คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
ข้อความจาก ETDA เกี่ยวกับกรณี Ensogo ค่ะ
ตามที่ Ensogo Thailand ได้ปิดตัวลงเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมานั้น เนื่องจากกระทรวงไอซีที ในฐานะที่มีหน่วยงานที่ดูแลการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งรวมถึง e-Commerce คือ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ สพธอ. (ETDA) และเมื่อเร็ว ๆ นี้ กระทรวงฯ และ สพธอ. ก็ได้มีความตกลงเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาของผู้บริโภคกับหลายหน่วยงาน เช่น สคบ. และ อย. เป็นต้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทางออนไลน์ จึงขอเรียนชี้แจงให้ทราบถึงประเด็นทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และแนวทางในการดำเนินการในทางกฎหมายของกรณี ดังนี้
1. รูปแบบการซื้อขาย Deal ผ่านเว็บไซต์ Ensogo
ในการประกาศขายสินค้าหรือบริการ (Deal) ผ่านเว็บไซต์หรือช่องทางของ Ensogo นั้น Ensogo ทำหน้าที่เป็นเพียงสื่อกลางหรือตัวแทนในการโฆษณาสินค้าและบริการเท่านั้น ดังนั้น ธุรกรรมที่เกิดขึ้นผ่านช่องทางของ Ensogo จึงถือว่าเป็นธุรกรรมระหว่างเจ้าของสินค้า/บริการกับผู้บริโภคโดยตรง
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า เจ้าของสินค้า/บริการบางรายที่ลงโฆษณาผ่านช่องทางของ Ensogo จะออกมาปฏิเสธการใช้คูปองของ Ensogo ภายหลังจากที่ Ensogo ปิดตัวลง โดยอ้างเหตุว่า เจ้าของสินค้า/บริการไม่สามารถเข้าระบบ Merchant ของ Ensogo ได้ หรือเจ้าของสินค้า/บริการไม่อาจเรียกเก็บเงินจาก Ensogo ในภายหลังได้ ETDA ขอเรียนว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นกรณีที่เจ้าของสินค้า/บริการจะต้องไปเรียกเก็บเงินจาก Ensogo เองโดยตรง โดยไม่สามารถอ้างเหตุการปิดตัวของ Ensogo เพื่อไม่ให้บริการหรือส่งมอบสินค้าแก่ผู้บริโภคได้ เพราะธุรกรรมระหว่างเจ้าของสินค้า/บริการและผู้บริโภคถือว่าเกิดขึ้นโดยสมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว
ดังนั้น ในส่วนของเงิน Ensogo cash ที่ประชาชนซื้อโดยตรงจาก Ensogo ประชาชนย่อมมีสิทธิตามกฎหมายในการฟ้องร้อง เรียกเงินคืนจาก Ensogo ได้โดยตรง
2.แนวทางในการดำเนินการ
2.1 เจ้าของสินค้า/บริการ
ดังที่ได้เรียนให้ทราบข้างต้นว่า ธุรกรรมที่ทำผ่านเว็บไซต์ Ensogo เกิดขึ้นจากการที่เจ้าของสินค้า/บริการลงโฆษณาผ่านทางช่องทางของ Ensogo ดังนั้น จึงถือว่า Deal ที่เกิดขึ้นเป็นธุรกรรมระหว่างเจ้าของสินค้า/บริการและผู้บริโภคโดยตรงตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยเจ้าของสินค้า/บริการไม่สามารถปฏิเสธการใช้คูปองหรือให้บริการแก่ผู้บริโภคที่ซื้อ Deal นั้น ๆ ได้
อย่างไรก็ตาม เจ้าของสินค้า/บริการควรจะต้องยื่นหนังสือหรือดำเนินการทางกฎหมายที่จำเป็นต่อ Ensogo เพื่อเรียกเงินค่าสินค้าหรือบริการที่ผู้บริโภคได้ชำระผ่านช่องทางของ Ensogo โดยเร็วที่สุด
2.2 ผู้บริโภค
