สวัสดีค่ะ วันนี้มาขอแชร์ประสบการณ์ตลกร้ายของการเป็นสาวแว่นที่เกิดขึ้นกับตัวจนทนไม่ไหว เลยหันมาใส่คอนแทคเลนส์แทน เผื่อเพื่อนๆ มนุษย์แว่นที่รำคาญ หรือมีปัญหากับแว่นตา แต่ยังกล้าๆ กลัวๆ ที่จะใส่คอนแทคเลนส์ จะมองเห็นประโยชน์ของมันมากขึ้น (รึป่าว55+) แล้วลองมาใส่เหมือนกันบ้า
เพราะแต่ก่อนเราก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบการใส่คอนแทค กว่าจะใส่ได้เป็นชั่วโมง น้ำตานองหน้า แถมเคืองตาแสบตา พอกะพริบตาแล้วคอนแทคก็ชอบเลื่อนจากตาดำต้องกะพริบปรับโฟกัสบ่อยๆ
แต่! เพราะ 5 เหตุนี้แหละ ที่ทำให้เราต้องเปลี่ยนใจ
1. เจ็บบริเวณกกหูกับจมูก เป็นรอยช้ำบ่อย และสิว
น่าจะเพราะเลือกกรอบมาไม่ดีและเลนส์แว่นหนัก เลยไม่สมดุลกัน (เราสายตา 2 ข้างไม่เท่ากัน +เอียงไม่เท่ากัน) คืออาการเจ็บยังพอทนได้ แต่สิวที่ขึ้นแล้วขึ้นอีกไม่หายตรงจมูกนี่สิ ตรงที่แป้นมันทิ้งตัวอยู่ทั้งวันเนี่ยย พอใส่แว่นทับก็ยิ่งเจ็บ เคืองจริงจัง!
2. ออกกำลังกายลำบาก ต้องคอยดันแว่น
เราเล่นโยคะ เต้นอาราบิคตามคลิป กับไปวิ่งบ้างค่ะ เพราะชอบปวดเข่า ซึ่งเวลาเล่นโยคะหรือเต้นจะมีท่าก้มๆ เงยๆ นั่ง นอน แว่นก็เลื่อนจะหลุดบ่อยๆ โดยเฉพาะท่า downward facing dog ถ้าจะถอดแว่นก็มองไม่เห็นว่าครูทำท่าอะไรยังไง ลำบากมาก ตอนวิ่งก็เหมือนกัน พอวิ่งไปนานๆ เหงื่อบริเวณจมูกออก หน้ามัน แว่นก็ชอบเลื่อนตกลงมาปลายจมูก มองทางลำบาก พอใส่คอนแทคเลนส์แล้วก็สบ๊ายยย ขยับตัวสะดวกดี แถมมองชัดแจ่มแจ๋วทุกท่า
เครดิตภาพ:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.beautytipslife.com/yoga/yoga-poses-to-tone-your-whole-body
ปล. โยคะร้อนก็เล่นได้นะ คอนแทคไม่ละลายติดตา แต่เรายังไม่เคยใส่เข้าห้องซาวน่านะคะ ไม่ชอบด้วยเดี๋ยวรูขุมขนกว้าง ฮ่าๆ ไม่รู้ว่าใส่เข้าได้ไหม ใครพอจะรู้หรือมีข้อมูลช่วยบอกเพิ่มเติมหน่อยนะคะ
3. อยากจัดเต็ม แต่งหน้า สลัดคราบสาวแว่นบ้าง
ถ้าต้องออกงาน ไปเที่ยว ไปเจอเพื่อน งานนี้ยอมกันไม่ได้ค่ะ สวยฆ่าใครได้ ฆ่า! แต่เวลาแต่งหน้าสำหรับคนสายตาสั้นแบบเราต้องมองกระจกใกล้มาก เวลาหลับตา หรี่ตาเพื่อกรีดอายไลเนอร์ ปาดอายแชร์โดว์ เขียนคิ้ว โอ้โห ลุ้นสุด เบลอจน...
แต่พอใส่คอนแทคเลนส์แล้วช่วยเราได้ (ใส่ก่อนแต่งหน้านะ) จะติดขนตาปลอมเด้งขนาดไหน ทาอายแชร์โดว์สวยๆ ก็ไม่ติดแว่น แว่นไม่บังด้วย (อุตส่าห์ทาถูปัดตั้งนาน จะให้แว่นมาบังได้ไง)
เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศก็พกแว่นกับคอนแทค เผื่อถ่ายรูปสวยๆ ช่วงเช้า สำหรับทริปชิลๆ ที่ไม่ใช่เดินเขา เผากระท่อม ล่องแก่ง เพราะว่า ใส่คอนแทคลงน้ำไม่ได้จ้า!!! เดี๋ยวตาติดเชื้อ หมอบอกว่าให้ตัดแว่นว่ายน้ำสายตาปลอดภัยกว่า ซึ่ง ณ จุดนี้ เคยไปเดินสำรวจราคาที่เซนทรัลมาแล้ว ค่าสายตามีให้เลือกน้อย ราคาก็แพงเอาเรื่องอยู่ ถ้าใครชอบและอยากเล่นกีฬาทางน้ำมากๆ ก็ลองไปหาดูนะคะ
4. ไปคอนฯ แอนด์มีตติ้งโอป้า หน้าต้องเป๊ะ! ต้องเห็นชัด!
