เราเคยผ่าตัดเอาช็อคโกแลตซีสต์และพังผืดออกเมื่อ 2 ปีก่อน เมื่อก่อน (ก่อนผ่า) อาการปวดประจำเดือนของเราก็คือปวดหน่วงๆท้องน้อยธรรมดาค่ะ แต่บางเดือนปวดมากจนขาสั่นก็มี แต่อาการปวดหน่วงนี้ แค่ทานยาแก้ปวด/ประคบร้อน/นอนพัก ก็หาย และจะมีอาการปวดแค่วันเดียวก่อนประจำเดือนมา พอประจำเดือนมาปุ๊บ อาการก็ลดลงจนหายไป แต่ประจำเดือนเราจะมาเยอะ อย่างน้อยเจ็ดวันทุกเดือน
จนกระทั่งหลังผ่าตัด สิ่งที่เปลี่ยนไปคือประจำเดือนมาน้อยลงค่ะ สามสี่วันก็หมด และมาสม่ำเสมอทุกเดือน อาการปวดหน่วงๆท้องน้อยที่เคยมีเวลาประจำเดือนจะมา หายไปเกือบหมดค่ะ ปวดนิดเดียวแทบจะไม่รู้สึกเลย ไม่ต้องทานยา ตอนนั้นเราแฮปปี้มาก แต่สิ่งที่เข้ามาเพิ่มหลังจากผ่าตัดได้สองสามเดือน คืออาการปวดท้องคล้ายปวดกระเพาะอาหารค่ะ จะเริ่มมีอาการตั้งแต่เจ็ดวันก่อนประจำเดือนมา เป็นอาการปวดเกร็งระดับเดียวกับสะดือ และเหนือสะดือขึ้นไป อาการนี้ไม่ใช่การปวดเฉพาะจุดแต่ปวดเกร็งทั้งช่องท้อง บางครั้งปวดแบบเกร็งๆเป็นพักๆ (เหมือนมีมือไปบีบอยู่ในท้องอะค่ะ) ตอนที่บีบเกร็งเข้ามานี่ปวดมากจนนิ่วหน้า พอคลายก็ค่อยดีขึ้น ไม่กี่นาทีก็ปวดอีก จะเริ่มจากปวดนิดๆ ไม่สบายท้อง และปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ความถี่เพิ่มขึ้นทุกวันจนหนักสุดคือวันที่ประจำเดือนมาวันแรกค่ะ อาการปวดแบบนี้ มีแถมอาการคลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหารเข้ามาด้วย จะปวดมากสุดตอนเช้าเพิ่งตื่นนอน และเวลาท้องว่าง ถึงจะไม่หิวแต่ถ้าได้ทานอะไรลงไปหน่อย อาการปวดจะลดลงบ้าง (แต่จะปวดถี่ขึ้นอีกเมื่อถึงเวลาของมื้ออาหารถัดไป)
อาการปวดนี้เราทานยาแก้ปวดไม่หายค่ะ โดยเฉพาะ NSAIDs ถ้าทานแล้วอาการจะแย่ลง เพราะยาทำให้ระบบย่อยอาหารเคลื่อนไหวน้อยลง และระคายเคืองกระเพาะอาหาร ทำให้อาการคลื่นไส้อาเจียนหนักกว่าเดิม
อีกอย่างที่เราสังเกตตัวเองและมั่นใจว่าสัมพันธ์กับอาการปวดแต่ละเดือน คือความเครียดค่ะ เดือนไหนเครียดมาก เดือนนั้นปวดจนอาเจียนและต้องไปฉีดยา เดือนไหนเครียดน้อยก็ไม่ถึงขั้นนั้น แต่เราเลี่ยงความเครียดไม่ได้เพราะเรียนหนักค่ะ พยายามออกกำลังกายแต่ก็ไม่ดีขึ้น