ผู้บริโภคย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายในการใช้คูปองหรือ Deal ที่ตนเองซื้อมาผ่านช่องทางของ Ensogo ตามโฆษณาที่ประกาศผ่านทางเว็บไซต์ของ Ensogo ทั้งนี้ หากเจ้าของสินค้า/บริการรายใดปฏิเสธการให้สินค้าหรือบริการ ผู้บริโภคสามารถร้องเรียนเรื่องดังกล่าวไปยังเบอร์ 1212 ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการดูแลเรื่องนี้ หรือ สคบ.1166
อย่างไรก็ตาม หากผู้บริโภคไม่ประสงค์ที่จะรับสินค้า/บริการจากเจ้าของสินค้า/บริการอีกต่อไป ผู้บริโภคย่อมมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค (ตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจบัตรเครดิตเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2556 ในการขอยกเลิกการซื้อสินค้าหรือขอรับบริการภายใน 45 วันนับแต่วันที่ที่ซื้อหรือขอรับบริการ หรือภายใน 30 วันนับแต่วันถึงกำหนดการส่งมอบหรือบริการ
ถ้าผู้บริโภคพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้รับสินค้าหรือไม่ได้รับบริการ ในกรณีดังกล่าว ขอให้ผู้บริโภคแจ้งเรื่องไปยังธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตเพื่อขอให้ระงับการจ่ายเงินไปยัง Ensogo
ทั้งนี้ ในส่วนของสินค้าหรือบริการ รวมถึง Ensogo cash ที่เป็นบริการโดยตรงของ Ensogo ผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายสามารถประสานงานได้ทั้งสองช่องทาง คือ 1212 ที่ สพธอ. ซึ่งจะมีการประสานการทำงานร่วมกับกับ สคบ. เพื่อให้ Ensogo เยียวยาความเสียหายดังกล่าวต่อไป
Cr. Facebook ETDA Thailand
ตามที่ Ensogo Thailand ได้ปิดตัวลงเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2559 ที่ผ่านมานั้น เนื่องจากกระทรวงไอซีที ในฐานะที่มีหน่วยงานที่ดูแลการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งรวมถึง e-Commerce คือ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ สพธอ. (ETDA) และเมื่อเร็ว ๆ นี้ กระทรวงฯ และ สพธอ. ก็ได้มีความตกลงเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาของผู้บริโภคกับหลายหน่วยงาน เช่น สคบ. และ อย. เป็นต้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคทางออนไลน์ จึงขอเรียนชี้แจงให้ทราบถึงประเด็นทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และแนวทางในการดำเนินการในทางกฎหมายของกรณี ดังนี้
1. รูปแบบการซื้อขาย Deal ผ่านเว็บไซต์ Ensogo
ในการประกาศขายสินค้าหรือบริการ (Deal) ผ่านเว็บไซต์หรือช่องทางของ Ensogo นั้น Ensogo ทำหน้าที่เป็นเพียงสื่อกลางหรือตัวแทนในการโฆษณาสินค้าและบริการเท่านั้น ดังนั้น ธุรกรรมที่เกิดขึ้นผ่านช่องทางของ Ensogo จึงถือว่าเป็นธุรกรรมระหว่างเจ้าของสินค้า/บริการกับผู้บริโภคโดยตรง
