สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาวพันทิป ก่อนอื่นขอเกริ่นก่อนนะคะ เราตามอ่านกระทู้แอบรัก แอบจิ้น แอบจิกหมอนของเพื่อนๆมาเยอะ
อ่านแล้วก็มีเขินมั่ง ขัดใจมั่ง ปะปนกันไป วันนี้เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์(จริง)ที่เคยเข้าไปจีบผู้ชาย ห้ามถามถึงความอาย เพราะไม่มี ฮ่าๆ
เราเป็นคนเฮฮา บ้าๆบอๆ และมั่นใจค่ะ ไม่ได้มั่นหน้านะ แค่มั่นใจว่าเราเองก็มีข้อดี ถึงข้อเสียจะเยอะกว่าก็เถอะ เหอะๆ
มาเข้าเรื่องดีกว่า ออกทะเลไปไกลแล้ว เราเคยอ่านดอนฮวน แล้วลองเอามาปรับใช้กับชีวิต ซึ่งมันได้ผลจริง(ลองหาดูนะคะ)
อันดับแรกเราต้องมั่นใจค่ะ ว่าเราไม่ได้แย่นะ อย่าไปกลัวนก ระดับนางกินรีอย่างเราอย่าไปกลัวค่ะ ยิ่งกว่านก
เหตุการณ์ที่ 1 แอบชอบผู้ชายในร้านอาหาร
เราชอบไปทานอาหารที่ร้านนึงแถวบีทีเอสราชเทวี เป็นร้านที่เราไปสังสรรค์บ่อย แล้วทีนี้ เจอเป้าหมายจ้า พิจารณาแล้ว นิสัย หล่อ สูง
นิสัยตี๋ นิสัยขาว นิสัยล่ำ งานดีขนาดนี้ รออะไรล่ะคะ เป้าหมายเรามาแทงพูลกับเพื่อนค่ะ ส่วนเราก็นั่งหลังโต๊ะพูล ในจังหวะที่เขาต้องมาแทงในมุมที่เรานั่ง
เราร้องโอ้ยค่ะ โอ้ยดังมาก พร้อมกับบอกว่า ไม้โดนหัว เป้าหมายรีบเข้ามาขอโทษ ส่วนเราอ่ะหรอ แกล้งกุมหัว แล้วบอกว่าไม่เป็นไรค่ะ ขอไลน์ได้มั้ยคะ
คุณไม่ได้อ่านผิดค่ะ ไม่ได้ตาฝาด เราถามเขาว่า ขอไลน์ได้มั้ยคะ พร้อมยื่นโทรศัพท์ สรุปคือได้ (เขาอาจจะให้เป็นมารยาท) สุดท้ายได้คุยค่ะ แล้วก็หยุดความสัมพันธ์ แค่เพื่อนพอ ด้วยเหตุผลอื่นๆ
เหตุการณ์ที่ 2 แอบชอบผู้ชายตึกเดียวกัน
เราทำงานตึกสูงๆแถวสีลม (ประชากรแน่นมาก) ด้วยความที่ในตึกจะมีหลายๆออฟฟิศ มีความงานดีเกิดขึ้น รออะไรล่ะคะ โสดขนาดนี้ หยิ่งไม่ดี ยั่วเถอะค่ะ
ฮ่าๆ เราเจอผู้ชายคนนึง นิสัยหล่อ (อีกแล้ว) เจอหน้ากันทุกวัน ขึ้นลิฟต์เวลาเดียวกัน(เราจงใจ) นั่งมอง แอบมอง สิงร่างได้เข้าสิงแล้ว เป็นแบบนี้อยู่2-3วัน
จะรออะไรล่ะคะ ใช้มุกเดิมค่ะ นั่งกดโทรศัพท์ ฮีเดินผ่าน ร้องโอ้ยและกุมเข่า สเต็ปเดิมค่ะ แล้วคนมีมารยาทเขาจะทำอย่างไรคะ เขาต้องมาขอโทษไง
เราต้องทำยังไงคะ ต้องตอบว่าไม่เป็นไร แต่ด้วยหน้าที่การงาน เราขอไลน์ตรงนั้นไม่ได้ จงแยกย้ายไป แล้วตามงานซะ วันรุ่งขึ้น เราต้องขึ้นลิฟต์ด้วยกันอยู่แล้ว เราก็จะอ้าว แสร้งทำตัวว่าบังเอิญเจอค่ะ แค่ยิ้มพอ เวลาลงมากินกาแฟ เจอค่ะ เจอได้อย่างไร ไม่ใช่พรหมลิขิตค่ะ เราลิขิตนี่แหละ
