ย้อนกลับไปเกือบ 20 ปีที่แล้ว (อดีต)เด็กยุค 90s น่าจะคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับเกมตู้สายควง (ประเภทควงคันโยกปล่อยท่า อ้างอิงคือควบคุมแบบเดียวกับ Street Fighter) ที่แม้จะยังไม่มีอินเตอร์เน็ต แต่ทุกท้องที่เกมตู้ห้างก็เต็มไปด้วยกระแสของเกม The King of Fighters (KOF) ในทุกหย่อมหญ้าตั้งแต่ภาค ‘94 และที่บูมที่สุดก็คงจะไม่พ้นภาค ‘98 นี่แหละ (Pattern ดั้งเดิมของเกมนี้จะตั้งชื่อภาคโดยใช้ตัวเลขใช้ปี ค.ศ. ที่เกมออก)
KOF’98 ฉบับดั้งเดิม (ใครที่รู้จักดีอยู่แล้ว สามารถข้ามไปอ่านหัวข้อถัดไปได้เลยครับ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับใครที่ยังไม่เคยทราบแนวทางของ KOF ผมจะเท้าความก่อนซักนิด ว่าเนื้อเรื่องพื้นเพดั้งเดิมเกมนี้ค่อนข้างยิงเป็นเส้นตรง ตามแบบฉบับแอ็คชั่นศิลปะการต่อสู้ในสมัยนั้นแหละครับ (อ้างอิงจนถึงภาค 2002 เพราะหลังจากนั้น KOF ก็หลุดกระแสไปจนลืมไปเลยว่ามี) โดยแต่ละภาคก็วนเวียนเป็น 2 แกนหลักๆ แกนแรกคือการตีกันไม่จบสิ้นกว่าพันปี ระหว่างตระกูลของ Kyo (Kusanagi) และตระกูลของ Iori (Yagami) แกนที่สองคือการจัดทีม 3 คนเพื่อต่อสู้ในศึกชิงเจ้ายุทธภพตามท้องเรื่องกันไป (ส่วนบอสก็จะปรากฏตัวในรูปแบบต่างกัน ว่ากันไป) แต่ทั้งๆที่ผมบอกว่าทุกภาคมีเนื้อเรื่อง แต่! ยกเว้นภาค 98, 2002 และ XII ที่เป็นภาคพิเศษ จับตัวละครต่างๆมามัดรวมให้นัวกันเละ (ประหนึ่งตระกูล Tekken Tag Tournamet อะไรยังงั้น) นั่นหมายความว่าที่ภาคนี้มันเกิดก็คงไม่ใช่เหตุผลด้านเนื้อเรื่อง หากแต่เป็นเพราะการยำตัวละครร่วมค่ายในเกมเดียวนั่นเอง เลยกลายเป็นการหยอดเกมตู้ 10 บาทที่คุ้มค่าที่สุดอย่างปฏิเสธไม่ได้
ส่วนตัวละครเยอะแยะที่เข้ามาโลดแล่นให้เราจัดทีม 3 คนได้อย่างฟุ่มเฟือยในเกมก็ไม่ใช่ใครที่ไหนไกล มันก็คือตัวละครเก่าๆจากเกม Fighthing ชื่อดังเกมอื่นๆของตระกูล SNK นั่นล่ะครับ อาทิ Fatal Fury, Art of Fighting, Samuri Shodown เป็นต้น และแน่นอนว่า Gameplay ก็อ้างอิงตามนั้นเลยครับ เราสามารถจัดทีม 3 คนไปสู้แบบเนื้อเรื่อง หรือสู้กับเพื่อนได้โดยอิสระเลย
ส่วน Platform อื่นๆในยุคนั้นของซีรีส์ KOF นั้นก็ถูกแผ่ขยายไปตาม Console ต่างๆด้วย อาทิ Neo Geo Pocket, Game Boy, Game Boy Advance, Sega Saturn, Dreamcast, PlayStation และ Xbox เรียกว่าแม้เกมตู้สุดฮิตอาจจะไม่เข้าถึงบางท้องที่ ก็สามารถมีซีรีส์ KOF ไว้เล่นที่บ้านได้ในอรรถรสที่ใกล้เคียงได้เลย และถ้าจะเล่นให้จริงจังเกมมิ่งขึ้นอีกหน่อย ยุคนั้นก็มีจอยโยกไว้ควงเหมือนกันนะเออ (เด็กที่ไหนจะไปมีตังค์ซื้อขนาดน้าน)
ถ้าอยากสัมผัสอรรถรสเต็มๆของฉบับเกมตู้เพื่อนึกถึงความหลัง ผมแนะนำตัวอย่างจากคลิปนี้เลยครับ
KOF’98 Ultimate Match Online (2016)
ก่อนหน้านี้ KOF พยายามที่จะตะบี้ตะบันให้ KOF กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งด้วยการนำตัวละครหลักของซีรีส์ไปใส่ Gameplay ใหม่ๆให้เข้ากับยุค แต่ก็ไม่นึกว่าครั้งนึงจะเลยเถิดไปถึงฉบับ MOBA ณ ตอนนั้นผมนี่ถึงกับร้อง Helloooo แน่ใจนะว่าเกมเมอร์ยุคใหม่ต้องการยังงั้น? ปวดตับจริงๆ ส่วนไอ้ที่พอจะคาดหวังได้ในซีรีส์ KOF ก็คงจะเป็นการพอร์ทเกมฉบับดั้งเดิมมายัง Platform มือถือนั่นแหละครับ แต่ผมก็แนะนำว่าควรหาจอย Bluetooth มาเสริมซักหน่อยก็น่าจะดีนะ ควงด้วยการ Touch มันก็กะไรอยู่…

จนกระทั่งข่าวการมาของ KOF’98 ที่ผมขอเรียกมันว่าเป็นฉบับ 2016 แล้วกันนะครับ (เวอร์ชั่นแรกที่เห็นคือฉบับเกาหลี ร่วมกับ Kakao) โดยซีรีส์นี้กลับมาในรูปแบบ Turn-based Action ประเภท “จัดทีม 6 คน” ที่สร้างความเซอร์ไพรซ์ให้ผมประมาณนึง คือล้มล้างยุคแห่งการควงจอยในแบบดั้งเดิม ให้เป็นการกดปุ่ม Skill แทน เฮ้ย?! แล้วอรรถรสการเล่น KOF มันจะไปอยู่ตรงไหน? ถ้าคุณนึกภาพไม่ออก เราจะอ้างอิงว่าประมาณ KOF’98 ในฉบับที่เป็น Gameplay ยุคใหม่สไตล์ One Piece: Treasure Cruise, Brave Frontier โดยประมาณ ใครเคยเล่นเกมแนวนี้น่าจะเริ่มต้นได้ไม่ยาก และผมก็รอคอยอย่างมีความหวังว่านอกจากเวอร์ชั่นเกาหลีแล้วก็ควรจะมีเวอร์ชั่นที่ผมอ่านออกบ้าง (English ก็พอใจแล้ว)

ไม่นานนักในระหว่างที่กระแส Overwatch นั้นหนักมาก ข่าวเรื่อง KOF’98 ก็แว๊บเข้ามาซักที แต่ไม่ใช่ฉบับ English ที่ผมคาดหวัง หากแต่เป็นภาษาไทย!! บอกตรงๆว่าสองจิตสองใจครับ เพราะเราไม่รู้สูญเสียกันไปเท่าไหร่แล้วกับคำว่า “แปลไทย” ไม่ว่าจะเป็นความไว้ใจเรื่องภาษาที่อ่านแล้วลื่นไหล หรือแม้แต่การดูแลรักษาระบบที่ดีพอ ผมเชื่อว่าเกมออนไลน์ใดๆก็ตามที่นำเข้ามาในไทยแล้วดูแล 2 อย่างนี้ดี ผู้เล่นก็จะครึกครื้นตามไปด้วยแน่นอน และสิ่งที่ผมไม่ค่อยได้รับ ก็เกิดขึ้นกับผมแล้ว!! นั่นก็คือ!! สิทธิในการ Test ก่อนใครนั่นเอง!! (ก่อนเกมเปิดตัวในวันที่ 21/6/16)