เปย์ทั้งที งานนี้ขอเห็นชัดๆ! การได้เห็นหน้า เห็น movement ของวงที่เราชอบแบบชัดๆ เป็นอะไรที่ฟินมากค่ะ เต้นตามได้แบบไม่ต้องกลัวแว่นตกให้คนเหยียบซ้ำเมื่อลงหลุมด้วย (หลุม คือ โซนยืนใกล้เวที)
โดยเราจะใช้คอนแทคเลนส์แบบ one day ชุ่มชื่นดีค่ะ เพราะกลัวตาแห้ง ไม่ต้องหยิบน้ำตาเทียมมาหยอดกลางงาน และดีตรงใส่แล้วทิ้งได้เลย พอเหงื่อไหลก็ไม่ต้องคอยดันแว่นที่สไลด์ตัวลงจากดั้ง...ที่ไม่ค่อยจะมี แถมเวลาโอป้าเดินผ่านก็ไม่มีกรอบแว่นบัง แอบถ่ายรูปสะดวกด้วย ไม่ติด viewfinder คราบมันบนหน้าก็ไม่ติดแว่นเวลาเอาหน้าจ่อกล้อง
ที่สำคัญ! ไม่มีคราบรองพื้นตรงจมูกพอหน้าเปื่อย (มันดูซกมก) ต้องสวยค่ะ! ยิ่งได้สิทธิ์ไฮทัช หรือถ่ายรูป ยิ่งต้องพร้อม
5. สุดท้าย...ไม่ได้ไม่ชอบใส่แว่นตา
แต่พอใส่คอนแทคเลนส์แล้ว เราทำหลายอย่างที่ชอบสบายขึ้น เต้น ออกกำลังกายสะดวก ไม่ต้องซ้อนแว่นตอนดูหนัง 3D เต็มที่กับคอนเสิร์ตโอป้า เล่นเกมห้อยโหน กระโดดได้ บางวันก็ใส่คอนแทคเลนส์สีเปลี่ยนลุคเล่นๆ ได้ลองเปลี่ยนสไตล์ตัวเองในหลายๆ มุม สนุกดี
ครบแล้วค่ะ 5 ข้อที่ทำให้เราเปลี่ยนมาใส่คอนแทคเลนส์ ขอบคุณมากๆ สำหรับคนที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ เชื่อว่าคนที่มีปัญหาทางสายตาเหมือนเราน่าจะเคยเจอเหตุการณ์เฟลๆ แบบเดียวกัน เราแนะนำคอนแทคเลนส์ให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งค่ะ
ฝากอีกนิดว่า ก่อนจะเลือกซื้อคอนแทคเลนส์ ต้องไปวัดสายตาและวัดค่า BC ด้วยนะคะ เพราะค่าสายตาที่ใช้ตัดแว่นกับคอนแทคเลนส์มีส่วนต่างนิดนึงค่ะ หมอบอกว่าเพราะคอนแทคมันสัมผัสกับกระจกตาโดยตรงไม่เหมือนแว่น เลยต้องมีการปรับระยะต่างๆ ให้เหมาะสม ไม่งั้นใส่แล้วจะเคืองตา ปวดหัว เวียนหัวได้
เอ้า! บางคนอาจจะงง BC มันคืออะไร? นี่ก็ไม่เคยรู้มาก่อนเหมือนกันค่ะ ไปร้านแว่นทีไร รู้แต่สั้นเท่านั้น เอียงเท่านี้ จบ!
แต่ค่า BC นี่แหละตัวสำคัญ!
*BC (Base Curve Lens) มันคือ ‘ความโค้งกระจกตา’ ค่ะ แต่ละคนมีความโค้งกระจกตาไม่เท่ากันนะ ตาตี่ใช่ว่าจะต้องใส่คอนแทคเลนส์ที่ BC เล็กเสมอไป
ส่วนคนที่กลัวตอนใส่ กลัวจิ้มตาตัวเอง กลัวตาติดเชื้อ อย่ากลัวเลยค่ะ ถ้ารักษาความสะอาดดีๆ ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว อีกอย่างพอใส่บ่อยๆ เดี๋ยวก็เก่ง เดี๋ยวก็ชิน ของแบบนี้อยู่ที่การฝึกฝน ฮ่าๆ
จบจริงจังแล้ว
ปล. ยี่ห้อไหนดี ลองให้ร้านแว่นแนะนำ หรือใส่จนกว่าจะเจอตัวที่ใช่ด้วยตัวเองดีที่สุดน้า
ความในใจจากคนที่ (เคย) ไม่กล้าใส่คอนแทคเลนส์ กับ 5 เหตุผลที่ทำให้เปลี่ยนใจ!