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า เจ้าของสินค้า/บริการบางรายที่ลงโฆษณาผ่านช่องทางของ Ensogo จะออกมาปฏิเสธการใช้คูปองของ Ensogo ภายหลังจากที่ Ensogo ปิดตัวลง โดยอ้างเหตุว่า เจ้าของสินค้า/บริการไม่สามารถเข้าระบบ Merchant ของ Ensogo ได้ หรือเจ้าของสินค้า/บริการไม่อาจเรียกเก็บเงินจาก Ensogo ในภายหลังได้ ETDA ขอเรียนว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นกรณีที่เจ้าของสินค้า/บริการจะต้องไปเรียกเก็บเงินจาก Ensogo เองโดยตรง โดยไม่สามารถอ้างเหตุการปิดตัวของ Ensogo เพื่อไม่ให้บริการหรือส่งมอบสินค้าแก่ผู้บริโภคได้ เพราะธุรกรรมระหว่างเจ้าของสินค้า/บริการและผู้บริโภคถือว่าเกิดขึ้นโดยสมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว
ดังนั้น ในส่วนของเงิน Ensogo cash ที่ประชาชนซื้อโดยตรงจาก Ensogo ประชาชนย่อมมีสิทธิตามกฎหมายในการฟ้องร้อง เรียกเงินคืนจาก Ensogo ได้โดยตรง
2.แนวทางในการดำเนินการ
2.1 เจ้าของสินค้า/บริการ
ดังที่ได้เรียนให้ทราบข้างต้นว่า ธุรกรรมที่ทำผ่านเว็บไซต์ Ensogo เกิดขึ้นจากการที่เจ้าของสินค้า/บริการลงโฆษณาผ่านทางช่องทางของ Ensogo ดังนั้น จึงถือว่า Deal ที่เกิดขึ้นเป็นธุรกรรมระหว่างเจ้าของสินค้า/บริการและผู้บริโภคโดยตรงตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยเจ้าของสินค้า/บริการไม่สามารถปฏิเสธการใช้คูปองหรือให้บริการแก่ผู้บริโภคที่ซื้อ Deal นั้น ๆ ได้
อย่างไรก็ตาม เจ้าของสินค้า/บริการควรจะต้องยื่นหนังสือหรือดำเนินการทางกฎหมายที่จำเป็นต่อ Ensogo เพื่อเรียกเงินค่าสินค้าหรือบริการที่ผู้บริโภคได้ชำระผ่านช่องทางของ Ensogo โดยเร็วที่สุด
2.2 ผู้บริโภค
ผู้บริโภคย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายในการใช้คูปองหรือ Deal ที่ตนเองซื้อมาผ่านช่องทางของ Ensogo ตามโฆษณาที่ประกาศผ่านทางเว็บไซต์ของ Ensogo ทั้งนี้ หากเจ้าของสินค้า/บริการรายใดปฏิเสธการให้สินค้าหรือบริการ ผู้บริโภคสามารถร้องเรียนเรื่องดังกล่าวไปยังเบอร์ 1212 ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการดูแลเรื่องนี้ หรือ สคบ.1166
อย่างไรก็ตาม หากผู้บริโภคไม่ประสงค์ที่จะรับสินค้า/บริการจากเจ้าของสินค้า/บริการอีกต่อไป ผู้บริโภคย่อมมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค (ตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจบัตรเครดิตเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2556 ในการขอยกเลิกการซื้อสินค้าหรือขอรับบริการภายใน 45 วันนับแต่วันที่ที่ซื้อหรือขอรับบริการ หรือภายใน 30 วันนับแต่วันถึงกำหนดการส่งมอบหรือบริการ
ถ้าผู้บริโภคพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้รับสินค้าหรือไม่ได้รับบริการ ในกรณีดังกล่าว ขอให้ผู้บริโภคแจ้งเรื่องไปยังธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตเพื่อขอให้ระงับการจ่ายเงินไปยัง Ensogo
ทั้งนี้ ในส่วนของสินค้าหรือบริการ รวมถึง Ensogo cash ที่เป็นบริการโดยตรงของ Ensogo ผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายสามารถประสานงานได้ทั้งสองช่องทาง คือ 1212 ที่ สพธอ. ซึ่งจะมีการประสานการทำงานร่วมกับกับ สคบ. เพื่อให้ Ensogo เยียวยาความเสียหายดังกล่าวต่อไป
Cr. Facebook ETDA Thailand
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 33