เราปวดเดือนล่าสุดคือ ต.ค ปีที่แล้ว ปวดจนอาเจียนและหมอที่นี่ส่งไปอัลตร้าซาวด์ แต่ผลปกติค่ะ ไม่มีซีสต์หรือก้อนอะไรเพิ่มมา เราพยายามอธิบายเค้าว่าอาการปวดเรามันไม่ใช่ปวดหน่วงๆท้องน้อยแบบปวดประจำเดือนตามปกติ (ซึ่งอาการนั้นเราแทบจะไม่มีเลย) แต่เป็นกระเพาะลำไส้ หมอเค้าก็ไม่ได้คิดว่ามันสำคัญ แล้วก็ทำหน้างงๆ (เป็น GP ไม่ใช่เฉพาะทาง) บอกเราแค่ว่าไม่เคยเห็นผู้หญิงที่นี่ปวดแบบนั้น เราเลยตัดสินใจฉีดยาคุม dmpa ทุกสามเดือน จะได้ไม่ต้องมีประจำเดือน (จากที่ไม่เคยคิดจะคุม เพราะอยากมีลูก) จนตอนนี้ฉีดมาสามเข็มแล้วค่ะ ไม่มีประจำเดือน มีเลือดออกเล็กๆน้อยๆบ้าง แต่ไม่มีอาการปวดท้องค่ะ จะครบกำหนดฉีดเข็มที่สี่สัปดาห์หน้า ตอนนี้เรากำลังคิดว่าจะหยุดฉีดยาคุม เพราะปีหน้าก็เรียนปีสุดท้ายแล้ว หลังเรียนจบแล้วอยากมีลูกเลยค่ะ ไม่อยากจะรอนานเป็นปีๆหลังหยุดฉีด สงสารสามี (เราอายุเยอะแล้วด้วยค่ะ ปีนี้จะสามสิบแล้ว) แต่ก็กังวลกับอาการปวดที่มันจะกลับมาหลังหยุดฉีดนี่แหละค่ะ เพราะปวดทีนึงถ้าตรงกับตารางเรียน สอบ ฝึกงาน คือจะมีผลกระทบมากๆ - -"
ขอถามสาวๆนะคะ มีใครมีอาการคล้ายๆกันนี้เวลามีประจำเดือนบ้างไหม และรับมือกับอาการปวดเกร็งกระเพาะแบบนี้ยังไงคะ?
ขอคำแนะนำจากคุณหมอและเภสัชกรด้วยค่ะ
1. อาการปวดเกร็งกระเพาะลำไส้ เป็นอาการที่ได้รับผลกระทบจาก prostaglandins เหมือนอาการปวดหน่วงท้องน้อยตามปกติไหมคะ? ขอข้อมูลด้าน pathophysio ก็ได้ค่ะหรือตามที่อธิบายสะดวก หรือชี้แนะแนวทางว่าควรจะอ่านเจาะจงเรื่องอะไรก็ได้ค่ะ คือเราคิดว่าเราควรจะเข้าใจอาการพวกนี้ จะได้แก้ปัญหาถูกจุดค่ะ (พยายามเปิดหาข้อมูลจากหนังสือเรียน แต่ยังหาที่ตรงจุดไม่ได้ค่ะ)
2. ขอคำแนะนำ ควรจะทานยาแก้ปวดตัวไหนคะ?
3. ถ้าหยุดฉีด dmpa แล้วเปลี่ยนไปทานยาคุมเพื่อลดอาการปวด (การลดอาการปวดเกร็งกระเพาะอาหารลำไส้เป็นจุดประสงค์หลัก) มียาคุมตัวไหนแนะนำไหมคะ? หรือเราควรจะไปตรวจเลือดดูระดับฮอร์โมนก่อนคะ?
รบกวนขอคำแนะนำหน่อยนะคะ เราอยู่ต่างบ้านต่างเมือง จากประสบการณ์ที่ไปหาหมอที่นี่ (ออสเตรเลีย) ถ้าเป็น GP ทั่วไป เราไม่ค่อยไว้ใจเลย ถ้าจำเป็นจะต้องจะขอให้เค้าส่งเราต่อไปให้หมอเฉพาะทางจริงๆ ซึ่งค่าปรึกษารายชั่วโมงแพงมากกกก เราก็อยากจะมีข้อมูลที่ครอบคลุมพอที่จะคุยกับเค้าได้ค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ คิดๆแล้วอยากบินกลับไปปรึกษาหมอที่ไทยมากๆค่ะ T T
สาวๆคะ มีใครปวดท้องคล้ายโรคกระเพาะ เวลามีประจำเดือนไหมคะ?