เพราะแต่ก่อนเราก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบการใส่คอนแทค กว่าจะใส่ได้เป็นชั่วโมง น้ำตานองหน้า แถมเคืองตาแสบตา พอกะพริบตาแล้วคอนแทคก็ชอบเลื่อนจากตาดำต้องกะพริบปรับโฟกัสบ่อยๆ
แต่! เพราะ 5 เหตุนี้แหละ ที่ทำให้เราต้องเปลี่ยนใจ
1. เจ็บบริเวณกกหูกับจมูก เป็นรอยช้ำบ่อย และสิว
น่าจะเพราะเลือกกรอบมาไม่ดีและเลนส์แว่นหนัก เลยไม่สมดุลกัน (เราสายตา 2 ข้างไม่เท่ากัน +เอียงไม่เท่ากัน) คืออาการเจ็บยังพอทนได้ แต่สิวที่ขึ้นแล้วขึ้นอีกไม่หายตรงจมูกนี่สิ ตรงที่แป้นมันทิ้งตัวอยู่ทั้งวันเนี่ยย พอใส่แว่นทับก็ยิ่งเจ็บ เคืองจริงจัง!
2. ออกกำลังกายลำบาก ต้องคอยดันแว่น
เราเล่นโยคะ เต้นอาราบิคตามคลิป กับไปวิ่งบ้างค่ะ เพราะชอบปวดเข่า ซึ่งเวลาเล่นโยคะหรือเต้นจะมีท่าก้มๆ เงยๆ นั่ง นอน แว่นก็เลื่อนจะหลุดบ่อยๆ โดยเฉพาะท่า downward facing dog ถ้าจะถอดแว่นก็มองไม่เห็นว่าครูทำท่าอะไรยังไง ลำบากมาก ตอนวิ่งก็เหมือนกัน พอวิ่งไปนานๆ เหงื่อบริเวณจมูกออก หน้ามัน แว่นก็ชอบเลื่อนตกลงมาปลายจมูก มองทางลำบาก พอใส่คอนแทคเลนส์แล้วก็สบ๊ายยย ขยับตัวสะดวกดี แถมมองชัดแจ่มแจ๋วทุกท่า
เครดิตภาพ:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปล. โยคะร้อนก็เล่นได้นะ คอนแทคไม่ละลายติดตา แต่เรายังไม่เคยใส่เข้าห้องซาวน่านะคะ ไม่ชอบด้วยเดี๋ยวรูขุมขนกว้าง ฮ่าๆ ไม่รู้ว่าใส่เข้าได้ไหม ใครพอจะรู้หรือมีข้อมูลช่วยบอกเพิ่มเติมหน่อยนะคะ
3. อยากจัดเต็ม แต่งหน้า สลัดคราบสาวแว่นบ้าง
ถ้าต้องออกงาน ไปเที่ยว ไปเจอเพื่อน งานนี้ยอมกันไม่ได้ค่ะ สวยฆ่าใครได้ ฆ่า! แต่เวลาแต่งหน้าสำหรับคนสายตาสั้นแบบเราต้องมองกระจกใกล้มาก เวลาหลับตา หรี่ตาเพื่อกรีดอายไลเนอร์ ปาดอายแชร์โดว์ เขียนคิ้ว โอ้โห ลุ้นสุด เบลอจน...
แต่พอใส่คอนแทคเลนส์แล้วช่วยเราได้ (ใส่ก่อนแต่งหน้านะ) จะติดขนตาปลอมเด้งขนาดไหน ทาอายแชร์โดว์สวยๆ ก็ไม่ติดแว่น แว่นไม่บังด้วย (อุตส่าห์ทาถูปัดตั้งนาน จะให้แว่นมาบังได้ไง)
เวลาไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศก็พกแว่นกับคอนแทค เผื่อถ่ายรูปสวยๆ ช่วงเช้า สำหรับทริปชิลๆ ที่ไม่ใช่เดินเขา เผากระท่อม ล่องแก่ง เพราะว่า ใส่คอนแทคลงน้ำไม่ได้จ้า!!! เดี๋ยวตาติดเชื้อ หมอบอกว่าให้ตัดแว่นว่ายน้ำสายตาปลอดภัยกว่า ซึ่ง ณ จุดนี้ เคยไปเดินสำรวจราคาที่เซนทรัลมาแล้ว ค่าสายตามีให้เลือกน้อย ราคาก็แพงเอาเรื่องอยู่ ถ้าใครชอบและอยากเล่นกีฬาทางน้ำมากๆ ก็ลองไปหาดูนะคะ
4. ไปคอนฯ แอนด์มีตติ้งโอป้า หน้าต้องเป๊ะ! ต้องเห็นชัด!
