ภาคนี้เป็นภาคจบแล้วนะคะ ใครที่ยังไม่ได้ติดตามก็ตามได้เลยที่ลิ้งค์นี้เลย
http://ppantip.com/topic/35302881 เป็นเรื่องของชีวิตพยาบาลตัวน้อยๆคนนึงที่ดิ้นรนมาอยู่ในเมืองหลวงด้วยตัวเอง ตามกันได้เลยนะคะ
แล้วก็มาถึงช่วงที่เราจะจบปี 4 ซึ่งต้องสอบประมวลความรู้ก่อนที่จะสอบสภาได้ ซึ่งในระหว่างนั้นก็มีติวก่อนสอบ คิดดูสิคะว่าเราเองตอนกลางคืนทำงาน กลางวันมาติว ง่วงก็ง่วง ไม่มีอะไรซึมเข้าหัวเล้ยยยย ยิ่งหัวมีแต่ขี้เลื่อยอยู่ ต่ายเองช่วงนั้นก็ได้งานที่ที่ไปฝึกเลย ก็ถือว่าโชคดีไป แต่เราสิ....สอบตกแล้วตกอีก สอบออรัลอยู่นั่นแหละ แต่คนเราอ่ะเนอะหน้ามึนเข้าไว้ เด๋วจะผ่านเอง 555555 แล้ววันที่เราจบพยาบาลก็มาถึง เย่เย้ แต่ไม่มีใครมาวันรับขีดหมวกเราเลย แม่เราไม่ให้มาเพราะมาลำบาก ต่ายก็ไม่มาบอกว่าติดงาน ก็ทะเลาะกันไปพักใหญ่เลย ช่วงนางเปลี่ยนงานใหม่อ่ะนะ ก็พยายามเข้าใจ แต่ช่างเหอะยังไงสิ่งสำคัญคือชั้นเรียนจบแล้วววววววววววววว เหลือสอบสภาค่ะที่นี้
พอเรียนจบทั้งเราทั้งต่ายก็ต่างคนต่างทำงาน เราเองก็ทำงานจนแทบจะไม่ได้เจอกันเลย ขนาดว่าไปหากันตลอดนะ แต่ทำงานคนละเวลา เจอหน้ากันก็ไม่กี่ชั่วโมงอ่า คิดถึงงงงง แต่ภาระมันเยอะ ต้องอดทนเนอะ แล้วด้วยความห่างนี่แหละค่ะ ทำให้ความสัมพันธ์ยิ่งห่างเช่นกัน เราจะเป็นฝ่ายไปหาต่ายตลอด ไม่ว่จะเป็นช่วงไหนๆ เพราะนางบอกว่าทำงานเหนื่อย เราก็รักไง คิดถึงมากด้วย เราเองทำงานทั้งกลางวันกลางคืน มีเวลาพอที่จะได้เจอหน้าสักชั่วโมงนึงเราก็เอา ก่อนไปขึนเวรโรงงานก็แวะไปกินข้าวด้วยช่วงนางพักเบรคไรงี้ ก็ขับรถจากปิ่นเกล้า-พระราม9 ไม่ไกลนะแต่ถ้ารถติดก็เอาเรื่องเหมือนกัน ก็เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆอยู่ 2-3 เดือน ความรักก็ระหองระแหง เจอกันแต่ละทีคือต่ายเริ่มห่างเหิน ไม่ค่อยอัพรูปคู่ แต่ไปอัพรูปกับคนที่เป็นบัดดี้ตอนฝึกงานแทน จนคนเค้าคิดว่าเราเลิกกัน เราก็เอะใจมานานแล้วค่ะ เพราะอัพรูปกับคนนี้ตั้งแต่สมัยฝึกงานล่ะ เราเป็นคนไม่จุกจี้ ไม่โวยวาย รอดูไปเรื่อยๆ เก็บข้อมูล แอบน้อยใจอยู่คนเดียวว่าเป็นแฟนกันไม่เคยอัพ คืออาชีพนางคือเทรนเนอร์ที่ฟิตเนสค่ะ เจอคนเยอะ ยิ่งนางอัธยาศัยดี สาวๆห้อมล้อม เป็นธรรมดาเนอะ 55555 แล้วมีวันนึงนางอัพรูปที่พวกนางสองคนวิดีโอคอลคุยกัน เรานี่ปรี๊ดแตกเลยวันนั้น ที่ผ่านมาก็อัพรูปคู่กันมากกว่าคนเป็นแฟนอยู่แล้วนะ หักหน้าโคตรรรรรรร แถมยังโทรคุยกันทุกวัน คือไรอ่ะ??????? พอยิ่งห่างยิ่งทะเลาะ คนส่วนใหญ่คิดว่าเราเลิกกัน พี่สาวเราก็โทรมาถาม เราก็จุกสิค้า