ยิ้มอีกรอบ พร้อมเปิดประเด็นคุย คุยได้ค่ะ รู้จักกันแล้ว ตอนเขาชนเราไง ขอโทษขนาดนี้รู้จักกันแล้ว คุยไปเถอะ เราก็เปิดประเด็นว่า ทำงานชั้นไหนคะเนี่ย
เขาตอบมา เราก็บอกว่าเราทำงานชั้น..นะคะ ทำงานเป็น..อยู่บริษัท.. เราชื่อ..ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ เขาก็คุยดี ถ้าคุยดีเราถือว่าเรามีโอกาส แล้วในจังหวะที่คุยสนุกๆ เราเบรคด้วยการขอตัวไปทำงาน จริตพนักงานดีเด่น ยุ่งมาก บลาๆ แล้วรอวันถัดไปค่ะ วันรุ่งขึ้นพอเจอแล้ว เรียกชื่อเลยค่ะ สมมุติว่าชื่อคุณโอ เราก็สวัสดีค่ะคุณโอ งานยุ่งมั้ยคะ แลดูสนิท แล้วเขาก็คุยดี๊ดี นั่นแหละค่ะ วันศุกร์ชวนทานข้าว ได้ไลน์ได้เบอร์ คุยกันอยู่สักพัก แล้วเราก็เป็นเพื่อนกัน
เหตุการณ์ที่ 3 รถไฟฟ้ามาหานะยูวว
เคยกำลังจะขึ้น bts ค่ะ แล้วเจอผู้ชายนิสัยหล่อ นิสัยสูง เขากำลังลงจากบันไดเลื่อน เดินสวนกัน ไม่ได้แล้ว เราอาจจะไม่ได้เจอเขาอีก เราวิ่งค่ะ
วิ่งตาม คือพอบันไดเลื่อนขึ้นถึง bts เราวิ่งลงตรงบันไดเลื่อนตามมาเลย แล้วเราก็ถามเขาว่า ขอโทษนะคะ รู้ทางไปตึก..มั้ยคะ เขาก็บอกทาง เราก็เลยถาม
ทำงานแถวนี้หรอคะ เขาก็บอกใช่ๆ ตึก.. เราก็บอกแค่ เราต้องไปทำงานตึก...แต่เราไม่ทราบทาง รบกวนขอไลน์ไว้หน่อยได้มั้ยคะ กลัวหลงค่ะ(สะตอ) แล้วก็ได้ไลน์มาเป็นที่เรียบร้อยค่ะ สุดท้ายเขามีแฟนแล้ว จบข่าว
เหตุการณ์ที่ 4 จีบหมอ
เรามีเพื่อนเป็นหมอค่ะ แล้วเราเคยลองถามเพื่อนว่าถ้าอยากจีบหมอต้องทำอย่างไร เพื่อนเราบอกว่า คนเป็นหมอ ไม่ชอบให้ใครมาจีบเพราะหน้าที่การงาน
ยิ่งถ้าเข้ามาแบบไม่รู้ว่าฮีเป็นหมอแล้วเรายังสนใจฮี ฮีอาจจะพิจารณาเป็นพิเศษ ได้ค่ะเพื่อน ฉันชอบคนนั้น รบกวนพาเพื่อนของเพื่อนมาไหว้เราด่วน
เพื่อนเราก็จัดการหาวันที่ว่าง แล้วก็มานั่งทานข้าว เสริมวิตามินแอลกัน พอเพื่อนเรามา ชวนเพื่อนคนนั้นมาด้วย เราก็จัดการเลยค่ะ เห้ยเพื่อนแกหรอ ฉันชอบอ่ะ แบบทีเล่นทีจริง เพื่อนเราจะนั่งข้างเรา เราก็ไล่ แกไปตรงนู้น ตัวเองมานั่งนี่มา แบบทีเล่นทีจริง แต่พอมานั่งแล้ว เราต้องไม่ไร้สาระมาก พอเขามานั่ง เราก็แนะนำตัวจริงๆ ว่าเราชื่อ.. เป็นเพื่อนมัธยมของ.. แล้วก็คุยธรรมดา