เป็นหนังที่ดูสนุกลุกนั่งสบายมาก เพลินๆภาพสวย แต่ภาคแรกเหนือกว่าในเกือบทุกด้าน ยกเว้นงานสร้างอลังการกับ ซีจีขั้นเทพ ที่เหนือกว่า ละเอียดมากจนมองไม่ทันว่าอะไรเป็นอะไร ยิ่งดูในIMAX แล้วอือหือเลยทีเดียว

ขึ้นชื่อว่าเป็นหนังIndependence Dayแล้ว แต่ในหนังเหตุการณ์ดูเหมือนว่าไม่ค่อยพูดว่าเป็นวันชาติเท่าไหร่ดูไม่เน้นย้ำแบบภาคแรกเลย ขาดเสน่ห์ไปเยอะ ขาดอารมณ์ขับเคลื่อน เหมือนอยากใส่อะไรก็ใส่ อยากให้มันเป็นไปยังไงก็ทำ หนังไม่บิ้วก่อนที่ยานแม่เคลื่อนทัพมา ไม่รู้สึกว่ามันกำลังคืบคลานมา อยู่ๆปุ้บปั้บ อ้าวเฮ้ มาละหรือ แล้วก็ใส่ๆๆ จัดเต็มโลก
เรื่องมันเกิดขึ้นทั้งโลกแต่กลับไม่รู้สึกว่าเดือดร้อนพร้อมกันทั้งโลก ไม่แสดงให้เห็นเลยว่าคนต่างๆที่ในโลกเดือดร้อนหนีตายยังไง ไม่เหมือนโปสเตอร์หนังโปรยซะว่าทั้งโลกโดนถล่มยับ

พูดถึงตัวละครบ้าง พากันตายง๊ายง่าย เอะอะตายๆ ตัวละครหลักรุ่นเก่าบางคนก็พากันตาย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อย่างตัวละคร จัสมิน มิลเลอร์ คือไม่น่าตาย เขียนให้ตายทำไม ดิแลนกำลังมาช่วยได้แท้ๆกลับทำให้ตายต่อหน้า คือเสียความรู้สึกมาก เสียดายที่ภาคแรกนางอุตส่าห์ดิ้นรนตอนมีการโจมตีครั้งแรก อุ้มดิแลนหนีจนรอดกลับมาตายง่ายๆอย่างไม่น่าให้อภัย แถมเธอก็เป็นแพทย์หญิง แอบซ้อนทับกับแม่พระเอกใน The Day After Tommorrow ที่เป็นหมอที่มัวแต่ห่วงคนไข้ (ซึ่งนางก็เล่นเป็นประธานาธิบดีหญิงแกร่งในเรื่องนี้) เหมือนไม่รู้จะเขียนบทให้ตายยังไง แล้วทำให้ตายทำไมไม่รู้ ดูสิ้นเปลืองมาก
แอบรำคาญความผกก.โรแลนด์อย่างนึงชอบไปเน้นตัวประกอบบางตัวให้มีบทบ้าง ทำอะไรไร้สาระ มุกไม่ฮาพาคนเครียดมาก (เหมือน2012 ที่ไปเน้นตาลุงยักษ์กับลูกแฝดที่มีผู้หญิงเลี้ยงหมา ฉากลุ้นน้องหมาเข้าเรือยักษ์ ยิ่งหนักไปใหญ่เลย) มุกในเรื่องยิ่งหนัก ไม่ฮาสักมุกเดียว
ทุกอย่างในเรื่องอาศัยความบังเอิญที่ง่ายแสนง่าย เอเลี่ยนเทพมากแต่ก็พ่ายแพ้ง่ายไปอีก

ไม่อยากจะเชื่อว่าทีมเขียนบทก็คือโรแลนด์ เอ็มเมอร์ริช กับ ดีน เดฟลินจากID4 ภาคแรก ซึ่งไม่รู้ว่าจะสร้างชื่อให้เพิ่มรึจะยังไงดี
เอาเป็นว่าหนังเรื่องนี้ก็ถือเป็นหนังที่สนุกใช้ได้เรื่องนึง  ถ้าต้องการความสนุกเรื่องนี้ก็สอบผ่านฉลุยเลยแนะนำให้ไปดูกัน ถึงจะด่าไปเยอะ
ปล.โรงIMAXเมเจอร์รัชโยธินวันนี้ลำโพงเสียงไม่กระหึ่มเลย เสียงเบามาก