แล้วจุดพีคก็มาถึงค่ะ วันนั้นนางขึ้นสถานะคบกับคนอื่น พอเราเห็นเรารีบขับรถจากปิ่นเกล้า ไปพระราม9 ทันที พอไปถึงเราอาละวาดแบบที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต นางเย็นชามากค่ะ นางพูดว่า “ที่เราเป็นแบบนี้เป็นเพราะเธอทำตัวเอง” เรานอนร้องไห้จนตาบวม ข้อดีของนางนะคะ เป็นคนอ่อนโยน เอาใจใส่สิ่งเล็กๆน้อยๆ เทคแคร์ดี แต่ข้อเสียคือ เจ้าชู้มากกกกกก พอตอนเช้าของอีกวัน เป็นวันหยุดของเรา เราโทรไปหาบัดดี้ของต่ายชื่อฝอย เราถามว่า “พวกเธอสองคนเป็นอะไรกันกันแน่” ฝอยตอบมาว่า “ก็ตอนนี้เป็นเพื่อนแล้วไง” อึ้งสิคะ ตอบมาแบบนี้ แล้วก่อนหน้านี้ละ???? เราก็ย้ำคำถามอีกครั้ง นางก็ตอบแบบเดิม “ก็ตอนนี้เป็นเพื่อนแล้วไง จะเอาอะไรอีก” โอ้ววววววววววววแม่เจ้า กรูโดนเด็กหลอกกกกก TT_TT
หลังจากนั้นต่ายก็ไม่ยอมคุย ไม่ยอมติดต่อเราเลย หาว่าเราไปวุ่นวายกับบัดดี้ของนาง เราเองก็ฟูมฟาย ปิดเฟส ปิดเครื่อง ไม่ยอมคุยกับใคร ไม่ยอมกินข้าว หนีไปเกาะล้าน ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น คือซึมไปเป็นอาทิตย์ จนวันนึงเปิดเครื่องขึ้นมา พี่สาวโทรมาบอกว่าแม่ไม่สบาย ไม่ยอมเปิดร้านขายของเลย บ้านเงียบ เราก็รีบโทรไปหาป้าข้างบ้านให้ไปดูให้ แม่เราเป็นงูสวัดขึ้นตาค่ะ หน้าบวม ตาบวม คือมันลามไปที่ตาจนแม่ลืมตาไม่ได้ เราโทรไปบอกให้น้องชายกลับบ้านด่วนที่สุด พาแม่ไปหาหมอ เพราะแม่เราอยู่บ้านคนเดียว พอน้องชายส่งรูปแม่มาให้ดู เรานั่งปล่อยโฮเลย(ตอนที่เขียนนี้ยังแอบบน้ำตาร่วงเลยอ่า) เพราะเราคนเดียวที่ทำให้แม่เป็นแบบนี้ ถ้าเราไม่ปิดเครื่องแม่คงไม่เป็นถึงขนาดนี้ เพราะแม่อยู่บ้านคนเดียว เราผิดเองที่ให้คนอื่นมามีอิทธิพลเหนือแม่ตัวเอง แล้วเราก็ขอหัวหน้าลากลับบ้านด่วนเลยค่ะ มั้ยว่าถ้าช้ากว่านั้นแม่เราตาบอดกันเลยทีเดียว ตอนที่เรากลับบ้านต่ายรู้เรื่องจากสเตตัสเราเลยทักมาถาม นางก็พาเรากลับบ้าน เพราะเวลาเราขับรถกลับบ้านนางจะช่วยขับรถให้ตลอด ก็ถือว่าเป็นคนมีน้ำใจ แต่ระหว่างที่นั่งรถไป คือเรามองหน้านางเราจะน้ำตาไหลตลอดเวลา มันเสียใจอ่า คนที่เราให้ทุกอย่างให้ใจไปหมดแล้ว ทำไมทำแบบนี้กับเราได้ แต่เราก็แอบข่มอารมณ์แหละ อดเอาๆๆๆๆๆ TT__TT
ช่วงที่เรามีเรื่องกันนี้ ก็มีพี่เทคของต่ายทักมาคุยมาถามด้วยความเป็นห่วง เพราะเห็นว่าเป็นแฟนน้องเทคตัวเอง ชื่อต่ายเหมือนกัน เราเรียกต่ายใหญ่แล้วกันนะ จะได้ไม่สับสน ขานี้ก็จิตใจดี นิสัยดี จริงๆแล้วก็รุ่นเดียวกันกับเราเลยคุยกันง่ายหน่อย เข้ามาในชีวิตว่างั้นเหอะ เราเองก็ไม่ได้อะไรด้วยนะ เห็นว่าเป็นพี่แทคของแฟนก็คุยตามระเบียบ ต่ายใหญ่ก็เป็นที่ระบาย คอยรับฟัง คอยเป็นเพื่อนเวลาเราร้องไห้จริงๆนะ แล้วช่วงนั้นเราก็กลับบ้านทุกอาทิตย์ไปดูแม่ที่จังหวัดเลย แต่ก็มีน้องชายดูแลประจำอยู่กับแม่ตลอด ก็เหลือกัน 3 คนแม่ลูกแค่นี้อ่า แล้วอาทิตย์นั้นต่ายไม่ว่าง ต่ายใหญ่เลยอาสาไปเป็นเพื่อน เป็นเพื่อนจริงๆค่ะ เพราะขับรถไม่เป็น คือเราเองไม่ได้อะไรอยู่แล้วไง ห่วงแม่มากกว่า จุดนี้แหละ ต่ายใหญ่ก็เกิดคิดกับเราเกินเพื่อน ซึ่งเราเองก็ลืมต่ายไม่ได้เลย คือคบใครไม่ได้หรอกในตอนนั้น แล้วต่ายก็มารู้ว่าเรากับต่ายใหญ่ไปบ้านด้วยกัน ทีนี้แหละต่ายขึ้นดิสรูปคู่กับฝอย ลงรูปโน่นนี่นั่น คือเป็นช่องทางให้เค้าได้ทำเต็มที่เลยค่ะ เพราะต่ายบอกคนอื่นว่าเรานอกใจ โถ่ๆๆๆๆๆ ดูด้วยว่าใครนอกใจใคร จนเราแบบไม่ไหวแล้วค่ะ เจอหนักๆๆๆๆๆมาตลอด ถ้าอยากคบกับมากก็ไปเลย เพราะก่อนหน้านั้นเราง้อ ขอร้องให้กลับมารักกันเหมือนเดิมจนเราไม่ไหว ทีนี้เราเป็นฝ่ายเฉยชาบ้าง เราไม่คุย ไม่ติดต่อ เราเงียบไปเลย แล้วอยู่มาคืนนึงต่ายมาหาเราที่หอ คือปกติเราจะอยู่หอพัก ซึ่งคนนอกขึ้นไม่ได้ เฉพาะบุคลากรใน รพ. เท่านั้น ปกติเราไม่เปิดเสียงโทรศัพท์เพราะรำคาญ แล้ววันนั้นเกิดอะไรขึ้นไม่รู้สะดุ้งตื่นมาตอนตี 2 มาจับโทรศัพท์เห็นต่ายโทมา 40 กว่าสาย พร้อมข้อความ เราบล็อกไลน์เลยทักทางไลน์ไม่ได้ เราตกใจมากคือวันนั้นต่ายมาหาเราที่หอตั้งแต่เที่ยงคืนแล้วรอถึงตี2 แล้วคืนนั้นฝนก็ตกอีก ซึ่งที่หอยามจะปิดประตูใหญ่ตอน 5 ทุ่ม ต่ายยืนตากฝนรอค่ะเพราะเข้าไม่ได้ เราเห็นสภาพแล้วใจอ่อนทันที นี่เป็นครั้งแรกที่ต่ายมาหาเราที่หอนี้ คือให้แทกซี่พามาโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้จัก เราดุเลยค่ะ ถ้าเราไม่ตื่นขึ้นมาดูโทรศัพท์สภาพจะเป็นไง ตากฝนรอจนมอมแมม แล้วคืนนั้นเราก็ปรับความเข้าใจกัน
แก้วที่มันร้าวมันย่อมไม่สวยเหมือนเดิม รอบนี้รัก 4 เศร้า เราเคลียร์กันได้ (รึเปล่า) เพราะต่างคนก็ต่างระแวง ต่ายใหญ่ก็ยังวนเวียนๆ ตอนนั้นเราด่าสารพัด เพราะเราไม่อยากให้ต่ายคิดมาก แต่ต่ายกลับไม่เปิดเผยเรื่องของฝอยเลย เล่าแค่ว่าฝอยรู้เรื่องเราทุกอย่างคอยรับฟังปัญหาของต่าย คอยให้คำปรึกษา เราก็เออออ เพราะไม่อยากให้มีปัญหากันอีก จริงๆก่อนที่จะมาคบต่ายเราก็เจ้าชู้นะ แต่พอเรามีต่ายเราก็ไม่คิดจะมีใครเลย ไม่เคยนอกใจ มีคนมาจีบเราก็บอกว่ามีแฟนแล้วตลอด แต่เราเป็นคนตาต่อตา ฟันต่อฟัน ทำกูทำ แต่ที่ทำเพราะประชดนะ ไม่ได้คิดเอาจริงจัง พอถึงวันเกิดเราปีที่แล้ว ต่ายซื้อสร้อยข้อมือทองหนัก 1 สลึงให้เรา เราดีใจมากนะ เพราะไม่เคยได้ของขวัญชิ้นใหญ่จากต่ายเลย นี่เป็นชิ้นแรกที่ได้เรารักและหวงมากกกก แล้วยังไปเซอร์ไพส์วันเกิดเราที่ร้านเหล้าอีก ปลื้มมากค่า
วันเวลาผ่านไปเหมือนทุกอย่างเริ่มจะดี แต่เรื่องเก่าๆเหมือนจะกลับมาอีกครั้ง เราก็มัวแต่ทำงานหาเงิน คือไม่มีเวลามาใส่ใจเรื่องพวกนี้ เราก็ปล่อยๆนะ เดี๋ยวสักวันก็คิดได้เอง แต่เปล่าเลยค่ะ มันไม่ใช่ ต่ายกับฝอยไม่เคยเลิกคุยกัน คือเราก็เลิกตามเลิกส่องมาพักใหญ่ๆ คือเราทำงานหนักเพราะเราแพลนจะซื้อบ้านค่ะ อยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ต่ายอยากได้รถ เราทำงานเก็บเงินดาวน์รถให้ เพราะช่วงนั้นต่ายจ่ายค่างวดให้เราอยู่ คือเราก็แพลนทุกอย่างแล้วว่าเดี๋ยวจะกู้ซื้อบ้านแล้ว 2 คนช่วยกันมันคงไม่หนักมาก แต่ต่ายบ่ายเบี่ยงไม่อยากได้บ้าน เราก็แปลกๆนะคะ มันมีเซ้นอะไรบางอย่างนะ ชวนไปไหนก็ไม่อยากไป จากที่เมื่อก่อนไปด้วยกันตลอด เรากินข้าว ดูหนัง เดินเล่นคนเดียวจนชิน สำหรับเราแล้วดูหนังคนเดียวไม่ใช่เรื่องแปลกเลยนะ ขนาดมีแฟนเหมือนไม่มี ปลายเดือน มกราคม เรามีทัวร์ที่พี่เค้าขายต่อไปเกาหลี