมเนียมการถอนยึดและค่าใช้จ่ายอื่นของบังคับคดีทั้งหมด เราก็แย้งไปขอออกคนละครึ่งกับธนาคารได้ไหม จนท.ก็ตอบเราว่าตามกฎหมายโจทย์เค้าไม่จ่ายหรอก.เรานะต้องจ่ายไม่เยอะหรอกไม่เกิน5,000 เราก็ยอมทำตามที่เค้าบอก แล้วให้เรารอเ็นต์เอกสารการไกล่เกลี่ยครั้งนี้ พอเรากลับมาเล่าให้พี่น้องเราฟังและเพื่อน เราเครียดหนักกว่าเดิม เพื่อนบอกว่าไม่น่าไปเซ็นต์เลยเหมือนยอมรับสภาพหนี้ไปแล้วทั้งที่เราไม่เกี่ยว.ถึงแม้ขายทอดตลาดเค้าก็กันไว้ให้เรา ในส่วนของเราและพี่สาว อยากสอบถามผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยค่ะว่าจะมีแนวทางไหนได้มั้งตอนนี้เครียดและสับสนไปหมดแล้วค่ะ มันรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม ทำไมเจ้าหน้าที่รัฐน่าจะเป็นกลางทำไมแนะนำเราแบบนี้ เพราะเพือนก็บอกว่าค่าธรรมเนียมในการยึดเค้าคิดเป็นเ็นต์จากราคาประเมินบ้าน
1.ถ้าเราจะขอไกล่เกลี่ยอีกรอบโดยถือการไกล่เกลี่ยครั้งแรกเป็นโมฆะได้ไหม เพราะอยากผ่อนเป็นงวด
2.เราจะร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้ไหม  ต้องติดต่อหน่วยงานไหนดี
3.จริงหรือไม่ที่เราต้องรับสภาพหนี้ไปโดยปริยาย
รบกวนผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่