เปิดเกมมา ได้พบเจอกับตัวละครที่คุ้นตาทั้งนั้นครับ และ Intro ก็แสนจะคุ้นเคยเช่นกัน (Spoil: เป็นซีนจบภาค KOF’97 เพื่อส่งต่อไปยังวิถีของ KOF’98 ต่อไป) แต่นั้นก็แค่พอซ้อมมือโชว์กราฟฟิกอลังแบบขำๆ ไม่มีอะไรมาก โดยเราสามารถเรียนรู้ได้จาก Tutorial ไปได้เรื่อยๆเลย แม้แต่คนที่ไม่เคยเล่นเกมก็น่าจะเข้าใจได้ง่ายๆครับ ทำตามไปเรื่อยๆจนถึงลำดับที่สามารถต่อสู้ด้วยระบบ Auto ได้ เท่านี้ก็นอนเล่นสบายๆละครับ ไม่ต้องเคร่งกันละ
ระบบการเล่นขอบอกว่าเข้าใจง่ายตรงไปตรงมา และยิ่งเป็นภาษาไทยก็ยิ่งง่ายต่อการเข้าใจในการอ่าน Skill, Item ไปกันใหญ่ อันนี้บอกเลยว่าค่อนข้างเอื้อกับคนที่เพิ่งหัดเล่นแนวทางนี้ครับ เนื่องด้วยการรับอิทธิพลจากเกมยุคใหม่มาหลายๆทาง ทำให้ KOF’98 ทำการบ้านเรื่องระบบมาได้สมบูรณ์พอสมควร ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องในการสื่อสารเลย รวมถึงระบบ Autoplay Speed x 2 ที่ค่อนข้างฉลาด ทำให้สามารถละสายตาได้ตลอดการผลาญ Energy (ในกรณีบางครั้งเราอาจไม่ว่างมาใส่ใจเกมมากนักในชีวิตประจำวัน เราก็ยังไว้ใจโหมดต่อสู้อัตโนมัติของเกมนี้ได้)
ความประทับใจโดยรวมใน 3 ชั่วโมงแรก ผมว่าควรค่าที่จะเล่นต่อไปในอนาคต และที่ไม่พูดถึงไม่ได้จริงๆคือเพชรในเกม (ที่สามารถใช้เงินจริงซื้อได้) ดรอปบ่อยมากกกกกกก ไม่ว่าจะจากการเล่นโหมดเนื้อเรื่อง, เควส, กิจกรรม เอะอะคือแจกเพชรกระจุยกระจาย ทำให้เราได้โอกาสในการ “สุ่มตัวละครดีๆ” ได้บ่อยตลอดการเล่นโดยที่ยังไม่ได้เติมเงินด้วยซ้ำ
รวมๆแล้วก็เป็นเกมจัดทีมต่อสู้ 6 คนที่ได้มาตรฐานระดับ 4 ดาวขึ้นไป ได้แต่หวังว่าตอนเปิดอย่างเป็นทางการจะสามารถเล่นได้เสถียรกับทุกอุปกรณ์ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียลูกค้าและแฟนๆที่อยากสัมผัส มันน่าจะดีถ้าชวนเพื่อนในยุค Old school มาเล่นด้วยกันก็น่าจะไม่เลว และการ Sync ผ่านไอดี LINE ก็ทำให้การสมัครสมาชิกไม่ยุ่งยากอย่างที่รู้ๆกันนั่นล่ะครับ แต่ทั้งนี้จะให้ดีที่สุดคือหยิบมือถือมาลองเล่นกันเลยดีกว่า สิบปากว่าไม่เท่าลองเองครับผม
สรุป
ข้อดี:
- เกมกินสเปคน้อย ไม่ต้องเครื่องแรงมากก็เล่นได้สบายๆ ในสไตล์ 2D Action
- รักษาคาแรคเตอร์ และความสัมพันธ์ของตัวละครไว้ได้ดีในการใช้ Dialog คำพูดต่างๆใน Event รวมถึงการแปลที่ค่อนข้างได้มาตรฐานที่ดี รวมถึงมุกตลกที่ฮาใช้ได้
- การใช้ Sound effect แบบดั้งเดิม โดยเฉพาะการปล่อยท่า (Skill) มันจะได้อรรถรสความ Old School ก็ตรงนี้แหละครับท่านผู้ชม
- ผู้เล่นใหม่สามารถเข้าใจได้ง่ายมาก
- เพชรดรอปบ่อย จนผู้เล่นฟรีสามารถเล่นได้อย่างราบลื่นโดยไม่ลำบากนัก
- ระบบต่อสู้มีครบทุกองค์ประกอบ เช่น เนื้อเรื่อง, เควส, กิจกรรม, PVP เรียกว่ามีครบทุกมุมที่คนเล่นเกมมือถือนิยมนั่นล่ะ
