ผู้ปกครองร้องศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต ลูกชายวัย 7 ขวบ เรียน ป.2 ร.ร.เอกชนดัง ถูกครูพละถีบตกสระน้ำ หัวแตกเย็บ 3 เข็ม ไม่แยแส แม้เข้าแจ้งความตำรวจแล้วก็ตาม และยังโดนครูประจำชั้นใช้ถ้อยคำรุนแรง ขว้างปาของใส่ ทำให้ลูกไม่กล้าไปเรียน...
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต ศาลากลางจังหวัด นายประฐมพงศ์ กลับส่ง อายุ 32 ปี และ น.ส.จิราพร กลับส่ง อายุ 26 ปี พ่อและแม่ของ ด.ช.บอย (นามสมมติ) อายุ 7 ขวบ เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 นำใบแจ้งความบบันทึกประจำวันของ สภ.ถลาง พร้อมใบรับรองแพทย์และภาพถ่าย เข้าร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ อ้างว่าหลังบุตรชายถูกครูพละโรงเรียนเอกชนชื่อดังในพื้นที่ อ.ถลาง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่บุตรชายศึกษาอยู่ทำร้ายร่างกาย โดยการใช้เท้าถีบลงสระว่ายน้ำ ทำให้ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตกจากการกระแทกเย็บ 3 เข็ม
และอีกกรณีเป็นเรื่องที่ครูประจำชั้นของโรงเรียนเดียวกันได้ขว้างปาหนังสือและกระเป๋า และใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้บุตรชายเกิดความหวาดกลัวไม่กล้าไปโรงเรียน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สอบถามเหตุการณ์เบื้องต้น พร้อมลงบันทึกข้อความร้องเรียน เพื่อเรียกทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยในภายหลัง
นายประฐมพงศ์ กล่าวว่า การเข้าร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา บุตรชายอ้างว่าได้ถูกครูพละใช้เท้าถีบศีรษะจนกระแทกกับขอบสระแตก ในขณะครูประจำชั้นอยู่ด้วย หลังเกิดเหตุทางโรงเรียนได้โทรหา ตนเองจึงมาที่โรงเรียน เนื่องจากอยู่ไม่ไกล และพาลูกชายไปโรงพยาบาล หมอได้เย็บแผล 3 เข็ม ซึ่งตอนแรกไม่ได้ติดใจอะไร ไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหาย แต่ได้แจ้งว่าจะขอย้ายห้องเรียน เนื่องจากทราบจากปากลูกชายว่า มีอีกกรณีเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ คือ ครูประจำชั้นได้ขว้างหนังสือและกระเป๋า และใช้ถ้อยคำรุนแรงว่า ถ้าไม่อยากมาเรียนก็ให้กลับบ้านไป
ซึ่งจากสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงแจ้งขอย้ายห้อง และทางฝ่ายบริหารโรงเรียนรับปากว่าจะให้ย้ายห้อง และเข้าเรียนได้ในวันที่ 7 มิ.ย. “แต่พอไปโรงเรียนในวันดังกล่าว ได้รับคำตอบว่าย้ายไม่ได้ ทำให้ลูกต้องหยุดเรียน เนื่องจากไม่อยากไปเรียนห้องเดิม จากนั้นไม่มีการติดต่อจากทางโรงเรียน จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ถลาง เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะเข้าร้องต่อศูนย์ดำรงธรรม”
ด้าน น.ส.จิราพร กล่าวว่า ที่ผ่านมาบุตรชายเป็นเด็กรักเรียน ชอบไปโรงเรียนมาก ไม่ดื้อ ไม่งอแง ไม่ได้ก้าวร้าว หรือรังแกเพื่อนก็ไม่มี ตั้งแต่เรียนอนุบาล ครั้งนี้รู้สึกเสียใจมากกับการกระทำของครู ทำให้เสียความรู้สึกกับผู้บริหารโรงเรียนที่กลับคำพูด ทำให้น้องย้ายห้องไม่ได้ ทั้งนี้ตนเองได้เข้าสอบถามพูดคุยกับครูคนดังกล่าว ซึ่งรับว่าเป็นคนทำจริง เพราะมีปัญหากับทางบ้าน จึงอารมณ์เสีย ซึ่งคิดว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ควรมีในตัวครูอย่างยิ่ง จึงคิดว่าจะแจ้งความดำเนินคดีกับครูพละในข้อหาทำร้ายร่างกาย ส่วนผู้บริหารโรงเรียนนั้นอยู่ระหว่างหารือดูข้อกฎหมายว่าสามารถทำได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองทั้งสองยังได้นำเสียงที่บันทึกการสนทนาสอบถามบุตรชาย หลังเกิดเหตุ ซึ่งเป็นช่วงเวลาระหว่างเดินทางไปยังโรงพยาบาลให้ฟัง เพื่อเป็นการยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น.