คือมันถูกอ่ะ เราก็อยากไป สรุปแล้วชวนไป นางก็ไม่ไป เราต้องไปคนเดียว นางหาว่าเราไปกับคนอื่น เหงามากเลยนะคะ คือไปเกาหลีควรที่จะไปกับแฟนนะ มันโรแมนติคมาก เราไปเล่นสกี ตกปลาน้ำแข็ง คือต้องหาเพื่อนใหม่อ่ะ เน็ตเราก็ใช้ของโรงแรมแล้วก็ไวไฟกับไกด์ เลยไม่ค่อยได้คุยกัน ต่ายอยากได้รองเท้าเราก็ตะเวนหาซื้อมาให้ แต่สรุปแล้วนางไม่เอา โหยยยยยยย หอบมาจากเกาหลี ทำร้ายจิตใจเรามาก ก็ระหองระแหงกันมาเรื่อยๆ
จุดพีคมาอีกแล้วครั้ง ช่วงนี้เราย้ายมาเช่าบ้านอยู่กับเพื่อนล่ะ เพราะหอเดิมเป็นพอผู้ช่วยพยาบาล พอเป็นพยาบาลต้องย้ายไปหอใหม่แต่มันไกล พวกเรา 3 คนเลยเช่าบ้านอยู่กัน ต่ายเริ่มมาหาเราบ้างแล้วค่ะ หลังจากที่เคยคุยกันว่านางไม่ยอมมาเลย ทำไมเราต้องเป็นฝ่ายไปหาตลอด คือผู้หญิงมันมีเซ้นอ่ะนะ ถ้าคนรักเปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม ตื่นเช้ามาเราแต่งตัวกำลังจะไปทำงาน คิดยังไงไม่รู้ไปค้นกระเป๋าเงินของต่าย แจ๊คพอตค่ะ!!!!! เจอรูปคู่ต่ายกับฝอยในกระเป๋าเงิน เรามือไม้สั่นตะโกนปลุกให้ตื่น แล้วขว้างกระเป๋าเงินใส่หน้าเลยค่ะ ทำไมทำแบบนี้อ่ะ คือแบบว่าเราอึ้ง จุก พูดไม่ออก เราเลยพูดขึ้นมาว่า “จะไปไหนก็ไป ออกจากชีวิตกูซะ เลี้ยงไม่เชื่องจริงๆ” แล้วก็ไปดูไลน์ของฝอย เจอดิสขึ้นรูปคู่อีกกกก สั่นเป็นเจ้าเข้าเลยทีนี้ ทำอะไรไม่ถูก เลยไลน์ไปบอกน้องฝอยเค้าค่ะ “ยอมแพ้กับความรักที่เหนียวแน่นของพวกเทอสองคนจริง ชั้นยกให้เทอ แล้วอย่ามันกลับมาให้ชั้น” คือตอนนั้นโมโหสุดๆ ถ้าไม่เป็นไรกันมันจะพกรูปติดเป๋าเงินทำไม ว่ามั้ยคะ แต่ต้องควบคุมตัวเองต้องรีบไปทำงาน ต่ายเองก้ตกใจที่เราเป็นแบบนั้น คงไม่คิดว่าเราเอาจริง แต่เราเอาจริงค่ะ คือเจ็บมาหลายรอบ ซ้ำๆซากๆ หลายคน ไม่ใช่แค่คนนี้คนเดียวที่มีเรื่องแบบนี้ ตกเย็นต่ายรีบมาดักมาง้อ แต่เราออกไปขึ้นเวรที่อื่นแล้วค่ะ ไม่อยากเจอดด้วยแหละ เลยรีบไป เพราะโมโหจนแทบจะฆ่าได้เลยด้วยซ้ำ เลยขอไม่เจอดีกว่า ต่ายโทรมาหลายสิบสายจนเรารำคาญ สุดท้ายเราก็รับ คือเราไม่เคยเห็นต่ายเป็นบ้าฟูมฟายเหมือนครั้งนี้จริงๆนะ ร้องไห้ขอร้องให้กลับไป ขอโอกาสกับเราครั้งสุดท้าย เราก็ทำใจแข็งนะ จริงๆอ่ะรักมาก แต่เจ็บมาเยอะเกิน แล้วก็มาหาตอนเลิกงานเกือบทุกวัน คือเรามีรถยนต์กับมอเตอร์ไซด์ คือต่ายสามารถเอาคันไหนไปใช้ก็ได้ เราไม่เคยหวง ต่อให้ทะเลาะกันยังไงเราก็ยังเป็นห่วง นางสามารถเอารถเราไปใช้ได้หมด สุดท้ายเราเลยบอกให้นางคุยกะฝอยให้เคลียร์กัน แล้วให้ฝอยโทรมาหาเรา เย็นวันต่อมาฝอยโทรมาหาเรานางก็แอบกวนตี-เรานะ ก็คุยกันแหละ เราถามฝอยว่า “เธอก็รู้ไม่ใช่หรอว่าต่ายไม่ได้มีเธอคนเดียว” นางตอบมาว่า “หนูก็รู้” เราสวนกลับไป “แล้วเธอยังจะเอาอีกหรอ” “………………….”นางตอบไม่ได้ค่ะ เงียบ!!!! ไม่แน่จริงเหมือนตอนที่พลอยถามเราเลย ตอนนั้นเราบอกพลอยว่า “เราไม่คิดจะแย่งเอาต่ายมาจากพลอยนะ แต่ถ้าพลอยดูแลต่ายไม่ได้ พี่จะขอดูแลเอง” ง่อวววววว เราเองก็เหี้-ระดับ 3 ได้อยู่นะ แต่เราตรงๆไง ทำคือทำ ไม่ทำคือไม่ทำ