- Sync ผ่านไอดี LINE ไม่ว่าจะย้ายเครื่องแค่ไหนก็สามารถล็อกอินได้ด้วยข้อมูลเดิม (Cloud Save)
ข้อเสีย:
- มันไม่ใช่ระบบ KOF ดั้งเดิมที่แฟนๆคลาสสิกเคยรู้จัก โดยถ้าหากต้องการความเร้าใจของการควงจอยสู้ล่ะก็ ภาคนี้ไม่ใช่คำตอบครับ
- Background music ไม่ใช่เพลงดั้งเดิมอย่างน่าเสียดาย แต่กลับเป็นกลิ่นสไตล์ร็อค 16 Bit แทน
- Dialog บางส่วนก็ค่อนข้างติดเรท หรือใช้คำพูดไม่เหมาะสม เช่น เรียกการเรียกสรรพนามตัวละครที่คนพูดนับถือด้วยคำว่า “แก” ทั้งๆที่ควรเรียกว่า “คุณ” หรือแม้แต่การใช้คำเรียก “หน้าอก” เป็น “นม” เลย เป็นต้น
- ตัวหนังสือตกบรรทัดไปบ้าง พิมพ์ผิดบ้างในบาง Dialog
ทั้งหมดที่เล่าไปเป็นเพียงคำแนะนำผ่านความคิดเห็นของผม ซึ่งแฟน KOF ยุคแรกๆคนนึงเท่านั้น หากผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ยังยืนยันครับว่าเป็นเกมที่ทุกๆคนควรใช้เวลากับมันจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเก๋าหรือเด็กรุ่นใหม่ อย่างน้อยที่สุดคุณก็ได้ฮากับ Dialog ที่ตัวละครคุยบัฟใส่กันนั่นล่ะนะ (ฮา)
ปล. ล่าสุดเห็นตาเอก Heartrocker ก็เล่นนะ แวะไปดูกันได้ที่ชาแนลเขาเลย
ขอบคุณคำแนะนำจาก:
https://www.facebook.com/fightinggameclubthailand/
[SR] การกลับมาครั้งใหม่ของ KOF'98 ในตำนานฉบับเกมมือถือ!! (2016)
KOF’98 ฉบับดั้งเดิม (ใครที่รู้จักดีอยู่แล้ว สามารถข้ามไปอ่านหัวข้อถัดไปได้เลยครับ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
KOF’98 Ultimate Match Online (2016)
ก่อนหน้านี้ KOF พยายามที่จะตะบี้ตะบันให้ KOF กลับมาเกิดใหม่อีกครั้งด้วยการนำตัวละครหลักของซีรีส์ไปใส่ Gameplay ใหม่ๆให้เข้ากับยุค แต่ก็ไม่นึกว่าครั้งนึงจะเลยเถิดไปถึงฉบับ MOBA ณ ตอนนั้นผมนี่ถึงกับร้อง Helloooo แน่ใจนะว่าเกมเมอร์ยุคใหม่ต้องการยังงั้น? ปวดตับจริงๆ ส่วนไอ้ที่พอจะคาดหวังได้ในซีรีส์ KOF ก็คงจะเป็นการพอร์ทเกมฉบับดั้งเดิมมายัง Platform มือถือนั่นแหละครับ แต่ผมก็แนะนำว่าควรหาจอย Bluetooth มาเสริมซักหน่อยก็น่าจะดีนะ ควงด้วยการ Touch มันก็กะไรอยู่…
จนกระทั่งข่าวการมาของ KOF’98 ที่ผมขอเรียกมันว่าเป็นฉบับ 2016 แล้วกันนะครับ (เวอร์ชั่นแรกที่เห็นคือฉบับเกาหลี ร่วมกับ Kakao) โดยซีรีส์นี้กลับมาในรูปแบบ Turn-based Action ประเภท “จัดทีม 6 คน” ที่สร้างความเซอร์ไพรซ์ให้ผมประมาณนึง คือล้มล้างยุคแห่งการควงจอยในแบบดั้งเดิม ให้เป็นการกดปุ่ม Skill แทน เฮ้ย?! แล้วอรรถรสการเล่น KOF มันจะไปอยู่ตรงไหน? ถ้าคุณนึกภาพไม่ออก เราจะอ้างอิงว่าประมาณ KOF’98 ในฉบับที่เป็น Gameplay ยุคใหม่สไตล์ One Piece: Treasure Cruise, Brave Frontier โดยประมาณ ใครเคยเล่นเกมแนวนี้น่าจะเริ่มต้นได้ไม่ยาก และผมก็รอคอยอย่างมีความหวังว่านอกจากเวอร์ชั่นเกาหลีแล้วก็ควรจะมีเวอร์ชั่นที่ผมอ่านออกบ้าง (English ก็พอใจแล้ว)
