เจ้าของเมาขว้างลูกสุนัขใส่กำแพง จนตาบอด-ขาพิการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (22 มิ.ย.) ได้รับแจ้งว่ามีสุนัขพันธ์ปอมเมอเรเนียน เพศผู้ วัย 8 เดือน อยู่ในอาการหวาดระแวง ไม่กล้าอยู่ใกล้คน หลังจากถูกเจ้าของใจร้ายทำร้ายอย่างรุนแรง แต่โชคดีที่ถูกนำตัวไปให้มูลนิธิอนุรักษ์สัตว์ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ช่วยเหลือดูแล แต่ก็พบว่าผลจากการถูกทำร้าย ทำให้ลูกสุนัขตัวนี้ตาบอดทั้งสองข้างและขาหลังผิดรูป ต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ด้วยความบอบช้ำในสภาพสุนัขพิการ
จากการสอบถาม นางแสงเดือน ชัยเลิศ ประธานมูลนิธิอนุรักษ์สัตว์ภาคเหนือ เปิดเผยว่า ราว 2 สัปดาห์ก่อน มีแม่บ้านคนหนึ่งได้อุ้มลูกสุนัขตัวนี้มาให้ใน สภาพบาดเจ็บร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดและหวาดระแวง
เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ จึงรีบนำส่งให้กับสัตวแพทย์ทำการรักษาและตรวจทันที ผลการตรวจพบว่าประสาทตาของลูกสุนัขนั้น ได้รับการกระแทกอย่างรุนแรงทำให้ตาทั้งสองบอดสนิท และขาหลังนั้นผิดรูป โดยสัตว์แพทย์ของมูลนิธิฯได้ทำการรักษาจนอาการดีขึ้นตามลำดับ
จากการสอบถาม แม่บ้านที่นำสุนัขมาให้ ทราบว่า เจ้าของลูกสุนัขได้ไปซื้อลูกสุนัขพันธุ์ดังกล่าวมาเลี้ยงไว้ที่บ้าน ก่อนเกิดเหตุเจ้าของได้เมาสุราเข้าบ้านด้วยอารมณ์หงุดหงิด เมื่อลูกสุนัขเห็นเจ้าของก็วิ่งเข้าไปเล่นด้วย
แต่ปรากฏว่าเจ้าของหงุดหงิดจับสุนัขขว้างไปจนติดกำแพงบ้าน และยังจับโยนตกลงพื้นอีกหลายครั้งจนแน่นิ่ง ก่อนจะเรียกให้แม่บ้านนำร่างลูกสุนัขไปทิ้งน้ำหรือขยะ เพราะคิดว่าลูกสุนัขคงตายไปแล้ว
แม่บ้าน เล่าให้ฟังอีกว่า ได้เข้ามาดูพบว่าลูกสุนัขยังหายใจรวยระรินอยู่ ตายังลืมอย่างน่าเวทนาจึงได้ตัดสินใจอุ้มลูกสุนัขมาหามูลนิธิฯ หวังช่วยชีวิต สำหรับสุนัขตัวนี้แม้ล่าสุดอาการดีขึ้น แต่ก็เดินไม่สะดวก ตาทั้งสองบอดสนิทและหวาดระแวง ไม่กล้าให้ใครเข้าใกล้ หากไปอุ้มหรือจับก็จะดิ้นเพื่อให้หลุดพ้นด้วยความกลัว
ทั้งนี้ นางแสงเดือน ฝากเตือนคนที่คิดจะเลี้ยงสุนัขขอให้เลี้ยงด้วยความรัก พร้อมบอกด้วยว่าการทำร้ายและทารุณสัตว์มีความผิดตามกฎหมาย แม้เป็นเจ้าของก็มีความผิด
Cr.