โดยที่ไม่ถามว่าเขาทำงานอะไร แล้วพอเริ่มแผ่วๆ เราก็แซวอีกครั้ง แบบที่รักจะไปไหนคะ เร็วๆนะคิดถึง แต่แค่เล่นๆ โดยไม่พูดถึงหน้าที่การงาน เขาก็จะออกแนวสับสนว่า ตกลงคือเราเป็นคนเล่นๆ หรือยังไง เพราะเวลาคุยสาระก็คือสาระ พอก่อนกลับก็ขอไลน์เลย แล้วก็ทักไปก่อน ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะ แค่นั้น พอเริ่มคุยเรื่อยๆ เขาก็บอกเราเองว่าเขาเป็นหมอ พอเริ่มคุยกันสักพัก เขาไว้ใจเราเลยเล่าเรื่องส่วนตัวที่แม้แต่เพื่อนสนิท(เพื่อนเรา)ก็ไม่รู้ คือ เขาแอบชอบรุ่นน้องอยู่ จ๊ะ ขอบคุณนะ ฮ่าๆๆๆ
จากที่เพื่อนๆ อ่านมาอาจจะรู้สึกว่าเห้ย ทำไมหล่อนกล้าขอ ถ้าเขาปฏิเสธก็หน้าแตกสิ
หน้าไม่แตกหรอกค่ะ ไม่ให้ก็ไม่เป็นไรหรอก เราไม่ได้มีเบอร์หรือมีไลน์ของเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ถ้าเขาไม่ให้ เราก็ไม่ได้เสียอะไรไปนี่คะ แต่ถ้าเขาให้ เราก็กำไรไปอีก
แต่ทั้งหมดนี้ การเริ่มคุยกันได้ก็ไม่ได้หมายความว่าทำให้เรามีแฟนได้นะคะ การที่เราจะคบกับใคร การเริ่มคุยเป็นแค่จุดเริ่มต้น
ที่เหลือก็ต้องแล้วแต่ กรรมเก่า หรือเวรใหม่แล้วแหละค่ะ ชวนเพื่อนๆมาลองแชร์ประสบการณ์บ้างนะ^^
แชร์ประสบการณ์ จีบผู้ชายไม่เห็นยากนี่^^
อ่านแล้วก็มีเขินมั่ง ขัดใจมั่ง ปะปนกันไป วันนี้เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์(จริง)ที่เคยเข้าไปจีบผู้ชาย ห้ามถามถึงความอาย เพราะไม่มี ฮ่าๆ
เราเป็นคนเฮฮา บ้าๆบอๆ และมั่นใจค่ะ ไม่ได้มั่นหน้านะ แค่มั่นใจว่าเราเองก็มีข้อดี ถึงข้อเสียจะเยอะกว่าก็เถอะ เหอะๆ
มาเข้าเรื่องดีกว่า ออกทะเลไปไกลแล้ว เราเคยอ่านดอนฮวน แล้วลองเอามาปรับใช้กับชีวิต ซึ่งมันได้ผลจริง(ลองหาดูนะคะ)
อันดับแรกเราต้องมั่นใจค่ะ ว่าเราไม่ได้แย่นะ อย่าไปกลัวนก ระดับนางกินรีอย่างเราอย่าไปกลัวค่ะ ยิ่งกว่านก
เหตุการณ์ที่ 1 แอบชอบผู้ชายในร้านอาหาร
เราชอบไปทานอาหารที่ร้านนึงแถวบีทีเอสราชเทวี เป็นร้านที่เราไปสังสรรค์บ่อย แล้วทีนี้ เจอเป้าหมายจ้า พิจารณาแล้ว นิสัย หล่อ สูง
นิสัยตี๋ นิสัยขาว นิสัยล่ำ งานดีขนาดนี้ รออะไรล่ะคะ เป้าหมายเรามาแทงพูลกับเพื่อนค่ะ ส่วนเราก็นั่งหลังโต๊ะพูล ในจังหวะที่เขาต้องมาแทงในมุมที่เรานั่ง