ผมมองในมุมร้านค้า เข้าใจเขานะว่าทำไมถึงไม่ยอมรับ เพราะจะให้เขายอมให้สินค้าแลกกับกระดาษดีลที่ไร้ค่า แบบนี้ผมกลับเห็นใจร้านค้ามากกว่า ตอนนี้ได้ข่าวว่ามีคนแย่ๆทำกระดาษดีลปลอมหรือดีลที่เคยใช้แล้วไปใช้กับร้านค้าด้วย เพราะไม่มีบริษัทดีลจะตรวจสอบแล้ว
ที่ค่อนข้างเห็นใจร้านค้าเพราะรู้สึกที่ว่าธุรกรรมที่เกิดเป็นธุรกรรมระหว่าง ลูกค้า และ บริษัท Ensogo ไม่ใช่กับร้านค้าโดยตรง ซึ่งปกติร้านค้ายังไม่ได้เงินเมื่อมีการซื้อดีล จะได้เมื่อมีการตรวจสอบยอดเป็นเดือนๆ ดังนั้นจะไปว่าร้านค้าไม่รับผิดชอบก็ดูจะแรงไปหน่อย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ใช่ว่าธุรกรรมทั้งหมดจะไม่เกี่ยวกับร้านค้าเลย มันต้องเกี่ยวข้องแน่นอน เพราะเป็นคู่สัญญากับ Ensogo เพียงแต่โดย timeline ที่เกิดขึ้นยังรู้สึกร้านค้าไม่ควรจะโดนต่อว่า เพราะเขาเองก็ยังไม่ได้เงิน
ตอนนี้ร้านไหนใหญ่หน่อยก็ซื้อใจลูกค้ากันไปโดยการยอมให้ใช้ หรือบางร้านใช้การต่อรองให้บาดเจ็บน้อยหน่อย ก็ยังดีที่ช่วย absorb ความเสียหายและเยียวยาผู้บริโภคไปบ้าง ส่วนร้านเล็กๆนี่น่าเห็นใจมาก หวังจะ promote ร้านแต่เจอแบบนี้คงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เรื่องทั้งหมดที่แย่ที่สุดก็คือ Ensogo ที่ชิ่งปิดบริษัทหนีไปเลย หอบเงินกลับออสเตรเลียไปเรียบร้อย แย่ที่คนทำผิดไม่ได้รับโทษโดยตรง อันที่จริงก็แปลกใจว่าทำไมไม่มีใครระแคะระคายเรื่องนี้ ได้ยินมาว่าแม่บ้านกับยามรู้มาเป็นสัปดาห์ว่าบริษัทไม่มีคนเข้าไปดำเนินการ ดังนั้นเจ้าหน้าที่พนักงานน่าจะพอรู้เรื่อง แต่ข่าวไม่ลอดออกมาเลย ที่แย่กว่านั้นคือการเยียวยาของรัฐเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เรื่องนี้จริงๆแล้วเป็นเรื่องใหญ่ ความเสียหายไม่รู้เท่าไหร่ แต่เมื่อเกิดเหตุเห็นมีแต่ประชาชนที่โดนผลการะทบมารวมตัวกัน ช่วยเหลือเรื่องข้อมูลข่าวสารกันเองโดยการเปิด Facebook page หรือใช้ Pantip ในการบอกข่าวสาร จนถึงตอนนี้เท่าที่เห็นหน่วยงานของรัฐก็ได้แต่ตอบกว้างๆในหลักการว่าผู้บริโภคทำอะไรได้บ้าง โดยส่วนตัวอยากเห็นภาครัฐทำอะไรเพื่อผู้บริโภคให้มากกว่าที่เป็นอยู่นี้
ที่ค่อนข้างเห็นใจร้านค้าเพราะรู้สึกที่ว่าธุรกรรมที่เกิดเป็นธุรกรรมระหว่าง ลูกค้า และ บริษัท Ensogo ไม่ใช่กับร้านค้าโดยตรง ซึ่งปกติร้านค้ายังไม่ได้เงินเมื่อมีการซื้อดีล จะได้เมื่อมีการตรวจสอบยอดเป็นเดือนๆ ดังนั้นจะไปว่าร้านค้าไม่รับผิดชอบก็ดูจะแรงไปหน่อย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ใช่ว่าธุรกรรมทั้งหมดจะไม่เกี่ยวกับร้านค้าเลย มันต้องเกี่ยวข้องแน่นอน เพราะเป็นคู่สัญญากับ Ensogo เพียงแต่โดย timeline ที่เกิดขึ้นยังรู้สึกร้านค้าไม่ควรจะโดนต่อว่า เพราะเขาเองก็ยังไม่ได้เงิน