กว่าจะถึงวันนี้......กว่าจะถึงฝัน....กว่าจะเป็นพยาบาล......กว่าจะมีความสุขกับชีวิตโสด (ภาคจบ)
แล้วก็มาถึงช่วงที่เราจะจบปี 4 ซึ่งต้องสอบประมวลความรู้ก่อนที่จะสอบสภาได้ ซึ่งในระหว่างนั้นก็มีติวก่อนสอบ คิดดูสิคะว่าเราเองตอนกลางคืนทำงาน กลางวันมาติว ง่วงก็ง่วง ไม่มีอะไรซึมเข้าหัวเล้ยยยย ยิ่งหัวมีแต่ขี้เลื่อยอยู่ ต่ายเองช่วงนั้นก็ได้งานที่ที่ไปฝึกเลย ก็ถือว่าโชคดีไป แต่เราสิ....สอบตกแล้วตกอีก สอบออรัลอยู่นั่นแหละ แต่คนเราอ่ะเนอะหน้ามึนเข้าไว้ เด๋วจะผ่านเอง 555555 แล้ววันที่เราจบพยาบาลก็มาถึง เย่เย้ แต่ไม่มีใครมาวันรับขีดหมวกเราเลย แม่เราไม่ให้มาเพราะมาลำบาก ต่ายก็ไม่มาบอกว่าติดงาน ก็ทะเลาะกันไปพักใหญ่เลย ช่วงนางเปลี่ยนงานใหม่อ่ะนะ ก็พยายามเข้าใจ แต่ช่างเหอะยังไงสิ่งสำคัญคือชั้นเรียนจบแล้วววววววววววววว เหลือสอบสภาค่ะที่นี้
พอเรียนจบทั้งเราทั้งต่ายก็ต่างคนต่างทำงาน เราเองก็ทำงานจนแทบจะไม่ได้เจอกันเลย ขนาดว่าไปหากันตลอดนะ แต่ทำงานคนละเวลา เจอหน้ากันก็ไม่กี่ชั่วโมงอ่า คิดถึงงงงง แต่ภาระมันเยอะ ต้องอดทนเนอะ แล้วด้วยความห่างนี่แหละค่ะ ทำให้ความสัมพันธ์ยิ่งห่างเช่นกัน เราจะเป็นฝ่ายไปหาต่ายตลอด ไม่ว่จะเป็นช่วงไหนๆ เพราะนางบอกว่าทำงานเหนื่อย เราก็รักไง คิดถึงมากด้วย เราเองทำงานทั้งกลางวันกลางคืน มีเวลาพอที่จะได้เจอหน้าสักชั่วโมงนึงเราก็เอา ก่อนไปขึนเวรโรงงานก็แวะไปกินข้าวด้วยช่วงนางพักเบรคไรงี้ ก็ขับรถจากปิ่นเกล้า-พระราม9 ไม่ไกลนะแต่ถ้ารถติดก็เอาเรื่องเหมือนกัน ก็เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆอยู่ 2-3 เดือน ความรักก็ระหองระแหง เจอกันแต่ละทีคือต่ายเริ่มห่างเหิน ไม่ค่อยอัพรูปคู่ แต่ไปอัพรูปกับคนที่เป็นบัดดี้ตอนฝึกงานแทน จนคนเค้าคิดว่าเราเลิกกัน เราก็เอะใจมานานแล้วค่ะ เพราะอัพรูปกับคนนี้ตั้งแต่สมัยฝึกงานล่ะ เราเป็นคนไม่จุกจี้ ไม่โวยวาย รอดูไปเรื่อยๆ เก็บข้อมูล แอบน้อยใจอยู่คนเดียวว่าเป็นแฟนกันไม่เคยอัพ คืออาชีพนางคือเทรนเนอร์ที่ฟิตเนสค่ะ เจอคนเยอะ ยิ่งนางอัธยาศัยดี สาวๆห้อมล้อม เป็นธรรมดาเนอะ 55555 แล้วมีวันนึงนางอัพรูปที่พวกนางสองคนวิดีโอคอลคุยกัน เรานี่ปรี๊ดแตกเลยวันนั้น ที่ผ่านมาก็อัพรูปคู่กันมากกว่าคนเป็นแฟนอยู่แล้วนะ หักหน้าโคตรรรรรรร แถมยังโทรคุยกันทุกวัน คือไรอ่ะ??????? พอยิ่งห่างยิ่งทะเลาะ คนส่วนใหญ่คิดว่าเราเลิกกัน พี่สาวเราก็โทรมาถาม เราก็จุกสิค้า
แล้วจุดพีคก็มาถึงค่ะ วันนั้นนางขึ้นสถานะคบกับคนอื่น พอเราเห็นเรารีบขับรถจากปิ่นเกล้า ไปพระราม9 ทันที พอไปถึงเราอาละวาดแบบที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต นางเย็นชามากค่ะ นางพูดว่า “ที่เราเป็นแบบนี้เป็นเพราะเธอทำตัวเอง” เรานอนร้องไห้จนตาบวม ข้อดีของนางนะคะ เป็นคนอ่อนโยน เอาใจใส่สิ่งเล็กๆน้อยๆ เทคแคร์ดี แต่ข้อเสียคือ เจ้าชู้มากกกกกก พอตอนเช้าของอีกวัน เป็นวันหยุดของเรา เราโทรไปหาบัดดี้ของต่ายชื่อฝอย เราถามว่า “พวกเธอสองคนเป็นอะไรกันกันแน่” ฝอยตอบมาว่า “ก็ตอนนี้เป็นเพื่อนแล้วไง” อึ้งสิคะ ตอบมาแบบนี้ แล้วก่อนหน้านี้ละ???? เราก็ย้ำคำถามอีกครั้ง นางก็ตอบแบบเดิม “ก็ตอนนี้เป็นเพื่อนแล้วไง จะเอาอะไรอีก” โอ้ววววววววววววแม่เจ้า กรูโดนเด็กหลอกกกกก TT_TT