เราร้องโอ้ยค่ะ โอ้ยดังมาก พร้อมกับบอกว่า ไม้โดนหัว เป้าหมายรีบเข้ามาขอโทษ ส่วนเราอ่ะหรอ แกล้งกุมหัว แล้วบอกว่าไม่เป็นไรค่ะ ขอไลน์ได้มั้ยคะ
คุณไม่ได้อ่านผิดค่ะ ไม่ได้ตาฝาด เราถามเขาว่า ขอไลน์ได้มั้ยคะ พร้อมยื่นโทรศัพท์ สรุปคือได้ (เขาอาจจะให้เป็นมารยาท) สุดท้ายได้คุยค่ะ แล้วก็หยุดความสัมพันธ์ แค่เพื่อนพอ ด้วยเหตุผลอื่นๆ
เหตุการณ์ที่ 2 แอบชอบผู้ชายตึกเดียวกัน
เราทำงานตึกสูงๆแถวสีลม (ประชากรแน่นมาก) ด้วยความที่ในตึกจะมีหลายๆออฟฟิศ มีความงานดีเกิดขึ้น รออะไรล่ะคะ โสดขนาดนี้ หยิ่งไม่ดี ยั่วเถอะค่ะ
ฮ่าๆ เราเจอผู้ชายคนนึง นิสัยหล่อ (อีกแล้ว) เจอหน้ากันทุกวัน ขึ้นลิฟต์เวลาเดียวกัน(เราจงใจ) นั่งมอง แอบมอง สิงร่างได้เข้าสิงแล้ว เป็นแบบนี้อยู่2-3วัน
จะรออะไรล่ะคะ ใช้มุกเดิมค่ะ นั่งกดโทรศัพท์ ฮีเดินผ่าน ร้องโอ้ยและกุมเข่า สเต็ปเดิมค่ะ แล้วคนมีมารยาทเขาจะทำอย่างไรคะ เขาต้องมาขอโทษไง
เราต้องทำยังไงคะ ต้องตอบว่าไม่เป็นไร แต่ด้วยหน้าที่การงาน เราขอไลน์ตรงนั้นไม่ได้ จงแยกย้ายไป แล้วตามงานซะ วันรุ่งขึ้น เราต้องขึ้นลิฟต์ด้วยกันอยู่แล้ว เราก็จะอ้าว แสร้งทำตัวว่าบังเอิญเจอค่ะ แค่ยิ้มพอ เวลาลงมากินกาแฟ เจอค่ะ เจอได้อย่างไร ไม่ใช่พรหมลิขิตค่ะ เราลิขิตนี่แหละ
ยิ้มอีกรอบ พร้อมเปิดประเด็นคุย คุยได้ค่ะ รู้จักกันแล้ว ตอนเขาชนเราไง ขอโทษขนาดนี้รู้จักกันแล้ว คุยไปเถอะ เราก็เปิดประเด็นว่า ทำงานชั้นไหนคะเนี่ย
เขาตอบมา เราก็บอกว่าเราทำงานชั้น..นะคะ ทำงานเป็น..อยู่บริษัท.. เราชื่อ..ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ เขาก็คุยดี ถ้าคุยดีเราถือว่าเรามีโอกาส แล้วในจังหวะที่คุยสนุกๆ เราเบรคด้วยการขอตัวไปทำงาน จริตพนักงานดีเด่น ยุ่งมาก บลาๆ แล้วรอวันถัดไปค่ะ วันรุ่งขึ้นพอเจอแล้ว เรียกชื่อเลยค่ะ สมมุติว่าชื่อคุณโอ เราก็สวัสดีค่ะคุณโอ งานยุ่งมั้ยคะ แลดูสนิท แล้วเขาก็คุยดี๊ดี นั่นแหละค่ะ วันศุกร์ชวนทานข้าว ได้ไลน์ได้เบอร์ คุยกันอยู่สักพัก แล้วเราก็เป็นเพื่อนกัน
เหตุการณ์ที่ 3 รถไฟฟ้ามาหานะยูวว
เคยกำลังจะขึ้น bts ค่ะ แล้วเจอผู้ชายนิสัยหล่อ นิสัยสูง เขากำลังลงจากบันไดเลื่อน เดินสวนกัน ไม่ได้แล้ว เราอาจจะไม่ได้เจอเขาอีก เราวิ่งค่ะ
วิ่งตาม คือพอบันไดเลื่อนขึ้นถึง bts เราวิ่งลงตรงบันไดเลื่อนตามมาเลย แล้วเราก็ถามเขาว่า ขอโทษนะคะ รู้ทางไปตึก..มั้ยคะ เขาก็บอกทาง เราก็เลยถาม