ตอนนี้ร้านไหนใหญ่หน่อยก็ซื้อใจลูกค้ากันไปโดยการยอมให้ใช้ หรือบางร้านใช้การต่อรองให้บาดเจ็บน้อยหน่อย ก็ยังดีที่ช่วย absorb ความเสียหายและเยียวยาผู้บริโภคไปบ้าง ส่วนร้านเล็กๆนี่น่าเห็นใจมาก หวังจะ promote ร้านแต่เจอแบบนี้คงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เรื่องทั้งหมดที่แย่ที่สุดก็คือ Ensogo ที่ชิ่งปิดบริษัทหนีไปเลย หอบเงินกลับออสเตรเลียไปเรียบร้อย แย่ที่คนทำผิดไม่ได้รับโทษโดยตรง อันที่จริงก็แปลกใจว่าทำไมไม่มีใครระแคะระคายเรื่องนี้ ได้ยินมาว่าแม่บ้านกับยามรู้มาเป็นสัปดาห์ว่าบริษัทไม่มีคนเข้าไปดำเนินการ ดังนั้นเจ้าหน้าที่พนักงานน่าจะพอรู้เรื่อง แต่ข่าวไม่ลอดออกมาเลย ที่แย่กว่านั้นคือการเยียวยาของรัฐเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เรื่องนี้จริงๆแล้วเป็นเรื่องใหญ่ ความเสียหายไม่รู้เท่าไหร่ แต่เมื่อเกิดเหตุเห็นมีแต่ประชาชนที่โดนผลการะทบมารวมตัวกัน ช่วยเหลือเรื่องข้อมูลข่าวสารกันเองโดยการเปิด Facebook page หรือใช้ Pantip ในการบอกข่าวสาร จนถึงตอนนี้เท่าที่เห็นหน่วยงานของรัฐก็ได้แต่ตอบกว้างๆในหลักการว่าผู้บริโภคทำอะไรได้บ้าง โดยส่วนตัวอยากเห็นภาครัฐทำอะไรเพื่อผู้บริโภคให้มากกว่าที่เป็นอยู่นี้
ความคิดเห็นที่ 25
จะให้ร้านรับผิดชอบอะไรอีกครับ เงินก็เบิกไม่ได้ คนมีคูปองก็อ้างจะเอาเศษกระดาษมากินฟรี
รู้จักเห็นใจเพื่อนมนุษย์บ้างครับ ร้านเค้าก็ทำมาหากินสุจริต กำไรจากการขายที่มาจากคูปองนี่ก็แทบไม่มีอยู่แล้ว และรับความซวยไปมากกว่าคุณหลายเท่า
ถ้าคิดจะฟ้อง ผมว่าต้องร่วมกันฟ้องเว็บมากกว่า และหน่วยงานรัฐที่ไม่รู้จักกำกับดูแล แต่ถึงเวลามาให้คนนู้นคนนี้รับผิดชอบ เพื่อเอาใจผู้บริโภค เพราะ จบง่ายดี ควรพิจารณากะลาตัวเองบ้างได้แล้ว
รู้จักเห็นใจเพื่อนมนุษย์บ้างครับ ร้านเค้าก็ทำมาหากินสุจริต กำไรจากการขายที่มาจากคูปองนี่ก็แทบไม่มีอยู่แล้ว และรับความซวยไปมากกว่าคุณหลายเท่า
ถ้าคิดจะฟ้อง ผมว่าต้องร่วมกันฟ้องเว็บมากกว่า และหน่วยงานรัฐที่ไม่รู้จักกำกับดูแล แต่ถึงเวลามาให้คนนู้นคนนี้รับผิดชอบ เพื่อเอาใจผู้บริโภค เพราะ จบง่ายดี ควรพิจารณากะลาตัวเองบ้างได้แล้ว
ความคิดเห็นที่ 8
ผมเองเมื่อวันอังคารก็ไปใช้ดีลkanemochi ซึ่งใช้ไม่ได้ เขาขอเวลา อาทิตย์จะแจ้งข่าวให้ทราบ ผมเองไม่ได้โวยวายอะไรและเข้าใจร้านค้านะ
เพราะผมเองก็คิดเอาไว้แล้วว่ามันจะต้องลงเอยแบบนี้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง สินค้าหรือดีลเกือบจะทุกอย่างขายต่ำกว่าต้นทุน คือพูดง่ายๆ รอวันเจ๊ง
แต่ผมก็ยังสุ่มเสี่ยงที่จะซื้ออยู่ดี แต่ซื้อแล้วคือใช้วันนั้นเลยหรือเป็นดีลที่าคาไม่สูง100-200บาทประมาณนี้โดยก็ไม่เจ็บตัวมากนัก มาพูดกันต่อถึง
เรื่องร้านอาหารต่างๆ ส่วนใหญ่พวกที่ยังรับอยู่จะเป็นร้านใหญ่ๆหรือร้านที่มีคเรือข่ายใหญ่โตหรือธุรกิจกำลังจะไปได้ดี จริงๆแล้วเขาเองก็คงอยาก
จะปฎิเสธแหละ แต่ด้วยชื่อเสียงของเขาที่มีอยู่มันอาจจะไม่คุ้มกัน ส่วนร้านที่ปฎิเสธ ผมเห็นใจเขานะ อย่างร้านที่คุณพูดถึงอ่ะ ลองไปดู
ที่ctwซิ ผีหลอก ผมยังคิดเลยว่าเขาอยู่ได้อย่างไร ผมว่าเห็นใจเขาเถอะ แบ่งๆกันซวย เขาเองผมคิดว่าก็คงจะโดนไม่น้อย จากensogo
คุณอย่าคิดไปเองฝ่ายเดียวครับว่าเขาจะยังไปไล่บี้กับensogo ในเมื่อพนักงานของensogoเองยังถูกลอยแพ business modelแบบนี้มันมี