หลังจากนั้นต่ายก็ไม่ยอมคุย ไม่ยอมติดต่อเราเลย หาว่าเราไปวุ่นวายกับบัดดี้ของนาง เราเองก็ฟูมฟาย ปิดเฟส ปิดเครื่อง ไม่ยอมคุยกับใคร ไม่ยอมกินข้าว หนีไปเกาะล้าน ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น คือซึมไปเป็นอาทิตย์ จนวันนึงเปิดเครื่องขึ้นมา พี่สาวโทรมาบอกว่าแม่ไม่สบาย ไม่ยอมเปิดร้านขายของเลย บ้านเงียบ เราก็รีบโทรไปหาป้าข้างบ้านให้ไปดูให้ แม่เราเป็นงูสวัดขึ้นตาค่ะ หน้าบวม ตาบวม คือมันลามไปที่ตาจนแม่ลืมตาไม่ได้ เราโทรไปบอกให้น้องชายกลับบ้านด่วนที่สุด พาแม่ไปหาหมอ เพราะแม่เราอยู่บ้านคนเดียว พอน้องชายส่งรูปแม่มาให้ดู เรานั่งปล่อยโฮเลย(ตอนที่เขียนนี้ยังแอบบน้ำตาร่วงเลยอ่า) เพราะเราคนเดียวที่ทำให้แม่เป็นแบบนี้ ถ้าเราไม่ปิดเครื่องแม่คงไม่เป็นถึงขนาดนี้ เพราะแม่อยู่บ้านคนเดียว เราผิดเองที่ให้คนอื่นมามีอิทธิพลเหนือแม่ตัวเอง แล้วเราก็ขอหัวหน้าลากลับบ้านด่วนเลยค่ะ มั้ยว่าถ้าช้ากว่านั้นแม่เราตาบอดกันเลยทีเดียว ตอนที่เรากลับบ้านต่ายรู้เรื่องจากสเตตัสเราเลยทักมาถาม นางก็พาเรากลับบ้าน เพราะเวลาเราขับรถกลับบ้านนางจะช่วยขับรถให้ตลอด ก็ถือว่าเป็นคนมีน้ำใจ แต่ระหว่างที่นั่งรถไป คือเรามองหน้านางเราจะน้ำตาไหลตลอดเวลา มันเสียใจอ่า คนที่เราให้ทุกอย่างให้ใจไปหมดแล้ว ทำไมทำแบบนี้กับเราได้ แต่เราก็แอบข่มอารมณ์แหละ อดเอาๆๆๆๆๆ TT__TT
ช่วงที่เรามีเรื่องกันนี้ ก็มีพี่เทคของต่ายทักมาคุยมาถามด้วยความเป็นห่วง เพราะเห็นว่าเป็นแฟนน้องเทคตัวเอง ชื่อต่ายเหมือนกัน เราเรียกต่ายใหญ่แล้วกันนะ จะได้ไม่สับสน ขานี้ก็จิตใจดี นิสัยดี จริงๆแล้วก็รุ่นเดียวกันกับเราเลยคุยกันง่ายหน่อย เข้ามาในชีวิตว่างั้นเหอะ เราเองก็ไม่ได้อะไรด้วยนะ เห็นว่าเป็นพี่แทคของแฟนก็คุยตามระเบียบ ต่ายใหญ่ก็เป็นที่ระบาย คอยรับฟัง คอยเป็นเพื่อนเวลาเราร้องไห้จริงๆนะ แล้วช่วงนั้นเราก็กลับบ้านทุกอาทิตย์ไปดูแม่ที่จังหวัดเลย แต่ก็มีน้องชายดูแลประจำอยู่กับแม่ตลอด ก็เหลือกัน 3 คนแม่ลูกแค่นี้อ่า แล้วอาทิตย์นั้นต่ายไม่ว่าง ต่ายใหญ่เลยอาสาไปเป็นเพื่อน เป็นเพื่อนจริงๆค่ะ เพราะขับรถไม่เป็น คือเราเองไม่ได้อะไรอยู่แล้วไง ห่วงแม่มากกว่า จุดนี้แหละ ต่ายใหญ่ก็เกิดคิดกับเราเกินเพื่อน ซึ่งเราเองก็ลืมต่ายไม่ได้เลย คือคบใครไม่ได้หรอกในตอนนั้น แล้วต่ายก็มารู้ว่าเรากับต่ายใหญ่ไปบ้านด้วยกัน ทีนี้แหละต่ายขึ้นดิสรูปคู่กับฝอย ลงรูปโน่นนี่นั่น คือเป็นช่องทางให้เค้าได้ทำเต็มที่เลยค่ะ เพราะต่ายบอกคนอื่นว่าเรานอกใจ โถ่ๆๆๆๆๆ ดูด้วยว่าใครนอกใจใคร จนเราแบบไม่ไหวแล้วค่ะ เจอหนักๆๆๆๆๆมาตลอด ถ้าอยากคบกับมากก็ไปเลย เพราะก่อนหน้านั้นเราง้อ ขอร้องให้กลับมารักกันเหมือนเดิมจนเราไม่ไหว ทีนี้เราเป็นฝ่ายเฉยชาบ้าง เราไม่คุย ไม่ติดต่อ เราเงียบไปเลย แล้วอยู่มาคืนนึงต่ายมาหาเราที่หอ คือปกติเราจะอยู่หอพัก ซึ่งคนนอกขึ้นไม่ได้ เฉพาะบุคลากรใน รพ. เท่านั้น ปกติเราไม่เปิดเสียงโทรศัพท์เพราะรำคาญ แล้ววันนั้นเกิดอะไรขึ้นไม่รู้สะดุ้งตื่นมาตอนตี 2 มาจับโทรศัพท์เห็นต่ายโทมา 40 กว่าสาย พร้อมข้อความ เราบล็อกไลน์เลยทักทางไลน์ไม่ได้ เราตกใจมากคือวันนั้นต่ายมาหาเราที่หอตั้งแต่เที่ยงคืนแล้วรอถึงตี2 แล้วคืนนั้นฝนก็ตกอีก ซึ่งที่หอยามจะปิดประตูใหญ่ตอน 5 ทุ่ม ต่ายยืนตากฝนรอค่ะเพราะเข้าไม่ได้ เราเห็นสภาพแล้วใจอ่อนทันที นี่เป็นครั้งแรกที่ต่ายมาหาเราที่หอนี้ คือให้แทกซี่พามาโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้จัก เราดุเลยค่ะ ถ้าเราไม่ตื่นขึ้นมาดูโทรศัพท์สภาพจะเป็นไง ตากฝนรอจนมอมแมม แล้วคืนนั้นเราก็ปรับความเข้าใจกัน
แก้วที่มันร้าวมันย่อมไม่สวยเหมือนเดิม รอบนี้รัก 4 เศร้า เราเคลียร์กันได้ (รึเปล่า) เพราะต่างคนก็ต่างระแวง ต่ายใหญ่ก็ยังวนเวียนๆ ตอนนั้นเราด่าสารพัด เพราะเราไม่อยากให้ต่ายคิดมาก แต่ต่ายกลับไม่เปิดเผยเรื่องของฝอยเลย เล่าแค่ว่าฝอยรู้เรื่องเราทุกอย่างคอยรับฟังปัญหาของต่าย คอยให้คำปรึกษา เราก็เออออ เพราะไม่อยากให้มีปัญหากันอีก จริงๆก่อนที่จะมาคบต่ายเราก็เจ้าชู้นะ แต่พอเรามีต่ายเราก็ไม่คิดจะมีใครเลย ไม่เคยนอกใจ มีคนมาจีบเราก็บอกว่ามีแฟนแล้วตลอด แต่เราเป็นคนตาต่อตา ฟันต่อฟัน ทำกูทำ แต่ที่ทำเพราะประชดนะ ไม่ได้คิดเอาจริงจัง พอถึงวันเกิดเราปีที่แล้ว ต่ายซื้อสร้อยข้อมือทองหนัก 1 สลึงให้เรา เราดีใจมากนะ เพราะไม่เคยได้ของขวัญชิ้นใหญ่จากต่ายเลย นี่เป็นชิ้นแรกที่ได้เรารักและหวงมากกกก แล้วยังไปเซอร์ไพส์วันเกิดเราที่ร้านเหล้าอีก ปลื้มมากค่า
วันเวลาผ่านไปเหมือนทุกอย่างเริ่มจะดี แต่เรื่องเก่าๆเหมือนจะกลับมาอีกครั้ง เราก็มัวแต่ทำงานหาเงิน คือไม่มีเวลามาใส่ใจเรื่องพวกนี้ เราก็ปล่อยๆนะ เดี๋ยวสักวันก็คิดได้เอง แต่เปล่าเลยค่ะ มันไม่ใช่ ต่ายกับฝอยไม่เคยเลิกคุยกัน คือเราก็เลิกตามเลิกส่องมาพักใหญ่ๆ คือเราทำงานหนักเพราะเราแพลนจะซื้อบ้านค่ะ อยากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ต่ายอยากได้รถ เราทำงานเก็บเงินดาวน์รถให้ เพราะช่วงนั้นต่ายจ่ายค่างวดให้เราอยู่ คือเราก็แพลนทุกอย่างแล้วว่าเดี๋ยวจะกู้ซื้อบ้านแล้ว 2 คนช่วยกันมันคงไม่หนักมาก แต่ต่ายบ่ายเบี่ยงไม่อยากได้บ้าน เราก็แปลกๆนะคะ มันมีเซ้นอะไรบางอย่างนะ ชวนไปไหนก็ไม่อยากไป จากที่เมื่อก่อนไปด้วยกันตลอด เรากินข้าว ดูหนัง เดินเล่นคนเดียวจนชิน สำหรับเราแล้วดูหนังคนเดียวไม่ใช่เรื่องแปลกเลยนะ ขนาดมีแฟนเหมือนไม่มี ปลายเดือน มกราคม เรามีทัวร์ที่พี่เค้าขายต่อไปเกาหลี คือมันถูกอ่ะ เราก็อยากไป สรุปแล้วชวนไป นางก็ไม่ไป เราต้องไปคนเดียว นางหาว่าเราไปกับคนอื่น เหงามากเลยนะคะ คือไปเกาหลีควรที่จะไปกับแฟนนะ มันโรแมนติคมาก เราไปเล่นสกี ตกปลาน้ำแข็ง คือต้องหาเพื่อนใหม่อ่ะ เน็ตเราก็ใช้ของโรงแรมแล้วก็ไวไฟกับไกด์ เลยไม่ค่อยได้คุยกัน ต่ายอยากได้รองเท้าเราก็ตะเวนหาซื้อมาให้ แต่สรุปแล้วนางไม่เอา โหยยยยยยย หอบมาจากเกาหลี ทำร้ายจิตใจเรามาก ก็ระหองระแหงกันมาเรื่อยๆ
