ขอเริ่มเล่าเรื่องเลยนะคะ
ในช่วงตั้งครรภ์ week22 เกิดผื่นคัน ตามข้อพับ ทาคาลาไมน์แล้วอาการไม่ดีขึ้น มันเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น
จึงไปหาหมอรพ.เอกชนแห่งหนึ่ง หมอวินิจฉัยว่า น่าจะแพ้ส่วนผสมน้ำหอมในครีมอาบน้ำ ให้เปลี่ยนเป็นสบู่ก้อน
แล้วหมอจ่ายยาดังนี้
- ยาเม็ด Clarityne (loratadine) 10MG ทานหลังอาหารเช้า 1 เม็ด
- ยาเม็ดสีเหลือง Chlorpheniramine 4MG ทานก่อนนอน 1 เม็ด
- ยาทา เป็นครีม เขียนว่า 10% UREA in TA 0.1% และแบบโลชั่น (ฉลากจางหมดแล้ว) (ที่ผสมสเตียรอยด์)
ซึ่งตอนพบหมอครั้งแรก หมอแจ้งว่า ยาเม็ดไม่เป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์
และไม่ได้บอกเกี่ยวกับยาทาที่จ่ายมาให้ (มีทั้งครีมและโลชั่น)

หมอนัดสัปดาห์ถัดมา (week23) บริเวณที่เป็นผื่นคัน ดูจางลง ยังคันอยู่บ้าง แต่ก็ดีขึ้นมาก ไม่ได้คิดอะไร
หมอบอกว่า ให้ทาไปจนกว่าจะหายหมด เราก็โอเค หมอก็บอก งั้นไม่นัดต่อ

2 สัปดาห์ผ่านไป (week25) เกิดอาการเป็นจุดแดงๆ คล้ายสิว แต่ไม่เหมือนสิวทั่วไป
ขึ้นบริเวณเหนือหน้าอกขึ้นมาหน่อย ไหล่ และ หลังช่วงบนๆ  
เบื้องต้น เราก็เอาโลชั่นที่หมอให้มาทา แต่ก็ไม่ดีขึ้น เหมือนจะหนักกว่าเก่า แฟนก็บอกว่า ไปหาหมอเถอะ
เราก็กลับไปหาหมอคนเดิม หมอบอกว่า นี่เป็นสิวสเตียรอยด์
ความรู้สึกแรกที่เราได้ยินสเตียรอยด์ >> เฮ้ย เกิดขึ้นได้ไง ครีมอื่นก็ไม่เคยทา งงค่ะ งงหนักมาก
หมออธิบายเพิ่มว่า เกิดจากยาทา-โลชั่น ที่ให้ไปคราวที่แล้วครับ มันมีส่วนผสมสเตียรอยด์
ความรู้สึกตอนนั้น >> หวิวเลยค่ะ คำถามมาเต็ม จะเป็นอะไรกับลูกไหม งงมาก หมอให้ใช้ได้ด้วยหรอ
ถ้าลูกออกมาไม่สมประกอบเราจะทำยังไง โอ้ยยย กลุ้มค่ะ
แล้วหมอก็บอกว่า เดี๋ยวจะให้แป้งน้ำกลับไปทา แล้วให้เซลซั่นกลับไปอาบ แล้วจะมียาให้ทานเพื่อให้สิวหายเร็วขึ้น
เราตอบหมอกลับไปเลยว่า ถ้าไม่กินได้ไหม แล้วไม่ทาได้ไหม (คือในใจคิดนะ ไม่อยากได้แล้วอ่ะ จะมีอะไรผสมมาอีกไหมเนี่ย)
หมอก็บอกว่า ไม่รับยากินก็ได้ครับ แต่จะหายช้านะ แล้วก็ถามทำไมไม่รับยาไปทาน เราก็บอกว่า ยาเราเยอะแล้ว เราก็อ้างไปเรื่อยค่ะ
หมอก็สั่งยามา มีแค่เซลซั่น กับ แป้งน้ำ (ฉลากของรพ.)