เรื่อยๆครับ เริ่มต้นมาจากฟิตเนสต่างๆ ผมเองก็โดนมาไม่ใช่น้อย สุดท้ายอะไรก็ตามที่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้า ผมจะระมัดระวังเป็นพิเศษ เรา
เองอยากได้ของถูก เราก็ต้องเสี่ยงเป็นเรื่องธรรมดา ผมมองธุรกิจของensogoออก สำหรับ จขกท.ก็ถือว่าทำทานไปเถอะ ก้มหน้าก้มตา
ทำงานเงินกันต่อไป
เพราะผมเองก็คิดเอาไว้แล้วว่ามันจะต้องลงเอยแบบนี้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง สินค้าหรือดีลเกือบจะทุกอย่างขายต่ำกว่าต้นทุน คือพูดง่ายๆ รอวันเจ๊ง
แต่ผมก็ยังสุ่มเสี่ยงที่จะซื้ออยู่ดี แต่ซื้อแล้วคือใช้วันนั้นเลยหรือเป็นดีลที่าคาไม่สูง100-200บาทประมาณนี้โดยก็ไม่เจ็บตัวมากนัก มาพูดกันต่อถึง
เรื่องร้านอาหารต่างๆ ส่วนใหญ่พวกที่ยังรับอยู่จะเป็นร้านใหญ่ๆหรือร้านที่มีคเรือข่ายใหญ่โตหรือธุรกิจกำลังจะไปได้ดี จริงๆแล้วเขาเองก็คงอยาก
จะปฎิเสธแหละ แต่ด้วยชื่อเสียงของเขาที่มีอยู่มันอาจจะไม่คุ้มกัน ส่วนร้านที่ปฎิเสธ ผมเห็นใจเขานะ อย่างร้านที่คุณพูดถึงอ่ะ ลองไปดู
ที่ctwซิ ผีหลอก ผมยังคิดเลยว่าเขาอยู่ได้อย่างไร ผมว่าเห็นใจเขาเถอะ แบ่งๆกันซวย เขาเองผมคิดว่าก็คงจะโดนไม่น้อย จากensogo
คุณอย่าคิดไปเองฝ่ายเดียวครับว่าเขาจะยังไปไล่บี้กับensogo ในเมื่อพนักงานของensogoเองยังถูกลอยแพ business modelแบบนี้มันมี
เรื่อยๆครับ เริ่มต้นมาจากฟิตเนสต่างๆ ผมเองก็โดนมาไม่ใช่น้อย สุดท้ายอะไรก็ตามที่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้า ผมจะระมัดระวังเป็นพิเศษ เรา
เองอยากได้ของถูก เราก็ต้องเสี่ยงเป็นเรื่องธรรมดา ผมมองธุรกิจของensogoออก สำหรับ จขกท.ก็ถือว่าทำทานไปเถอะ ก้มหน้าก้มตา
ทำงานเงินกันต่อไป
แสดงความคิดเห็น
คุณคิดอย่างไรกับธุรกิจที่ผลักภาระให้ผู้บริโภค หลังจาก Ensogo ปิดตัว
ส่วนตัวผมมีดีลของ หัวปลาช่องนนทรี ไว้ มูลค่าไม่กี่ร้อยหรอกครับ ถ้าให้ต้องไปตามฟ้อง Ensogo คงขอบาย ซึ่งตอนนี้ทางร้านขอปฏิเสธการใช้ดีลจาก Ensogo ไปก่อน โดยจะขอเวลาประสานงานกับ Ensogo (ซึ่งปิดบริษัทไปแล้ว ??) ก่อนเกิดเหตุการณ์ ผมได้ซื้อดีลจากร้านหัวปลาช่องนนทรีไว้ 2 อัน และใช้ไปแล้วอันนึง ซึ่งประทับใจมาก และคิดว่าต่อให้ไม่มีดีลต่อไปในอนาคต ก็คงจะเป็นลูกค้าต่อไป เพราะเพิ่งรู้จักร้านนี้จาก Ensogo และเพิ่งรู้ว่าเค้ามีสาขาใกล้ๆ บ้านผมด้วย แต่น่าเสียดายที่หลังจากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ร้านเลือกจะปัดความรับผิดชอบทั้งหมดให้ลูกค้า ความประทับใจทั้งหมดที่ผ่านมา หายไปทันที
คุณคาดหวังจะให้ลูกค้าไปตามฟ้อง Ensogo เองหรอครับ มูลค่าดีลมันไม่กี่ร้อย เสียเวลาทำมาหากินลูกค้าครับ ลูกค้าอย่างผมจะเลือก เก็บเอาไว้เป็นประสบการณ์แย่ๆ ที่ผมได้เจอมากับแบรนด์ ครับ มันง่ายกว่าเยอะ เวลาลูกค้าเห็นแบรนด์คุณ ก็จะนึกว่าธุรกิจที่พร้อมจะปัดความรับผิดชอบมาที่ลูกค้าทันที ที่มีเหตุไม่คาดฝัดเกิดขึ้น ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นธุรกิจที่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ถึงขั้นคอขาด บาดตาย คงไม่เข้าไปใช้บริการ