เปย์ทั้งที งานนี้ขอเห็นชัดๆ! การได้เห็นหน้า เห็น movement ของวงที่เราชอบแบบชัดๆ เป็นอะไรที่ฟินมากค่ะ เต้นตามได้แบบไม่ต้องกลัวแว่นตกให้คนเหยียบซ้ำเมื่อลงหลุมด้วย (หลุม คือ โซนยืนใกล้เวที)
โดยเราจะใช้คอนแทคเลนส์แบบ one day ชุ่มชื่นดีค่ะ เพราะกลัวตาแห้ง ไม่ต้องหยิบน้ำตาเทียมมาหยอดกลางงาน และดีตรงใส่แล้วทิ้งได้เลย พอเหงื่อไหลก็ไม่ต้องคอยดันแว่นที่สไลด์ตัวลงจากดั้ง...ที่ไม่ค่อยจะมี แถมเวลาโอป้าเดินผ่านก็ไม่มีกรอบแว่นบัง แอบถ่ายรูปสะดวกด้วย ไม่ติด viewfinder คราบมันบนหน้าก็ไม่ติดแว่นเวลาเอาหน้าจ่อกล้อง
ที่สำคัญ! ไม่มีคราบรองพื้นตรงจมูกพอหน้าเปื่อย (มันดูซกมก) ต้องสวยค่ะ! ยิ่งได้สิทธิ์ไฮทัช หรือถ่ายรูป ยิ่งต้องพร้อม
5. สุดท้าย...ไม่ได้ไม่ชอบใส่แว่นตา
แต่พอใส่คอนแทคเลนส์แล้ว เราทำหลายอย่างที่ชอบสบายขึ้น เต้น ออกกำลังกายสะดวก ไม่ต้องซ้อนแว่นตอนดูหนัง 3D เต็มที่กับคอนเสิร์ตโอป้า เล่นเกมห้อยโหน กระโดดได้ บางวันก็ใส่คอนแทคเลนส์สีเปลี่ยนลุคเล่นๆ ได้ลองเปลี่ยนสไตล์ตัวเองในหลายๆ มุม สนุกดี
ครบแล้วค่ะ 5 ข้อที่ทำให้เราเปลี่ยนมาใส่คอนแทคเลนส์ ขอบคุณมากๆ สำหรับคนที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ เชื่อว่าคนที่มีปัญหาทางสายตาเหมือนเราน่าจะเคยเจอเหตุการณ์เฟลๆ แบบเดียวกัน เราแนะนำคอนแทคเลนส์ให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งค่ะ
ฝากอีกนิดว่า ก่อนจะเลือกซื้อคอนแทคเลนส์ ต้องไปวัดสายตาและวัดค่า BC ด้วยนะคะ เพราะค่าสายตาที่ใช้ตัดแว่นกับคอนแทคเลนส์มีส่วนต่างนิดนึงค่ะ หมอบอกว่าเพราะคอนแทคมันสัมผัสกับกระจกตาโดยตรงไม่เหมือนแว่น เลยต้องมีการปรับระยะต่างๆ ให้เหมาะสม ไม่งั้นใส่แล้วจะเคืองตา ปวดหัว เวียนหัวได้
เอ้า! บางคนอาจจะงง BC มันคืออะไร? นี่ก็ไม่เคยรู้มาก่อนเหมือนกันค่ะ ไปร้านแว่นทีไร รู้แต่สั้นเท่านั้น เอียงเท่านี้ จบ!
แต่ค่า BC นี่แหละตัวสำคัญ!
*BC (Base Curve Lens) มันคือ ‘ความโค้งกระจกตา’ ค่ะ แต่ละคนมีความโค้งกระจกตาไม่เท่ากันนะ ตาตี่ใช่ว่าจะต้องใส่คอนแทคเลนส์ที่ BC เล็กเสมอไป
ส่วนคนที่กลัวตอนใส่ กลัวจิ้มตาตัวเอง กลัวตาติดเชื้อ อย่ากลัวเลยค่ะ ถ้ารักษาความสะอาดดีๆ ก็ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว อีกอย่างพอใส่บ่อยๆ เดี๋ยวก็เก่ง เดี๋ยวก็ชิน ของแบบนี้อยู่ที่การฝึกฝน ฮ่าๆ
จบจริงจังแล้ว
ปล. ยี่ห้อไหนดี ลองให้ร้านแว่นแนะนำ หรือใส่จนกว่าจะเจอตัวที่ใช่ด้วยตัวเองดีที่สุดน้า