จุดพีคมาอีกแล้วครั้ง ช่วงนี้เราย้ายมาเช่าบ้านอยู่กับเพื่อนล่ะ เพราะหอเดิมเป็นพอผู้ช่วยพยาบาล พอเป็นพยาบาลต้องย้ายไปหอใหม่แต่มันไกล พวกเรา 3 คนเลยเช่าบ้านอยู่กัน ต่ายเริ่มมาหาเราบ้างแล้วค่ะ หลังจากที่เคยคุยกันว่านางไม่ยอมมาเลย ทำไมเราต้องเป็นฝ่ายไปหาตลอด คือผู้หญิงมันมีเซ้นอ่ะนะ ถ้าคนรักเปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม ตื่นเช้ามาเราแต่งตัวกำลังจะไปทำงาน คิดยังไงไม่รู้ไปค้นกระเป๋าเงินของต่าย แจ๊คพอตค่ะ!!!!! เจอรูปคู่ต่ายกับฝอยในกระเป๋าเงิน เรามือไม้สั่นตะโกนปลุกให้ตื่น แล้วขว้างกระเป๋าเงินใส่หน้าเลยค่ะ ทำไมทำแบบนี้อ่ะ คือแบบว่าเราอึ้ง จุก พูดไม่ออก เราเลยพูดขึ้นมาว่า “จะไปไหนก็ไป ออกจากชีวิตกูซะ เลี้ยงไม่เชื่องจริงๆ” แล้วก็ไปดูไลน์ของฝอย เจอดิสขึ้นรูปคู่อีกกกก สั่นเป็นเจ้าเข้าเลยทีนี้ ทำอะไรไม่ถูก เลยไลน์ไปบอกน้องฝอยเค้าค่ะ “ยอมแพ้กับความรักที่เหนียวแน่นของพวกเทอสองคนจริง ชั้นยกให้เทอ แล้วอย่ามันกลับมาให้ชั้น” คือตอนนั้นโมโหสุดๆ ถ้าไม่เป็นไรกันมันจะพกรูปติดเป๋าเงินทำไม ว่ามั้ยคะ แต่ต้องควบคุมตัวเองต้องรีบไปทำงาน ต่ายเองก้ตกใจที่เราเป็นแบบนั้น คงไม่คิดว่าเราเอาจริง แต่เราเอาจริงค่ะ คือเจ็บมาหลายรอบ ซ้ำๆซากๆ หลายคน ไม่ใช่แค่คนนี้คนเดียวที่มีเรื่องแบบนี้ ตกเย็นต่ายรีบมาดักมาง้อ แต่เราออกไปขึ้นเวรที่อื่นแล้วค่ะ ไม่อยากเจอดด้วยแหละ เลยรีบไป เพราะโมโหจนแทบจะฆ่าได้เลยด้วยซ้ำ เลยขอไม่เจอดีกว่า ต่ายโทรมาหลายสิบสายจนเรารำคาญ สุดท้ายเราก็รับ คือเราไม่เคยเห็นต่ายเป็นบ้าฟูมฟายเหมือนครั้งนี้จริงๆนะ ร้องไห้ขอร้องให้กลับไป ขอโอกาสกับเราครั้งสุดท้าย เราก็ทำใจแข็งนะ จริงๆอ่ะรักมาก แต่เจ็บมาเยอะเกิน แล้วก็มาหาตอนเลิกงานเกือบทุกวัน คือเรามีรถยนต์กับมอเตอร์ไซด์ คือต่ายสามารถเอาคันไหนไปใช้ก็ได้ เราไม่เคยหวง ต่อให้ทะเลาะกันยังไงเราก็ยังเป็นห่วง นางสามารถเอารถเราไปใช้ได้หมด สุดท้ายเราเลยบอกให้นางคุยกะฝอยให้เคลียร์กัน แล้วให้ฝอยโทรมาหาเรา เย็นวันต่อมาฝอยโทรมาหาเรานางก็แอบกวนตี-เรานะ ก็คุยกันแหละ เราถามฝอยว่า “เธอก็รู้ไม่ใช่หรอว่าต่ายไม่ได้มีเธอคนเดียว” นางตอบมาว่า “หนูก็รู้” เราสวนกลับไป “แล้วเธอยังจะเอาอีกหรอ” “………………….”นางตอบไม่ได้ค่ะ เงียบ!!!! ไม่แน่จริงเหมือนตอนที่พลอยถามเราเลย ตอนนั้นเราบอกพลอยว่า “เราไม่คิดจะแย่งเอาต่ายมาจากพลอยนะ แต่ถ้าพลอยดูแลต่ายไม่ได้ พี่จะขอดูแลเอง” ง่อวววววว เราเองก็เหี้-ระดับ 3 ได้อยู่นะ แต่เราตรงๆไง ทำคือทำ ไม่ทำคือไม่ทำ