ในทางกลับกัน คุณทำธุรกิจอยู่แล้ว ความเสียหายครั้งนี้คุณก็ต้องไปตามไล่บี้ Ensogo อยู่แล้ว คุณจะเปลี่ยนวิกฤตนี้เป็นโอกาสสร้างความประทับใจให้ลูกค้า ช่วยตามไล่บี้ Ensogo แทนลูกค้าไม่ได้เลยหรือครับ? อย่างไรคุณก็มี power มากกว่าให้ลูกค้าทำเองอยู่แล้ว
ตรงนี้ไม่รู้ว่าผมมองในมุมลูกค้ามากเกินไปหรือปล่าว หลายๆ ธุรกิจเลือกใช้เงินกับการ marketing แบบโบราณๆ เช่น โฆษณาผ่านสื่อต่างๆ จ้างดารามาเป็น presenter แพงๆ จ้าง blogger มารีวิว จ้างหน้าม้ามาอวย บลา บลา บลา....... แต่เวลาจะสร้างความประทับใจให้ลูกค้า ซึ่งมันคงใช้งบไม่เท่างบ marketing โบราณๆ แบบที่ว่า แต่มัน impact กับความรู้สึกดีๆ ของลูกค้ามากกว่าเยอะ กลับไม่เห็นเป็นโอกาส??
ผมบอกเลยว่า ถ้าคุณเลือกจะให้ลูกค้าใช้ดีลต่อได้ มันจะประทับใจมากกก ผมคงจำมันเป็นประสบการณ์ดีๆ ที่ได้จากธุรกิจคุณเช่นกัน แล้วผมคงได้เป็นลูกค้าร้านคุณ และบอกต่อคนรู้จักถึงความประทับใจนี้ ต่อไปอีกนาน ซึ่งมันให้ return กับคุณมากกว่ามูลค่าดีลครั้งนี้แน่นอน แต่ในเมื่อคุณเลือกจะปฏิเสธการใช้ดีล ผมคงทำอะไรไม่ได้ แล้วคงไม่ไปตามฟ้อง Ensogo เพราะมูลค่ามันน้อยอย่างที่ได้แจ้งไป แค่ค่าโทรศัพท์ ค่าเสียเวลา ก็ไม่คุ้มละ แต่แจ้งไว้เลยว่า ความรู้สึก ที่เสียไปมันมากกว่ามูลค่าดีลเยอะ
แต่อย่างไรก็ตาม ผมขอชื่นชมหลายๆ ธุรกิจที่เลือกจะให้ลูกค้าใช้ดีลต่อได้ และรับภาระตรงนี้ไว้เอง ซึ่งหลายๆ ที่ก็เป็นที่ๆ ผมเคยซื้อดีล แล้วไปใช้บริการมาแล้ว โดยเฉพาะ Sizzler และหลังจากนี้คงใช้บริการด้วยความสบายใจต่อไป แม้จะไม่มีดีลอะไรอีก
อีกเรื่องครับ เรื่องบัตรเครดิต ผมจ่ายเงินผ่านบัตร TMB ไป ซึ่งถ้าจะขอยกเลิก เค้าจะส่งรายการมาให้ทาง Email และขอให้ผม " Fax " กลับไป ไม่สามารถ scan กลับทาง Email ได้ ผมไม่ทราบจุดประสงค์นะครับ ว่ามันต่างกันอย่างไร (ใครทราบช่วยอธิบายที) เพราะสุดท้ายทาง TMB ก็ได้เอกสารผมเหมือนกัน ไม่ว่าจะ Fax หรือ จะ scan ส่งทาง Email แต่สำหรับผม การหาเครื่อง Fax ในปี 2016 มันวุ่นวาย เสียเวลา มากๆ พอกับบอกให้ผมเอาเอกสาร A4 นี่ ไปติดแสตมป์ ส่งจดหมายนั่นแหละ มันโบราณมากกกกก ซึ่งผมคงไม่ดำเนินการ เพราะอย่างที่บอก ยอดนี้ไม่ได้เยอะ แค่เสียความรู้สึก ที่ธนาคารอื่นๆ สามารถปฏิเสธยอดให้ลูกค้าได้ทันที แต่ TMB ไม่สามารถทำได้
ด้านล่างเป็นรายชื่อร้านค้าที่รับ/ปฏิเสธการใช้ดีลจาก Ensogo ครับ
ข้อมูลจากเพจ Ar-pae.com เมื่อ 22 มิถุนา 2016 19.00 -------------------------------------------------
ปล. ร้านค้าด้านล่างนี่รวบรวมมาเพื่อเป็นพื้นฐานของการใช้เท่านั้นครับ และยังมีปลีกย่อยอีกเรื่องยี่ห้อเดียวกัน แต่คนละสาขา ก็อาจจะตัดสินใจไม่เหมือนกัน ขอให้ท่านตรวจสอบกับสาขาจริงอีกครั้งหนึ่ง ทั้งหมดนี้ รวมมาแค่เป็นแนวทางในการวางแผนแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเท่านั้น ขอให้ทุกท่านโชคดีในการติดต่อครับ เราเอาใจช่วย
Yes : ร้านค้าที่ประกาศว่ายังสามารถใช้ดีลได้
+ Burger King Thailand
+ The Pizza company
+ SizzlerThai
+ Maisen
+ Carl's Jr.