ไม่นานนักในระหว่างที่กระแส Overwatch นั้นหนักมาก ข่าวเรื่อง KOF’98 ก็แว๊บเข้ามาซักที แต่ไม่ใช่ฉบับ English ที่ผมคาดหวัง หากแต่เป็นภาษาไทย!! บอกตรงๆว่าสองจิตสองใจครับ เพราะเราไม่รู้สูญเสียกันไปเท่าไหร่แล้วกับคำว่า “แปลไทย” ไม่ว่าจะเป็นความไว้ใจเรื่องภาษาที่อ่านแล้วลื่นไหล หรือแม้แต่การดูแลรักษาระบบที่ดีพอ ผมเชื่อว่าเกมออนไลน์ใดๆก็ตามที่นำเข้ามาในไทยแล้วดูแล 2 อย่างนี้ดี ผู้เล่นก็จะครึกครื้นตามไปด้วยแน่นอน และสิ่งที่ผมไม่ค่อยได้รับ ก็เกิดขึ้นกับผมแล้ว!! นั่นก็คือ!! สิทธิในการ Test ก่อนใครนั่นเอง!! (ก่อนเกมเปิดตัวในวันที่ 21/6/16)
เปิดเกมมา ได้พบเจอกับตัวละครที่คุ้นตาทั้งนั้นครับ และ Intro ก็แสนจะคุ้นเคยเช่นกัน (Spoil: เป็นซีนจบภาค KOF’97 เพื่อส่งต่อไปยังวิถีของ KOF’98 ต่อไป) แต่นั้นก็แค่พอซ้อมมือโชว์กราฟฟิกอลังแบบขำๆ ไม่มีอะไรมาก โดยเราสามารถเรียนรู้ได้จาก Tutorial ไปได้เรื่อยๆเลย แม้แต่คนที่ไม่เคยเล่นเกมก็น่าจะเข้าใจได้ง่ายๆครับ ทำตามไปเรื่อยๆจนถึงลำดับที่สามารถต่อสู้ด้วยระบบ Auto ได้ เท่านี้ก็นอนเล่นสบายๆละครับ ไม่ต้องเคร่งกันละ
ระบบการเล่นขอบอกว่าเข้าใจง่ายตรงไปตรงมา และยิ่งเป็นภาษาไทยก็ยิ่งง่ายต่อการเข้าใจในการอ่าน Skill, Item ไปกันใหญ่ อันนี้บอกเลยว่าค่อนข้างเอื้อกับคนที่เพิ่งหัดเล่นแนวทางนี้ครับ เนื่องด้วยการรับอิทธิพลจากเกมยุคใหม่มาหลายๆทาง ทำให้ KOF’98 ทำการบ้านเรื่องระบบมาได้สมบูรณ์พอสมควร ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องในการสื่อสารเลย รวมถึงระบบ Autoplay Speed x 2 ที่ค่อนข้างฉลาด ทำให้สามารถละสายตาได้ตลอดการผลาญ Energy (ในกรณีบางครั้งเราอาจไม่ว่างมาใส่ใจเกมมากนักในชีวิตประจำวัน เราก็ยังไว้ใจโหมดต่อสู้อัตโนมัติของเกมนี้ได้)
ความประทับใจโดยรวมใน 3 ชั่วโมงแรก ผมว่าควรค่าที่จะเล่นต่อไปในอนาคต และที่ไม่พูดถึงไม่ได้จริงๆคือเพชรในเกม (ที่สามารถใช้เงินจริงซื้อได้) ดรอปบ่อยมากกกกกกก ไม่ว่าจะจากการเล่นโหมดเนื้อเรื่อง, เควส, กิจกรรม เอะอะคือแจกเพชรกระจุยกระจาย ทำให้เราได้โอกาสในการ “สุ่มตัวละครดีๆ” ได้บ่อยตลอดการเล่นโดยที่ยังไม่ได้เติมเงินด้วยซ้ำ