จนกระทั่งหลังผ่าตัด สิ่งที่เปลี่ยนไปคือประจำเดือนมาน้อยลงค่ะ สามสี่วันก็หมด และมาสม่ำเสมอทุกเดือน อาการปวดหน่วงๆท้องน้อยที่เคยมีเวลาประจำเดือนจะมา หายไปเกือบหมดค่ะ ปวดนิดเดียวแทบจะไม่รู้สึกเลย ไม่ต้องทานยา ตอนนั้นเราแฮปปี้มาก แต่สิ่งที่เข้ามาเพิ่มหลังจากผ่าตัดได้สองสามเดือน คืออาการปวดท้องคล้ายปวดกระเพาะอาหารค่ะ จะเริ่มมีอาการตั้งแต่เจ็ดวันก่อนประจำเดือนมา เป็นอาการปวดเกร็งระดับเดียวกับสะดือ และเหนือสะดือขึ้นไป อาการนี้ไม่ใช่การปวดเฉพาะจุดแต่ปวดเกร็งทั้งช่องท้อง บางครั้งปวดแบบเกร็งๆเป็นพักๆ (เหมือนมีมือไปบีบอยู่ในท้องอะค่ะ) ตอนที่บีบเกร็งเข้ามานี่ปวดมากจนนิ่วหน้า พอคลายก็ค่อยดีขึ้น ไม่กี่นาทีก็ปวดอีก จะเริ่มจากปวดนิดๆ ไม่สบายท้อง และปวดมากขึ้นเรื่อยๆ ความถี่เพิ่มขึ้นทุกวันจนหนักสุดคือวันที่ประจำเดือนมาวันแรกค่ะ อาการปวดแบบนี้ มีแถมอาการคลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหารเข้ามาด้วย จะปวดมากสุดตอนเช้าเพิ่งตื่นนอน และเวลาท้องว่าง ถึงจะไม่หิวแต่ถ้าได้ทานอะไรลงไปหน่อย อาการปวดจะลดลงบ้าง (แต่จะปวดถี่ขึ้นอีกเมื่อถึงเวลาของมื้ออาหารถัดไป)
อาการปวดนี้เราทานยาแก้ปวดไม่หายค่ะ โดยเฉพาะ NSAIDs ถ้าทานแล้วอาการจะแย่ลง เพราะยาทำให้ระบบย่อยอาหารเคลื่อนไหวน้อยลง และระคายเคืองกระเพาะอาหาร ทำให้อาการคลื่นไส้อาเจียนหนักกว่าเดิม
อีกอย่างที่เราสังเกตตัวเองและมั่นใจว่าสัมพันธ์กับอาการปวดแต่ละเดือน คือความเครียดค่ะ เดือนไหนเครียดมาก เดือนนั้นปวดจนอาเจียนและต้องไปฉีดยา เดือนไหนเครียดน้อยก็ไม่ถึงขั้นนั้น แต่เราเลี่ยงความเครียดไม่ได้เพราะเรียนหนักค่ะ พยายามออกกำลังกายแต่ก็ไม่ดีขึ้น
เราปวดเดือนล่าสุดคือ ต.ค ปีที่แล้ว ปวดจนอาเจียนและหมอที่นี่ส่งไปอัลตร้าซาวด์ แต่ผลปกติค่ะ ไม่มีซีสต์หรือก้อนอะไรเพิ่มมา เราพยายามอธิบายเค้าว่าอาการปวดเรามันไม่ใช่ปวดหน่วงๆท้องน้อยแบบปวดประจำเดือนตามปกติ (ซึ่งอาการนั้นเราแทบจะไม่มีเลย) แต่เป็นกระเพาะลำไส้ หมอเค้าก็ไม่ได้คิดว่ามันสำคัญ แล้วก็ทำหน้างงๆ (เป็น GP ไม่ใช่เฉพาะทาง) บอกเราแค่ว่าไม่เคยเห็นผู้หญิงที่นี่ปวดแบบนั้น เราเลยตัดสินใจฉีดยาคุม dmpa ทุกสามเดือน จะได้ไม่ต้องมีประจำเดือน (จากที่ไม่เคยคิดจะคุม เพราะอยากมีลูก) จนตอนนี้ฉีดมาสามเข็มแล้วค่ะ ไม่มีประจำเดือน มีเลือดออกเล็กๆน้อยๆบ้าง แต่ไม่มีอาการปวดท้องค่ะ จะครบกำหนดฉีดเข็มที่สี่สัปดาห์หน้า ตอนนี้เรากำลังคิดว่าจะหยุดฉีดยาคุม เพราะปีหน้าก็เรียนปีสุดท้ายแล้ว หลังเรียนจบแล้วอยากมีลูกเลยค่ะ ไม่อยากจะรอนานเป็นปีๆหลังหยุดฉีด สงสารสามี (เราอายุเยอะแล้วด้วยค่ะ ปีนี้จะสามสิบแล้ว) แต่ก็กังวลกับอาการปวดที่มันจะกลับมาหลังหยุดฉีดนี่แหละค่ะ เพราะปวดทีนึงถ้าตรงกับตารางเรียน สอบ ฝึกงาน คือจะมีผลกระทบมากๆ - -"
ขอถามสาวๆนะคะ มีใครมีอาการคล้ายๆกันนี้เวลามีประจำเดือนบ้างไหม และรับมือกับอาการปวดเกร็งกระเพาะแบบนี้ยังไงคะ?
ขอคำแนะนำจากคุณหมอและเภสัชกรด้วยค่ะ
1. อาการปวดเกร็งกระเพาะลำไส้ เป็นอาการที่ได้รับผลกระทบจาก prostaglandins เหมือนอาการปวดหน่วงท้องน้อยตามปกติไหมคะ? ขอข้อมูลด้าน pathophysio ก็ได้ค่ะหรือตามที่อธิบายสะดวก หรือชี้แนะแนวทางว่าควรจะอ่านเจาะจงเรื่องอะไรก็ได้ค่ะ คือเราคิดว่าเราควรจะเข้าใจอาการพวกนี้ จะได้แก้ปัญหาถูกจุดค่ะ (พยายามเปิดหาข้อมูลจากหนังสือเรียน แต่ยังหาที่ตรงจุดไม่ได้ค่ะ)
2. ขอคำแนะนำ ควรจะทานยาแก้ปวดตัวไหนคะ?
3. ถ้าหยุดฉีด dmpa แล้วเปลี่ยนไปทานยาคุมเพื่อลดอาการปวด (การลดอาการปวดเกร็งกระเพาะอาหารลำไส้เป็นจุดประสงค์หลัก) มียาคุมตัวไหนแนะนำไหมคะ? หรือเราควรจะไปตรวจเลือดดูระดับฮอร์โมนก่อนคะ?
รบกวนขอคำแนะนำหน่อยนะคะ เราอยู่ต่างบ้านต่างเมือง จากประสบการณ์ที่ไปหาหมอที่นี่ (ออสเตรเลีย) ถ้าเป็น GP ทั่วไป เราไม่ค่อยไว้ใจเลย ถ้าจำเป็นจะต้องจะขอให้เค้าส่งเราต่อไปให้หมอเฉพาะทางจริงๆ ซึ่งค่าปรึกษารายชั่วโมงแพงมากกกก เราก็อยากจะมีข้อมูลที่ครอบคลุมพอที่จะคุยกับเค้าได้ค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ คิดๆแล้วอยากบินกลับไปปรึกษาหมอที่ไทยมากๆค่ะ T T