+ Vanus Couture - วนัช กูตูร์, ลาดพร้าว
+ Simply W Central ladprao
+ SF Cinema
+ Cafe de Salil
+ Squeeze by Tipco
+ White Orchid River Cruise
+ Paul @ central world
+ zedere de cafe
+ Outback Steakhouse
+ Humming Birds Kitchen & Garden (เลียบด่วน)
+ Italian Proudfa ทาวน์อินทาวน์
+ the arch
+ ลิ้มเหล่าโหงว
+ PLETHORA SPA
+ Hokkaido seafood town in town
+ The terrace สาขา เซ็นทรัล เวสต์เกท
+ katsuya
+โอชา คาเฟ่
+The Terrace
+Skin Food Shopping
หมายเหตุ :
Chateau de Khaoyai (ต้องจ่ายเพิ่ม 1,000 บาท)
ไอยปุระ @ เกาะช้าง (ใช้ได้แบบมีเงื่อนไข)
Centara Seaview Resort Khaolak (มีเงื่อนไขในการใช้คูปอง)
NO : ร้านค้าที่ปฏิเสธการใช้ดีล
- Centara Central World
- Centara Blue marine Resort@Spa Phuket
- Spa Cenvaree @Centara Grand Mirage
- Thavorn Beach village resort and spa , Phuket
- เซนทารา เขาพระตำหนัก
- Chantara Valley
- The Regent Cha Am Beach Resort
- Centara Tropicona Resort Koh Chang
- Cher resort
- Bluesky Resort khaokho
- Sukishi
- เดอะสแควร์ โรงแรมโนโวเทล
- Windsor Buffet
- Vartika kuiburi
- Teddy bear museum
- Clover tearoom
- Bavarian field
- @7 Dine Majestic Grande sukhumvit Bangkok
- Daisy Restaurant & Coffee
- franjipani หัวหิน
- Blissfully green villa
- โรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแค
- Anne semonin spa
- Coffee world
- Celebrity Clinic
- What the pho
- waza sushi
- Clover leaf
- Circle hair spa
- Town Tree (เกษตร-นวมินทร์)
- ฮาร์ดรอค คาเฟ่
- Shabu Owl
- buddhi belly
- s cafe@ s31 hotel
- KANE Mochi Central World
- หัวปลาช่องนนทรี
- ครัวเจ๊ง้อ
- ร้าน อ.มัลลิการ์
- เทียนทะเลซีฟู้ด
- Humming Birds Kitchen & Garden
- The Landmark Bangkok Hotel
- Hanol @ทองหล่อ
- อิตาเลี่ยนพราวฟ้า Italian Proudfa
- ร้านอาหารบาวาเรียน ฟิลด์ ราชพฤกษ์
- Spa Cenvaree @Centara Grand Mirage
- Seoul Grill @ เดอะมอลล์บางกะปิ
- Cooper by Roof
- โดมา อาหารเกาหลี
- ร้านเฝอ 68
- Zoulviet
- D Varee Diva Nana KaengKrachan
- @Masizzim_thai
- คลินิก ทันตกรรม สไมล์แคร์
- กานต์ชนกคลินิค
- ร้านแสนแซ่บ
- นราทิพย์ ซีฟู้ดส์