ทำงานแถวนี้หรอคะ เขาก็บอกใช่ๆ ตึก.. เราก็บอกแค่ เราต้องไปทำงานตึก...แต่เราไม่ทราบทาง รบกวนขอไลน์ไว้หน่อยได้มั้ยคะ กลัวหลงค่ะ(สะตอ) แล้วก็ได้ไลน์มาเป็นที่เรียบร้อยค่ะ สุดท้ายเขามีแฟนแล้ว จบข่าว
เหตุการณ์ที่ 4 จีบหมอ
เรามีเพื่อนเป็นหมอค่ะ แล้วเราเคยลองถามเพื่อนว่าถ้าอยากจีบหมอต้องทำอย่างไร เพื่อนเราบอกว่า คนเป็นหมอ ไม่ชอบให้ใครมาจีบเพราะหน้าที่การงาน
ยิ่งถ้าเข้ามาแบบไม่รู้ว่าฮีเป็นหมอแล้วเรายังสนใจฮี ฮีอาจจะพิจารณาเป็นพิเศษ ได้ค่ะเพื่อน ฉันชอบคนนั้น รบกวนพาเพื่อนของเพื่อนมาไหว้เราด่วน
เพื่อนเราก็จัดการหาวันที่ว่าง แล้วก็มานั่งทานข้าว เสริมวิตามินแอลกัน พอเพื่อนเรามา ชวนเพื่อนคนนั้นมาด้วย เราก็จัดการเลยค่ะ เห้ยเพื่อนแกหรอ ฉันชอบอ่ะ แบบทีเล่นทีจริง เพื่อนเราจะนั่งข้างเรา เราก็ไล่ แกไปตรงนู้น ตัวเองมานั่งนี่มา แบบทีเล่นทีจริง แต่พอมานั่งแล้ว เราต้องไม่ไร้สาระมาก พอเขามานั่ง เราก็แนะนำตัวจริงๆ ว่าเราชื่อ.. เป็นเพื่อนมัธยมของ.. แล้วก็คุยธรรมดา โดยที่ไม่ถามว่าเขาทำงานอะไร แล้วพอเริ่มแผ่วๆ เราก็แซวอีกครั้ง แบบที่รักจะไปไหนคะ เร็วๆนะคิดถึง แต่แค่เล่นๆ โดยไม่พูดถึงหน้าที่การงาน เขาก็จะออกแนวสับสนว่า ตกลงคือเราเป็นคนเล่นๆ หรือยังไง เพราะเวลาคุยสาระก็คือสาระ พอก่อนกลับก็ขอไลน์เลย แล้วก็ทักไปก่อน ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะ แค่นั้น พอเริ่มคุยเรื่อยๆ เขาก็บอกเราเองว่าเขาเป็นหมอ พอเริ่มคุยกันสักพัก เขาไว้ใจเราเลยเล่าเรื่องส่วนตัวที่แม้แต่เพื่อนสนิท(เพื่อนเรา)ก็ไม่รู้ คือ เขาแอบชอบรุ่นน้องอยู่ จ๊ะ ขอบคุณนะ ฮ่าๆๆๆ
จากที่เพื่อนๆ อ่านมาอาจจะรู้สึกว่าเห้ย ทำไมหล่อนกล้าขอ ถ้าเขาปฏิเสธก็หน้าแตกสิ
หน้าไม่แตกหรอกค่ะ ไม่ให้ก็ไม่เป็นไรหรอก เราไม่ได้มีเบอร์หรือมีไลน์ของเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ถ้าเขาไม่ให้ เราก็ไม่ได้เสียอะไรไปนี่คะ แต่ถ้าเขาให้ เราก็กำไรไปอีก
แต่ทั้งหมดนี้ การเริ่มคุยกันได้ก็ไม่ได้หมายความว่าทำให้เรามีแฟนได้นะคะ การที่เราจะคบกับใคร การเริ่มคุยเป็นแค่จุดเริ่มต้น
ที่เหลือก็ต้องแล้วแต่ กรรมเก่า หรือเวรใหม่แล้วแหละค่ะ ชวนเพื่อนๆมาลองแชร์ประสบการณ์บ้างนะ^^