✿ ✿ ✿ ✿ ✿
ที่มา:
http://www.thairath.co.th/content/640623
http://topnewsth.blogspot.com/2016/06/7.html
ไม่ว่าจะมีปัญหาหรืออารมณ์เสียแค่ไหน แต่นี่เด็ก 7 ขวบนะ คนแบบนี้ไม่สมควรมาเป็นครูอีก เพราะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้
หากว่ามีปัญหากับภรรยา ขอแนะนำให้กลับไปถีบภรรยาแทน เพราะนี่ลูกชาวบ้านที่เขาวางใจให้สอน ให้คุณมีเงินยาไส้ ถีบภรรยา อาจได้ของสวนกลับมาฝากที่พุงบ้าง
เขาขอย้ายห้องก็ไม่ให้ย้าย ไม่อะไรสักอย่าง สมควรแล้วที่ให้เขาไปแจ้งความ จากนี้ไปคงมีหลายคนไม่กล้าส่งลูกไปเรียนแน่ เพราะไม่รู้ลูกจะโดนถีบเมื่อไหร่
งานนี้ไม่ใช่ To Sir With Love แล้ว แต่เป็น To Sir With Comfak
✿ แด่คุณครูด้วยคมแฝก!! พ่อ-แม่ ร้องลูกชาย 7 ขวบ เรียน ร.ร. เอกชนดัง ถูกครูพละถีบตกสระ หัวแตก
ผู้ปกครองร้องศูนย์ดำรงธรรมภูเก็ต ลูกชายวัย 7 ขวบ เรียน ป.2 ร.ร.เอกชนดัง ถูกครูพละถีบตกสระน้ำ หัวแตกเย็บ 3 เข็ม ไม่แยแส แม้เข้าแจ้งความตำรวจแล้วก็ตาม และยังโดนครูประจำชั้นใช้ถ้อยคำรุนแรง ขว้างปาของใส่ ทำให้ลูกไม่กล้าไปเรียน...
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต ศาลากลางจังหวัด นายประฐมพงศ์ กลับส่ง อายุ 32 ปี และ น.ส.จิราพร กลับส่ง อายุ 26 ปี พ่อและแม่ของ ด.ช.บอย (นามสมมติ) อายุ 7 ขวบ เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 นำใบแจ้งความบบันทึกประจำวันของ สภ.ถลาง พร้อมใบรับรองแพทย์และภาพถ่าย เข้าร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ อ้างว่าหลังบุตรชายถูกครูพละโรงเรียนเอกชนชื่อดังในพื้นที่ อ.ถลาง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่บุตรชายศึกษาอยู่ทำร้ายร่างกาย โดยการใช้เท้าถีบลงสระว่ายน้ำ ทำให้ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตกจากการกระแทกเย็บ 3 เข็ม
และอีกกรณีเป็นเรื่องที่ครูประจำชั้นของโรงเรียนเดียวกันได้ขว้างปาหนังสือและกระเป๋า และใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้บุตรชายเกิดความหวาดกลัวไม่กล้าไปโรงเรียน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สอบถามเหตุการณ์เบื้องต้น พร้อมลงบันทึกข้อความร้องเรียน เพื่อเรียกทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยในภายหลัง
นายประฐมพงศ์ กล่าวว่า การเข้าร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา บุตรชายอ้างว่าได้ถูกครูพละใช้เท้าถีบศีรษะจนกระแทกกับขอบสระแตก ในขณะครูประจำชั้นอยู่ด้วย หลังเกิดเหตุทางโรงเรียนได้โทรหา ตนเองจึงมาที่โรงเรียน เนื่องจากอยู่ไม่ไกล และพาลูกชายไปโรงพยาบาล หมอได้เย็บแผล 3 เข็ม ซึ่งตอนแรกไม่ได้ติดใจอะไร ไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหาย แต่ได้แจ้งว่าจะขอย้ายห้องเรียน เนื่องจากทราบจากปากลูกชายว่า มีอีกกรณีเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ คือ ครูประจำชั้นได้ขว้างหนังสือและกระเป๋า และใช้ถ้อยคำรุนแรงว่า ถ้าไม่อยากมาเรียนก็ให้กลับบ้านไป
ซึ่งจากสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงแจ้งขอย้ายห้อง และทางฝ่ายบริหารโรงเรียนรับปากว่าจะให้ย้ายห้อง และเข้าเรียนได้ในวันที่ 7 มิ.ย. “แต่พอไปโรงเรียนในวันดังกล่าว ได้รับคำตอบว่าย้ายไม่ได้ ทำให้ลูกต้องหยุดเรียน เนื่องจากไม่อยากไปเรียนห้องเดิม จากนั้นไม่มีการติดต่อจากทางโรงเรียน จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ถลาง เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะเข้าร้องต่อศูนย์ดำรงธรรม”
ด้าน น.ส.จิราพร กล่าวว่า ที่ผ่านมาบุตรชายเป็นเด็กรักเรียน ชอบไปโรงเรียนมาก ไม่ดื้อ ไม่งอแง ไม่ได้ก้าวร้าว หรือรังแกเพื่อนก็ไม่มี ตั้งแต่เรียนอนุบาล ครั้งนี้รู้สึกเสียใจมากกับการกระทำของครู ทำให้เสียความรู้สึกกับผู้บริหารโรงเรียนที่กลับคำพูด ทำให้น้องย้ายห้องไม่ได้ ทั้งนี้ตนเองได้เข้าสอบถามพูดคุยกับครูคนดังกล่าว ซึ่งรับว่าเป็นคนทำจริง เพราะมีปัญหากับทางบ้าน จึงอารมณ์เสีย ซึ่งคิดว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ควรมีในตัวครูอย่างยิ่ง จึงคิดว่าจะแจ้งความดำเนินคดีกับครูพละในข้อหาทำร้ายร่างกาย ส่วนผู้บริหารโรงเรียนนั้นอยู่ระหว่างหารือดูข้อกฎหมายว่าสามารถทำได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองทั้งสองยังได้นำเสียงที่บันทึกการสนทนาสอบถามบุตรชาย หลังเกิดเหตุ ซึ่งเป็นช่วงเวลาระหว่างเดินทางไปยังโรงพยาบาลให้ฟัง เพื่อเป็นการยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น.
ที่มา: http://www.thairath.co.th/content/640623
http://topnewsth.blogspot.com/2016/06/7.html
ไม่ว่าจะมีปัญหาหรืออารมณ์เสียแค่ไหน แต่นี่เด็ก 7 ขวบนะ คนแบบนี้ไม่สมควรมาเป็นครูอีก เพราะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้
หากว่ามีปัญหากับภรรยา ขอแนะนำให้กลับไปถีบภรรยาแทน เพราะนี่ลูกชาวบ้านที่เขาวางใจให้สอน ให้คุณมีเงินยาไส้ ถีบภรรยา อาจได้ของสวนกลับมาฝากที่พุงบ้าง
เขาขอย้ายห้องก็ไม่ให้ย้าย ไม่อะไรสักอย่าง สมควรแล้วที่ให้เขาไปแจ้งความ จากนี้ไปคงมีหลายคนไม่กล้าส่งลูกไปเรียนแน่ เพราะไม่รู้ลูกจะโดนถีบเมื่อไหร่
งานนี้ไม่ใช่ To Sir With Love แล้ว แต่เป็น To Sir With Comfak