** ณ ตอนนี้ เราไม่กล้าใช้ยาอะไรที่หมอให้มาเลยค่ะ กลัวมาก
อยากจะทราบจริงๆ ว่ามันเป็นอันตรายต่อเด็กในครรภ์ไหมคะ
เพราะอ่านจากในเน็ต มันก็มีที่บอกว่า ใช้ได้ในสตรีตั้งครรภ์
บางที่ก็บอก อาจเป็นอันตรายต่อเด็กในครรภ์ ตอนนี้กลุ้มใจมากค่ะ เครียดมาก

ถ้าจะบอกว่า เราผิด เราก็คงไม่เถียง เพราะเราเองก็ไม่ทราบเรื่องยาอะไรมาก
รู้แค่ว่า อย่ากินยามั่ว อย่าพยายามป่วยอะไรทั้งสิ้น แต่มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ค่ะ มันเป็นเอง
แล้วพอเป็นขึ้นมา ก็ไปพบแพทย์ กินยาและทายา ตามที่แพทย์สั่ง
มันเครียดจริงๆนะคะ กังวล นอนไม่ค่อยเต็มอิ่ม แต่ตอนนี้ยังพออุ่นใจได้บ้าง เพราะลูกยังดิ้นทุกวัน
ถ้าวันไหนลูกไม่ดิ้น เราคงเสียใจมากๆค่ะ เพราะความไม่รู้ของเรา เครียดมากๆๆๆๆๆๆๆค่ะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://haamor.com/th/ยาคลอเฟนิรามีน/
หัวข้อ : ยาคลอเฟนิรามีนมีขนาดรับประทานอย่างไร?
บรรทัดสุดท้าย >> ทั้งนี้ ยาคลอเฟนิรามีนสามารถใช้กับหญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตรได้ แต่ต้องให้แพทย์เป็นผู้สั่งจ่ายยาเท่านั้น

หัวข้อ : เมื่อมีการสั่งยา ควรแจ้งแพทย์/พยาบาล และเภสัชกรอย่างไร?
บรรทัดสุดท้าย >> หากเป็นสุภาพสตรี ควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ กำลังให้นมบุตร
เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรก และเข้าสู่ทารก จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงจากยาต่อทารกได้
เช่น ความพิการแต่กำเนิด

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://frynn.com/การใช้ยาในหญิงมีครรภ์/
3. ยาแก้คัน แก้แพ้ เช่น คลอเฟนิรามีน (Chlorpheniramine) นอกจากแก้คัน แก้แพ้แล้ว ยังช่วยลดน้ำมูก
ถ้าใช้เพียงชั่วคราวอาจจะไม่ส่งผลต่อคุณแม่มากนัก แต่ถ้าใช้ติดต่อกันไปนาน ๆ จะทำให้มีเกล็ดเลือดต่ำ
ลูกที่เกิดมาอาจมีอาการเลือดไหลผิดปกติ และยาแก้แพ้บางชนิดก็อาจทำให้ทารกเกิดความพิการแต่กำเนิดได้ด้วย

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.doctor.or.th/article/detail/5849
ยาแก้แพ้เม็ดสีเหลืองเป็นยาที่ปลอดภัย
อีกประเด็นหนึ่งที่ควรพิจารณาร่วมกับฤทธิ์ในการรักษาคือความปลอดภัย
ซึ่งในเรื่องนี้ ยาแก้แพ้เม็ดสีเหลืองก็เป็นยาชนิดหนึ่งที่มีประวัติการใช้ยานี้มาเป็นระยะเวลานานกว่า 50 ปี
หรือครึ่งศตวรรษว่าเป็นยาที่ปลอดภัย โดยจัดเป็นยาที่มีผลต่อทารกในครรภ์ชนิดบี (pregnancy category²B)
ซึ่งจัดเป็นกลุ่มยาที่ค่อนข้างปลอดภัย และยังไม่มีรายงานอันตรายที่รุนแรงจากการใช้ยานี้ แม้จะมีการใช้ติดต่อกันนานๆ