รวมๆแล้วก็เป็นเกมจัดทีมต่อสู้ 6 คนที่ได้มาตรฐานระดับ 4 ดาวขึ้นไป ได้แต่หวังว่าตอนเปิดอย่างเป็นทางการจะสามารถเล่นได้เสถียรกับทุกอุปกรณ์ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียลูกค้าและแฟนๆที่อยากสัมผัส มันน่าจะดีถ้าชวนเพื่อนในยุค Old school มาเล่นด้วยกันก็น่าจะไม่เลว และการ Sync ผ่านไอดี LINE ก็ทำให้การสมัครสมาชิกไม่ยุ่งยากอย่างที่รู้ๆกันนั่นล่ะครับ แต่ทั้งนี้จะให้ดีที่สุดคือหยิบมือถือมาลองเล่นกันเลยดีกว่า สิบปากว่าไม่เท่าลองเองครับผม
สรุป
ข้อดี:
- เกมกินสเปคน้อย ไม่ต้องเครื่องแรงมากก็เล่นได้สบายๆ ในสไตล์ 2D Action
- รักษาคาแรคเตอร์ และความสัมพันธ์ของตัวละครไว้ได้ดีในการใช้ Dialog คำพูดต่างๆใน Event รวมถึงการแปลที่ค่อนข้างได้มาตรฐานที่ดี รวมถึงมุกตลกที่ฮาใช้ได้
- การใช้ Sound effect แบบดั้งเดิม โดยเฉพาะการปล่อยท่า (Skill) มันจะได้อรรถรสความ Old School ก็ตรงนี้แหละครับท่านผู้ชม
- ผู้เล่นใหม่สามารถเข้าใจได้ง่ายมาก
- เพชรดรอปบ่อย จนผู้เล่นฟรีสามารถเล่นได้อย่างราบลื่นโดยไม่ลำบากนัก
- ระบบต่อสู้มีครบทุกองค์ประกอบ เช่น เนื้อเรื่อง, เควส, กิจกรรม, PVP เรียกว่ามีครบทุกมุมที่คนเล่นเกมมือถือนิยมนั่นล่ะ
- Sync ผ่านไอดี LINE ไม่ว่าจะย้ายเครื่องแค่ไหนก็สามารถล็อกอินได้ด้วยข้อมูลเดิม (Cloud Save)
ข้อเสีย:
- มันไม่ใช่ระบบ KOF ดั้งเดิมที่แฟนๆคลาสสิกเคยรู้จัก โดยถ้าหากต้องการความเร้าใจของการควงจอยสู้ล่ะก็ ภาคนี้ไม่ใช่คำตอบครับ
- Background music ไม่ใช่เพลงดั้งเดิมอย่างน่าเสียดาย แต่กลับเป็นกลิ่นสไตล์ร็อค 16 Bit แทน
- Dialog บางส่วนก็ค่อนข้างติดเรท หรือใช้คำพูดไม่เหมาะสม เช่น เรียกการเรียกสรรพนามตัวละครที่คนพูดนับถือด้วยคำว่า “แก” ทั้งๆที่ควรเรียกว่า “คุณ” หรือแม้แต่การใช้คำเรียก “หน้าอก” เป็น “นม” เลย เป็นต้น
- ตัวหนังสือตกบรรทัดไปบ้าง พิมพ์ผิดบ้างในบาง Dialog
ทั้งหมดที่เล่าไปเป็นเพียงคำแนะนำผ่านความคิดเห็นของผม ซึ่งแฟน KOF ยุคแรกๆคนนึงเท่านั้น หากผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ยังยืนยันครับว่าเป็นเกมที่ทุกๆคนควรใช้เวลากับมันจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเก๋าหรือเด็กรุ่นใหม่ อย่างน้อยที่สุดคุณก็ได้ฮากับ Dialog ที่ตัวละครคุยบัฟใส่กันนั่นล่ะนะ (ฮา)
ปล. ล่าสุดเห็นตาเอก Heartrocker ก็เล่นนะ แวะไปดูกันได้ที่ชาแนลเขาเลย
ขอบคุณคำแนะนำจาก: https://www.facebook.com/fightinggameclubthailand/