http://news.sanook.com/2016890/
อ่านแล้วก็อยากจะร้องไห้ทำไมเจ้าของถึงได้โหดร้ายกับน้องขนาดนี้ ถ้าวุฒิภาวะไม่พร้อมเลี้ยงน้องก็ไม่น่าซื้อมาเลี้ยงเลย
อ่านข่าวนี้แล้วจะร้องไห้ T_T
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (22 มิ.ย.) ได้รับแจ้งว่ามีสุนัขพันธ์ปอมเมอเรเนียน เพศผู้ วัย 8 เดือน อยู่ในอาการหวาดระแวง ไม่กล้าอยู่ใกล้คน หลังจากถูกเจ้าของใจร้ายทำร้ายอย่างรุนแรง แต่โชคดีที่ถูกนำตัวไปให้มูลนิธิอนุรักษ์สัตว์ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ช่วยเหลือดูแล แต่ก็พบว่าผลจากการถูกทำร้าย ทำให้ลูกสุนัขตัวนี้ตาบอดทั้งสองข้างและขาหลังผิดรูป ต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ด้วยความบอบช้ำในสภาพสุนัขพิการ
จากการสอบถาม นางแสงเดือน ชัยเลิศ ประธานมูลนิธิอนุรักษ์สัตว์ภาคเหนือ เปิดเผยว่า ราว 2 สัปดาห์ก่อน มีแม่บ้านคนหนึ่งได้อุ้มลูกสุนัขตัวนี้มาให้ใน สภาพบาดเจ็บร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดและหวาดระแวง
เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ จึงรีบนำส่งให้กับสัตวแพทย์ทำการรักษาและตรวจทันที ผลการตรวจพบว่าประสาทตาของลูกสุนัขนั้น ได้รับการกระแทกอย่างรุนแรงทำให้ตาทั้งสองบอดสนิท และขาหลังนั้นผิดรูป โดยสัตว์แพทย์ของมูลนิธิฯได้ทำการรักษาจนอาการดีขึ้นตามลำดับ
จากการสอบถาม แม่บ้านที่นำสุนัขมาให้ ทราบว่า เจ้าของลูกสุนัขได้ไปซื้อลูกสุนัขพันธุ์ดังกล่าวมาเลี้ยงไว้ที่บ้าน ก่อนเกิดเหตุเจ้าของได้เมาสุราเข้าบ้านด้วยอารมณ์หงุดหงิด เมื่อลูกสุนัขเห็นเจ้าของก็วิ่งเข้าไปเล่นด้วย
แต่ปรากฏว่าเจ้าของหงุดหงิดจับสุนัขขว้างไปจนติดกำแพงบ้าน และยังจับโยนตกลงพื้นอีกหลายครั้งจนแน่นิ่ง ก่อนจะเรียกให้แม่บ้านนำร่างลูกสุนัขไปทิ้งน้ำหรือขยะ เพราะคิดว่าลูกสุนัขคงตายไปแล้ว
แม่บ้าน เล่าให้ฟังอีกว่า ได้เข้ามาดูพบว่าลูกสุนัขยังหายใจรวยระรินอยู่ ตายังลืมอย่างน่าเวทนาจึงได้ตัดสินใจอุ้มลูกสุนัขมาหามูลนิธิฯ หวังช่วยชีวิต สำหรับสุนัขตัวนี้แม้ล่าสุดอาการดีขึ้น แต่ก็เดินไม่สะดวก ตาทั้งสองบอดสนิทและหวาดระแวง ไม่กล้าให้ใครเข้าใกล้ หากไปอุ้มหรือจับก็จะดิ้นเพื่อให้หลุดพ้นด้วยความกลัว
ทั้งนี้ นางแสงเดือน ฝากเตือนคนที่คิดจะเลี้ยงสุนัขขอให้เลี้ยงด้วยความรัก พร้อมบอกด้วยว่าการทำร้ายและทารุณสัตว์มีความผิดตามกฎหมาย แม้เป็นเจ้าของก็มีความผิด
Cr.http://news.sanook.com/2016890/
อ่านแล้วก็อยากจะร้องไห้ทำไมเจ้าของถึงได้โหดร้ายกับน้องขนาดนี้ ถ้าวุฒิภาวะไม่พร้อมเลี้ยงน้องก็ไม่น่าซื้อมาเลี้ยงเลย